แอน..แอ่น..แอ๊นนนนนนน
 
 

ฮ่องกง..ตามอัธยาศัย ภาค 2

วันที่ 2 ของการเดินทางฮ่องกง
ลุกกันตั้งแต่เช้า เพราะคนอื่นๆ เค้ามีแพลนไปเที่ยว Ocean world กัน แต่ ไอ่เรารึ ก็ไม่ค่อยชอบสวนสนุกสักเท่าไหร่ด้วย เลยขอบายค่ะ เพื่อนคอมแพเนี่ยนก็เลยไม่ไปสวนสนุกด้วย เราตกลงกันว่า เราจะไปลุยเซ็นทรัลฝั่งฮ่องกงจ้า (หลังจากกลับมา ก็แอบเสียดาย ที่ไม่ได้หาข้อมูลไปก่อน)

แต่ก่อนที่จะแยกย้ายกันเที่ยว เราก็ไปหาอะไรกินรองท้องเป็นอาหารเช้ากันก่อน ลงเอยที่ร้านบะหมี่อะไรซักอย่าง เห็นพี่เค้าบอกว่าอยู่ในหนังสือแนะนำด้วยนะ



เมนูที่ต้องลอง ทอดมันปลาฉลามกับเนื้อปลาตุ๊กแก (หน้าตาเหมือนลูกชิ้นปลาทอด แต่เด้งดีแท้ เนื้อปลาล้วนๆ) อร่อยดีจริงๆ ด้วยค่ะ ติดใจเลยทีเดียว



อาหารมื้อเช้าของชาวคณะ


บะหมี่ที่นี่หายากที่จะมีผัก ส่วนใหญ่จะมีเส้นหมี่กะเนื้อ กะเกี๊ยวไปเลย ทุกมื้อเราก็เลยสั่งผักกวางตุ้งมาเป็นกับแกล้ม กวางตุ้งที่นี่ก็ไม่ต้องสรรหาเมนูประหลาดนะคะ มีแต่ลวกแล้วเสิร์ฟมากะน้ำมันหอยเค็มๆ ลูกชิ้น เกี๊ยวกุ้งที่ร้านนี้ ชิ้นใหญ่ เต็มคำ สะใจมากคะ กุ้งเป็นกุ้ง นอนกอดกันแน่น อร่อยยยจนน้ำตาแทบเล็ด (ไม่เหมือนบ้านเรา เกี๊ยวกุ้ง แต่...ส่วนไหนของกุ้งหว่า กินไปปุ๊บ ละลายปั๊บไม่ทันเคี้ยวเลย หรือไม่ได้ใส่...ฮา)

หลังจากอิ่มแปล้กับบะหมี่ชามโต (กินไปครึ่งเดียวเอง ไม่ใช่ไม่อร่อยน่ะคะ แต่เยอะเว่อร์ๆ ) เราก็นั่งใต้ดินจากข้างที่พัก ไปลงปลายทาง สถานีเซ็นทรัล ทางออกเยอะมาก แล้วเราจะออกไปไหนดี แอบมึนอยู่พักนึง (ก็บอกแล้ว ไม่ได้หาข้อมูลมาเลย) มีแผนที่ในมืออันนึง ก็กางๆ เดินดุ่มๆ เห็นรถรางหน้าตาน่ารักวิ่งผ่านมา (เป็นรถรางแบบโบราณของฮ่องกงค่ะ อันนี้ราคาแค่ 2 เหรียญ ใช้ออกโทพุสเหมือนเดิม) เลยขอขึ้นซะหน่อย นั่งชมเมืองไปเรื่อยๆ อากาศเย็นสบาย สองข้างทางมีแต่ตึก ซ้ายตึก ขวาตึก หน้าตึก หลังตึก มองไปทางไหนก็มีตึกเป็นแพทเทิร์น นี่มันป่าคอนกรีตของแท้เลย






