Group Blog
 
All blogs
 
ข้อควรรู้ก่อนไปเยี่ยมบ้านเด็กกำพร้า

//www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L5447719/L5447719.html

เพื่อนๆ เคยไปบ้านเด็กกำพร้ากันรึเปล่่าครับ? ผมเคยไปครั้งหนึ่งตอนสมัยเรียน (ไปบำเพ็ญประโยชน์ตามกิจกรรมของมหาลัย) ผมรู้สึกว่าเราได้นำความสุขมาให้้น้องๆ เหล่่านั้น ได้พาน้องเค้าไปเที่ยวข้างนอก (ตอนนั้นพาไปเขาดิน) ตอนจะกลับก็มีเด็กๆ มายื้อไม่ให้เรากลับจนเด็กบางคนก็ร้องไห้ เพื่อนผมบางคนก็ร้องไห้ตาม และให้่คำสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมน้องๆ อีก แล้วน้องก็พูดขึ้นมาว่า "หนูรู้ว่าพีน่ะหลอกหนูยังไงพี่ก็ไม่กลับมาอีกแล้ว เหมือนพี่ๆ คนอื่นๆ น่ะแหละ"

วันนั้นคุณแม่ประจำบ้านได้เรียกพวกผมเข้าไปคุย และสอนพวกผมเรื่องหนึ่ง เรื่องของการให้คำมั่นสัญญาที่เป็นไปไม่ได้ การทืี่พวกผมเหล่านิสิตเลือกที่จะทำการบำเพ็ญประโยชน์ด้วยวิธีนี้ อาจจะเป็นการสร้างรอยแผลครั้งใหม่ให้กับเด็กๆ เหล่านั้น เพราะเค้าจะต้องพบกับคนที่เหมือนจะให้ความรักหลอกๆ จากคนที่มาเพียงชั่วครั้งชั่วคราว เหมือนพวกเค้าจะต้องโดนขุดแผลเก่าจากการที่ถูกทิ้งเพราะไม่มีใครรัก และก็ต้องได้รับความเจ็บปวดแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ยิ่งบางคนทีสัญญาว่าจะกลับมาหาน้องๆ เค้าอีก แต่ไม่สามารถมาอีกได้ โดยอาจจะเกิดจากความไม่ตั้งใจ เช่น ไม่มีเวลาว่าง แต่สิ่งที่พวกเค้าไม่รู้ก็คือ น้องๆ เหล่านั้น ย่ิงน้องเล็กๆ ที่ไม่เคยได้รับความรักจากพี่ๆ ที่มาเยี่ยมมาก่อน ต่างตั้งหน้าตั้งตารอ การกลับมาของพี่ๆ เหล่านั้น วันแล้ววันเล่า ก่อนจะต้องยอมรับความจริงด้วยความเจ็บปวดว่า พี่ๆ เหล่านั้นคงไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว และทำให้เค้าคิดว่าคงไม่มีใครรักเค้าจริง

บอกตรงๆ ว่าผมหน้าชาเลยครับ ตั้งแต่วันนั้นที่ผมได้คุยกับคุณแม่ประจำบ้าน ผมไม่เคยไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกเลย เพราะผมไม่มั่นใจว่าผมจะมีโอกาสกลับมาอีกครั้งเมื่อไร ผมไม่อยากไปขุดแผลเดิมและสร้างแผลใหม่ให้กับเหล่าน้องเหล่านั้น ผมไม่ได้ต่อต้านการไปบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่ถ้าคุณคิดจะไปจงมั่นใจว่าสามารถไปได้สม่ำเสมอ หรือถ้าไม่มั่นใจว่าจะทำได้ ก็จงอย่าให้คำมั่นเหล่านั้นกับน้องๆ เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่าคุณจะสร้างรอบแผลใหม่ให้กับเค้าหรือไม่

จากคุณ : น้ำค้างในยามเช้า - [ 26 พ.ค. 50 11:24:58 ]





ถ้าคุยกันเรื่องนี้คงต้องคุยกันยาวเลยนะคะ ^^

เราก็เคยเป็นคนจัดค่ายบำเพ็ญประโยชน์ค่ะ ตอนนั้นไม่ได้ไปไหนไกล

เอาของไปเยี่ยม เอาขนมไปเลี้ยง ไปกอด ไปเล่านิทาน ไปกันหลายคนเชียวค่ะ

เคยไปบ้านบางแค เคยจัดค่ายสอนหนังสือเด็กที่ต่างจังหวัด

เคยเจอมากับตัว ประโยคคล้ายกันกับที่คุณได้ยิน "หนูรู้ พี่มาให้ความรักหนูแล้วพี่ก็ไป พี่จะไม่กลับมาอีก"

โดยส่วนตัวแล้ว เราเป็นคนไม่ชอบการโกหก และไม่ชอบคำสัญญา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายสัญญา หรือรับคำสัญญา

