Group Blog
 
All Blogs
 
ครุฑยุดนาค

ครุฑยุดนาค




เทพปกรณัมนับเป็นสิ่งที่บูรพชนรังสรรค์ขึ้นเพื่อพยายามอธิบายกำเนิดหรือที่มาของสรรพสิ่งบนโลกในครั้งที่วิทยาการยังไม่เจริญก้าวหน้า เทพปกรณัมหรือเทวตำนานนั้นพบได้ในหลายส่วนในดินแดนที่มีอารยะธรรมสั่งสมมาช้านานไม่ว่าจะเป็นเทพปกรณัมของกรีก อียิปต์ จีน ตลอดจนอินเดีย ซึ่งศาสนาพราหมณ์ในอินเดียนี่เองที่ยังอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของคนไทยมาแต่ครั้งโบราณกาล

ในอดีตนั้น พระมหากษัตริย์ไทยรับคติความเป็นเทวราชาหรือสมมติเทวราชมาจากขอมโดยถือว่าพระมหากษัตริย์คือปางหนึ่งของพระนารายณ์ที่อวตารมาจุติยังมนุษยโลกเพื่อบำราบยุคเข็ญ ความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ไม่เพียงแต่ยังอิทธิพลต่อราชสำนักเท่านั้น หากแต่ส่งผ่านธรรมเนียมและความเชื่อไปสู่บุคคลทั่วไปนับแต่อดีต เช่น ธรรมเนียมการไว้จุก โกนจุก จนถึงปัจจุบัน เช่น ความเชื่อในการตั้งศาลพระภูมิ คติความเชื่อเหล่านี้ยังคงแฝงตัวอยู่ท่ามกลางความเจริญของสังคมมิได้จางหายไปไหนแม้นกาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานดังเช่นหนึ่งในคติความเชื่อเรื่อง "ครุฑ"

ในปัจจุบันครุฑเป็นเครื่องหมายตราแผ่นดินของประเทศไทย ทั้งยังสามารถพบเห็นได้ตามสิ่งต่างๆที่เนื่องในพระมหากษัตริย์ สถานที่ราชการ ธนาคาร องค์กรร้านค้าที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานตราครุฑ วัดวาอารามฯลฯ




ลักษณะของครุฑที่พบเห็นในปัจจุบันมักจะเป็นรูปครุฑพ่าห์ นารายณ์ทรงสุบรรณ(นารายณ์ทรงครุฑ) และครุฑยุดนาคซึ่งต่างสร้างขึ้นตามประวัติความเป็นมาจากเทพปกรณัมนั่นเอง

ครุฑเป็นบุตรของฤาษีกัศยปะซึ่งเป็นหนึ่งในสัปตฤาษีหรือฤาษีเจ็ดตนกำเนิดจากดวงจิตของพระพรหม(พระผู้สร้างโลกตามคติพราหมณ์) เพื่อช่วยพระองค์ขยายเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตในโลก หนึ่งในบุตรของฤาษีกัศยปะซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีนั้นมีสุริยเทพ และพระอินทร์ เป็นอาทิ ฤาษีกัศยปะมีเทวีมากมายแต่มีอยู่สองศรีพี่น้องที่กัศยปมุนีโปรดปรานเป็นพิเศษ

ครั้งหนึ่งกัศยปะฤาษีให้นางทั้งสองขอพรได้คนละข้อ โดยฝ่ายนางผู้น้องซึ่งมีนามว่ากัทรุได้ขอพรให้ตนมีลูกหลานมากมายและขอให้ลูกๆเหล่านั้นมีอิทธิฤทธิ์แปลงกายได้ ด้วยผลแห่งสัมฤทธิพรนางจึงให้กำเนิดลูกเป็นนาคหนึ่งพันตัวซึ่งเหล่านาคเลือกที่จะอาศัยอยู่ใต้บาดาล