ยิ่งนั่ง ยิ่งไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน เลยตัดสินใจลง เห็นถนนไหนตรอกไหนขายของก็แวะชมสักหน่อย มารู้อีกที อ่อ แถวนี้เค้าเรียก “ เชิง วาน” เรา 2 เพื่อนก็เดินไป กินไป ในเมื่อธรรมชาติเรียกร้อง ต้องหาห้องน้ำเป็นการด่วน ขอบอกว่า พี่ฮ่องกงจะหวงส้วมกันไปไหนค่ะ หายากหาเย็นซะละเกิ๊น เดินจนเยี่ยวจะราดล่ะ กว่าจะหาเจอ ก็ต้องผ่านด่านประตูเข้าไป 2-3 ด่าน บางที่ต้องขอกุญแจจากเจ้าหน้าที่ หรือร้านอาหารเพื่อไขเข้าด้วยน่ะ ปวดใจ!!!! พี่ฮ่องอย่ามาเมืองไทยน่ะ จะแกล้งเรียกค่าไถ่ก่อนเข้าห้องน้ำซะให้เข็ด (ได้ข่าวว่าปกติก็ต้องจ่ายอยู่แล้วหนิ)








ห้องน้ำสวยดี



ที่น่าสังเกตุคนที่นี่เดินกันเร็วมาก ไม่รู้พี่แกจะรีบไปไหนกัน เดินกันแบบรวดเร็ว ว่องไว เดินเอาโล่กันรึเปล่า พอเราลงไปเดินอยู่ในฝูงพี่ฮ่อง เหมือนต้องรีบไปด้วยโดยอัตโนมัติ (เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม)

เดินจนเหนื่อย ขาลาก ก็กลับมายังเซ็นทรัลจนได้ ระหว่างทางก็กินทาร์ตไข่ ของขึ้นชื่อและเป็นไคลแม็กซ์ของทริป เหอๆ อร่อยจริง (หนูช๊อบ ชอบ) ชาเค้าก็อร่อยน่ะ ชามะนาว ชื่นใจดี แต่ขอบอกว่าชาที่นี่ถูกน่ะ ถูกกว่าน้ำเปล่าอีก บ้านเราน้ำเปล่าขวดละ 7 บาท ที่นู่น ตกฃวดละ 7 เหรียญ หรือประมาณ 28-30 กว่าบาทไทย แพงมากกกก ชามะนาวขวดละ 5 เหรียญเอง (กินชามะนาวดีกว่าเนอะ)




ไอ่ก้อนสีน้ำตาลในถุง เป็นชูครีม อร่อยมากกก ซื้อกลับมากินที่ห้องพัก นั่งทับซะแบแต๊ด ไส้แตก แต่ก็กิน (อร่อยดี ^^)






เซ็นทรัลเป็นศูนย์รวมแบรนด์ดังมากมาย แหล่งชอปปิ้งของแท้ เดินจนขาลาก ได้กระโปรงมาตัวเดียว แต่คุณเพื่อนสิ รูดบัตรเครดิตอย่างเมามันส์ ชอปพอเป็นกระสัย ก็เริ่มหาทางไปเดอะพีคแทรม (รถรางขึ้นเดอะพีค จุดชมวิวเมืองฮ่องกง) นัดกับเพื่อนๆ ที่เหลือไว้ ว่าเราจะกลับมาเจอกันทางขึ้นเดอะพีค ไอ่เราก็นั่งรอที่เดอะพีคแทรมตั้งนาน ไม่มีใครมา เลยตัดสินใจนั่งรถเมล์ขึ้นเดอะพีคกันก่อน เพราะรถรางปิดซ่อมแซม (อดเลย) ทางขึ้นนั้นเป็นทางขึ้นเขา พี่เมล์แกก็ขับฉวัดเฉวียนชวนเวียนหัว ส่วนไอ้เรากลัวไม่ได้ดูวิวสวยๆ เสร่อขึ้นไปลอยหน้าลอยตาชั้น 2 ของรถบัส เสียวพอๆ กับนั่งรถไฟเหาะเลย มองลงไปข้างล่างนี่สูงได้อีก มีแค่ 2 เลนส์ พี่แกก็ไม่แตะเบรคเล๊ยย (หัวใจจะวาย)



