มั น บ ด กั บ ห น่ อ ไ ม้ ฝ รั่ ง ย่ า ง Grilled Asparagus with Mashed potatoes มาทำอาหารเรียกน้ำย่อยง่ายๆ เสิร์ฟก่อนเมนคอร์สกันดีกว่าเนอะ ตัวมันบดสำหรับเมนูนี้ต้องทำให้มันเหลวๆ นิ่มๆ เนียนๆ หน่อย เนื้อไม่เหนียว โดยการใส่ Single cream เนย นม ใช้เวลาในการบดนานหน่อย แต่อร่อยนะ ได้ออกกำลังส่วนหัวไหล่ขวาและ Bi-ceps ด้วยนะเออ เครื่องปรุงส่วนประกอบก็มี ๑. หน่อไม้ฝรั่ง ๑ กำ กะว่า ๑ คนสำหรับหน่อไม้ฝรั่ง ๖ ต้น ๒. มันฝรั่งปอกเปลือกแล้วหั่น ๔ หัว ๓. เนยประมาณ ๕ ช้อนโต๊ะ ๔. Single Cream หนึ่งกล่อง ๕. นมสด วันนี้พอดีนมวัวหมดใช้นมอูฐแทน ๖. ต้นหอมหั่นแฉลบเฉียงๆ ๕ ต้น ๗. น้ำมันมะกอก ๘. พริกไทย เกลือ +++ในรูปวันนี้มีเครื่องปรุงไม่ครบนะจ๊ะ (ไม่เคยถ่ายรูปเครื่องปรุงครบสักกะที) นมอูฐ Single cream มันฝรั่ง วิธีทำ - ตั้งหม้อต้มน้ำใส่เกลือนิดหน่อย เอามันฝรั่งที่หั่นไว้แล้วลงไปต้ม ใช้เวลาประมาณ ๑๐ นาทีจนเนื้อมันฝรั่งนิ่ม - ระหว่างรอมันฝรั่งต้ม เราก็เอาหน่อไม้ฝรั่งล้างน้ำ แล้วปอกเปลือกออก ตัดแต่งตรงหัวหน่อไม้ฝรั่งนิดหน่อย - ตั้งหม้อต้มน้ำอีกใบ ใส่เกลือ พอน้ำใกล้จะเดือด เอาหน่อไม้ฝรั่งที่เตรียมไว้ลงไปลวกสัก ๑ นาทีนะจ๊ะ - เนี่ยใส่ลงไปในหม้อแม่นาคแบบนี้ - จนหน่อไม้ฝรั่งเปลี่ยนเป็นสีเขียวใสๆ - จากนั้นให้เอาลงไปแช่ในน้ำเย็นจัด ถ้าน้ำในตู้เย็นไม่เย็นมาก็ใส่น้ำแข็งลงไปด้วยเน้อ - เสร็จแล้วพักใส่จานไว้ รอเอาไปย่างค่ะ - เราหันมาดูมันต้มบ้าง เมื่อเนื้อมันฝรั่งต้มนิ่มได้ทีก็กรองน้ำออแล้วก็ บดบด บดบด ระหว่างนี้ก็ค่อยๆใส่ครีม นม เนย บดให้เนื้อเนียนถูกใจคนกินนะก๊ะ สำหรับเราเราชอบ นิ่มๆ เหลวๆ - ในรูปเนื้อมันไม่ค่อยเนียนดีเท่าไหร่ ก็เมื่อยแขนนี่หว่า เลยเลิกบดเอาซะดื้อๆ นักเรียนอย่าเอาอย่างนะ ขอบอก +++อย่าลืมใส่เกลือ พริกไทยลงไปในมันบดด้วยนะคะ ชิมรสดูชอบเค็ม มันก็ใส่เนย เกลือลงไปอีก+++ - เอ้า ว่ากันต่อ ตั้งกระทะให้ร้อนใส่เนยลงไป ๑ ช้อนโต๊ะ - จากนั้นใส่ต้นหอมหั่น กระดกกระทะแบบผัดผักบุ้งสัก ๑ นาที แต่ภาพตอนกระดกไม่มีนะ กลัวกระเด็น อิอิๆๆ - กระดกเสร็จก็ใส่เกลือ พริกไทยจ๊ะ - จากนั้นก็เอาไปใส่ในมันบด แล้วคนให้เข้ากันค่ะ พักไว้ - เอากระทะย่างมาตั้งไฟให้ร้อน (ใช้อุปกรณ์เปลื๊อง เปลือง ) เอาหน่อไม้ฝรั่งมาย่างค่ะ - ลืมบอกว่าให้ตัดโคนหน่อไม้ฝรั่งออกไปสัก ๒ - ๓ นิ้วนะคะ เพื่อความน่ารับประทาน อ้อ เวลาเลือกหน่อไม้ฝรั่งให้เอาต้นอวบๆ มานะ อย่าเอาต้นแบบผอมแห้งแรงน้อยมา เพราะเวลา ย่างจะดูไม่น่าทานแบบของเรา คือมันจะเหี่ยวๆ อ่ะจ๊ะ - ต่อๆๆๆ ตอนย่างได้สักพัก กลับด้าน ใส่น้ำมันมะกอกลงไปตรงปลายแหลมๆมัน และใส่เกลือ พริกไทย ด้วยค่ะ - เมนูนี้จริงๆ ต้องทำพร้อมๆ กันให้มันฝรั่งและหน่อไม่ฝรั่งเสร็จพร้อมๆ กันหรือใกล้เคียงกัน ไม่งั้นมันจะไม่ร้อน กินไม่ค่อยอร่อยอีกล่ะ คือต้องไวนิดนึง - พอย่างหน่อไม้ฝรั่งเสร็จแล้วก็ปิดเตา จัดจานโดยการเอามันฝรั่งบดลงไปก่อนแบบนี้ - เอาก็ค่อยๆ เอาหน่อไม้ย่างลงไปเรียงทีละอัน จนครบ ๖ อัน (ห้ามเกินนะ อิอิ) เสร็จแล้วก็ตกแต่งโดยเอาน้ำมันมะกอกหยดทีละหยดบนปลายหน่อไม้ฝรั่งย่าง ตามด้วยเนยโปะ จบ กินได้แล้วจ๊ะ   Create Date : 05 พฤศจิกายน 2550     12 comment Last Update : 5 พฤศจิกายน 2550 12:31:45 น.     Counter : 2382 Pageviews.   Share Tweet

Ricotto E Zucchini Con Gamberi ริซอตโตกับซูคินีและกุ้ง เมนูสุดสัปดาห์วันนี้ขอเสนอ ริซอตโตกับซูคินีและกุ้ง ได้สูตรจากหนังสือนิตยสาร "ครัว" ค่ะ ทำมาหลายรอบแล้ว กลายเป็นหนึ่งในเมนูโปรดของคนที่บ้าน ก็เลยเอามาบอกต่อ อาจจะถูกใจใครหลายคนที่ชอบข้าวริซอตโตนะคะ ทำไม่ยาก วัตถุดิบส่วนประกอบเครื่องปรุงก็หาไม่ยากค่ะ ส่วนประกอบเครื่องปรุง ๑. เนยสดชนิดจืด ๓ ช้อนโต๊ะ ๒. หอมใหญ่สับละเอียด หัวละ ๑๐๐ กรัม ๓. ข้าว Arborio ๑ ถ้วยครึ่ง ไวน์ขาว ๑/๒ ถ้วย ๔. น้ำสต๊อกไก่ ๓ ถ้วยครึ่ง (วันนี้เอมี่ขี้โกง ใช้ซุปก้อนแทนค่ะ) ๕. เนื้อกุ้งแชบ๊วยหั่นชิ้น ๑๐๐ กรัม ๖. ซูคินี่หั่นลูกเต๋าขนาด ๑/๒ ซม. ๗๐ กรัม ๗. แครอทหั่นเต๋า ๗๐ กรัม (ในสูตรไม่มีแต่เอมี่อยากเพิ่มสีสรรนิดนึง) ๘. เกลือสมุทร (Sea Salt) ๑/๒ ช้อนชา ๙. พริกไทยดำป่นใหม่ๆ ๑/๔ ช้อนชา ๑๐. พาร์เมซานชีสขูด ๒ ช้อนโต๊ะ ++++ในรูปมีเครื่องปรุงไม่ครบนะคะ+++++ กุ้งแชบ๊วยแกะเปลือกเด็ดหัวไว้หาง ผ่าหลัง หมักเกลือ พริกไทย ทอดพอสุกค่ะ เตรียมไว้ ปลอยต้นหอม หอมใหญ่ และต้นหอม ชุปแป้งทอด สำหรับตกแต่ง แต่วันนี้มีต้นหอมไม่พอ ก็เลยหั่นซูคินี่เป็นชิ้นยาวๆ และชุบแป้งทอดไว้ค่ะ ดังภาพ Arborio Rice วิธีทำ - ตั้งกระทะเนย ๒ ช้อนโต๊ะบนไฟกลาง พอให้เนยละลาย - พอเนยละลาย ใส่หอมใหญ่ ผัดพอสุกใส - ใส่ Arborio Rice ผัดจนเม็ดข้าวด้านนอกใสเป็นงา - ใส่ไวน์ขาว - ค่อยๆ ใส่น้ำสต๊อกไก่ (อย่าใส่พรวดเดียวนะคะ) คนพอทั่ว แล้วลดไฟลงเป็นไฟกลางค่อนอ่อน - หมั่นคนสม่ำเสมอ สักประมาณ ๑๕ นาที ถ้าข้าวแห้งไป ก็สามารถเติมน้ำซุปไก่และไวน์ขาวลงไปอีกนะคะ แต่ว่าอย่าเติมเยอะ - ครบ ๑๕ นาทีแล้ว ใส่แครอท กะว่าแครอทพอสุก ใส่เนื้อกุ้งลงไปค่ะ ตามด้วยซูคินี่หั่นเต๋า นี่ค่ะ เนื้อกุ้งและซูคินี - ผัดต่ออีกสัก ๑๐ นาที (ข้าวสุดเป็นไตเล็กน้อย) ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย - ปิดไฟ ใส่เนยที่เหลือกับพาร์เมซานชีส พาร์เมซานชีส - ปิดฝาหม้อ นานประมาณ ๒ นาที เพื่อให้เนยและชีสซึม - ตักใส่จาน ตกแต่งด้วยกุ้งแชบ๊วยที่ทอดไว้ ปลายต้นหอม ซูคินีชุบแป้งทอด เสิร์ฟร้อนๆ ( ๒ คนรับประทาน ) ได้กินแล้วจ้า   Create Date : 03 พฤศจิกายน 2550     3 comment Last Update : 5 พฤศจิกายน 2550 15:40:12 น.     Counter : 931 Pageviews.   Share Tweet

Penne with Homemade Lobster Sauce เคยไปทานครั้งหนึ่งที่ร้านอาหารที่ดูไบ อร่อยมากติดใจ แต่แพงเหลือเกิน อยากทำเองเป็น ตามหาสูตรจากคนโน้นทีคนนี้ที ลองผิดลองถูกจนมาได้สูตรนี้ค่ะ จานนี้ทำไม่ยากแต่ว่าใช้เวลาหน่อยค่ะ เวลาในการปรุงประมาณ ๒ ชั่วโมงเพราะต้องเคี่ยวน้ำซอส สูตรนี้สองคนรับประทานค่ะ กะว่ากุ้งหนึ่งตัวต่อหนึ่งคน เครื่องปรุง ๑. ล๊อบสเตอร์ ๒ ตัว ใหญ่ ๒. เส้นเพนเน่ ประมาณ ๓ กำมือ (จะใส่เยอะกว่านี้ก็ได้นะคะ) ๓. Sour Cream ๒ กระป๋อง เล็ก หรือ กระป๋องใหญ่ ๑ กระป๋อง (เอ เรียกกระป๋องหรือเปล่า) ๔. ไวน์ขาว ๑ แก้ว ๕. Crushed Tomatoes (มะเขือเทศบด) ๑ กล่อง ๖. Cooking