ข้างนางผู้พี่มีนามว่าวินตาขอพรให้ตนมีลูกเพียงสองก็พอ แต่ขอให้ลูกทั้งสองนั้นเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์มากเหนือผู้ใดรวมทั้งลูกๆทั้งหมดของนางกัทรุ กัศยปะฤาษีเห็นว่านางวินตาขอพรด้วยความริษยาเช่นนี้จะบังเกิดโทษต่อนางเองในกาลภายหน้าแต่ก็ต้องให้พรตามที่นางปรารถนา

ต่อมาไม่นาน นางวินตาได้ให้กำเนิดไข่สองฟองตามพรที่ขอไว้ แต่กาลเวลาผ่านไปกว่า 500 ปีก็ไม่มีวี่แววว่าไข่ทั้งสองจะฟักออก ด้วยจิตที่ร้อนรุ่มอยากจะทราบว่าสิ่งใดกันแน่ที่อยู่ภายใน นางจึงตัดสินใจแกะเปลือกไข่ฟองหนึ่งออกดูก็ปรากฏเป็นร่างของเด็กชายที่ครึ่งบนของลำตัวใหญ่โตแต่ส่วนล่างลงไปยังไม่ปรากฏแข้งขาแต่อย่างใด

ด้วยแรงโทสะที่รู้ว่าต้นเหตุแห่งทุพพลภาพแห่งตนเกิดจากมารดาที่ไร้ความมานะอดทน บุตรนั้น(นามว่าพระอรุณ) จึงสาปมารดาให้ตกเป็นทาสของนางกัทรุและเหล่านาค นางวินตาเมื่อได้ยินดังนั้นก็ตระหนกตกใจแทบสิ้นสมประดี พระอรุณเห็นเช่นนั้นก็เกิดเมตตาจริต แต่เมื่อเอ่ยคำสาปไปแล้วจะแก้ไขก็ไม่ได้จึงบอกแก่นางวินตาเพิ่มเติมว่า เมื่อใดก็ตามที่บุตรของนางซึ่งอยู่ในไข่อีกฟองถือกำเนิดขึ้น เมื่อนั้นบุตรดังกล่าวจะช่วยนางจากคำสาปเอง จากนั้นพระอรุณจึงถลาขึ้นฟ้าและต่อมากลายไปเป็นสารถีชักรถม้าให้แก่สุริยเทพ(พระอาทิตย์) ด้วยความที่พระอรุณมีร่างกายที่ใหญ่โตจึงไปบดบังแสงอาทิตย์ในยามเช้าและเย็นจนไม่สว่างจ้านักจึงเป็นที่มาของคำว่า "แสงอรุณ"




กาลเวลาผ่านไปสัมฤทธิผลแห่งคำสาปก็บังเกิดขึ้นโดยวันหนึ่งนาง กัทรุและนางวินตาถกเถียงกันด้วยเรื่องสีของม้าเทียมราชรถของพระอาทิตย์(บ้างว่าถกกันเรื่องม้าอุจเจศรวัสซึ่งเกิดจากการกวนเกษียรสมุทร) ว่ามีกายหรือขนสีอะไร

ฝ่ายนางวินตาเชื่อว่าม้านั้นมีขนขาวบริสุทธิ์ แต่ฝ่ายนางกัทรุเชื่อว่ามีขนสีขาวแซมเทา การโต้เถียงกลับกลายไปสู่การท้าพนันให้ฝ่ายที่พ่ายแพ้ต้องตกเป็นทาสของฝ่ายที่ชนะ

นางกัทรุทราบดีว่าม้านั้นมีขนสีขาวแต่ด้วยมิจฉาทิฐิมานะจึงสั่งให้บรรดาลูกๆแปลงกายไปแซมเป็นขนม้า ดังนั้นจึงดูเสมือนหนึ่งม้ามีขนสีขาวแซมเทา ด้วยอุบายนี้ทำให้นางวินตาต้องตกเป็นทาสลงไปรับใช้ฝ่ายนาคอยู่ใต้บาดาล