ไปถึงเดอะพีคก็จะมีตึกอยู่เป็นตึกที่ไว้ชมวิว ก็ขึ้นไปชั้นบนสุดจุดชมวิว จ่ายค่าขึ้น 25 เหรียญ ขึ้นไป ลมแรงมากกก หนาวมากกกกก จนต้องเอากระโปรงที่ซื้อมาใส่ทับกางเกงอีกชั้น ผ้าพันคอก็พันหัวเข้าไป เพราะผมปลิว หนาวสุดๆ วิวก็งามดีแหละ แต่หนาวเกิ๊น ชมได้ประมาณ 10 นาทีวิ่งลงล่ะ ไม่ไหวจะชม (ค่าขึ้นชมตก 100 บาทเลยน่ะ) เสียดาย ลงมาก็เจอเพื่อนๆ ที่เหลือกะลังถ่ายรูปกัน และบอกว่า ตึกข้างๆ ก็ขึ้นไปดูได้เหมือนกัน ฟรีด้วย (ฟรี!!!!! %^&%$$*&*?) หึหึ 10 นาที 100 บาท เพื่อ???????

ถ่ายรูปกันพอสวยงาม เราก็ลงจากเดอะพีค (แน่นอนว่านั่งชั้นล่าง ไม่เอาแล้วชั้นบน -*- ) กลับมาลงเซ็นทรัล นั่งใต้ดินกลับที่พักอย่างทุลักทุเล พักร่างอย่างสงบ


//www.bloggang.com/mainblog.php?id=annandant&month=30-05-2011&group=1&gblog=1




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2554   
Last Update : 2 มิถุนายน 2554 10:57:41 น.   
Counter : 1114 Pageviews.  


ฮ่องกง..ตามอัธยาศัย ภาค 1

เป็นครั้งแรกในชิวิตที่ได้ออกไปเริงร่าต่างประเทศ (ถ้าไม่นับแม่สาย เชียงรายน่ะ) เนื่องจากมีเพื่อนทำงานสายการบิน จับพลัดจับพลูไปลงชื่อเป็นคอมพาเนี่ยน ว๊าวๆๆๆๆๆ ได้ตั๋วฟรีต่างประเทศปีละใบ ^^ จึงได้มีโอกาสบินไปไกลถึงฮ่องกง

เนื่องจากผู้ร่วมทางทั้งทริปมีตั้ง 8 ชีวิต และมีพี่ที่เค้าเคยไปมาก่อแล้วเป็นคนนำเที่ยว ก็เลยไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรไปล่วงหน้า ขออาสาเป็นลูกเป็ดเดินตามต้อยๆ แทนละกัน เอาเวลาช่วงที่ก่อนไปปั่นงานหัวฟู หัวตั้ง จะได้เริงร่าอย่างมั่นใจ

แล้ววันเดินทางก็มาถึง..เนื่องจากเพื่อนๆ เค้าขึ้นเครื่องจากสมุย บินตรงไปฮ่องกงเลย เดือดร้อนคนบางกอกอย่างดิิฉันต้องนั่งเครื่องไปสมทบเป็นหมู่คณะที่โน่น ออกจากสุวรรณภูมิ 6 โมงเช้า ไปถึงสมุย 7 โมง แล้วก็นั่งเครื่องบางกอกแอร์เวย์ไปฮ่องกง (3 ชม. ผ่านไป) ก็มายืนเป็นคนต่างด้าวที่ฮ่องกงกันแล้วค่ะ



