คลื่น ลงทุนใหม่-โรงงานหนีน้ำท่วม แห่ลงทุนเมืองปราจีน กุมขมับปัญหาขาดแรงงาน 12,000 คน ผู้ว่าฯเร่งยื่นเรื่องถึงอธิบดีกรมการจัดหางาน และบีโอไอช่วยผ่อนผันเงื่อนไข

นางสาวจิตรา พรหมชุติมา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ปราจีนบุรีกำลังเป็นเขตอุตสาหกรรมใหม่ มีโรงงานต่าง ๆ ย้ายฐานการผลิตเข้ามาจำนวนมาก เนื่องจากมีความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งและเป็นประตูเชื่อมโยงสู่อาเซียน และส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากหนีน้ำท่วมมาจากภาคกลาง โดยปราจีนบุรีอยู่ใกล้กรุงเทพฯเพียง 130 กิโลเมตร และไปท่าเรือแหลมฉบัง 170 กิโลเมตร หรือเชื่อมไปประเทศกัมพูชาผ่านจังหวัดสระแก้วระยะทาง 190 กิโลเมตร

นอกจากนี้ในจังหวัดยังมีเขตอุตสาหกรรมรองรับการลงทุนหลาย แห่ง เช่น เขตประกอบการอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี เขตประกอบการอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียลปาร์ค และสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ขณะที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะก็จะขยายฐานมาลงทุนกว่า 4 พันล้านบาท โดยอุตสาหกรรมหลักที่มีฐานการลงทุนในปราจีนบุรี ได้แก่ ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอาหารแปรรูป ปัจจุบันมี 777 โรงงาน เงินลงทุนประมาณ 155,955 ล้านบาท มีการจ้างงาน 93,000 คน อัตราค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 255 บาท อย่างไรก็ตาม โรงงานส่วนใหญ่จะยอมจ่ายค่าแรงวันละ 300 บาท เท่ากับ 7 จังหวัดนำร่อง เพื่อจูงใจแรงงาน

ปีนี้จะมีโรงงานเปิดใหม่ในเขต อุตสาหกรรมมากขึ้น จึงมีความต้องการแรงงานจำนวนมาก แต่ตอนนี้ปราจีนบุรีกำลังขาดแคลนแรงงานนับหมื่นคน โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทแคนนอนที่เตรียมจะเปิดโรงงานผลิตเครื่องถ่ายเอกสารเพื่อ ส่งออก มีความต้องการแรงงานประมาณ 15,000 คน

"สัปดาห์ที่ผ่านมา จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุมกับชมรมผู้บริหารทรัพยากร บุคคลเขตนิคมอุตสาหกรรม 304 และเขตอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี และทราบว่ามีปัญหาขาดแคลนแรงงานมากกว่า 2,000 คน และปี 2556 จะมีการขยายการผลิตเพิ่มอีกหลายแห่ง และทำให้มีความต้องการแรงงานมากกว่า 12,000 คน เนื่องจากมีการขยายการลงทุนและมีการย้ายฐานการผลิตมาจากพื้นที่ที่เกิด อุทกภัย เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้โรงงานหลายแห่งต้องหาแรงงานต่างด้าวมาทำงาน"

ผู้ว่าราชการ จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม กิจการส่วนใหญ่เป็นกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน จึงไม่สามารถจ้างแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือทำงานได้ เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงาน จังหวัดจึงได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และเลขาธิการบีโอไอ เพื่อพิจารณาผ่อนผันอนุญาตให้สถานประกอบการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามบันทึก ความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงานระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลแห่งชาติอื่น

ทั้ง นี้ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2553 นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการบีโอไอ ได้ลงนามเรื่องการอนุญาตให้ใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือในโครงการที่ได้รับส่ง เสริมการลงทุน มีหลักเกณฑ์ 6 ข้อ อาทิ จะต้องเป็นบริษัทที่ลงทุนในประเทศไทยมากกว่า 20 ปี มีสินทรัพย์รวมมากกว่า 10,000 ล้านบาท และจ้างงานรวมมากกว่า 10,000 คน, จะต้องเป็นโครงการที่ได้รับการส่งเสริมอยู่เดิมที่สิ้นสุดการได้รับสิทธิและ ประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลแล้ว อนุญาตให้จ้างแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือได้ไม่เกินร้อยละ 15 ของจำนวนคนงานที่จ้างเพิ่มในโครงการนั้น, โรงงานจะต้องเป็นกิจการอุตสาหกรรมเท่านั้น ไม่ครอบคลุมธุรกิจเกษตรกรรมและธุรกิจบริการ รวมทั้งต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบการใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือในด้าน ต่าง ๆ ของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดปราจีนบุรีอยู่ในเขตส่งเสริมการลงทุนโซน 3 มีเขตประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริม และยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาส่งเสริม 11 เขต คือ 1.โครงการสวนอุตสาหกรรมของบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด ที่อำเภอกบินทร์บุรี เนื้อที่ 2,200 ไร่ 2.เขตประกอบการอุตสาหกรรมของ บริษัท เขตอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี จำกัด อำเภอกบินทร์บุรี 2,400 ไร่ 3.เขตประกอบการอุตสาหกรรมของบริษัท 304 อินดัสเตรียลปาร์ค จำกัด อำเภอศรีมหาโพธิ 4,500 ไร่ 4.เขตประกอบการอุตสาหกรรมปาร์คเวย์ของบริษัท เอปิโก้แลนด์ จำกัด อำเภอกบินทร์บุรี 1,200 ไร่ 5.บริษัท ปราจีนแลนด์ จำกัด อำเภอเมือง 3,000 ไร่

6.เขตประกอบการอุตสาหกรรมของบริษัท พรอสเพอตี้ อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด อำเภอศรีมหาโพธิ 3,100 ไร่ 7.เขตประกอบการอุตสาหกรรมของบริษัท ปราจีนอินดัสเตรียลปาร์ค จำกัด อำเภอกบินทร์บุรี 1,410 ไร่ 8.เขตประกอบการอุตสาหกรรมของบริษัท มิโน อินดัสเตรียลปาร์ค จำกัด อำเภอกบินทร์บุรี 1,400 ไร่ 9.เขตประกอบการอุตสาหกรรมของบริษัท จังเกิลเวิลด์ จำกัด อำเภอกบินทร์บุรี 16,000 ไร่ 10.เขตประกอบการอุตสาหกรรม ของบริษัท นิสโชว์อินดัสเตรียลปาร์ค จำกัด อำเภอกบินทร์บุรี 1,500 ไร่ และ 11.เขตประกอบการอุตสาหกรรมบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี 1,600 ไร่

สำหรับสวนอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียลปาร์ค ในปี 2555 ตั้งเป้าขายพื้นที่เพิ่มขึ้น 1,800 ไร่ มูลค่าประมาณ 3,600 ล้านบาท เพื่อรองรับโรงงานที่ถูกน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางย้ายฐาน หรือขยายสาขามาลงทุนในภาคตะวันออกมากขึ้น ซึ่งในช่วงต้นปีนี้มีนักลงทุนญี่ปุ่นซื้อขายที่ดินแล้ว 8 ราย พื้นที่ 301 ไร่ มูลค่าการลงทุนกว่า 5 พันล้านบาท

* ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  *