ห้าร้อยปีต่อมา ไข่อีกฟองของนางวินตาจึงเริ่มปริออกให้ประจักษ์เห็นเป็นครึ่งคนครึ่งนกที่มีร่างกายสูงใหญ่เสียดฟ้า สำแดงฤทธาปาฏิหารย์บินไปยังยอดแห่งเขาพระสุเมรุบดบังแสงแห่งพระอาทิตย์จนผู้คนพากันสับสนพากันเข้าใจว่ากลางวันเป็นกลางคืน

กัศยปะฤาษีผู้พ่อเห็นดังนั้นจึงไปหาครุฑและบอกกล่าวให้ไปช่วยมารดาซึ่งยังจำต้องเป็นทาสทนทุกข์จากเหล่านาคอยู่ใต้บาดาล แรกทีเดียวนั้นครุฑมีนามว่า "เวนไตร" ซึ่งแปลว่าเผ่าพงศ์ของนางวินตา เมื่อครุฑลงไปพบมารดาแล้วจึงแจ้งในเพทุบายของเหล่านาค ด้วยกตัญญุตาธรรม ครุฑจึงเจรจาต่อรองขอให้นาคปล่อยตัวมารดาของตน ฝ่ายนาครับคำโดยยินดีจะปล่อยนางวินตาหากครุฑนำน้ำอมฤตมาแลก




เมื่อทราบดังนั้นครุฑจึงถลาขึ้นสู่สวรรค์เพื่อไปนำน้ำอมฤต ระหว่างทางบังเกิดความหิวและพบเต่ากับช้างกำลังต่อสู้กัน เต่าตัวนั้นยาวได้ 8 โยชน์ ช้างนั้นยาวได้ 16 โยชน์ จึงใช้กรงเล็บจิกสัตว์ทั้งสองแล้วบินมาเกาะบนต้นไม้ใหญ่หมายจะกิน ความที่ทั้งสามคือ ครุฑ ช้าง และเต่ามีน้ำหนักมากทำให้กิ่งไม้หัก เผอิญบนกิ่งไม้นั้นมีพราหมณ์กำลังนั่งร่ายพระเวทอยู่ ครุฑเห็นดังนั้นจึงใช้จะงอยปากคาบกิ่งไม้แล้วค่อยๆวางกิ่งไม้ลงบนพื้นดินจนสามารถช่วยชีวิตพราหมณ์ไว้ได้ก่อนที่กลับไปจิกกินช้างและเต่า พราหมณ์พึงใจที่ครุฑช่วยชีวิตตนแม้อยู่ในความหิวจึงเรียกเวนไตยว่า "ครุฑ" หมายถึงผู้แบกรับภาระหนัก

ครั้นบินไปถึงสวรรค์ ครุฑก็กระพือปีกพัดให้ฝุ่นตระหลบไปทั้งอากาศ แล้วเข้าต่อสู้กับเหล่าทวยเทพที่นำโดยสวรรคาธิบดีอินทรา(พระอินทร์) เหล่าเทพไม่สามารถต่อสู้กำลังของครุฑซึ่งได้รับพรให้มีอิทธิฤทธิ์มากเหนือผู้ใด แม้แต่สายฟ้าซึ่งเป็นเทพศาสตราของพระอินทร์ยังไม่สามารถทำอันตรายครุฑได้ แต่ด้วยความต้องการแสดงคารวะต่อพระอินทร์ผู้เป็นพี่ ครุฑจึงแสดงความเคารพโดยบันดาลให้ขนร่วงจากกายหนึ่งเส้นเพื่อให้เห็นว่าเทพศาสตราของพระอินทร์มีฤทธานุภาพพอที่จะสร้างอันตรายแก่ตนได้ ด้วยเหตุนี้ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า "สุบรรณ" ซึ่งแปลว่า"ขนวิเศษ หรือผู้มีปีกอันงาม"

