พื้นฐานการวาดภาพคนเหมือน 1 "ตา" ( How to draw portrait 1)
กว่าจะกระดิกตัวตัดสินใจทำงานชุดนี้ขึ้นมาก็คิดแล้วคิดอีกพอสมควร ว่าฝีมือพื้นๆอย่างเรา จะไปแนะนำชาวบ้านที่ไหนได้ ในเมื่อมีระดับจอมยุทธ ทั้งจ้าวยุทธจักรอยู่ทุกหนแห่ง แต่...เอาเป็นว่า ผมมาบอกกล่าวกัน ในสิ่งที่ผมรู้ตามที่ผมคิดก็แล้วกัน
หลายๆท่าน เห็นบรรดาจอมยุทธทั้งหลายที่เก่งกาจ และช่ำชองในเชิงยุทธด้านนี้ ต่างใฝ่ฝันถึงวันที่จะทำให้ได้เป็น ต้นแบบเราบ้าง หรือถ้าทำไม่ได้ หรือไม่เหมือน อย่างน้อยใกล้เคียงก็ยังดี จึงได้ฝึกฝนอย่างเอาเป็นเอาตาย ในช่วงต้นๆ อาจได้ 1 วัน 2 วัน หรือ 1 เดือน แต่แล้วภาพฝันก็พลันสลาย ในเมื่อหลายๆอย่างไม่เป็นดั่งใจคิด
ตาเบี้ยว ปากแหว่ง หูกาง หน้าแบนเป็นพื้นกระดาน ด้วยสาเหตุเหล่านี้และอีกสารพัดสารพัน ทำให้สูญเสียความเชื่อมั่น ความมั่นใจ และในที่สุดก็ถอยทัพกลับไปตั้งหลัก บางคนไม่กลับมาเตะงาน portrait หรืองานภาพเหมือนในฝันสุดเลิฟอีกเลย
หลายๆครูบาอาจารย์ รวมถึงเหล่าบรรดากูรูผู้รู้ทั้งหลาย ต่างก็พยามยามบอกกล่าวให้รับรู้เรื่องราวการฝึกหัดกันอยู่มากมาย และสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ฝึก ฝึก ฝึก ฝึก แล้วก็ฝึก และสำทับขึ้นมาอีกว่า ควรสังเกตุให้ได้ สังเกตุให้ดี ว่าแต่ละจุดผิดพลาดหรือดีอย่างไร
ผมเองก็ได้แต่จดจำ ฝึกฝนแล่าเรียน สังเกตุ และอดทน จนเริ่มทำได้บ้าง จึงได้นำมาบอกเล่าให้ทุกท่านที่กำลังจะเริ่มต้น เริ่มไปแล้ว หรือกลับมาเริ่ม ให้รับทราบ ให้ได้เข้าใจอย่างที่ผมเข้าใจ สักเล็กน้อย แล้วที่เหลือๆ ก็ต้องไปหาต่อกันเองตามแหล่งข้อมูลที่ตนเองมีอยู่
ผมอยากจะบอกว่าการเขียน portrait หรือภาพเหมือนนี้ ก็เหมือนกับการฝึกเขียนตัวอักษร ก.เอ๋ย ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูกตาโต เพราะเมื่อฝึกเขียนกันได้ หลังจากนั้น ก็ต้องไปฝึกผสมคำเอาเอง และเมื่อผสมคำได้ เขียนได้ก็คงต้องเริ่มหาสำนวนที่เป็นของตัวเอง หรือจะพูดกันให้ดูเป็นทางการหน่อย ก็ "เป็นตัวของตัวเอง"
พล่ามมานาน...ยังไม่ได้บอกเลยว่าให้ทำอะไรก่อน แต่ผมเชื่อว่าหลายๆท่านกว่าจะมาถึงตรงนี้ คงต้องมีพื้นฐานการวาดภาพมาแล้วบางส่วน ถ้ายังงงๆ หรือลืมไปแล้ว ก็คงต้องกลับไปดูก่อน ถึงการฝึกขีด ฝึกวาด...
