กราฟฟิตี้หนุ่มอัมพวา จับคู่ หลานย่าโม ตัวแทนไทย ไปชิง "แชมป์เอเชีย" ที่ ...ไต้หวัน

       ART EYE VIEW ----สมรภูมิค้นหาสุดยอดกราฟฟิตี้มือหนึ่งของเมืองไทย ผ่านเวทีแข่งขัน Siam Center Design Forward Presents ISUZU Wall Lords Thailand Graffiti 2012
       
       ปีนี้ได้ผู้ชนะเลิศเป็น 2 หนุ่ม ทีม DSF (FUNKY FAT) ได้แก่ ประกฤต แหลมหลวง และ สิงหนาถ อภัย
       
       ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย พวกเขาและเพื่อนๆศิลปินกราฟิตี้จากทีมอื่นๆ ได้รับสิทธิเข้าร่วม เวิร์คชอปการเขียนกราฟฟิตี้ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
       
       ตลอดจนร่วมแลกเปลี่ยนทัศนคติทางด้านศิลปะกับศิลปินกราฟฟิตี้ระดับโลก จาก อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาอย่าง ROIDS MSK HA และ CHIP ที่ปีนี้ก็มาโชว์ฝีมือให้ศิลปินกราฟฟิตี้ชาวไทย ได้เรียนรู้เทคนิคในการนำเสนอผลงานในวันตัดสินการแข่งขันและร่วมเป็นกรรมการตัดสินด้วย

ประกฤต แหลมหลวง และ สิงหนาถ อภัย 2 หนุ่ม จากทีม DSF (FUNKY FAT) ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศในปีนี้ รับรางวัล จาก ศิริเพ็ญ อินทุภูติ และวิชัย สินอนันต์พัฒน์
       เมื่อวันแข่งขันรอบตัดเชือกมาถึง ท่ามกลางบรรยายของร้านจำหน่ายสินค้าแนวสตรีทอาร์ต ตลอดจนมินิคอนเสิร์ตและปาร์ตี้สุดมัน จากวงดนตรีแนวฮิปฮอป อาทิ Thaitanium ,DJ Buddha และ DJ Ono
       
       2 หนุ่ม และเพื่อนๆทีมอื่น ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานลงบนผนังที่มีความยาวกว่า 50 เมตร ของสยามเซ็นเตอร์

แฟชั่น ยุค 80 บน ผลงานกราฟฟิตี้ ซึ่งคว้าชัย
       ภายใต้โจทย์ Fashion Visionary ที่คณะกรรมการกำหนดให้ ทั้ง 2 หนุ่ม ได้เลือกนำเสนอ แฟชั่นยุค 80 ผ่านผลงาน
       
       “เป็นยุคที่แฟชั่นไม่มีวันตาย พวกเราเติบโตมาในยุคนี้ และเทรนด์การแต่งตัวในยุคนี้มีอิทธิพลต่อพวกเรามาก”
       
       ดังนั้นสิ่งที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของแฟชั่นในยุค 80 ได้แก่ รองเท้าซุปเปอร์สตาร์, ชุดกีฬาแบรนด์อาดิดาส และการเต้น B-Boy จึงถูกนำมาถ่ายทอดไว้ในผลงานของทั้งคู่ ที่เน้นการใช้สีในโทนสีพาสเทล และ สเปรย์แทรกด้วยสีจัดจ้านเพื่อให้ชิ้นงานดูไม่อ่อนจนเกินไป ขณะที่ตัวอักษร KLONE และ LEO ที่ถูกสเปรย์ลงไปบนผลงาน คือนามแฝงของทั้งคู่
       
