ยุทธศาสตร์ซัมซุงยึดตลาดไอที

ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีทองของซัมซุง โดยเฉพาะประเทศไทย ซัมซุงก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดโทรศัพท์มือถือด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างทันท่วงที
       
       GREGORY LEE President & CEO Southeast Asia, Oceania & Taiwan ซัมซุง ให้สัมภาษณ์พิเศษในงาน CES 2013ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ว่าซัมซุงเป็นเบอร์ 1 ในตลาดโทรศัพท์มือถือไทยและมีความมั่นใจในการทำตลาดเป็นอย่างมาก โดยในปี 2013 กลยุทธ์หลักของซัมซุงคือรักษาตำแหน่งผู้นำอันดับ 1ให้เหนียวแน่น โดยให้ความสำคัญกับคอนเทนต์และแอปพลิเคชั่นให้มากขึ้น ไม่ใช้มองแค่ฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว
       
       ซัมซุงเป็นผู้ผลิตที่ให้ความสำคัญกับมัลติแพลตฟอร์ม ไม่ได้ยึดติดกับค่ายใดค่ายหนึ่ง แพลตฟอร์มไหนที่เติบโตและผู้บริโภคให้ความสำคัญ ซัมซุงก็จะเข้าไปผลิตสินค้าบนแพลตฟอร์มนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาซัมซุงเป็นเจ้าแรกที่ตอบสนองผู้บริโภคได้รวดเร็วเมื่อเกิดแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมา
       
       เห็นได้จากวินโดว์ส โฟน 8 โดยซัมซุงเปิดตัว ATIV S หลังจากเห็นถึงแนวโน้มตลาดโทรศัพท์มือถือที่มุ่งไปสู่ทัชกรีนเป็นหลักโดยก่อนหน้านี้ซัมซุงเปิดตัวโน้ตบุ๊กวินโดว์ส 8 มาแล้ว จึงมั่นใจว่าผู้บริโภคจะให้การต้อนรับโทรศัพท์ถือมือ วินโดว์ส 8ที่ดีเช่นกัน
       
       เมื่อเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่นๆในโลก LEE กล่าวว่า ซัมซุงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเติบโตได้อีกมาก เมื่อเปรียบเทียบกับ GDP และปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจอื่นหลายๆอย่างรวมกัน ซัมซุงยังมีโปรดักส์อีกหลายตัวที่จะเป็นทีเด็ดปล่อยลงสู้ในตลาดนี้ พร้อมทั้งมั่นใจว่าปี 2013นี้จะเป็นปีที่ผลประกอบการของซัมซุงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการเติบโตในระดับตัวเลขสองหลัก
       
       โดยโปรดักสที่จะโฟกัสในปีนี้ คือ ทีวี กล้อง และโน้ตบุ๊ก พีซี ตัวที่เป็นไฮไลท์คือ UHD ทีวี 85 นิ้ว LED 8000 ที่มีดีไซน์สวยงาม คุณภาพของจอภาพจะเป็นปัจจัยสำคัญ ในส่วนกล้องจะเน้นคอนเน็กเต็ดคาเมร่า หรือกล้องที่ถ่ายภาพแล้วสามารถโหลดและแชร์ภาพได้เลย ซึ่งจะเทรนด์ใหม่ของตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปีนี้
       
       ผู้บริหารซัมซุง กล่าวถึงความสำคัญของไทยว่าเป็นฐานการผลิตใหญ่ของทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน แอร์ ตู้เย็น โดยผลิตเพื่อส่งออกมากกว่าทำตลาดในเมืองไทยเสียอีก เรียกได้ว่าไทยเป็นการฐานการผลิตที่สำคัญและใหญ่แล้วยังเป็นโรงงานที่ผลิตโปรดักส์ในหมวดเฉพาะไม่ใช่รุ่นธรรมดาทั่วไป แต่เป็นรุ่นที่ซับซ้อนหรือใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
       
       'ตลาดเมืองไทยใหญ่มีมูลค่าใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บวกโอเชียเนีย รองจากออสเตรเลีย ซึ่งการที่ออสเตรเลียเป็นตลาดที่ใหญ่กว่าเพราะซัมซุงเข้าไปอยู่ในตลาดนี้นานกว่าไทย โปรดักส์ไลน์ที่ได้รับการตอบรับก็เป็นสินค้าพรีเมียม เช่นทีวีขนาดใหญ่ มูลค่าตลาดจึงสูงกว่า แต่คาดว่าไทยก็จะมีการเติบโตก้าวกระโดดแบบ 2 หลักเช่นกัน'
       
