พระมหาเวสสันดรชาดก กลับชาติมาเกิดเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นแบบอย่างของผู้เสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม คือสรรพสัตว์ทั้งหลายพ้นทุกข์เข้าสู่แดนแห่งความสุขนิรันดรคือพระนิพพาน
พระนางมัทรี เป็นพระราชธิดาแห่งกษัตริย์มัทราช อภิเษกสมรสกับพระเวสสันดร มีพระโอรสชื่อพระชาลีและมีพระธิดาชื่อพระกัณหาพระนางตามเสด็จพระเวสสันดรไปยังเขาวงกต
พระนางมัทรี กลับชาติมาเกิดเป็น พระนางยโสธราพิมพา พระมารดาพระราหุล
พระชาลี กลับชาติมาเกิดเป็น พระราหุล เป็นสามเณรรูปแรกของพุทธศาสนาเมื่อบวชเป็นภิกษุแล้วบำเพ็ญเพียรจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางผู้ใคร่ในการศึกษาท่านนิพพานก่อนพระพุทธองค์ ก่อนพระสารีบุตร ก่อนพระโมคคัลลานะ ดับขันธปรินิพพานที่บัณทุกัมพลศิลาอาสน์ ณดาวดึงส์เทวโลก
พระกัณหาเป็นผู้หนึ่งที่ทำให้พระเวสสันดรได้บำเพ็ญบุตรทานบารมีซึ่งเป็นทานอันยิ่งใหญ่ที่มนุษย์ทั้งหลายไม่สามารถทำได้ นอกจากมหาบุรุษผู้ทรงหวังพระโพธิญาณเท่านั้นดังที่พระเวสสันดรทรงตรัสว่า
พระลูกเอ๋ย เจ้าไม่รู้หรือพระบิตุรงค์บรรจงรักพระโพธิญาณ หวังจะยังสัตว์ให้ข้ามห้วงมหรรณพภพสงสารให้ถึงฟากเป็นเยี่ยงอย่างยอดยากที่จะข้ามได้
พระกัณหาเป็นผู้ที่มีความกตัญญูเชื่อฟังคำสั่งสอนและมีความเฉลียวฉลาด
และเมื่อพระเวสสันดรตรัสเรียกโดยกล่าวว่า
ไยเจ้าไม่องอาจยอมย่อท้อทิ้งพระบิดา ให้พราหมณ์มันจ้วงจาบหยาบช้าเจ้าเห็นชอบอยู่แล้วหรือหนาพ่อสายใจ
ทั้งสองกุมารก็ขึ้นจากสระมาแต่โดยดี
พระกัณหาเป็นผู้ว่าง่ายถึงคนคนนั้นจะดีหรือไม่ดีต่อตนก็ตามก็ยังเชื่อฟังคำสั่งโดยไม่ขัดขืน และยังมีน้ำใจคอยช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ เป็นผู้ที่เข้าใจในเจตนาของพระเวสสันดรที่เสียสละเพื่อประโยชน์ของชนหมู่มากแม้การเสียสละนั้นจะทำให้ตนเองลำบากก็พร้อมที่จะเข้าใจเหตุผลความจำเป็นที่ตนต้องเสียสละ
พระนางกัณหา กลับชาติมาเกิดเป็น พระอุบลวรรณาเถรี ชำนาญในการแสดงฤทธิ์ต่าง ๆ ได้รับตำแหน่งในทางเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุณีทั้งหลาย ในฝ่ายผู้มีฤทธิ์และเป็นอัครสาวิกาฝ่ายซ้าย
พระกัณหาและพระชาลีร้องไห้ไม่อยากไปกับชูชก
ขอบคุณที่นำมาฝากให้อ่านค่ะ