       และในที่สุดมันก็คือชิ้นงานที่ คณะกรรมการ อันประกอบด้วย ROIDS MSK HA ,CHIP ตลอดจน Xeme ศิลปินกราฟฟิตี้ชาวฮ่องกง ผู้ก่อตั้งโครงการ Wall Lords ,พีระพงศ์ ลิ้มธรรมรงค์ หรือ P7 ศิลปินกราฟฟิตี้ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ,ประธาน ธีระธาดา สถาปนิกชื่อดัง ,ชุติมา กิจประยูร ผู้อำนวยการด้านศิลป์ และตกแต่ง บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ,ศิริเพ็ญ อินทุภูติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ,วิชัย สินอนันต์พัฒน์ รองผู้อำนวยการสายงานกลุ่มขาย และกลุ่มธุรกิจหลังการขาย บริษัทตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ตัดสินให้ได้รับรางวัลชนะเลิศ
       
       แม้จะคว้า รางวัลมูลค่า 20,000 บาท พร้อมอุปกรณ์สีสำหรับงานกราฟฟิตี้ไปครอง เรียบร้อยร้อยแล้ว อีกทั้งได้รับสิทธิในการนำเสนอผลงานกราฟฟิตี้ขนาดยักษ์ลงบนกำแพงของศูนย์การค้าฯ
       
       ทว่าภารกิจของทั้ง 2 หนุ่ม ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะในช่วงปลายปี พวกเขาจะเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขัน การประกวดออกแบบกราฟฟิตี้ระดับนานาชาติ ในงาน Wall Lords ASIA 2012 ที่ประเทศไต้หวัน
       
       วิกเตอร์ - เจริญ เพ็งสถาพร ผู้เป็นคิวเรเตอร์ให้กับการแข่งขันในประเทศมาตั้งแต่แรกเริ่ม ให้ข้อมูลว่า Wall Lords ASIA ริเริ่มขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยมี Xeme ศิลปินกราฟฟิตี้ชาวฮ่องกง เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง ในแต่ละปีสถานที่สำหรับใช้ในการแข่งขัน จะหมุนเวียนไปตามประเทศต่างๆในเอเชีย ขึ้นอยู่กับสปอนเซอร์ผู้ให้การสนับสนุน
       
       ถือเป็นเวทีแข่งขันกราฟฟิตี้เวทีใหญ่ ที่ศิลปินกราฟฟิตี้ในหลายประเทศทั่วเอเชียต่างสนใจส่งตัวแทนประเทศเข้าร่วม เพื่อทดสอบฝีมือของตัวเอง

       เช่นเดียวกับ 2 หนุ่มซึ่งเป็นตัวแทนของไทยในปี้นี้ ที่หวังจะไปโชว์ฝีมือให้นานาชาติได้รับรู้ว่า ศิลปินกราฟฟิตี้ของไทย ฝีมือไม่เป็นสองรองใคร
       
       สิงหนาถ หรือ LEO ศิษย์เก่า ภาควิชาวิจิตรศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่ตอนนี้กลับไปใช้ชีวิตและทำงานศิลปะอยู่ที่บ้านเกิดเมืองย่าโม แต่เวลาส่วนหนึ่งของเขาคือการตระเวนไปฝากผลงานกราฟฟิตี้ไว้ตามที่ต่างๆทั่วประเทศ กล่าวว่า
       
       “อยากได้แชมป์ หรือติด 1 ใน 3 ครับ มันจะได้เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยยืนยันให้ต่างชาติรู้ว่า งานในวิถี Street Art ไทยเราก็ทำมานานและผลงานเราก็ไม่แพ้เค้าด้วย”
       
       แม้ตลอดมาทั้งคู่จะสนุกกับการตระเวนไปสร้างผลงานตามตึกร้าง ภายใต้เวลาอันจำกัด และไม่มีใครรับรู้ว่าใครคือเจ้าของผลงานมากกว่า
       
