Group Blog
 
All blogs
 

ไก่ตุ๋นโสม

วันนี้ (15 ก.ค.) ที่ประเทศเกาหลีเป็นวันที่เค้าเรียกว่า โช-บก วันนี้ถือเป็นวันแรกที่ย่างเข้าสู่เดือนที่ร้อนที่สุดของปี อีกสิบวันก็จะเป็นวันชุงบก ปีนี้ตรงกับวันที่ 25 ก.ค. หลังจากนั้นอีกยี่สิบวันก็จะเป็นวันมัร-บก ปีนี้คือวันที่14 ส.ค.ถือเป็นวันสิ้นสุดของเดือน ประเทศเกาหลีจะมีอาหารที่นิยมทานกันในวันดังกล่าวคือ ซัมแกยทัง โพซินทัง และแตงโม ซัมแกยทังก็คือ ไก่ตุ๋นโสม ส่วนโพซินทังนี่มีหลายชนิดที่นิยมกันก็คือเนื้อน้องหมา วันนี้เลยเอาสูตรซัมแกยทังมาฝากกัน ทีแรกก็ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาเรื่องนี้ไว้ในบล็อกอาหารดีหรือว่าบล็อกเกาหลีลิซึ่มดี แต่ในที่สุดเมื่อเป็นเรื่องอาหารก็ขอเอาไว้บล็อกนี้แล้วกัน

เครื่องปรุงสำหรับ 2 ท่าน


ไก่ขนาดย่อมๆ (ตัวใหญ่ไปไม่อร่อยนะจ๊ะ) 2 ตัว
กระเทียม 8 กลีบ
ข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย
ขิง 1 แง่ง
โสม 4 ราก
ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น
พุทรา 4 ลูก
เม็ดแปะก๊วย 10 ลูก
น้ำ 8-10 ถ้วย
เกลือ เล็กน้อย
พริกไืทย เล็กน้อย

วิธีทำ


1.ล้างไก่ให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ (บางคนที่ไม่ชอบหนังไก่ จะลอกออกก็ได้ค่ะ)



2.ล้างข้าวเหนียว แช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง




3.นำกระเทียม ข้าวเหนียว พุทรา โสม แปะก๊วยใส่ไว้ในตัวไก่ ไขว้ขาไ้ก่เข้าด้วยกันหรือจะใช้ด้ายมัดไว้ก็ได้





4.นำไก่ใส่หม้อ ใส่ขิง น้ำ เปิดไฟแรงหลังจากน้ำเดือดให้หรี่ไฟอ่อนๆ (ถ้ามีหม้ออัดความดันจะสะดวกมากเลยค่ะ) ถ้าใช้หม้อธรรมดาใช้เวลาตุ๋นประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าเป็นหม้ออัดความดันหลังจากมีเสียงร้องทิ้งไว้อีก5 นาทีก็ใช้ได้แล้วค่ะ



5.ช้อนน้ำมันทิ้งด้วยนะคะ ก่อนเสริฟปรุงรสด้วยพริกไทยและเกลือตามชอบ

เสร็จแล้วไก่ตุ๋นโสมหน้าตาเป็นแบบนี้ล่ะค่ะ





ทักคาลบี...

วันนี้มีเมนูไก่มาฝากคนชอบทานเผ็ด ทักคาลบี อาหารจานนี้ ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่ากะทะนี้ ทำทานเองที่บ้านรสชาติไม่สะใจเหมือนกับไปทานที่ร้าน อาจจะเป็นเพราะเค้าใช้กะทะใบใหญ่มากในการผัด ทักคาลบีทานกับผักสดประเภทผักกาดหอมอร่อยมากเลยค่ะ ....

สูตรอย่างง่ายทำทานที่บ้านได้ (แอบไปขอสูตรจากอาจูม่าเจ้าของร้านประจำมา)

ไก่ 1.2 ก.ก. เลาะเอาแต่เนื้อ
กะหล่ำปลี 1/4 หัว
หอมใหญ่ 1 หัว
ใบงา 12 ใบ
ต้นหอมญี่ปุ่น 5 ต้น
พริกชี้ฟ้าเขียว,แดงอย่างละครึ่งดอก
มันเทศ 1/2 หัว

เครื่องปรุง ทุกอย่างผสมเข้าด้วยกัน

โกชูจัง(ซอสเผ็ดเกาหลี) 1 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น 3 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่บด 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมบด 1 ช้อนโต๊ะ
ขิงบด 1/2 ช้อนโต๊ะ
เหล้า 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
Sugar syrab 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ,พริกไทย,น้ำมันงา เล็กน้อย