เหล่าทวยเทพเมื่อไม่เห็นทางที่จะต้านฤทธิ์ได้จึงจำต้องเปิดทางให้ครุฑเข้าไปเอาน้ำอมฤต ก่อนถึงที่เก็บน้ำอมฤตมีกองเพลิงร้อนขนาดที่เผาดวงอาทิตย์ให้เป็นจุลได้ ครุฑจึงแปลงกายให้มีปากเก้าสิบเก้าสิบปากหรือ 8100 ปากแล้วจึงบินไปอมน้ำจากแม่น้ำ 8100 สายมาดับกองเพลิงนั้น กองเพลิงก็มอดไป ต่อเข้าไปด้านในมีจักรที่คมมากรอตัดร่างผู้ที่จะเข้าไปลักน้ำอมฤต ครุฑเห็นดังนั้นจึงแปลงกายให้เล็กเท่าธุลีบินลอดผ่านดุมจักรนั้นไปได้ ด้านในสุดยังมีนาคสองตนที่ดวงตาไม่กระพริบ มีพิษพ่นออกมาจากปากได้ หากนาคมองเห็นผู้ใดเข้ามาลักน้ำอมฤตย่อมพ่นพิษร้ายออกสังหารผู้นั้น ครุฑเห็นเช่นนี้จึงกระพือปีกให้เกิดฝุ่นตลบขึ้นในอากาศทำให้นาคมองไม่เห็นแล้วจิกนาคทั้งสองออกเป็นชิ้นๆ

ข้างพระนารายณ์(พระวิษณุ) เห็นครุฑกำลังจะเข้าไปนำน้ำอมฤตออกมาได้จึงเข้าขัดขวาง ทั้งสองต่อสู้กันอย่างเป็นสามารถแต่ไม่มีผู้ใดแพ้หรือชนะจึงตกลงที่จะหย่าศึก โดยครุฑขอพรให้ตนเป็นอมตะโดยไม่ต้องดื่มน้ำอมฤทธิ์หนึ่ง ขอให้มีสิทธิ์จับนาคกินได้หนึ่ง (ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของคำว่า"ครุฑยุดนาค") และขอพรให้อยู่สูงกว่าพระนารายณ์เป็นข้อสุดท้าย ในทางกลับกันพระนารายณ์ต้องการให้ครุฑเป็นเทพพาหนะของพระองค์ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของธรรมเนียมการใช้ธงมหาราช (ธงประจำพระองค์พระมหากษัตริย์ พื้นสีเหลืองตรงกลางเป็นรูปพระครุฑพ่าห์) ประดับอยู่บนยอดเสาธงเหนือที่ประทับ หน้ารถยนต์พระที่นั่ง เครื่องบินพระที่นั่ง ฯลฯ เพราะถือว่าพระมหากษัตริย์คืออวตารปางหนึ่งของพระนารายณ์

พระนารายณ์ต้องพระประสงค์อยากทราบว่าเหตุใดครุฑจึงต้องขึ้นมาลักน้ำอมฤต ครุฑกราบทูลว่าทั้งหลายทั้งปวงเป็นเพราะต้องการช่วยมารดาให้เป็นอิสระ เมื่อแจ้งดังนั้นพระนารายณ์จึงตรัสว่าน้ำอมฤตนี้ไม่สามารถเอาไปได้ ครุฑจึงออกอุบายขอนำน้ำอมฤตไปให้พวกนาคก่อนแล้วให้พระนารายณ์ตามมานำกลับไป

ครุฑนำน้ำอมฤตมาประพรมลงบนยอดหญ้าคา ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ถือว่าใบหญ้าคาเป็นสิ่งมงคลใช้ประพรมน้ำมนต์ ด้านเหล่านาคเห็นครุฑนำน้ำอมฤตมาได้จึงยอมปล่อยนางวินตาเป็นอิสระ ด้วยความรีบร้อนอยากลิ้มรสน้ำอมฤตบนใบหญ้าคา เหล่านาคไม่ทันได้สัมผัสน้ำอมฤตก็ถูกใบหญ้าคาบาดลิ้นเป็นเหตุให้นาคและงูมีลิ้นสองแฉกมาจนถึงปัจจุบัน ระหว่างนั้นเองพระนารายณ์จึงเสด็จลงมานำน้ำอมฤตกลับคืนสู่สรวงสวรรค์