       ดังที่ ประกฤต หรือ KLONE ศิษย์เก่าคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ ม.ศิลปากร กล่าวถึงความน่าหลงใหลในกราฟฟิตี้ ที่ทำให้เขา ต้องใช้เวลาส่วนหนึ่ง นอกเหนือจากการทำกิจการเล็กๆที่บ้านเกิด อ.อัมพวา บึ่งรถเข้ากรุงเทพ เพื่อมาฝากฝีมือไว้ในตามตึกร้างของเมืองกรุงอยู่เรื่อยๆว่า
       
       “กราฟฟิตี้มันก็คือโฆษณานะครับ แต่เป็นโฆษณาที่เราผู้อยากโฆษณาไม่ต้องเสียเงินค่าพื้นที่โฆษณา มันคือการพรีเซ้นต์ตัวเรา ชื่อ(นามแฝง)ของเรา สไตล์ของเรา ให้คนรู้จัก แต่มันต้องแอบทำไง เพราะเราไม่อยากให้คนรู้จักว่าตัวตนของเราจริงๆเป็นใคร หลายคนถึงทำ เพราะกราฟฟิตี้มันสนุกตรงนี้แหล่ะ”
       
       สำหรับการเตรียมตัวเพื่อไปแข่งขันในต่างแดน พวกเขาบอกว่า จากนี้ไปคงต้องหาโอกาสนัดเจอกันเพื่อทำงานร่วมกันบ่อยขึ้น โดยมี ตึกร้างที่ถูกทิ้งไว้ให้เปล่าประโยชน์ เป็นเป้าหมาย
       
       ปีก่อนตัวแทนประเทศไทย ไปคว้ารางวัลที่ 2 กลับมาได้ ส่วนปีนี้ 2 หนุ่มจะไปสอยรางวัลใดกลับมา ต้องเอาใจช่วย

ROIDS MSK HA ศิลปินกราฟฟิตี้จากประเทศอังกฤษ
       

       

CHIP 7ศิลปินกราฟฟิตี้จากสหรัฐอเมริกา
       

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์




 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 7 กรกฎาคม 2555 16:24:52 น.
Counter : 1932 Pageviews.  

สาวจีนพลาด เติมเงิน 680,000 บาทโดยไม่ได้ตั้งใจ

สาวจีนพลาด เติมเงิน 680,000 บาทโดยไม่ได้ตั้งใจ

[6-กรกฏาคม-2555] หญิงสาวชาวจีนรายหนึ่งในเมือง กวางสี ของจีน ได้กลายเป็นหนึ่งของประวัติศาสตร์ไปแล้วแม่เธอจะไม่ได้ตั้งใจให้เป็นไปดังนี้ก็ตาม เพราะว่าเธอได้ทำการเติมเงินในโทรศัพท์มือถือของเธอเองไปเป็นเงิน 680,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,500,000บาท ความผิดพลาดครั้งใหญ่ของเธอครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากการที่เธอตั้งใจจะเติมเงินในโทรศัพท์มือถือของเธอ เพียงแค่ 100 หยวนเท่านั้น  แต่เมื่อเธอถูกถามถึงจำนวนที่ต้องการจะเติม เธอกลับเข้าใจผิดว่า เครื่องถามพาสเวิร์ด 6 หลัก เธอจึงกด 680000 ซึ่งเป็นรหัสของเธอลงไป และในวันถัดมา พนักงานของบริษัท telco จึงโทรกลับมาหาเธอเพื่อ

เรียกเก็บบิลรวมของค่าโทรศัพท์  เธอจึงได้เข้าใจว่า เธอเติมเงินไป 680,000 หยวน แต่หากเธอต้องการจะดึงเงินของเธอกลับมา ทางบริษัท telco บอกว่า เธอจะต้องยกเลิกหมายเลขนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้เงินคืนทันทีนะครับ
ต้องใช้เวลาดำเนินการอย่างน้อย 4 วัน แต่ในกรณีแบบนี้ก็ไม่รุ้จะใช้เวลานานเท่าไรนะครับ เพราะจำนวนเงินไม่ใช่น้อยๆเลย

* เครดิตจาก sanook.com *




 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 7 กรกฎาคม 2555 16:21:49 น.
Counter : 2160 Pageviews.  