       ในแง่พฤติกรรมผู้บริโภคเอเชียแปซิฟิกพบว่า ขนาดของทีวีเน้นเป็นทีวีจอใหญ่เป็นความสำคัญ 1ใน 10การตัดสินใจซื้อ ส่วนไทยความสำคัญของทีวีต้องเป็นจอใหญ่อยู่ 1ใน 5อันดับของการตัดสินใจซื้อ โดยการตัดสินใจซื้อต้องเกิดจากการจุดประกายเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ ปัจจุบันซัมซุงอยู่ในระหว่างการทำคอนเทนต์ให้พร้อมเพื่อรองรับทีวีแห่งอนาคต เจ้าไหนมีคอนเทนต์ดีซัมซุงก็จะร่วมธุรกิจด้วย อย่างกูเกิลเพลย์บนแอนดรอยด์ ซึ่งการเป็นที่ 1 ในตลาดสมาร์ททีวีต้องให้ความสำคัญกับคอนเทนต์และแอปพลิเคชัน
       
       'ที่ผ่านมาซัมซุงสามารถแชร์ข้อมูลผ่านอุปกรณ์ซัมซุงด้วยกันเองได้ ในอนาคตการเชื่อมต่อผ่านแบรนด์อื่นมีโอกาสเป็นไปได้อย่างมาก'
       
       เวียดนามเป็นอีกตลาดที่ซัมซุงให้ความสำคัญ ด้วยประชากรกว่า 90 ล้านคนและยังเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของซัมซุง จากการลงทุนในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยผลิตโทรศัพท์มือถือส่งออกตลาดยุโรป และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ราว 15% สิ่งที่ซัมซุงต้องการคือการประสบความสำเร็จในระยะยาว โดยมองเห็นการเติบโตของไว-ไฟ ในเวียดนามว่าเติบโตเร็วมาก เป็นโอกาสที่ตลาดจะขยายตัวอีกมาก เมื่อไว-ไฟ แข็งแรงสมาร์ทโฟนก็จะเติบโตตามไปด้วย
       
       เป้าหมายการเติบโตในตลาดอินโดจีนของซัมซุงในอนาคต คือใช้ไทยเป็นสปริงบอร์ดในการสร้างเติบโตเริ่มจากการสร้างทีมงานให้ครบ มีสาขาในแต่ละประเทศ โดยเชื่อว่าการเข้าไปในตลาดที่เร็วที่สุดจะเป็นความได้เปรียบเหนือว่าคู่แข่ง

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
***ซัมซุงเปิดโลกแห่งนวัตกรรม CES 2013
       
       ในงาน CES 2013 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 ม.ค.ที่ผ่านมาซัมซุงเผยโฉมสินค้าและบริการใหม่ล่าสุดที่จะมาสร้างคำนิยามใหม่แก่อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยซัมซุงจัดแสดงนวัตกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่ระบบควบคุมทีวีด้วยเสียงและท่าทาง แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือระบบสัมผัสมัลติทัชที่พัฒนาให้มีความละเอียดและแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยโปรดักส์ที่โชว์ในงานจะได้เห็นในตลาดประเทศไทยในปีนี้
       
       ซัมซุงเปิดเทคโนโลยีล่าสุดแห่งโฮมเอ็นเทอร์เทนเมนท์ด้วยกองทัพทีวีจอยักษ์ รวมทั้งทีวียูเอชดีจอยักษ์ (UHD TV) ขนาด 85 นิ้วเครื่องแรก และแอลอีดีทีวี รุ่น F8000 โดยนำเสนอคอนเทนต์ที่ใช้เทคโนโลยี S-Recommendation และการควบคุมและตอบสนองคำสั่งด้วยเสียงโดยในงาน CES2013 ซัมซุงเปิดตัวยูเอชดีทีวีจอยักษ์ ความละเอียดมากกว่าทีวีปกติที่มีความละเอียด 1080 พิกเซลถึง 4 เท่า
       
       ทีวีรุ่นใหม่ของซัมซุงควบคุมการทำงานด้วย ระบบ S-Recommendation และเทคโนโลยีการตอบสนองด้วยเสียงเปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวให้แก่ผู้ใช้งานโดยเทคโนโลยีนี้จะทำการประมวลผลประวัติการรับชม อันดับความนิยมและวันที่ออกฉายของรายการทีวี และจะทำการแนะนำผ่านโปรแกรมเมนูที่สามารถปรับแต่งให้เป็นส่วนตัวได้ตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน
       
