|
ประวัติกุบไลข่าน ทายาทเจงกิส ข่าน
| "สมเด็จพระจักรพรรดิกุบไล ข่าน" (Kublai Khan)
หรือ จักรพรรดิซื่อจูหวางตี้ หรือ จักร พรรดิซีโจ๊วฮ่องเต้
เป็นพระราชนัดดา(หลาน)ในจอมจักรพรรดิ"เจงกิส ข่าน" กับพระอัยยิกา (ย่า) "บูร์ไต" พระราชบิดาของพระองค์พระนาม "ตูลิ" ส่วนพระราชมารดาคือ "พระนางซอร์กัจตานิ เบกิ" กุบไล ข่านมีพระชนม์อยู่ในช่วง ค.ศ.1215-1294
|
และครองบัลลังก์เป็นข่าน หรือจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิมองโกล เมื่อ ค.ศ.1260 ต่อมา ค.ศ.1279 ทรงสถาปนาราชวงศ์หยวนขึ้นปกครองจีน เป็นจักรพรรดิองค์แรกของราชวงศ์ รวมรัชสมัยของพระองค์อยู่ระหว่างวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ.1260 ถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 1294 อันเป็นวันสวรรคต พระชนม์ 78 พรรษา
จักรวรรดิมองโกลอันเกรียงไกรที่พระอัยกา(ปู่)เจงกิส ข่าน สร้างไว้ ขึ้นถึงจุดรุ่งเรืองสูงสุดในสมัยของกุบไล ข่าน เมื่อทรงมีชัยในสงครามโค่นล้มราชวงศ์ซ้อง ได้ขึ้นปกครองจีนในที่สุด ทรงตั้งกรุงปักกิ่งเป็นเมืองหลวง (ยุคนั้นเรียกชื่อเมืองต้าตู) เปิดศักราชชาวมองโกลครองจีนโดยทรงสถาปนาราชวงศ์หยวน ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์แรก ในพระนาม หยวนซีโจ๊วฮ่องเต้ ทรงปราบปรามจีนที่ยังแข็งข้อราบคาบในอีก 19 ปีต่อมา
| นับเป็นฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ที่ชนชาวจีนยกย่องนับถือว่าเป็นกษัตริย์สำคัญพระองค์หนึ่ง ทั้งที่ทรงเป็นคนต่างด้าว แต่เพราะทรงตั้งความหวังจะเป็นกษัตริย์ที่ดี จึงปกครองบ้านเมืองอย่างสุขุมรอบคอบ เอาใจใส่ประชาชน ทรงชนะใจชาวจีน เป็นฮ่องเต้มองโกลพระองค์เดียวที่จีนยอมรับ รวมถึงด้านวรรณศิลป์ที่หลักฐานระบุว่าจากที่ทรงสนใจทางอักษรศาสตร์และวรรณกรรม
|
จึงส่งเสริมบทประพันธ์ต่างๆ ว่ากันว่าบทงิ้วในสมัยกุบไล ข่านดีมาก จนไม่มีบทงิ้วสมัยใดเทียบได้
รัชสมัยของจักรพรรดิกุบไล ข่าน อาณาจักรจีนแผ่ไพศาล ทางตะวันออกจดเกาหลี ขณะที่ทางตะวันตกอาณากว้างไกลไปจดประเทศโปแลนด์ ส่วนทางใต้ทรงส่งทัพไปตีได้เกือบหมดอินโดจีน รวมดินแดนดาลี (หรือ ต้าลี่ ในมณฑลยูนนานในปัจจุบัน) และเกาหลี อันนัม เวียดนาม ตลอดจนตังเกี๋ย รวมพม่า จากนั้นทรงพยายามขยายอิทธิพลโดยบุกไปโจมตีญี่ปุ่นและชวา แต่ไม่สำเร็จ พ่ายแพ้กลับมา เนื่องจากนักรบมองโกลเก่งกาจแต่การรบบนหลังม้า ขณะที่การโจมตีดินแดนที่เป็นเกาะต้องใช้ทัพเรือ ซึ่งมองโกลไม่เชี่ยวชาญพอ แต่บางเอกสารว่าเรือถูกมรสุมจึงไม่สำเร็จ
รัชสมัยกุบไล ข่าน มองโกลและจีนรุ่งโรจน์ยิ่ง นับรวมสัมพันธไมตรีกับตะวันตก โดยพบหลักฐานเป็นอันมากที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของพระองค์กับกษัตริย์แห่งยุโรป โดยเฉพาะองค์สันตะปาปาแห่งคริสต์ศาสนา และพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศส ในสมัยนี้มีทั้งทูต สมณทูต นักสอนศาสนา พ่อค้า ประชาชนจากยุโรปเดินทางมาเมืองจีนหลายคณะ ด้านกรุงปักกิ่งก็เคยส่งทูตไปกรุงวาติกัน และราชสำนักฝรั่งเศสเช่นกัน
ที่โด่งดังที่สุดคือการมาถึงของ "มาร์โก โปโล" แห่งเวนิส อิตาลี นักเดินทางสำรวจและค้าขาย ที่เดินทางร่วมกับพ่อและลุง เป็นชาวตะวันตกกลุ่มแรกที่เดินทางตามเส้นทางสายไหมสู่ดินแดนจีน ซึ่งพวกเขาเรียกว่า คาเธย์ และสู่ปักกิ่งในปี ค.ศ.1271 ได้เข้าเฝ้าจักรพรรดิกุบไล ข่าน จากนั้นใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหางโจวช่วยงานราชสำนักถึง 17 ปี ก่อนเดินทางกลับบ้านเกิด การเดินทางของเขาถูกบันทึกไว้ในหนังสือชื่อ อิลมีลีโอเน (Il Milione) หรือ บันทึกการเดินทางของมาร์โก โปโล เปิดโลกของชาวตะวันตกให้รู้จักแผ่นดินซีกตะวันออกมากขึ้น
Credit : //www.khaosod.co.th
Create Date : 27 ธันวาคม 2553 |
Last Update : 27 ธันวาคม 2553 5:11:12 น. |
|
0 comments
|
Counter : 8911 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
- ❀จันทร์ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑✼ภาพหมู่พระธรรมยาตราที่วัดสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
- ❀ภาพ ณ วัดโบสถ์(บน) บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
- ❀ชมภาพ วัดโบสถ์(บน) ,วัดไผ่หูช้าง ,วัดนครอินทร์ ,วัดคลองขวาง จังหวัด นครปฐม - นนทบุรี
- ❃วันที่๒๒มีนาร่วมพัฒนาชุมชน วัดบ่อทอง ,วัดตาก้อง ,วัดรางกำหยาด ,วัดบัวแก้วเกษร ,วัดบ่อทอง จ.นครปฐม
- ✿ภาพชุดชุมชนร่วมพัฒนา วัดบัวแก้วเกษร ,วัดนาราภิรมย์ ,วัดบ่อทอง จ.นครปฐม, ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๑
- BlogGang.com
|
|
|
|