Daisypath Vacation Ticker
Group Blog
 
All blogs
 

ย่าสอนว่า ให้ดูแลลูกผัว


เรานะ ก้อจากเด็กผู้หญิงคนนึง ที่ปู่ย่าเลี้ยงมาตั้งกะสี่ห้าขวบได้
คำสอนที่จำได้ดีเรื่องกุลสตรี ก้อคือผู้หญิงกับเรื่องแม่บ้านแม่เรือน
เป็นของคู่กัน “ผู้หญิงดีหมายถึงเป็นแม่บ้านที่ดี
ดูแลสามีลูกเต้าให้สมบูรณ์พูนสุข งานบ้านงานครัวอย่าให้ตกบกพร่อง ”
( สำนวนท่านย่า ลอกมาเด๊ะๆ )

เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก จากเด็ก เป็นสาวรุ่น
จนหมดรุ่น อยู่มาจนเป็นสาวแก่เจียนจะหลุดจากขั้ว
จนกระทั่งปู่ที่รักจากไปเมื่อตอนปู่อายุแปดสิบปี
ต่อมาสองปีให้หลัง ย่าก็เสียตาม
ไม่ทันได้เห็นหลานที่เลี้ยงมาตั้งกะ “ ซักผ้าขี้ ตีผ้าเยี่ยว”
(สำนวนท่านย่า อีก ลอกมาเด๊ะๆ)
ได้แต่งงานเป็นหลักเป็นฐาน ก้อมาจากไปก่อน
ได้รู้แต่ว่าหลานสาวมีการมีงาน (ราชการ) ทำ


โทษฐานที่อยู่เป็นโสดมานาน
เราต้องผจญทนกะคำถาม คำทักสุดฮอต
คือ “เมื่อไรจะแต่งงาน หรือ เป็นโสดทำไม ทำไมไม่แต่งซักที”

ตอนนี้คนชอบถามคงได้รับคำตอบกันไปถ้วนหน้าแล้ว
อิ อิ แต่งงานแล้วจ้า ครองคู่ ใช้ชีวิตคู่มาหลายปี
ชีวิตรักราบรื่นเหมือนผ้าไหม (สโลแกนการบินไทย)

อ๊ะ อ๊ะ อย่าเพิ่งคิดว่าเราสบายตัวสบายใจล่ะ ยังจ้ะ ยัง
เนี่ยะเราต้องผจญศึกใหม่ คำถามทำนองนี้อ่ะ
เจอแต่คนมาถามว่า ทำไมไม่มีตัวเล็กๆ ซักทีล่ะ
หรือไม่ก้อ อ้าว นึกว่ามีลูกโตแล้วซะอีก
ยังไม่มีหรอกเหรอ ทำไมล่ะ ทำไม่เป็นล่ะสิ
บ้างก้อให้คำแนะนำ แกมบังคับ หมอที่โรงบาลโน่น นั่น
ดีนะ นัดเลยมั้ย
บ้างก็ปรารถนาดีพาไปหาหมอดู ดูตาทิพย์
ขอลูกจากเทวดา บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ไปโน่น
เราก้อไปตามน้ำล่ะค่ะงานนี้ ไปไหนไปกัน
ดูว่าอะไรพอรับได้ ไปหมดล่ะค่ะ สนุกเหมือนกัน

ไม่มีวี่แววอยากกินของเปรี้ยวซักกะที
อ่ะน่ะ อย่างที่บอกตั้งกะแรกว่าเป็นสาวมาจนครบเฟสเจริญวัย
จนกลายเป็นผีเสื้อโบยบินจากฝักดักแด้เพิ่งมาได้แต่งงานตอนแก่
เราเองก้อหาข้อมูลว่าทำไมเราไม่ตั้งท้องซักกะที
สุขภาพแข็งแรง หมอตรวจแล้วสมบูรณ์พร้อมทั้งคู่
ถ้าจะพลาดก้อตรงอายุ นี่ล่ะว้า
วัยเราๆ นี้เด็กๆ ต้องเรียก น้า หรือป้า อ่ะน่ะ