วันนั้นเรานิ่งไปนิดนึง คุกเข่าจับบ่าน้องแล้วมองตา บอกน้องว่า "พี่ก็ไม่รู้ว่าพี่จะได้กลับมาเยี่ยมหนูอีกเมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าเราจะได้เจอกันอีกมั้ย แต่ขอพี่ถามหนูอย่างนึงได้มั้ยจ๊ะ หนูมีความสุขมั้ย เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน"

น้องพยักหน้า

"แล้วระหว่างการที่พี่มาวันนี้วันเดียว กับการที่พี่ไม่มาที่นี่เลย แบบไหนดีกว่า"

น้องบอก "พี่มาวันเดียวดีกว่าไม่มาเลย"

เรากอดน้อง บอกน้องว่า "ไม่ว่ายังไง ขอให้หนูจำไว้ ว่าใครก็ตามที่มาที่นี่ เค้ามาเพราะอยากดูแลพวกหนูนะจ๊ะ ใช้เวลาที่เรามีให้มีความสุขที่สุดดีกว่า กินขนม อ่านหนังสือ กอดกัน ยิ้มให้กันแบบนี้ แล้วจำไว้แต่ภาพดีๆ หนูจะได้มีความสุขทุกวันเลยไงจ๊ะ...."

น้องไม่ตอบ แต่พยักหน้ารับ แล้วยิ้มสดใส ตาเป็นประกาย

วันนั้นเราทุกคนสนุกมาก เราบอกน้องๆที่ไปร่วมค่าย ว่าอย่าสัญญา น้องจะเสียใจ ถ้าน้องพูดให้ตอบลักษณะนี้ เอาความจริงมาพูด สอนให้น้องซึมซับ และเลือกเก็บดอกไม้ไว้ในหัวใจ แล้วโยนก้อนหินทิ้งไปค่ะ น้องพวกนี้เป็นเด็กโตเกินวัย และเค้าจำเป็นที่จะต้องได้รับวัคซีนชีวิตค่ะ ใครหลายๆคนมองว่าเค้าโชคร้าย แต่หากเค้ายังมองโลกในแง่ดีได้ อะไรๆก็ไม่เลวร้ายจนเกินไป เมื่อเค้าโตเป็นผู้ใหญ่ เค้าจะมีความสุขกับชีวิตได้ค่ะ

เมื่อตั้งใจทำความดีก็จงทำ อย่าห้ามตัวเองไม่ให้ไปที่นั่นเลยนะคะ เพราะมันจะเสียโอกาส น้องๆจะเสียภาพแห่งความทรงจำดีๆไปอีกวันนึง น้องๆจะอดได้ความรักและการดูแลจากคนที่อยากไปจริงๆ ด้วยใจ ไม่สร้างภาพ

ที่เราบอกน้องๆคณะแบบนั้น...ที่เราถามน้องเด็กกำพร้าแบบนั้น เพราะเรารู้ดีค่ะ ว่าสิ่งไหนคือความสุขที่มากกว่า เราเองเคยเกาะลูกกรงรั้วบ้านญาติเรา รอพ่อแม่มาเยี่ยม ทุกเสาร์อาทิตย์ เราจะรอ...จนเราเลิกรอ น้องเราก็รอ รายนั้นอาการหนัก ร้องไห้แงๆด้วย ^^ พ่อแม่สัญญา แต่ไม่เคยมีใครทำตามที่พูด วันไหนนึกจะมาอุ้มชูก็มา แต่ก็นับวันได้เลย ในชีวิตมีเพียงไม่กี่วัน
แต่เชื่อเถอะ ว่าเราจดจำวันเหล่านั้นได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเขาดิน แดนเนรมิต มาบุญครอง เรากินอะไร เราทำอะไร มันเป็นภาพลางๆ แต่เราก็จำได้ และมีความสุขทุกครั้งเวลาที่นึกถึง ไม่จำเป็นต้องหลอกตัวเอง ยอมรับความจริงได้ ว่าที่พ่อแม่มาเยี่ยมน่ะ น้อยกว่าที่น้องๆเด็กกำพร้ามีคนมาเยี่ยมซะอีก...
แต่แน่นอน....มา...ดีกว่าไม่มา แม้จะเจ็บเมื่อจาก แม้จะรู้ว่าอีกนานกว่าจะได้เจอ แต่ก็ยังมีความสุขในหัวใจ เพราะเราคิดแบบนี้ ตอนนี้เราถึงมีความสุข และมีหัวใจไว้รักและเห็นใจคนอื่นด้วย

เรารู้ว่าการเลือกเก็บก้อนหินมันทรมาน และไม่มีประโยชน์ สู้เก็บดอกไม้ไว้ในหัวใจไม่ได้ อย่าห่วงไปเลยค่ะ ต่อให้น้องๆเจ็บปวดยังไง คนเราทุกคนมีกลไกในการป้องกันความเจ็บปวดเสมอค่ะ

^^

จากคุณ : amitambien - [ 26 พ.ค. 50 15:52:02 ]



Create Date : 05 มิถุนายน 2550
Last Update : 5 มิถุนายน 2550 18:30:58 น. 0 comments
Counter : 10646 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

amitambien
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add amitambien's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.