Cream ๒ กล่อง เล็ก ๗. ใบกระวาน (สดหรือแห้งก็ได้ค่ะ วันนี้เอมี่ใช้แบบแห้ง) ๒ ใบ ๘. กระเทียมซอย ๖ กลีบ ๙. หอมหัวใหญ่หั่น ๒ หัว ๑๐. Horseradish Sauce ๒ ช้อนโต๊ะ ๑๑. เบบี้สปิแนช (Baby Spinach) ๑ ถุง (ประมาณ ๓ กำมือหยิบ) ๑๒. เกลือ ๓ ช้อนชา เครื่องปรุงบางอย่างไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ ใบกระวาน กระเทียม หอมใหญ่ Cooking Cream มะเขือบด (กระป๋อง) วันนี้ใช้เพนเน่แบบไม่ขัดสีและเป็นออแกนิคค่ะ Horseradish Sauce Baby Spinach ไวน์ขาว กระเทียม Crushed Tomatoes หรือ มะเขือบด วิธีทำ ๑. ทำความสะอาดล๊อบสเตอร์ นำใส่ลงหม้อใหญ่ (ใหญ่กว่าล๊อบสเตอร์ แต่ว่าเอมี่มีหม้อใบใหญ สุดแค่นี้เองค่ะ ใส่ไม่พอล๊อบสเตอร์ต้องเบียดกัน) ใส่น้ำลงไปเล็กน้อย ประมาณ ๑ ถ้วยตวง ใช้ไฟกลาง อบประมาณ ๑๕ นาที (มากสุด แล้วแต่ขนาด) จริงๆ แล้วควรจะใช้ล๊อบสเตอร์ที่ยังไม่ตายนะคะ น้ำซอสจะหวานกว่านี้ แต่วันนี้เอมี่หาไดแต่ตัวที่ตายแล้ว ๒. เมื่อล๊อบสเตอร์สุกแล้ว ให้แยกใส่ภาชนะอีกใบ น้ำที่ได้จากการอบล๊อบสเตอร์ อย่าทิ้งนะคะ เพราะเดี๋ยวเราต้องใช้น้ำนั้นมาเป็นเบสในการทำน้ำซอส ๓. รอให้ล๊อบสเตอร์เย็นลง แล้วทำการแกะเอาเนื้อมันออกมาค่ะ แล้วแยกไว้ ภาพขั้นตอนนี้ไม่มีนะคะ เพราะตอนทำมือเลอะเทอะ ไม่มีใครถ่ายรูปให้ เมื่อเราได้เนื้อล็อบสเตอร์มาแล้ว เปลือกมันให้ใช้ฆ้อนทุบๆ เบาให้แหลกนิดพอประมาณ ๔. นำเปลือกล็อบสเตอร์ รวมทั้งก้ามมันด้วยนะคะ (แต่เราไม่ใช้ส่วนดำๆ ในหัวล็อบสเตอร์ค่ะ ทิ้งไปได้) ใส่ลงไปในหม้อเดิมที่เราได้น้ำจากการอบมันตั้งแต่ทีแรกค่ะ ๕. เมื่อนำเอาปลือกล็อบสเตอร์ลงไปในหม้อแล้ว ให้ใส่มะเขือเทศบดลงไปค่ะ ตามด้วยไวน์ขาว ใส่หัวหอมใหญ่ กระเทียม ใบกระวาน ค่ะ ตามด้วย Cooking cream และ Sour Cream ปิดฝา เคี่ยวไฟอ่อนไปอย่างน้อย ๑ ชั่วโมง ๖. ระหว่างที่รอน้ำซอส เราก็นำเนื้อล็อบสเตอร์มาหั่นเป็นชิ้นพอคำ แล้วพักไว้ ระหว่างนี้ ไปซักผ้า ตากผ้าหรือนั่งดูทีวีก็ได้ค่ะ ผ่านไป ๑ ชั่วโมงแล้ว เมื่อน้ำซอสเคี่ยวข้นได้ที่ กรองออกให้เหลือแต่น้ำซอสเนียนๆ ค่ะ พวกเปลือกล็อบสเตอร์ ใบกระวาน ต่างๆ ให้ทิ้งไปได้ค่ะ ในภาพเป็นน้ำซอสที่กรองออกมาเรียบร้อยแล้วค่ะ ๘. จากนั้นใส่ Horseradish Sauce ลงไป ตามด้วยเกลือ ใครมี Sea Salt จะดีมากเลยค่ะ วันนี้เอมี่มีแต่เกลือป่น ปรติเกลือแบบนี้ เอมี่จะใช้ตอนต้มพาสต้าค่ะ แต่วันนี้ไม่มี Sea Salt ใช้แบบนี้ไปก่อนแหล่ะ เติมเกลือแล้ว ชิมรสดูนะคะ รสชาติจะออกเปรี้ยวนิดๆ จาก Horseradish และ Sour Cream แต่จะหวานหน่อยๆ จากเปลือกล็อบสเตอร์ที่เราเคี่ยวไว้นะคะ เมื่อรสถูกใจแล้วใช้ไฟอ่อนๆ เคี่ยวรอเส้นพาสต้าค่ะ ๙. ตั้งหม้ออีกใบ ใส่น้ำ ใส่เกลือ น้ำมันเล็กน้อย ต้มเส้นพาสต้าค่ะ เส้นเพนเน่แบบที่เอมี่ใช้วันนี้ต้องต้มประมาณ ๙ - ๑๐ นาที ๑๐. เมือเส้นเพนเน่สุกแล้ว strain น้ำออก นำหม้ออีกใบตั้ง ใส่เส้นเพนเน่ลงไป ๑๑. เอาเบบี้สปิแนชวางทับเส้นเพนเน่ นำเนื้อล็อบสเตอร์วางทับเบบี้สปิแนชอีกที นำน้ำซอสที่เราเคี่ยวมาเป็นชั่วโมงๆ ราดลงไปเลยจ๊ะ ให้ท่วมเส้นเพนเน่เลยนะ ปิดฝา อบสัก ๒ - ๓ นาทีค่ะให้น้ำซอสซึมเข้าเนื้อเพนเน่และให้ผักโขมสลด ตักใส่จานเสิร์ฟได้เลยค่ะ กว่าจะเสร็จเกือบสองทุ่มครึ่งแน่ะค่ะ ถ่ายรูปตอนกลางคืนไม่สวยเลย ไฟที่บ้านเป็นสีส้มๆ สีน้ำซอสก็ออกชมพูๆ ทำให้มันกลืนกันไปหมด จานกินละน๊า   Create Date : 31 ตุลาคม 2550     1 comment Last Update : 3 พฤศจิกายน 2550 2:09:17 น.     Counter : 1362 Pageviews.   Share Tweet

+++DUCK BREAST WITH REDCURRANT AND RED WINE SAUCE+++ สวัสดีค่ะ วันนี้มีเมนูเป็ดๆ มาฝากค่ะ พอดีได้อกเป็ดมา ทำแกงเผ็ดเป็ดย่างก็ทำไปแล้ว วันนี้แบ่งมาทำอาหารฝรั่งบ้างแล้วกัน นานๆ จะได้เนื้อเป็ดที เพราะปรกติกินแต่ไก่ จะขันได้อยู่แล้ว เวลาในการเตรียมเครื่องปรุง ประมาณ ๑๕ นาที เวลาในการปรุงใช้ประมาณ ๓๐ นาที ค่ะ สำหรับ ๓ คนรับประทาน เครื่องปรุงก็สามารถหาได้ง่ายค่ะ เครื่องปรุงส่วนผสมมีดังนี้ค่ะ - อกเป็ด ๒ อก - หัวหอมแดงสับ ๒ ลูก - กระเทียมสับ ๒ กลีบ - ใบไทม์สดสับละเอียด ๑ กำ - มะเขือเทศเชอร์รี่ ๖ ลูก ผ่าครึ่ง - น้ำส้มสายชู บัลซามิค ๒ ช้อนโต๊ะ - ไวน์แดง ๑ แก้วเล็กค่ะ - เนยหรือมาการีน ๓ ช้อนโต๊ะ (ใครจะใช้แบบไขมันต่ำก็ได้ค่ะ) - Redcurrant jelly ๒ ช้อนโต๊ะ - แครอทต้มหรือนึ่ง ๒ ลูก - สลัดหรือมันบด เครื่องเคียง Redcurrant jelly + Balsamic Vinegar พอดีวันนี้หา Redcurrant jelly เพียวๆ ไม่ได้ เจอแต่ผสมแคนเบอร์รี่ด้วย ก็เลยต้องใช้แบบนี้ อกเป็ดใหญ่เบ้อเร้อ(อิจฉาอกเป็ดอาหรับจัง อิอิ) ใบไทม์สับ ไวน์แดง ในรูปใช้แค่ครึ่งเดียวนะจ๊ะ อีกครึ่งนึงผ่านลงลำคอเอมี่หมดจ๊ะ วิธีทำ - ตั้งกระทะให้ร้อนจัด ไม่ต้องใส่น้ำมัน เอาเป็ดลงไปนาบ ให้เอาด้านหนังเป็ดลงก่อนค่ะ จากนั้นอ่อนไฟลง ใช้ไฟอ่อนๆ ค่ะ จนหนังเป็ดเหลืองทองดี ให้กลับด้าน กลับด้านแล้ว เป็นหน้าบี - ระหว่างนี้ให้อุ่นเตาอบรอไว้เลยค่ะ อุณหภูมิ ๑๘๐ องศา - ระหว่างที่ทอดเป็ด เอมี่ก็จัดการกับเจ้าแครอท ๒ หัวนี้ค่ะ เพื่อที่จะนำไปต้ม หั่นไว้เลยจ๊ะ - จากนั้นนำเป็ดมาลงถาดเพื่อที่จะเข้าเตาอบค่ะ - ตั้งเวลาไว้สัก ๒๐ นาทีนะคะ แล้วเช็คดูว่าชอบแบบสุกมากสุกน้อย เวลา ๒๐ นาทีก็จะได้ประมาณ Medium-well ค่ะ - ระหว่างที่เรารอเป็ดในเตาอบ เราก็ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์โดยการทำซอสไวน์แดงรอค่ะ - เอาน้ำมันในกระทะที่ได้จากหนังเป็ดออกไปค่ะ เทออกไปเลยค่ะ - จากนั้นใส่หอมแดงสับ กระเทียมสับ ใบไทม์สับ มะเขือเทศเชอร์รี่ ลงไปในกระทะแล้วผัดให้เข้ากันสัก ๒ - ๓ นาที - ผัดๆ ให้เข้ากัน - พอเข้ากันดีแล้ว ใส่น้ำส้มสายชู บัลซามิคและไวน์แดงลงไป - ตามด้วยเนยและ Redcurrant jelly - ใช้ไฟอ่อน ตั้งเคี่ยวไปเลยค่ะ รอเป็ด หมั่นคนเป็นครั้งคราวด้วยจ๊ะ ให้เยลลี่ละลาย - ระหว่างนี้เราก็เตรียมผักที่เป็นเครื่องเคียงทานกับเป็ดค่ะ วันนี้เอมี่ใช้แครอทและผักที่มีอยู่ในตู้เย็น คือ ถั่วและเมล็ดข้าวโพดแช่แข็ง พอดีซื้อไว้นานแล้วค่ะ อยากจะกินให้มันหมดๆ ไป ในรูปกำลังต้มแครอท พอแครอทเกือบจะสุกดี เอมี่จะใส่ข้าวโพดและเมล็ดถั่วเป็นลำดับสุดท้าย คือทำตามวิธีทำข้างถุงค่ะ ถั่วและเมล็ดข้าวโพดแช่แข็ง กอดคอกันเตรียมจะลงไปว่ายในน้ำร้อน - พอเป็ดสุกตามต้องการแล้วจัดใส่จานเสริฟพร้อมกับเครื่้องเคียงค่ะ วันนี้เอมี่เสริฟกับขนมปังกระเทียมและผักต้มค่ะ - วิธีเสริฟ ก็นำเป็ดมาหั่นและราดด้วยน้ำซอสไวนแดงบนเป็ดค่ะ ดังภาพ หวังว่าคงจะถูกใจนะคะ ทำไม่ยากและเครื่องปรุงมีไม่เยอะค่ะ   Create Date : 31 ตุลาคม 2550     6 comment Last Update : 31 ตุลาคม 2550 12:03:07 น.     