       เทคโนโลยีตอบสนองด้วยเสียงสามารถเข้าใจประโยคพูดภาษาปกติได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเมื่อทำงานร่วมกับ ระบบ S-Recommendation ผู้ใช้จึงสามารถพูดคุยกับโทรทัศน์ได้ถึงการแนะนำภาพยนตร์ รายการทีวีหรือขอให้เปิดภาพยนตร์ที่แสดงโดยนักแสดงที่ต้องการได้อย่างสะดวกสบาย โดยระบบค้นหาจะทำการค้นหาจากข้อมูลที่มีอยู่ในทุกแหล่ง คือ ทางระบบแพร่ภาพ ระบบออนดีมานด์ และระบบแอปพลิเคชัน
       
       เทคโนโลยีใหม่นี้ยังจะมีอยู่ในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตด้วย โดยอาศัยระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะของซัมซุงที่ช่วยให้ผู้ชมสามารถค้นหาและจัดตารางการรับชมได้บนแท็บเล็ต และรับชมทางไกลหรือส่งข้อมูลจากทีวีลงบนแท็บเล็ต ทำให้สามารถรับชมทีวีได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของบ้าน
       
       ระบบสมาร์ทฮับรุ่นใหม่ของซัมซุงยังมีการจัดคอนเทนต์ของผู้ชมให้ใช้งานง่าย โดยการพัฒนาการใช้งานให้มีความคล้ายคลึงกับการใช้สมาร์ทโฟน โดยประกอบด้วย 5 เพจ ได้แก่ ออนทีวี ภาพยนตร์และรายการทีวี รูปภาพ วิดีโอและเพลง และโซเชียลมีเดียแอปพลิเคชัน
       
       ในส่วนโน้ตบุ๊กซัมซุงในงาน CES คือ ซีรีส์ 7 โครโนส (Series 7 Chronos และซีรีส์ 7 อัลตร้า โน้ตบุ๊ก (Series 7 Ultra Notebook) ซีรีส์ 7 โครโนสใหม่ ประมวลผลแบบ Quad Core โซลูชันซอฟต์แวร์ใหม่ที่ชื่อ RAMaccelerator ซึ่งให้ความเร็วในการค้นหาและเปิดใช้งานแอปต่างๆ เร็วกว่าเดิมถึง 150% เพื่อให้สามารถใช้งานแทนคอมพิวเตอร์แบบเดสก์ท้อปได้อย่างแท้จริง หน้าจอฟูลเอชดีขนาด 15.6 นิ้วพร้อมระบบสัมผัส 10 จุดรองรับความต้องการในการใช้งานทั้งสำหรับการทำงานและเพื่อความบันเทิง หนาเพียง 20.9 มิลลิเมตร และมาพร้อมคีย์บอร์ด Back-lit และแบตเตอรี่มีระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องยาวนาน ถึง 11 ชั่วโมง
       
       ส่วนซัมซุง ซีรีส์ 7 อัลตร้า บางเบาเป็นพิเศษ ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่นานถึง 8 ชั่วโมง ผสานกับการแสดงผลที่สวยงามของหน้าจอฟูลเอชดีขนาด 13.3 นิ้วแบบสัมผัส 10 จุด ตัวเครื่องอลูมิเนียม โพรเซสเซอร์ i5หรือ i7 รองรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 เช่นเดียวกับ ซีรีส์ 7 โครโนสอีกด้วย
       
       พร้อมกันนี้ซัมซุงเปิดตัวโอแอลอีดีทีวีจอโค้ง (Curved OLED TV) เครื่องแรกของโลก นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อลบข้อจำกัด ของความบันเทิงภายในบ้านด้วยลักษณะหน้าจอโอแอลอีดีแบบโค้ง ทำให้ภาพที่แสดงมีความลึกและมีความสมจริงมากขึ้น การรับชมรายการต่างๆ เป็นการรับชมในลักษณะที่เป็นไปตามธรรมชาติ เนื่องจากความโค้งของหน้าจอจะทำให้ระยะห่างระหว่างผู้ชมกับหน้าจอเท่ากันไม่ว่ารับชมจากจุดใด
* manager.co.th *


Create Date : 20 มกราคม 2556
Last Update : 20 มกราคม 2556 14:51:11 น. 0 comments
Counter : 640 Pageviews.

angelica0819
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add angelica0819's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.