ด้วยความอยากรู้อยากได้คำตอบทำไมไม่ท้อง
เราก้ออ่านโน่นค้นนี่เป็นระวิง
เค้าว่า สาเหตุที่ไม่ตั้งท้องสาเหตุใหญ่ๆ จากฝ่ายหญิงก้อมี
1. Failure to ovulate 30%
2. Tubal disease or endometriosis 50%
3. Cervical pathology 10%
4. Unknown causes 10%

ทีนี้ระหว่างที่ค้นข้อมูลเราได้ไปอ่านเจอ
ข้อมูลเกี่ยวกับยาสมุนไพรจีน ในวารสารแพทย์ ปี 2006
เค้าว่ากินแล้วทำให้ติดลูก หูยยย ต้องถ่ายเอกสารซะแล้ว
อ่านๆ ดู อ้าว เป็นสมุนไพรจีนที่เราใช้ทำกับข้าวด้วยก็นี่ หาง่าย
อย่างเครื่องพะโล้ งี้ หุ หุ เข้าทางเลย ชอบกินพะโล้เค็มๆ หวานนิดๆ

อีกทั้งใครๆ ก้อย้ำว่ามีลูกได้แล้วก่อนจะแก่จนเลี้ยงไม่ไหว
คำที่ปู่ย่าได้โพนทะนาสาธยายในอดีตเวลามีญาติมิตรมาเยี่ยมเยียน
แล้วก้อถามย่าว่าทำไมแกต้องมานั่งเลี้ยงหลาน
เหี่ยวชราแก่ปูนนั้นแล้วน่าจะอยู่พักผ่อนสบายๆ
ย่าตอบว่าก้อเลี้ยงไว้เป็น
ตัวตายตัวแทน หรือได้ฝากผีฝากไข้กะมัน
ตอนเจ็บไข้น่ะ มึงเอ๊ยยยย
(แต่บางทีก้อได้ยินย่าว่าเลี้ยงไว้เอาบุญเหมือนกันอ่ะ
บางทีแกก้อบ่นว่าเลี้ยงเสียข้าวสุก เสียดายข้าวสาร แป่ววว)

เอาล่ะ เผื่อเราจะฟลุ๊คมีตัวน้อยๆ เป็นห่วงร้อยดวงใจสามี
เป็นตัวตายตัวแทน หรือฝากผีฝากไข้ในอนาคตข้างหน้า
อ่านรายการยาสมุนไพรจีนพวกนี้คงจะเป็นประโยชน์บ้าง
(อย่างน้อยก้อกินเป็นเครื่องเทศใส่ข้าวปลาอาหารไปล่ะ)

เพิ่มเติมไปค้นเจอคอลัมน์งานวิจัยของ Inga Heese
อันนึงที่พูดถึงผู้หญิงอายุ 45 ปี
เค้าว่าอายุขนาดนี้เนี่ยะ ถ้ายังไม่เคยท้องมาก่อนนะ
โอกาสน้อยสุดๆ ที่จะตั้งท้องได้เอง
ผู้หญิงในเคสนี้ ทำ IVF มาแล้วสองครั้ง
ด้วยการใช้ไข่บริจาค แต่ไม่สำเร็จ
ครั้งนี้ป้าแกจะลองใช้ยาสมุนไพรจีนกะคุณหมอผู้ทำวิจัยดู
เป็นเวลาหกเดือน กระตุ้นไข่ด้วยการกินสมุนไพร
แล้วอีกอย่างปกติแกเป็นคนมือเย็นเท้าเย็นด้วยกินแล้วเวิร์ค