Counter : 3263 Pageviews.   Share Tweet

Creamy Seafood and Asparagus Spaghetti ไม่พูดมาก ไปดูเครื่องปรุงกันเลยค่ะ ส่วนผสม สำหรับ ๓ ที่ค่ะ - หน่อไม้ฝรั่ง ๑ กำ หั่นยาวสัก ๒ นิ้วค่ะ - Mixed seafood ค่ะ ก็จะเป็นหอย ปลาหมึก กุ้ง กะให้พอจำนวนคนรับประทานค่ะ - หอมหัวใหญ่สับละเอียด ๑ หัว - กระเทียมสับละเอียด ๑ ช้อนโต๊ะ - พาสลี่ย์สับ หรือ ผักชีสับละเอียด (วันนี้ใช้ผักชีอบแห้งสับค่ะ ผักชีสดมันสลดเกินไปไม่น่าทาน) - เส้นสปาเก็ตตี้ต้มสุกแล้ว - ครีมสำหรับทำอาหาร หรือ ครีมเฟรช ค่ะ - เกลือ พริกไทย - น้ำมันมะกอก ๑ ช้อนโต๊ะ - Parmesan Cheese - มะนาวครึ่งลูก รูปเครื่องปรุงค่ะ (ผักชีเหี่ยวน่าดู) เนยไม่ได้ใช้นะค่ะ ขออภัย กระเทียมสับ หน่อไม้ฝรั่ง หอมใหญ่สับ วิธีทำ ตั้งหม้อ ต้มน้ำ เอาซีฟู้ดไปลวกก่อนค่ะ แค่ผ่านน้ำนะคะ เพราะเดี๋ยวเราจะต้องเอาไปผัดกับสปาเก็ตตี้ต่อ ลวกเสร็จแล้วก็ใส่กระชอนพักไว้ ให้สะเด็ดน้ำ ลืมบอกไปว่า ให้ทำความสะอาดซีฟู้ดให้สะอาดก่อนลวกนะค่ะ จากนั้น ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันมะกอกลงไป ตามด้วยหอมสับค่ะ เมื่อหอมใหญ่นิ่มดีแล้ว จึงใส่กระเทียมสับลงไปค่ะ ผัดไปผัดมาสักครู่ ใส่หน่อไม้ฝรั่งลงไปค่ะ ใส่ครีมลงไปได้เลยค่ะ จากนั้นอ่อนไฟลง บีบมะนาวลวไป ๑ ซีก ตามด้วยเกลือ พริกไทยค่ะและพาสลีย์อบแห้ง จากนั้นรอให้ซอสข้นนิดนึงคะ เมื่อน้ำซอสเข้มข้นดีแล้ว เราก็ใส่ซีฟู้ดที่ลวกไว้ลงไปในกระทะเลยค่ะ ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ตามลงไปเลยค่ะ คนให้เข้ากัน และเสริฟทันที โรยหน้าด้วยพาเมซาสชีสด้วยนะคะ จะได้อร่อยยิ่งขึ้น +++++ เสร็จแล้วจ้า   Create Date : 31 ตุลาคม 2550     3 comment Last Update : 31 ตุลาคม 2550 11:01:17 น.     Counter : 623 Pageviews.   Share Tweet