|
about a boy
...ในวันๆนึงฉันมักจะทำแต่สิ่งที่ไร้สาระในสายตาผู้อื่น ทว่าพอมาคิดๆ ดูฉันก็ไม่ได้รู้สึกผิดหรือหงุดหงิดตัวเองที่เป็นอย่างนี้เลยสักที ก็ฉันเป็นคนแบบนี้เองเลยรู้สึกยิ้มได้แม้แค่ได้มองดอกไม้ในกระถางที่ใกล้สิ้นใจแล้ว แต่จะยิ้มได้มากกว่านั้นถ้าได้เห็นเค้าค่อยๆ ผลิดอกออกใบมากกว่าเดิมอ่ะนะ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นฉันรู้ว่าเค้าก็คล้ายจะยิ้มตอบกลับมาที่ฉันเช่นกัน...
วันก่อนจู่ๆ ในหัวก็ลิสต์บรรดาหนังรักโรแมนติค-ตลกที่เคยดูขึ้นมา แล้วก็นึกถึงเรี่องนี้ About A Boy อีกทั้งยังหยิบเอาเวอร์ชั่นหนังสือมาอ่านซ้ำ สนุกและให้แง่คิดดีมากๆ เข้าใจถึงหัวอกคนที่มีชีวิตอย่างไร้แก่นสาร ทั้งยังซาบซึ้งปนฮากับความไร้เดียงสาแบบแก่แดดของเจ้าหนูมาร์คัสอีกด้วย เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ชอบนักเขียนคนนี้ "nick hornby" เขาช่างสรรค์ปันแต่งเรื่องได้น่ารักน่าหยิก หลายเรื่องที่ได้อ่านมักสะท้อนสภาพสังคมของชนชั้นกลางที่ใช้ชีวิตในเมืองของอังกฤษ ทั้งยังเสียดสีประชดประชันสังคมเมืองใหญ่ได้อย่างขำกลิ้ง ชอบตรงที่เขามักใช้เพลงในแต่ละยุคสมัยเป็นสื่อกลางในการบอกเล่าและดำเนินเรื่องราวในนวนิยายไปด้วยอย่างกลมกลืน ^.^ ชอบเพลงประกอบของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยนะเพราะดี ฝนยังตกทุกวัน...
Create Date : 18 กันยายน 2552 | | |
Last Update : 18 กันยายน 2552 16:25:44 น. |
Counter : 536 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ความบกพร่องของเวลา
"...ถึงอาโออิที่อยู่ห่างไกลในมิลาน ตอนนี้ผมมีชีวิตที่โดดเดี่ยวเรียบร้อยแล้ว จาก จุนเซย์ .. คำลงท้ายจากจดหมายของจุนเซย์ที่เขียนถึงอาโออิ เป็นตอนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง Calmi Cuori Appassionati เรื่องราวความรักของคนสองคนที่ดำเนินเรื่องจากจุดเริ่มต้นจนกลายเป็นความผูกพัน และการให้ความสำคัญคำสัญญาที่ไม่ได้ถูกกลืนหายไปกับวันเวลาที่ผ่านไป ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อดังของญี่ปุ่นที่แปลเป็นภาษไทยโดยสำนักพิมพ์ Bliss ในชื่อ"Blu" (ในมุมมองของผู้ชาย) และ "Rosso" (ในสายตาของผู้หญิง) ฉันได้อ่านในรูปแบบหนังสือก่อน ส่วนตัวจะชอบเล่ม Blu มากที่สุด เพราะอ่านแล้วได้แง่คิดและรู้ในอีกหนึ่งมุมมองของผู้ชาย ซึ่งมีพัฒนาการทั้งในการดำเนินชีวิต ความคิด และการตัดสินใจท่ามกลางความคลาดเคลื่อนของกาลเวลา ฉันได้หยิบภาพยนตร์เรื่องนี้มาดูโดยไม่ได้ตั้งใจ อาจเพราะซื้อมาเก็บไว้ได้ตั้ง 2 ปี หรือจะเป็นเพราะคิดถึงหน้าพระเอกเรื่องนี้ที่ห่างหายไปนาน ความเนิบช้าของการดำเนินเรื่องดูจะเป็นเสน่ห์ของเรื่องนี้ ซึ่งเข้ากันกับบรรยากาศและโลเกชั่นของเรื่องที่ใช้เมืองเก่าในประเทศอิตาลีอย่างฟลอเรนซ์เป็นธีมหลัก เพลงประกอบของหนังนอกจากเพลงบรรเลงอันไพเราะและเป็นสิ่งที่เชื่อมความรู้สึกของคนสองคนเข้าไว้ด้วยกันแล้ว ยังมีเพลงของ Enya "Wild Child" เป็นอีกเพลงที่เป็นตัวเอกของเรื่องนี้ ฟังแล้วรู้สึกดี แต่ที่จริงฉันคงซึ้งกับรอยยิ้มของจุนเซย์ตอนจบเรื่องมากกว่า...เพราะนั่นเหมือนเป็นคำตอบของทุกคำถาม ทุกสิ่งถูกถ่ายทอดออกมาผ่านทางสายตา ความสุขอยู่ไม่ไกลจากตัวเรา บางครั้งอาจต้องอาศัยเวลา ถ้าคำสัญญาเป็นสิ่งที่เราต่างยึดมั่น ความรักเป็นสิ่งที่เราเชื่อมั่นและศรัทธา ความบกพร่องของเวลาก็เป็นเพียงบททดสอบ สิ่งที่เราทำได้ง่ายๆ เพียงยอมรับและก้าวไปพร้อมกับมันก็เท่านั้นเอง
Create Date : 18 กันยายน 2552 | | |
Last Update : 18 กันยายน 2552 16:22:04 น. |
Counter : 387 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|