นึกออกหรือยังครับ... ถ้านึกออกแล้ว ก็เริ่มจากจุดที่เค้าเรียกว่าเป็นหน้าต่างของดวงใจ หรือ เป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งของภาพ นั่นก็คือ "ดวงตา" ดวงตานี้ไม่ตุง เพราะไม่ใช่ดวงตา ตุงฯ แต่เป็น "ดวงตา" ที่เป็นหน้าต่างของ "หัวใจ" อันหวาบหวิว ความรู้สึกจะสดใส เศร้าสร้อย เริงร่า หรือมึนงง หรือหมองคล้ำเป็นตาปลาทู ก็ขึ้นอยู่กับการช่างสังเกตุและการฝึกหัดน่ะครับ
เขียนเยอะๆ วาดมากๆ สักร้อยสักพันดวง ลองถามท่านจอมยุทธแห่งงานศิลป์เกี่ยวกับ portrait หรือ ภาพเหมือน ดูก็ได้ครับว่า ตั้งแต่เขาวาดภาพเหมือนมา เขาฝึกวาดตากันไปกี่ดวง แต่ละคนก็ได้แต่ วาดแล้ว วาดอีก วาดอีกแล้วก็วาดแล้ว อยู่นั่นเอง และการฝึกวาดตาที่มีสมาธิที่สุดก็คือ วาดในห้องประชุม ฮิๆๆๆ(ตีลูกมึน) เขาก็พูดกันไป เราก็วาดของเราไป อันไหนที่เราอยากคุยด้วยก็หยุดคุยกับเขาสักนิด
การขึ้นตา ส่วนใหญ่ เราก็จะขึ้นกันประมาณนี้นี้แหละครับ คือมองให้เป็นรูปทรงเรขาคณิตไว้ก่อน เอาทีละดวงก่อนก็ได้ครับ แล้วค่อยจัดการเป็นคู่ ทั้งแบบด้านตรง เอียงสี่สิบห้าองศา หรือด้านข้าง ฝึกเยอะๆครับ หลายๆแบบ
จากนั้นก็ต้องสังเกตุล่ะครับว่า ตาแต่ละคนหรือตาที่เราวาดนั้นเป็นอย่างไร อันไหนสมควรตัดออก ก็ตัด อย่างขี้ตา ก็ไม่ต้องไปขยันเก็บมัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ขอบตาด้านบนจะเข้มกว่าน่ะครับ ที่เข้มกว่าเพราะขนตาบน ยาวกว่าขนตาด้านล่าง ฮืม..หรือว่าใครขนตาล่างยาวกว่าบน ก้ลองดูกันเองนะครับ หุหุหุ
ที่สำคัญส่วนของสิ่งที่ดำสุด คือเรติน่า เจ้าเรติน่านี้ จะอยู่คู่กับส่วนที่สว่างสุดของภาพ นั่นก็คือ ไฮไลท์ หรือแสงกระทบแก้วตานั่นเอง ตรงนี้เองแหละครับ ที่จะทำให้ดวงดวงนั้น ดูบอด หรือดูสดใส
เมื่อวาดตาแล้วก็เลยมาที่คิ้วสักนิดนะครับ ว่าอย่าเขียนคิ้วให้ดำปึ๊ดเท่ากันเหมือนนางเอกงิ้วไปหมดทั้งหน้า คิ้วเองก็มีส่วนรับแสงเหมือนกันครับ นั่นก็คือส่วนกระโหลกที่โหนกออกมาบริเวณคิ้ว ตรงที่นักมวยโดนต่อยแตกบ่อยๆนั่นแหละครับ
ฮืม...บทความเริ่มยาวแล้วล่ะ คราวหน้า จะมาเพิ่มเรื่อง จมูก ปาก แล้วก็หู อีกนะครับ ตอนนี้ฝึกเขียนตาให้ได้อย่างต่ำสักร้อยดวงกันก่อนนะครับ อย่าลืมนะครับว่า เรากำลังฝึกเขียนทีละส่วนอยู่ครับ เมื่อถึงเวลานั้น เราจะมาผสมรวมทั้งใบหน้าในเข้ากันด้วยกันครับ
เราจะค่อยๆเรียบเรียงและรวบรวม เหมือนกับเรียงร้อยตัวอักษรนี้ให้น่าอ่าน สวยงาม และเป็นเรื่องเดียวกัน ขอให้สนุก และโชคดีในการฝึกฝนนะครับ
How to drawing portrait--พื้นฐานการวาดภาพคนเหมือน--How to drawing portrait--พื้นฐานการวาดภาพคนเหมือน
Create Date : 21 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2558 15:11:12 น. |
|
35 comments
|
Counter : 30813 Pageviews. |
|
|
ขอให้มีความสุขนะคะ
ขอให้มีโชคหมดทุกข์โศกโรคภัย
พ้นเคราะห์ที่เลวร้าย พันภัยด้วยเทอญ