(ออกจาก กทม. เช้ามากกก)




ถึงแล้ว ฮ่องกง กง กง กง

หลังจากผ่านกระบวนการตรวจคน (ต่างด้าว) เข้าเมืองเรียบร้อย ใครที่ยังไม่แลกเงินมา ก็แลกซะ ใครที่ยังไม่มีบัตรออกโทพุส ก็ซื้อซะ (ส่วนของเราเพื่อนยืมพี่ที่ทำงานมาให้แล้ว ^^) แล้วก็ออกไปหารถเมล์เพื่อมุ่งหน้าไปรถไฟฟ้า ไปจิม จา โช่ย กัน (จริงๆ แล้วมันมีแอร์พอร์ตเอ็กเพรสด้วยนะคะ แต่แพงเว่อร์ๆ ก็ไปมันแบบบ้านนานี่แหละ ประหยัดดีค่ะ)

***ข้อควรทราบ
- การแลกเงิน ควรแลกไปจากไทยน่ะจ๊ะ ไปแลกที่นู่นเรทแพงกว่ากันเยอะ แล้วจะมาเสียดายทีหลัง

-ในทริปนี้ใช้บัตรออกโทพุส เป็นบัตรสารพัดประโยชน์ เสกได้ ค่ารถเมล์ ค่ารถไฟฟ้า ค่าของ ค่านู่นนี่ แตะได้หมด ราคาเริ่มต้นซื้อ 150 เหรียญ(ฮ่องกง) ใช้ได้ 100 เหรียญ อีก 50 เป็นค่ามัดจำบัตร จะได้คืนหลังจากเราเอาบัตรไปคืน ไม่คืนก็ไม่ได้ มีอายุอยู่ได้ 3 ปี (มั้ง??) ถ้าจำไม่ผิด คนที่ไปบ่อยเค้าเลยไม่คืนกัน พอเงินหมดก็เอาไปเติมเงิน ใช้ง่ายและสะดวก

- เวลาที่ฮ่องกง จะเร็วกว่าไทย 1 ชม. น่ะจ๊ะ



อย่างที่บอกไป ว่าไม่ได้หาข้อมูลอะไรไปเล้ย..เค้าลากกระเป๋าไปไหนก็ไปกับเค้าด้วย เค้าขึ้นรถสายไหนก็ขึ้นด้วย แตะบัตรโลด ค่าบริการก็หักไปจากบัตรเลย เลยไม่ค่อยรู้ว่าค่ารถราคาเท่าไหร่

หลังจากนั่งรถเมล์จากสนามบิน ไปต่อรถไฟฟ้า ถึงรถไฟฟ้าก็เอาบัตรออกโทพุส แตะโลด เข้าไปยืนงมทางกันตรงป้าย ว่าเราต้องขึ้นรถไฟฟ้าสายไหนดี แต่ดูไม่ค่อยออกค่ะ เพราะภาษาจีนอย่างเยอะ

ถึงซะที จิม ซา โช่ย ชาวคณะทั้งหลายก็ลากกระเป๋าเข้าที่พัก (โชคดี ที่พักติดทางออกรถไฟฟ้าเลย ไม่ต้องเดินไกลให้เมื่อย) ถึงที่พักประมาณ 6 โมงเย็น เห็นจะได้ กะลังเริ่มมืดเลยค่ะ

หลังจากจัดเรียงตัวเข้าห้องพัก ก็ถึงเวลาเดินเซอร์เวย์เมืองซะกะหน่อย แพลนสำหรับเย็นนี้คือ ดูซิมโฟนี่ออฟไลท์ (มาถึงนี่แล้วก็ต้องดูน่ะ เดี๋ยวไม่มีอะไรกลับไปโม้เขา 5555) พวกเราไปก่อนเวลา จับจองพื้นที่เพื่อรอดู นั่งให้ลมเย็นๆ (เข้าขั้นหนาว) ตีหน้าพอชาๆ เล่น