ในรายงานระบุรายละเอียดการใช้ยาระยะเวลาก่อนมีประจำเดือน
กะหลังประจำเดือน
ยาที่ใช้จะต่างกันนัยว่าฮอร์โมนผู้หญิงเราก่อนและหลังต่างกันอ่ะ
และแล้ว ก้อติดลูกค่ะ ดีใจกะป้าแกจริง
แกตั้งท้องด้วยวิธีธรรมชาติหลังจากทดลองยาไปได้ห้าเดือน
ยังทานสมุนไพรบำรุงครรภ์อีกสูตร
จนครบ 16 สัปดาห์แรกของการตั้งท้องค่ะ แข็งแรงดีทั้งแม่ทั้งลูก
ชื่อคอลัมภ์ “ The egg factor: Using Chinese herbal
medicine to improve Fertility in a 45-year old woman”
ในวารสาร Journal of Chinese Medicine,
Number 82, October 2006.
ส่วนอีกรายงานนึงจะเป็นประโยชน์เรื่องของการใช้ยาสมุนไพรจีน
ในการแพทย์ฝรั่งสมัยใหม่ควบคู่กัน
ผู้หญิงอายุปลายสามสิบปีขึ้นไปอ่ะ
เค้าว่าตับ กะไต เราทำงานมาหนักมากทั้งจากเรื่องการงาน
ที่สะสมความเครียด และจากอาหารการกินที่ยากหลีกเลี่ยง
สารเคมีปนเปื้อน
ถ้าอยากตั้งครรภ์หากทานแต่ยาหมอฝรั่งมากไปยาจะสะสมที่ตับอ่ะ
ให้ใช้ยาสมุนไพรจีนดูแลเรื่องหยินหยาง ควบคู่ไปด้วยจะได้ผลดีมากกว่า
อีกอย่างรายงานนี้เน้นในเรื่องการตั้งครรภ์ เค้าว่าเป็นเรื่องของ
Kidney Yin deficiency, Kidney Yang deficiency,
Liver Qi stagnation และเรื่องความไม่สมดุลย์อื่นๆ อีกอ่ะ
ตัวยาเป็นชื่อฝรั่งกะจีน เช่น “ white peony = Bai Shao”
บ้านเราเรียกอะไรหนอ
รู้ตัวนี้แทนค่ะ “Angelicae sinensis Radix = Dang Gui”
บ้านเราเรียก ตังกุย
ในสูตรยาคุณหมอ Dr. Fung’s Fertility Formula
มียาทั้งหมด 14 ตัว แต่ ตัว ตังกุย ถ้าตั้งครรภ์แล้วงดทานทันทีค่ะ
มันเป็นยาสมุนไพรเร่งการไหลเวียนของเลือด
อาจทำให้แท้งได้

เมื่อได้ข้อมูลตามต้องการเราก้อพกความมั่นใจออกตระเวน
ไปหาดูของจริง ไปเดินสำรวจเครื่องปรุงทำแกงของจีน
ตามร้านซุปเปอร์มาเก็ต ในเมืองเพิร์ช แถวนอร์ทบริดจ์



(ช่วงปีนั้นเราอยู่เมืองเพิร์ช ออสเตรเลีย
เอารูปทะเล เกาะร็อทเน็ท มาฝากจ้า)

ได้ยาสมุนไพรมาแกงกิน หลายขนาน อร่อยดี(แต่กลิ่นงี้ สามีรับไม่ได้)
กลิ่นพะโล้หอมๆ สามีแกไม่เคยกิน ไม่คุ้น ก้อว่าไม่ชอบ
ให้ลองชิมดูก้อบ่นว่ากับข้าว ทำไมหวาน เหมือนเป็นขนมอย่างงี้
เอ้อ ก้อบ้านหนู เมืองไทยเค้ากินกันพะโล้แนวนี้อ่ะค่า หุ หุ



ลงรูปรายการสมุนไพรที่เราซื้อมาทำกิน
บางตัวต้มกินกะขิง ดื่มตอนน้ำยังอุ่นๆ
เลือดลมวิ่งดีมือเท้าอุ่นเชียวหล่ะ