อันตราย! พบสารก่อมะเร็งใกล้แหล่งน้ำนิคมฯ บางปู

กรีนพีซ เผย พบสารก่อมะเร็งในแหล่งน้ำใกล้นิคมอุตสาหกรรมบางปูเกินมาตรฐาน ทำชาวบ้านป่วยหลายรายแล้ว เตรียมเสนอ 6 ทางแก้ไขต่อรัฐ
 
          เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม นายพลาย ภิรมย์ ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ พบการขนสารเคมีจากโรงงาน มาปล่อยในพื้นที่ว่างร้างไม่ไกลจากชุมชน ส่งผลให้ชาวบ้านล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ดังนั้นทางกลุ่มจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบนิคมอุตสาหกรรมบางปูทั้ง 3 จุด คือ ลำรางน้ำสาธารณะหน้าบริษัท เวสต์ โคเวอรี่ เมเนจเม้นท์ จำกัด, โรงงานรับบำบัดน้ำเสียในนิคม และบ่อกุ้งร้างหลัง สน.บางปู
 
          ผลปรากฎว่า มีการปนเปื้อนของโลหะหนักจริง เช่น นิกเกิล สังกะสี ตะกั่ว โครเมียม และสารอินทรีย์ระเหยง่าย เช่น เบนซีน ทราน 1-2 ไดคลอโรมีเทน เอทิลเบนซีน สไตลีน และโทลูอีน เป็นสารก่อมะเร็งเฉียบพลันต่อผิวหนัง อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต โดยจุดที่พบมากที่สุดคือ บ่อกุ้ง สูงกว่ามาตรฐาน 2-10 เท่า
 
          ด้วยเหตุนี้ นายพลาย จึงเสนอแนวทางแก้ไขต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมและภาครัฐ จำนวน 6 ข้อ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล ดังนี้
 
          1. จัดทำระบบและเปิดเผยข้อมูลการปลดปล่อยสารอันตรายต่อประชาชน
          2. จัดทำระบบติดตามข้อมูลการส่งของเสียอันตรายมาใช้อย่างเคร่งครัดและครอบคลุมทุกโรงงาน
          3. ตรวจสอบโรงงานรับกำจัด บำบัดของเสียอย่างเคร่งครัด
          4. ผลักดัน พ.ร.บ.มาตรการการคลังเพื่อสิ่งแวดล้อม และอนุบัญญติว่าด้วยภาษีการปล่อยกากของเสีย
          5. สนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมใช้เทคโนโลยีการผลิตที่สะอาด
          6. เพิ่มบทลงโทษแก่ผู้กระทำผิด

* เครดิจจาก kapook.com *




 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 7 กรกฎาคม 2555 16:17:47 น.
Counter : 1109 Pageviews.  

เศร้า! เศรษฐีจีนสละชีวิตช่วยคนงาน จนตัวตาย













เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก jiaodong.net , zgnt.net

         ชาวเน็ตจีนยกย่องเศรษฐีหนุ่มวิ่งเข้าไปเรียกคนงานให้หนีไฟไหม้ สุดท้ายคนงานรอด แต่ตัวเองต้องเสียชีวิต

         เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ขณะนี้ชาวไซเบอร์ในประเทศจีนต่างพูดคุยกันถึงเหตุการณ์น่าเศร้าสลดที่เศรษฐีจีนคนหนึ่งบุกเข้าไปช่วยลูกน้องในกองเพลิงอย่างไม่คิดชีวิต แต่สุดท้ายตัวเองกลับต้องมาจบชีวิตลง ซึ่งทุกคนต่างพากันยกย่องและชื่นชมผู้เสียสละคนนี้

         ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บนชั้น 3 ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเมืองเอียนไถ มณฑลซานตง ทางตะวันออกของประเทศจีน ซึ่งเหตุการณ์นี้ ทำให้นายโจว เจียงเจียง เศรษฐีหนุ่มวัย 28 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทเสียชีวิตในกองเพลิง

         รายงานข่าวระบุว่า ขณะที่เกิดเพลิงไหม้ขึ้น นายโจว เจียงเจียง ซึ่งเป็นคนที่อยู่ใกล้กับบันไดมากที่สุด และสามารถจะวิ่งออกมาจากตึกได้ก่อนคนอื่น กลับตัดสินใจวิ่งย้อนเข้าไปเรียกพนักงานที่นอนหลับอยู่ภายในให้ออกมา โดยนายโจวสามารถปลุกพนักงานที่นอนหลับอยู่ 8 คน ให้ตื่นขึ้นและวิ่งออกมานอกอาคารอาคารได้สำเร็จ แต่เมื่อเขารู้ว่ายังมีพนักงานอีก 2 คน ติดอยู่ภายในตึก เขาจึงวิ่งย้อนกลับเข้าไปเรียกพนักงานอีก โดยไม่ฟังเสียงห้ามของคู่หมั้น

         ในที่สุด พนักงานทั้งหมดก็สามารถออกมาจากตึกได้อย่างปลอดภัย แต่ทว่าเป็นที่น่าเศร้า เพราะนายโจวเกิดตกบันได และสำลักควันไฟจนเสียชีวิตในกองเพลิง สร้างความสะเทือนใจและเศร้าเสียใจให้กับลูกน้องทุกคนเป็นอย่างมาก

         นายเฉินอี้ปิง ลูกน้องคนหนึ่งที่รอดตายออกมาได้ เล่าให้นักข่าวฟังว่า เขาแน่ใจว่าหากคุณโจวไม่มาเคาะประตูและตะโกนเรียก เขาซึ่งหลับอยู่ในห้อง คงไม่สามารถวิ่งหนีออกมาได้ทันแน่นอน ขณะที่ ชิว ไช่ผิง พนักงานอีกคนที่หนีรอดเช่นกัน กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอื้น ว่า "ฉันพูดกับตัวเองว่า ทำไมคนดีมีน้ำใจอย่างคุณโจวที่เขามาช่วยพวกเราถึงต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้ ฉันสามารถวิ่งหนีออกมาได้ แต่เขาทำแบบนั้นไม่ได้" พร้อมกับชื่นชมว่า นายโจวเป็นเจ้านายที่เป็นมิตร และใส่ใจในความยากลำบากของลูกน้องตลอดเวลา

         สำหรับ นายโจว เจียงเจียง นั้น เป็นบุตรชายของนายหยาง กั๋วซิง เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในเมืองหนานทง มณฑลเจียงซู ซึ่งรับสืบทอดดูแลกิจการของบิดา อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ นายหยาง และบรรดาญาติพี่น้องยังคงทำใจไม่ได้กับการจากไปอย่างกะทันหันของนายโจว เจียงเจียง

* เครดิตจาก kapook.com *




 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 7 กรกฎาคม 2555 16:15:39 น.
Counter : 1726 Pageviews.  

พสกนิกรจับจองพื้นที่เฝ้ารับเสด็จฯ ในหลวงเสด็จฯ ทางชลมารค













เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

         พสกนิกรจับจองพื้นที่รับเสด็จฯ ในหลวงเสด็จฯ ทางชลมารค โดยขณะนี้ที่ รพ.ศิริราช และ 2 ริมฝั่งเจ้าพระยา เต็มไปด้วยพสกนิกรที่รอชื่นชมพระบารมี

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 กรกฎาคม) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดโครงการชลประทาน 5 แห่ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยบ้านเรือนตลอด 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ต่างทำความสะอาดอาคาร สถานที่ ประดับพระบรมฉายาลักษณ์ ธงชาติ และธงพระปรมาภิไธย รวมถึงประดับไฟอย่างสวยงาม เพื่อรอรับเสด็จฯ ในครั้งนี้