เมื่อการแสดงเริ่มเท่านั้นแหละ บัง!!!!!!! บังแขกของแท้ มายืนเอาตูดเรียงหน้ากระดาน บังวิวจ้า พร้อมด้วยกลิ่นเครื่องเทสใต้รักแร้ ยืนเหนือลมกำลังดี ตามมาด้วยขบวนอาม่า เซงสุดขีด...งึมๆ ไม่ดูเลยเหรอ คนอื่นเค้ามานั่งจองกันตั้งนานน่ะ


วิวริมน้ำ รอดูซิมโฟนี่ออฟไลท์ ตึกฝั่งขะนู้นแหละ ที่ทำการโชว์



บรรยากาศรวมๆ

การแสดงก็ไม่มีอะไรมากมาย ตึกฝั่งฮ่องกงส่องแสงขึ้นฟ้า เล่นแสงวิบวับ ส่องไปส่องมา เปิดเพลงประกอบ จบ!!!!
หลังจากชมการแสดงเรียบร้อย ท้องเริ่มร้อง ก็พากันกลับไปหาอะไรกินรองท้องกัน ร้านที่เราเข้าไปนั่งนั้น คนค่อนข้างเยอะ จอแจ เมนูมาปุ๊บ คนเก่งภาษาอังกฤษระดับ D+ อย่างเรา ก็อาศัยเพื่อนร่วมทริปนี่แหละ สั่งให้เค้าหน่อยยยย ^^ เมื่อสั่งไปเสร็จ เราก็ยังอยากจะกินผักกวางตุ้งน้ำมันหอย หาในเมนู ก็ไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไร ทำไงดีหล่ะทีนี้ เลยออกไปหน้าร้าน ถ่ายรูปที่เค้าปริ๊นท์ติดไว้มาให้พนักงานดู (เย้ๆ ได้กินล่ะ)

พอบะหมี่มาลงตรงหน้า แม่จ้าวววว ชามใหญ่มว๊ากกกกกก เรายิ่งเป็นคนไม่ค่อยกินเส้นอยู่ด้วย ถึงกับนั่งอึ้งกับปริมาณ เอิ่ม...แล้วคุณเพื่อนคะ สั่งไรมาให้กุกินเนี่ยย เมื่อของทะยอยลงโต๊ะ ทุกคนก็จัดการกันอย่างเรียบร้อย อิ่มแปล้...


มื้อแรกในฮ่องกง

จ่ายค่าเสียหายเรียบร้อย สนนราคาเมื่อเทียบเป็นเงินไทย ตกประมาณเกือบ 300 ร้อยบาท (บะหมี่ 1 ชาม ผัก 1จาน แล้วก็น้ำ 1 แก้ว แพ๊งงงง แต่ก็น่ะ ทำใจ เพราะราคาอาหารก็ประมาณนี้แหละ ทำใจเถอะบัวผัน)

กินข้าวเสร็จ เราก็แยกย้ายกับเพื่อนๆ ไปเดินย่อยตามอัธยาศัย ไฟป้าย SASA มันทิ่มตา ก็เลยต้องแวะไปชมซะหน่อยว่ามีอะไรให้ชอปบ้าง ข้างในของเยอะสมคำร่ำลือระบือไกล เยอะจริง ถูกจริง แต่...เพิ่งวันแรก ขอไว้เชิงก่อน ชมขำๆ ยังไม่ยอมให้ตังค์ออกจากกระเป๋า ประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ ร้านรวงก็ทยอยปิดกันไป เราก็กลับที่พัก นอน (แบบหนาวๆ) ฝันดีราตรีสวัสดิ์

ติดตามได้ ตอนที่ 2




 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2554   
Last Update : 11 กรกฎาคม 2554 16:11:15 น.   
Counter : 673 Pageviews.  


1  2  

annandant
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add annandant's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com