ของทุกอย่างจะถูกใส่มาในกะทะเดียวกัน นำมาเสริฟแบบนี้




ผัดๆๆๆด้วยไฟแรงๆ กลิ่นงี้หอมฉุย




หน้าตาเป็นอย่างนี้ล่ะค่ะ แต่ยังเผ็ดไม่สะใจไปทานเมื่อไหร่ต้องแอบพกพริกป่นไทยไปด้วยทุกที



หลังจากทานเนื้อไก่ไปจนหมดแล้วทีนี้ก็ได้เวลาผัดข้าวแล้วจ้า




บางคนอาจไม่ชอบข้าวก็จะสั่งเป็นเส้นหมี่คล้ายๆอุดงมาผัดแทน




ทานกับกิมจิน้ำแบบนี้ล่ะค่ะ










 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 10 กรกฎาคม 2550 18:09:15 น.
Counter : 6303 Pageviews.  

หมูย่างเกาหลี

วันนี้มาอัพบล็อกเรื่องอาหารการกินกันบ้าง มีเพื่อนๆหลายคนถามถึงอาหารเกาหลีมา นอกจากกิมจิที่เป็นอาหารประจำชาติแล้ว หมูย่างเกาหลีคงติดท็อบเท็นกับเค้าด้วย แต่ตำรับดั้งเดิมของเค้านี่ไม่เหมือนที่บ้านเราน่ะ ที่เอาหมูย่างมากินกับน้ำจิ้มแจ่ว ต้นตำรับหมูย่างของที่นี่ที่เค้าเรียกว่า เทจิคาลบี คือ เอาเฉพาะเนื้อและกระดูกบริเวณซี่โครงเท่านั้น แต่บางร้านก็ลักไก่เอาเนื้อบริเวณอื่นๆมาผสมด้วย หมูย่างของเค้าจะห่อทานกับผักสดและเต้าเจี้ยวเกาหลีที่เรียกว่า ซัมจัง เอาภาพและสูตรมาฝากนะจ๊ะ


ซี่โครงหมูติดเนื้อ 1.2 ก.ก
น้ำตาลทรายแดง 4 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม 80 กรัม
ขิง 1 แง่งเล็ก
หอมหัวใหญ่ 1 หัวใหญ่
ต้นหอมญี่ปุ่้นช้อนโต๊ะ 200 กรัม
น้ำมันงา 4 ช้อนโต๊ะ
งาขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสถั่วเหลืิอง 5 ช้อนโต๊ะ
เหล้านิดหน่อย...

วิธีทำ
* ล้างซี่โครงหมู บั้งเนื้อส่วนที่ติดกับซี่โครง สะเด็ดน้ำให้แห้ง
* เอากระเทียม ขิง หอมหัวใหญ่ ต้นหอมญี่ปุ่น บดให้ละเอียด ผสมด้วยน้ำมันงา ซอสถั่วเหลือง เหล้า งาขาว น้ำตาลทรายแดง เอาซี่โครงหมูลงคลุกเคล้า หมักไว้ 2 -6 ชั่วโมง หรือหมักค้างคืนไว้ยิ่งดี หลังจากนั้นก็เอามาย่างได้เลย

สูตรนี้เป็นสูตรที่ทำทานเองที่บ้าน ส่วนตามร้านอาหารเค้าจะมีสูตรเฉพาะเป็นของตัวเอง บางร้านจะผสมผลไม้ประเภทสัปปะรด กีวี หรือลูกแพร์ลงไปด้วยเพื่อให้เนื้อนิ่ม บางร้านจะไม่ใช้ซอสถั่วเหลืองสำเร็จรูปแต่จะมีการทำน้ำซอสปรุงต่างหาก



เนื้อที่หมักแล้วหน้าตาเป็นอย่างนี้




พร้อมทานแล้วจ้า





เครื่องเคียง




นี่ก็เครื่องเคียง




หน้าร้อนๆอย่างนี้ต้องทานกับกิมจิน้ำแบบนี้ น้ำแข็งลอยเป็นเกล็ด ทานแล้วชื่นใจคลายร้อน













 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 7 กรกฎาคม 2550 20:12:16 น.
Counter : 2095 Pageviews.  