กินสมุนไพรได้ห้าเดือนกว่าๆ กลับมาเมืองไทยรีบไปตรวจร่างกาย
งานนี้ ตรวจแบบภายใน ดูรังไข่ ดูท่อนำไข่ โน่นเลย แบบผ่าตัดเล็กๆ
ในที่สุด ก้อรู้คำตอบแล้ว ค่า ว่าทำไมตรูไม่ท้องซักกะที
ก้อ ท่อนำไข่หนู มันตันทั้งสองข้าง ทั้งข้างซ้าย และข้างขวา
ไม่มีใครน้อยหน้าใคร

มดลูกสวยงาม แข็งแรง แต่อ่ะน่ะไม่มีประโยชน์
ท่อรังไข่ปิดกั้นไม่ให้ พ่อรูปหล่อเข้ามา จุ๊บ จุ๊บ ไข่สุดสวย
จุ๊บ จุ๊บ กันไม่ได้ ก้อเลยไม่ตั้งท้องอ่ะ
งานนี้ กินไข่พะโล้ หอมกลิ่นเครื่องยาจีน เพลิน ไปเลยค่ะ
ไม่มีลูกค่ะ สามีภรรยาคู่นี้ มีใบรับรองแพทย์เป็นที่รับรอง



ได้แต่อุ้มลูก ชมหลาน ออนซอนลูกเต้า เพื่อนๆ ไป



อายุปูนนี้ถ้าเราไปทำ IVF แล้วเกิดสำเร็จขึ้นมา เลี้ยงลูกจนโตเข้าโรงเรียน
กลัวลูกมันอาย ที่แม่ พ่อไปส่งที่โรงเรียนน่ะสิ
หากเพื่อนลูก เห็นแล้วถามว่า “นั่น ตา กะยาย ตัวเอง มาส่งเหรอ”
แป่ววว มันโหดร้ายเหลือเกิน
เอาเป็นว่า เราขอรับรองด้วยเกียรติของลูกเสือ ATC
ว่าจะทำตามคำสอนของปู่ย่า
จะเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่ดีของสามี (เท่าที่จะทำได้)

นี่ล่ะจ้า เพื่อน ๆ สาเหตุที่ทำไมเราไม่มีน้องตัวเล็ก ๆ กะเค้าซักกะที
เฮ้อออออ อยากได้ ศรีอยากได้

(รู้แล้วบอกต่อ)







 

Create Date : 14 ตุลาคม 2551    
Last Update : 14 ตุลาคม 2551 17:05:38 น.
Counter : 642 Pageviews.  

น้องสาว



อยากเล่าเรื่องน้องสาวให้ฟัง เรามีน้องสองคนนะ คนนี้เป็นคนสุดท้องน้องรักค่ะ
แม่เล่าว่า ตอนเกิดใหม่ๆ หล่อนตัวแดงๆ และก้อร้องเสียงเล็กๆ แหลมๆ เหมือนเสียงหนู
แม่ยังคิดว่าจะรอดมั้ยเนี่ยะ เลยได้ชื่อเล่นว่า หนูอี๊ด (อิ อิ ดีนะที่ร้องเหมือนหนู )
เกิดปีชวด กรุ๊ปเลือด บี สาวน้อยวันจันทร์




คุณหนูอี๊ด ลูกสาวคนสุดท้อง สาวน้อย (ช่วงนี้โตเต็มวัย)สุดรักสุดโปรดของแม่เรา
ตอนเด็กหล่อนเป็นเด็กตาโต แก้มป่อง น่าร้ากสุดๆ ใครๆ ก้อชอบโอ๋เค้าอ่ะ
แล้วมาดูตอนนี้ แก้มหล่อนยังคงอยู่ แต่สีผิวเค้าได้จากบรรพบุรุษย้อนไปหลายช่วง
หล่อนเป็นสาวปาร์ตี้ มีงานที่ไหนมีหนูอี๊ดที่นั่น แถมใจบุญสุนทาน
เรายังได้ขอตังส์ใช้บ่อยๆ (ขอบใจนะจ๊ะ ตะเอง)
จบวิดวะ ทำงานวิดวะ นิสัยเรียบร้อยเป็นผ้าพับไม่ได้รีด
ก้อเลยเปลี่ยนกลายเป็นแบบวิดวะอ่ะ เหอ เหอ คิดเองละกัน





