ประสบการณ์กับ Wimbledon 2007
เมื่อวานได้ไปดูเทนนิสวิมเบิลดันมาปีนี้คาดว่าจะเป็นปีสุดท้ายที่มีโอกาสได้ไปดู เลยเอาซะหน่อย ก่อนจะไม่มีโอกาสดูว่าแล้วก็เตรียมตัวหาข้อมูลกัน วันที่ไปดูเป็นวันที่สามของการแข่งขัน ก็จัดว่าเป็นรอบสองของการแข่งขันเนื่องจากตั๋ว center court แพงมากกก 45 ปอนด์แม่เจ้า แถวต้องไปต่อคิวต้นๆ ถึงจะมีสิทธิ์ได้ลุ้น (ได้ลุ้นเท่านั้นนะจ้ะ ไม่การันตีว่าจะได้) ส่วนคอร์ท 1 และ 2 ก็ราคารองๆ กันลงมา ก็ยังจัดว่าแพงสำหรับเราอยู่ดี (36 และ 32 ปอนด์) สุดท้ายก็ลงเอยที่ ground court คือตั้งแต่ court 3-19 ดูได้หมด อิอิ 18 ปอนด์ กระเป๋าแฟบไปเหมือนกันว่าแล้วก็นัดพวกพ้อง ตัดสินใจว่าจะขับรถไปจอดที่ hearthrow แล้วนั่ง tube ต่อไป Wimbledon แถมยังต้องเดินต่อไปอีกเป็นไมล์ปฎิบัติการก็เริ่มต้นขึ้น ด้วยการตื่นตีสี่ครึ่ง แต่กว่าจะรวมพลได้ออกก็เลทตามเคย ตีห้า ถึงสนามบินเอารถจองที่ long term car park เสียค่าจอดต่อวัน 15.40 ปอนด์ต่อด้วยการนั่ง shuttle bus มาลงที่ terminal 1 แล้วต่อ tube ไป earl's court เปลี่ยนสายไปลง Southfields ซึ่งเป็นสถานีใกล้สุด กว่าจะไปถึงก็ล่อไปแปดโมง จากนั้นเดินไปเรื่อยๆ ไม่นานก็พบคิวที่ต่อแถวยาวเหยียด รับบัตรคิวได้มาเป็นคนที่ 1550 รอไปถึง 10 โมงกว่าก็ได้เข้าไปซื้อตั๋ว อ้อ เค้ารับเป็นเงินสดเท่านั้นด้วยก้าบว่าแล้วก็ได้เข้าไปในสนาม เย้ๆ ฝันที่เป็นจริงรอสักพัก 11 โมงกว่า เค้าก็ปล่อยกะเหรี่ยง และหัวดำหัวแดงเข้าสนาม ก็เดินดูไปเรื่อยๆ วันนี้ได้เจอดนัยกำลังซ้อมรอแข่ง center court กะ Roddick เป็นคู่แรกด้วย แต่ด้วยวาสนามีน้อย เลยต้องคอยเชียร์รอบนอกเอา เล็งกันแล้ว ก็ตกลงได้ว่าเราจะไปรอดู Hingis ที่คอร์ท 13 ซึ่งเป็นคู่สอง ช่วงก่อนเริ่มแข่งก็เดินไปมาดูคอร์ทอื่นๆ ก็ไปเจอแม่เซรีน่า วิลเลี่ยมกำลังซ้อมอยู่ โดยมีพ่อเดินท่อมๆ คอยเก็บลูก ดูตัวไม่ใหญ่อย่างที่คิดระหว่างนั้นก็รอดูคู่แรกไปพลางๆ เป็น Sefina มืออันดับ 13 แข่งกับชาวยูเครน คู่นี้สูสีกันมาก ส่งเสียงกันตลอด แถมมีการฟ้องกรรมการด้วยว่า ช่วยห้ามไม่ให้อีกฝ่ายพูดรัสเซียใส่ด้วย สงสัยจะโดนด่าแล้วฟังออก สรุปแม่สาว Sefina ชนะไปในที่สุด แล้วเพื่อนอีกสองคนที่ทนปวดฉี่มาพอควรก็รีบไปเข้าห้องน้ำ แต่พอจะกลับมาปรากฏว่าที่โดนฉกไปแล้ว เพราะเค้าห้ามจองไว้ จ๋อยเลย เราเลยดูฮิงกิสไปได้เกือบจบ set แรก ก็ออก ฮิงกิสน่ารักโคตรๆ ตีไปเหมือนยิ้มไปตลอด อีกฝ่ายเป้นญี่ปุ่นมือยังไม่ติดอันดับ ก็เลยตีสบายๆ เสร็จก็เดินไป Henman hill ดูจอยักษ์กัน แล้วก็ย้อนกลับมารอดูคู่ที่จะแข่งคอร์ท 