มาแล้วอาหารประจำชาติ....กิมจิ





แหม...พูดถึงเกาหลีคงต้องคิดถึงกิมจิไปพร้อมๆกัน ประเทศอะไรฟ่ะ อาหารสามมื้อต้องมีเจ้ากิมจินี่ขึ้นโต๊ะมาเสนอหน้าตลอด....ไม่มีคนเกาหลีคนไหนไม่กินกิมจิ กินกันตั้งแต่เป็นเด็กเริ่มกินข้าวได้ไปจนตายกันไปข้างนึง กิมจินี่มีหลายชนิดมากขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ แต่ที่นิยมกันก็คงเป็น กิมจิผักกาดขาว ขอเน้นว่าผักกาดขาว เพราะไปอ่านเจอมาบ่อยๆว่าใช้กะหล่ำปลี เซ็ง..ในอารมณ์ทุกที นอกจากผักกาดขาวแล้วก็เป็นหัวผักกาด ต้นหอม แตงกวา ฯลฯ


กิมจิถูกจัดเป็นหนึ่งในห้าอาหารสุขภาพโดยเฮลท์แม็กกาซีน (Health Magazine) โดยให้เหตุผลว่ากิมจิอุดมด้วยวิตามิน ช่วยในการย่อยอาหาร และอาจจะช่วยรักษาโรคมะเร็ง สรรพคุณในกิมจิได้มาจากหลายปัจจัยเพราะ่ว่ากิมจิทำมาจากผักกาดขาว หัวหอม และกระเทียม ผักทั้งสามอย่างนี้ก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ กิมจิยังมีโปรไบโอติกส์แลคโตแบซิลลัสที่ให้กรดแลคติก (Lactic acid) หลังจากการหมักเหมือนในโยเกิร์ตด้วย อีกทั้งกิมจิมีพริกแดงเป็นส่วนผสมหลักซึ่งก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นกัน
สรรพคุณที่มีประโยชน์ของกิมจิอาจจะเป็นโทษได้เช่นกัน มีการศึกษาความเสี่ยงในการเิกิดมะเร็งในกระเพาะอาหารเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2548 นักวิจัยชาวเกาหลีใต้เปิดเผยว่ามีความเสี่ยงถึงร้อยละ 50 ที่อาจจะเป็นเหตุให้เกิดมะเร็งในกระเพาะุถ้าทานมากเกินไป แต่ในการศึกษาบางชิ้นนั้น อ้างว่าการบริโภคกิมจิมีส่วนช่วยในการลดการเกิดมะเร็งในกระเพาะอาหาร แม้กระนั้นก็มีการศึกษาบางชิ้นอีกเช่นกันที่อ้างว่ากิมจิ(ที่มีส่วนผสมเป็นหัวผักกาด)จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง และการบริโภคกิมจิเป็นจำนวนมาก ก็จะเป็นได้รับเกลือหรือน้ำปลาที่ใช้ในการหมักและปรุงรสเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพขึ้นได้เช่นโรคความดันโลหิตสูง
เอาเป็นว่าเลือกทางสายกลางก็แล้วกัน คือทานแต่พอดี

วิธีการทำกิมจิแบบง่ายๆ

• ผักกาดขาวปลี 1 ต้น
• เกลือเม็ด
• เกลือป่นสำหรับปรุงรส 1 ช้อนชา
• ซอสเกาหลีหรือน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกชี้ฟ้าแห้งป่น 2 ช้อนโต๊ะ
• ขิงแก่สับละเอียด 1/2 ช้อนชา
• กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนชา
• ต้นหอมซอยละเอียด 2 ต้น
• แครอทซอยเป็นเส้น 1 หัว
• แอปเปิ้ลซอยเป็นเส้น 1 ลูก

วิธีทำ
1. แกะผักกาดขาวออกเป็นใบๆ แช่นำไว้สักครู่ หั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ ซาวกับเกลือเม็ด แล้วพักทิ้งไว้ 3 - 5 ชั่วโมง ล้างออกด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง บีบน้ำออกให้หมด
2. เอาส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน ชิมดูรสให้ออกเผ็ด เค็ม หรือตามชอบใจ หลังจากนั้นก็นำผักกาดขาวมาผสมเข้าด้วยกัน หมักทิ้งไว้ค้างคืนแล้วจึงเก็บไว้ในตู้เย็นต่ออีก 1-2 วัน ก็เริ่มทานได้แล้วล่ะ หรือใครอยากทานกิมจิสดก็ไม่ได้หมักค้างคืน เพียงแต่ใส่น้ำมันงาและงาขาวลงไปนิดหน่อยก็ทานได้แล้วอ่ะ.....



ขอบคุณเนยสีฟ้าสำหรับ bg สวยๆ....




 

Create Date : 17 มิถุนายน 2550    
Last Update : 26 มิถุนายน 2550 13:48:28 น.
Counter : 1212 Pageviews.  

1  2  

แม่ฮานึร
Location :
Gyonggi-do Korea

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




สาวไทยไกลบ้าน อยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับครอบครัวของเราและประเทศเกาหลี

Photobucket

หลังไมค์ที่นี่ค่ะ...
5 อันดับบล็อกล่าสุดจ้า......
Friends' blogs
[Add แม่ฮานึร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.