พ่อเราก้อโปรดปรานน้องคนนี้ คนเกิดวันจันทร์มีเสน่ห์จังเนอะ
หล่อนทำงานอยู่ภูเก็ต เป็นผู้จัดการดูแลเครือข่ายโทรศัพท์เอกชน
หลงใหลน้องหมามาก ตอนนี้เค้ามีหนู ลูซี่ เป็นลูกสาว
เราเลยได้ฝากน้องหมาให้เค้าไปเลี้ยงอีกตัว เป็นลูกชายชื่อ ขวัญ
น้องหนูอี๊ด ลาพักร้อนมา อาทิตย์นึง มาเที่ยวเกาหลีค่ะ
หล่อนกำลังชิมน้ำตาลเมา ของเกาหลี อืมมมม หวานคล่องคอ ชื่นใจ





ถึงแล้วค่ะ กำแพงเมืองซูวอน
นั่งรถไฟฟ้าไปเมืองซูวอน เดินชมเมือง ตอนเย็นๆ
ที่ภูเก็ตไม่มีนะคะแบบนี้ อิ อิ




สนามยิงธนู มีรูปหมูป่าเป็นเป้าล่อ (น่าจะเปลี่ยนเนอะ เป็นคนหล่อๆ คงจะดี)





ท่าทางที่ถนัด คือรินเหล้า อิ อิ แซวเล่น ตอนนี้น้องเค้าเริ่มจะหัดเป็นแม่หญิงแล้วอ่ะค่ะ




มาเที่ยวเกาหลี พักร้อนปีนี้
เห็นหล่อนมีความสุข เราก้อมีความสุขด้วย
น้องสาวใคร ใครก้อรัก เนาะ




ปิดท้ายด้วยเนี่ยเลย
น้องหมาที่ซื่อสัตย์ รักเจ้าของสุดๆ และกล้าหาญมาก
เป็นพันธ์เกาหลีแท้ ดังมาก ตั้งแต่ในประวัติศาสตร์เกาหลี
เดินทางไกลข้ามเขาเป็นร้อยๆ ลูก เพื่อตามหาเจ้านาย
และโค ตะ ระ ดุ กัดเก่งมาก เค้าว่างั้นน่ะ
เอามาไว้ในกรงให้คนดู ว่าเนี่ย ของดีเกาหลีล่ะ
หนูอี๊ดบอก ชอบ ชอบ พี่ว่ามันก้อน่ารักดีนะ
แต่ลูซี่น้องหมาที่เมืองไทยรู้เข้า จะไม่ดีนะตะเอง












 

Create Date : 20 มิถุนายน 2551    
Last Update : 25 สิงหาคม 2551 17:22:32 น.
Counter : 637 Pageviews.  

Special Day แปด มิถุนายน



วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของพ่อ วันที่แปด มิถุนายน ทุกๆ ปี


ปู่ย่าจะเรียกพ่อ ตั้งแต่พ่อยังเป็นเด็กๆ ว่า ..โม่ง..
เพื่อนๆ พ่อก็เรียกพ่อตามปู่ย่า
แม้ว่าพ่อจะโตเป็นวัยรุ่นแล้ว ว่า ..นายโม่ง..
ทำไมล่ะพ่อ เราเคยถามด้วยความสงสัย
เพราะลุง ป้า น้า อา ไม่ยักกะได้ชื่อสไตล์แปลกแบบพ่อ
พ่อบอกว่า ที่ถูกเรียกอย่างนั้นเพราะพ่อหัวโม่ง
ภาษาคนนางรองเค้าเรียกอย่างนั้น
หัวโม่ง แปลว่า หัวโต โตกว่าพี่ๆน้องๆ
ลูกๆ ของพ่อเรียกพ่อว่า พ่อ ก้อพอแล้วนะ