         ทั้งนี้ ตามหมายกำหนดการ ทั้ง 3 พระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินออกจากโรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่เวลา 16.30 น. ถึงกรมชลประทานสามเสน เวลาประมาณ 18.45 น. พร้อมทอดพระเนตรการจัดแสดงสื่อผสม น้ำสร้างชีวิต เล่าเรื่องโครงการพระราชดำริผ่านจอไตรวิชั่น จากนั้นจะเสด็จพระราชดำเนินกลับ รวมเวลาที่ประทับบนเรือพระที่นั่ง ประมาณ 2 ชั่วโมง 19 นาที

         ขณะที่บรรยากาศในช่วงเช้าวันนี้ ได้มีประชาชนทยอยเดินทางไปตามจุดต่าง ๆ ของสองริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่บริเวณโรงพยาบาลศิริราช จนถึงเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อเฝ้ารับเสด็จฯ แล้ว ขณะเดียวกัน ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เตรียมจะถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 16.30 น.

          ส่วนบรรยากาศในพื้นที่ จ.นนทบุรี ทั้ง 2 ฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะชุมชนเกาะเกร็ด ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทย เชื้อสายมอญ แประชาชนต่างประดับธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ไว้เต็มพื้นที่ เพื่อเตรียมเฝ้าฯ รับเสด็จด้วยความจงรักภักดี โดยหลายคนบอกว่า รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ชมพระบารมีของพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ได้มีการนำภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนราษฎรชาวเกาะเกร็ด และมีชาวเกาะเกร็ด แสดงรำถวายต่อหน้าพระพักตร์ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2489 มาติดตั้งริมแม่น้ำ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ

          อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่ต้องการเข้ามาในพื้นที่เฝ้าฯรับเสด็จ 2 ฝั่งริมแม่น้ำ จ.นนทบุรี สามารถเดินทางมาได้ที่จุดใหญ่ ๆ อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งได้เตรียมพื้นที่รับเสด็จ พร้อมเตรียมอาหาร และน้ำดื่มไว้บริการประชาชนอีกด้วย

ในหลวงเสด็จเกาะเกร็ด

ในหลวงเสด็จเกาะเกร็ด


          ส่วนที่โรงพยาบาลศิริราช ประชาชนทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศ ยังคงทยอยดินทางมาเฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่บริเวณด้านล่างของอาคารเฉลิมพระเกียรติอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ บริเวณดังกล่าวเต็มไปด้วยพสกนิกรที่พร้อมใจกันใส่เสื้อสีชมพู เฝ้าฯ รับเสด็จด้วยความจงรักภักดี

          โดย คุณยายอรสา ทองคำ อายุ 60 ปี ชาว อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กล่าวว่า แม้ขบวนเสด็จจะถึงพื้นที่ จ.นนทบุรี ในช่วงเย็น แต่ก็อดใจรอไม่ไหว จึงได้ตัดสินใจเดินทางมาเฝ้าฯรับเสด็จบริเวณด้านล่างอาคาร เพราะต้องการได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิดมากที่สุด พร้อมกล่าวด้วยน้ำตาแห่งความปลื้มปีติว่า เมื่อนึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภาพที่เกิดขึ้นในใจก็คือภาพที่พระองค์ท่าน ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านต่าง ๆ โดยมีพระเสโทไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา ที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องจากซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ได้ทรงงานอย่างหนักโดยมิได้คำนึงถึงว่าจะเหน็ดเหนื่อยพระวรกายเพียงใด ทั้งนี้ก็เพื่อความอยู่ดีกินดีของพสกนิกรชาวไทยทั้งสิ้น

* เครดิตจาก kapook.com *




 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 7 กรกฎาคม 2555 16:13:33 น.
Counter : 1815 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  

angelica0819
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add angelica0819's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.