3 เพราะดูแล้วอันดับอยู่ต้นๆแต่ฝนเจ้ากรรม ตกไม่เลิก เลยอดดูเลย รอจนเกือบทุ่ม ก็ไม่มีทีท่าว่าจะแข่งต่อ ว่าแล้วก็เลยกลับไป Earl's court หาของกินกัน แวะร้านหมวยซื้อกะเพราขวดด้วย แล้วก็แวะกินร้านอาหารเกาหลี ลองของใหม่อร่อยดี อ้อ ลืมๆ ตอนเดินออกมาเจอแทมมี่กำลังคุยโทรศัพท์ด้วย เลยรอจนเค้าวาง ก็เข้าไปขอถ่ายรูปกันมา แทมมี่น่ารัก อัธยาศัยดีมากและแล้ววันนั้นก็จบลง แต่กว่าจะกลับถึงสนามบิน ขับกลับบ้านก็ถึงบ้านเที่ยงคืนพอดี สลบเหมือดแต่ก็ประทับใจกับวิมเบิลดันจริงๆ คุ้มๆ ได้ไปดูนักเทนนิสมืออาชีพเล่นแบบใกล้ชิด แค่นี้ก็นอนหลับฝันดีละ
ทำงาน part-time ในอังกฤษและค่าใช้จ่าย
ถ้าทำที่อังกฤษตามร้านอาหารไทยแล้วแต่ว่าอยู่เมืองไหนค่ะถ้าเมืองเรา เมืองไม่ใหญ่ไม่เล็กค่ะก็ค่าแรงเหมา ล้างจาน เสริฟอาหาร 25-32 ปอนด์ต่อคืนค่ะเริ่มทำประมาณ 5-6 โมงแล้วแต่ร้าน จนกระทั่งร้านปิดบางคืนไวหน่อยก็ 5 ทุ่ม ส่วนมากจะเที่ยงคืนทิปต่างหาก ทิปจะหารรวมทุกคนทั้งคนเสริฟ ทั้งคนทำในครัวค่ะ ทั่วไปก็แล้วแต่ลูกค้าเยอะน้อยก็ประมาณได้ตั้งแต่ 5-15 ปอนด์ก็มีส่วนถ้าทำงานในยู งานแนวใช้แรงงาน ล้างจาน ทำความสะอาด ก็จะประมาณ 6 ปอนด์กว่าต่อชั่วโมงถ้าทำงานแบบใช้สมองขึ้นมาอีกนิดก็ 7 ปอนด์กว่าเช่นพวกงานจัดการเอกสาร งานประชาสัมพันธ์ถ้าเป็นผู้ช่วยสอนใน lab ก็ชั่วโมงละ 10 กว่าปอนด์ค่ะส่วนค่าครองชีพ ในลอนดอนแพงมากแน่นอนค่าที่พักจะแพงกว่าที่อื่น ถ้าเมืองไม่ใหญ่ก็ถูกหน่อยอย่างแถวที่อยู่ก็ประมาณ 200-300 ปอนด์ต่อเดือนยังไม่รวมน้ำไฟ คุณภาพบ้านเช่าก็ตามราคาเลยค่ะน้ำไฟแก๊สตีง่ายๆ ไปอย่างละ 10 ปอนด์ต่อเดือนละกันถ้าใช้โทรศัพท์ด้วยก็บวกไปอีก ค่าโทรศัพท์บ้านต่ำสุดก็เดือนละ 10 ปอนด์ได้ ยังไม่รวมค่าโทรวีซ่านร.ที่อังกฤษทำงานได้ 20 ชม.ต่อสัปดาห์หวังว่าคงพอเป็นประโยชน์
วิธีิการขอวีซ่าไปฝรั่งเศส (สำหรับพาสปอร์ตราชการ)
กรณีนี้สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางราชการและพำนักอยู่ในประเทศอังกฤษค่ะวิธีการของ่ายมากค่ะ ไม่ต้องไปต่อนัดวันล่วงหน้าหรือไปต่อคิวยาวถ้าถือหนังสือเดินทางราชการ ให้ไปขอได้ช่วงเวลาบ่ายMonday-Friday เวลา 1 pm แล้วค่ะถ้าทำวันศุกร์ก็จะกลายเป็นรับเล่มวันจันทร์ไม่ต้องไปต่อคิวรอค่ะ เข้าไปด้านหน้าประตูสถานฑูตได้เลย แล้วเดินขึ้นไปชั้นสองนั่งรอสักพัก เจ้าหน้าที่จะมารับเล่ม ตรวจเอกสาร แล้วแจกบัตรมารับเล่มคืนสถานฑูตอยู่ตรงข้าม Natural History Museumถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ใช้เวลาวันเดียวค่ะ วันถัดไปก็ไปรอรับเล่มเวลาเดียวกันส่วนเอกสารที่ต้องเตรียมก็มี1. หนังสือเดินทาง2. เอกสารรับรองจาก school ว่าเราเป็นนักเรียนที่นี่3. จดหมายรับรองจาก สถานฑูตไทยในอังกฤษ (ต้องส่งแบบฟอร์มไปขอจดหมาย ระบุช่วงที่จะไป และเหตุผล)4. รูปถ่าย 1 ใบ5. ถ้ามีจดหมายรับรองจากที่ๆ เราจะไปด้วยก็ดีค่ะ6. เกือบลืม สุดท้ายแบบฟอร์มขอวีซ่าค่ะ โหลดได้จากเวปพยายามเอาหลักฐานไปให้ครบ อันอื่นที่คิดว่าเกี่ยวข้องเอาไปเผื่อด้วยก็ดีค่ะ เผื่อเค้าจะขอดู แต่เท่าที่ไปขอมา 2 ครั้งก็ใช้ตามนี้ตลอด เช็ครายละเอียดอีกทีตามเวปนี้เลยค่ะ//www.consulfrance-londres.org/article.php3?id_article=346&PHPSESSID=c37edbfbe8ad58bca575e3acf1327644
หิมะตกแล้ว เย้ๆ
หิมะเริ่มตกแล้วอาทิตย์นี้แต่ยังตกไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ตกๆ หยุดๆ ตั้งแต่วันจันทร์ตกแล้วก็หาย ไม่หนาสักทีฟังพยากรณ์อากาศ เค้าว่าพรุ่งนี้แหละน้าจะคอยดูเพี้ยง จงหนาๆ อยากปั้นตุ๊กตาหิมะ อิอิ
เอกสารเตรียมขอวีซ่าท่องเที่ยว
ประเดิมเอาฤกษ์ด้วยเรื่องเอกสารสำหรับขอวีซ่าซะเลย ว้า ลืมข้อมูล เดี๋ยวมาใส่เพิ่มนะคะแนะนำเวปสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยก่อนดีกว่า ที่นี่มีข้อมูลให้ค้นหาได้ อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับวีซ่าก็มีให้////www.britishembassy.gov.uk/servlet/Front?pagename=OpenMarket/Xcelerate/ShowPage&c=Page&cid=1070040281692เอาเอกสารหลักๆ ที่ต้องใช้ก่อนดีกว่า1. passport ต้องมีแน่นอนขาดไม่ได้2. แบบคำขอวีซ่า VAF1 กรอกข้อความให้เรียบร้อย3. รูปถ่ายขนาดใช้กับหนังสือเดินทาง 1 ใบ (45 มม x 35 มม) พื้นหลังสีขาว4. ค่าธรรมเนียมวีซ่า 2700 บาท5. หลักฐานการทำงาน เช่น จดหมายรับรองการทำงาน6. หลักฐานการเงิน เช่น สำเนาหนังสือรับรองบัญชีเงินฝากธนาคาร และใบรับรองเงินเดือนมาถึงหลักฐานของผู้รับรองบ้าง7. จดหมายเชิญ อธิบายถึงความสัมพันธ์ของผู้รับรองกับผู้ขอ และเหตุผลของการเดินทางในช่วงเวลานั้น 8. หนังสือรับรองระบุอาชีพและเงินเดือนของผู้รับรอง และวิธีการที่ท่านจะให้การสนับสนุนและที่พักแก่ผู้ขอ หนังสือรับรอง9. หลักฐานที่แสดงถึงฐานะทางการเงินของผู้รับรองที่แสดงว่าจะสามารถออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ได้ เช่น สำเนาหนังสือรับรองบัญชีเงินฝากธนาคาร และใบรับรองเงินเดือนคร่าวๆ ก็มีเท่านี้น่าจะครบนะคะส่วนพวกรูปถ่าย จดหมาย เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขอกับผู้รับรองเนี่ย เตรียมไปเผื่อไว้ก้อดีค่ะ