พ่อเป็นเด็กฉลาดเพราะหัวโต มีโอกาสได้เรียน
ปกศ สูง ในสมัยโน้นนน...
พ่ออยากเป็นครู แต่ปู่ย่าอยากให้พ่อมาทำโรงสีข้าวที่บ้านมากกว่า
พ่อดื้อ พ่อเลยไปเป็นนักดนตรี เล่นดนตรี ในแคมป์ทหารอเมริกัน
พ่อรูปหล่อ พูดเพราะ เล่นกีต้าร์ สาวๆ กรี๊ด
ปู่ย่าเลยได้หลานๆ มาเลี้ยงแทน
โรงสีข้าว ที่เลิกสีข้าวกลายเป็นที่เล่นสนุกในวัยเด็กของเรา
ผลผลิตจากพ่อ หัวโต ฉลาด ดื้อและรูปหล่อ




พ่อเรียนวิชาเอกภาษาอังกฤษ แต่ไปเล่นดนตรี ทั้งกีต้าร์ คีย์บอร์ด
อิเลคโทน และเปียนโน พ่อบอกว่าใช้พรแสวง ทั้งสนุกทั้งเหนื่อย
พ่อร้องเพลงภาษาฝรั่งเพราะ
สมัยหนุ่มๆ เล่นกีต้าร์ ผมยาวประบ่า
ใส่ขาเดฟ เสื้อยืดฟิตเปรียะ
กลับบ้านนางรองทีไร
ทั้งรับทั้งหลบกระโถนน้ำหมาก
ที่ย่าขว้างใส่ พ่อรู้ว่าย่าคิดถึงมาก..กก
แทนความรักจากย่าน่ะ พ่อรู้ดี


อายุหกสิบห้าปีแล้วนะ ยังเล่นเปียนโน ร้องเพลง หงุงหงิงจุ๊กจิ๊กกะแขกโรงแรม พ่อบอกว่าพ่อได้ทำงาน พ่อไม่เป็นภาระให้ลูกๆ และพ่อดูแลตัวเองได้


พ่อกินข้าวกล้อง น้ำพริก ผัก ไข่ต้ม และวิ่งออกกำลังกายทุกวัน

พ่อเรียนต่อมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจนจบได้เกรดดีมาก
พ่อหัวโต ยังคงความฉลาดแม้ในรุ่นเดียวกันนั้น เพื่อนๆ จะเรียกพ่อว่า ปู่
พ่อภูมิใจที่เรียนต่อจากปกศ จนจบปริญญาตรีตามความฝันในสมัยยังหนุ่ม
แม้ว่าพ่อจะไม่ได้เป็นครู ดั่งที่ตั้งใจไว้
หนูอยากให้พ่อรู้ว่า พ่อ..พ่อโม่งเป็นครูของลูก เป็นครูที่ลูกรักที่สุดในโลกค่ะ









 

Create Date : 08 มิถุนายน 2551    
Last Update : 25 สิงหาคม 2551 16:26:47 น.
Counter : 444 Pageviews.  

บ้านที่โซล สถานีจัมซิล



จากแดนสีส้ม ออสเตรเลีย
มาอยู่แดนสีเขียว กรุงโซลได้เกือบสองปีแล้ว
อยู่ที่นี่ไปไหนมาไหนใช้รถไฟฟ้า
สะดวกสบาย ดี๊ดีแหละตะเอง



ไปตลาดซื้อของกินของใช้ที่ เทสโกโฮมพลัส หรือไม่ก้อไปที่ลอตเต้ เวิล์ด
มีบัตรสมาชิกแทบทุกที่ที่ไปช้อป อย่างน้อยคิดว่าได้ลดราคาที่ไม่ใช้ถุงหิ้วมั้ง






เดินจากที่พักไปห้านาทีถึงแล้ว ดูราคาอาหารตามป้ายเอา หากต่อรองใช้เครื่องคิดเลข เราพูดอังกฤษ คนขายพูดเกาหลี
ก้อได้ซื้อได้ขายกัน




บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน ปลอดภัย สว่างไสวคึกคัก
ผู้คนกระฉับกระเฉง (ยังให้สงสัยเพราะกินโสมหรือป่าว)
อาหารการกินมีให้เลือกมากมาย
ผักสดๆ เต้าหู้ อาหารตระกูลถั่วทั้งหลาย อีกทั้งตระกูลเส้น
ขนมาทั้งบะหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เป็นก้อนๆ ก้อมีมาก
(ที่เรียกกันว่า ต็อก นะ)
สำหรับคนชอบกินเส้น และเต้าหู้ มาถูกแหล่งเลย เกาหลีเนี่ยล่ะค่ะ



แต่สำหรับชาวต่างชาติอย่างสามีเรา ก้อต้องเหนื่อยกันหน่อย
เริ่มตั้งแต่ขับรถวนหาที่จอด เพราะทั้งคู่พูดเกาหลีไม่เป็น อ่านไม่รู้เรื่อง
การไปหาซื้อขนมปังโฮลวีท แยมส้มรสออกขม เนย และซอสต่างๆ
จึงกลายเป็นเรื่องตื่นเต้นสำหรับเรา
เหมือนกับอินเดียนน่า โจนส์ ตามล่าหาขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าทำนองนั้น
ทั้งๆ ที่นี่ มีร้านอาหารเยอะมากๆ ตั้งแต่ใต้ดินถึงยอดตึก
แต่จะหาร้านให้ถูกใจคนๆ นึงค่อนข้างยากโดยเฉพาะสามี
เนื่องจากร้านอาหารฝรั่งส่วนมากนะ เค้าจะปรับรสชาดอาหารให้เข้ากับความชอบของลูกค้าคนเกาหลี
เช่นหน้าชีสหนาๆ ขอบพิซซ่ามันเทศ ไส้กรอกออกหวาน มันฝรั่งที่ทอดสไตล์เกาหลีกินกับกิมจิ เราน่ะโอเค ชอบอยู่แล้ว
แต่คุณผู้ชายขอบ่นหน่อย ยากส์




หรือ ไปร้านอาหารเกาหลีคุณผู้ชายเค้ากลัวก้างปลา เปลือกกุ้ง




ไม่ชอบกิมจิ ไม่ทานเต้าหู้ ปฏิเสธสาหร่าย ไม่ชอบถั่วแดง รังเกียจมันเทศ อะไรทำจากแป้งเหนียวๆ ไม่ชอบ
กินได้แต่เนื้อกับผักสด แล้วก้ออีกนะ ไม่ทานจั๊งค์ฟู้ด อิอิ




เรางี้ตาละห้อยผ่านร้านต่างๆ อยากลองกินนั่นนี่ให้วุ่นหัวใจ ไม่กล้าบอกเพราะรู้ว่ายังไงพระเอกเราก้อไม่ทาน

ทานได้แต่ขนมปังทาเนย แยม แล้วดูหุ่นดิ เหมือนเลขศูนย์เข้าไปทุกวัน(00)


เราเลยมีโจทก์ให้คิดตลอดว่าทำเมนูอะไรดีสามีจะได้กินดีมีสุข
ไม่เหงาเลยเป็นแม่บ้านในกรุงโซล แต่เหงาปากอยากคุยภาษาไทย
ส่วนหาซื้ออาหารไทยที่นี่ ก้อไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเราเหมือนกัน




 

Create Date : 04 มิถุนายน 2551    
Last Update : 13 สิงหาคม 2551 0:56:13 น.
Counter : 740 Pageviews.  

just for fun!







 

Create Date : 28 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 4 มิถุนายน 2551 10:01:40 น.
Counter : 511 Pageviews.  


gingotree
Location :
Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีค่ะ ชื่อสาริกาค่ะ
ติดตามสามีไปโน่นมานี่
ไม่เป็นหลักแหล่ง
มีอินเตอร์เน็ตเป็นเพื่อน
ขอบคุณคนน่ารัก
ที่เข้ามาทักทายกันนะคะ

Friends' blogs
[Add gingotree's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.