ครุฑในตำนานสันสกฤตนั้นมีเพียงตนเดียวและไม่มีที่อยู่แน่นอนเพราะต้องย้ายตามพระนารายณ์ (พระวิษณุ) ต่างกับครุฑในคติพุทธศาสนาที่มีหลายตนทั้งตนใหญ่ตนเล็ก ตนที่ใหญ่ที่สุดเรียกว่าพญาครุฑ และมีที่อยู่เป็นวิมานฉิมพลีหรือวิมานต้นงิ้วอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ดังนั้นในพระที่นั่งหรือพระแท่นต่างๆจึงมักปรากฏรูปแกะสลักนาคอยู่ที่ชั้นฐานตามความเชื่อที่ว่านาคอาศัยอยู่ชั้นล่างสุดของเขาพระสุเมรุ ถัดมาเป็นชั้นของครุฑ ตามด้วยกุมภัณฑ์ ยักษ์ และจตุโลกบาล แบกเขาพระสุเมรุโดยมีพระมหากษัตริย์ประทับอยู่บนยอดของพระที่นั่งนั่นเอง

ครุฑหรือเวนไตยนั้นมีชายาชื่ออุนนติหรือวินายกา มีโอรสชื่อสัมพาทีและสดายุ ครุฑมีชื่อเรียกหลายนาม เช่น กาศยปิ ผู้สืบพงศ์แห่งกัศยปะ ครุตมาน เจ้าแห่งนก รักตปักษ์ มีปีกแดง เศวตโรหิต มีสีขาวและแดง สุวรรณกาย มีกายสีทอง สิตามัน มีหน้าสีขาว คคเนศวร เจ้าแห่งอากาศ ขเคศวร ผู้เป็นใหญ่แห่งนก นาคนาศนะ ศัตรูแห่งนาค สุเรนทรชิต ผู้ชนะพระอินทร์ เป็นต้น


Create Date : 09 สิงหาคม 2549
Last Update : 19 เมษายน 2551 0:04:50 น. 56 comments
Counter : 21191 Pageviews.

 
ชอบหัวข้อบลอคอันนี้มากๆ

คือเห็นตราครุฑมาตั้งแต่เรียนชั้นประถม แต่ไม่เคยทราบที่มา แล้วก้อประวัติของตราครุฑเลยค่ะ

แล้วก็รูปแบบบลอคสวย อ่านง่าย ภาพประกอบก็สวยค่ะ

ต้องขอชื่นชมคุณ AllSTORY จริงๆนะคะ ^_^


โดย: Chonchanok IP: 124.121.0.102 วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:21:32:08 น.  

 
เข้ามาอ่านจ้า
เรือครุฑยุดนาค


โดย: mingky วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:22:34:55 น.  

 
ในขบวนพยุหยาตราชลมารคมีเรือพระราชพิธีที่โขนเรือเป็นรูปครุฑอยู่หลายลำทีเดียวครับ อาทิ เรือครุฑเหินเห็จ เรือครุฑเตร็จไตรจักร หรืออย่างล่าสุดคือเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ เรือเหล่านี้ก็รับคติที่ว่าพระมหากษัตริย์เหมือนกับพระรามคือเป็นปางหนึ่งของพระนารายณ์เช่นเดียวกัน

ในรามเกียรติ์นั้นมีตัวละครที่เป็นกระบี่ อสูร ฯลฯ ดังนั้นโขนเรือพระราชพิธีจึงสร้างเป็นรูปหัวหน้าเหล่ากระบี่ เช่น เรือพาลีรั้งทวีป เรือสุครีพครองเมือง ทั้งนี้เพื่อจำลองขวบเสด็จทางน้ำของพระมหากษัตริย์ประหนึ่งกระบวนทัพของพระรามนั้นเอง ส่วนเทพพาหนะของพระนารายณ์ก็คือครุฑจึงปรากฏเรือรูปครุฑประกอบในขบวนด้วยดังที่เกริ่นไว้ข้างต้น

อนึ่ง พระมหากษัตริย์นั้นไม่ได้เป็นเพียงพระนารายณ์เท่านั้นแต่นับรวมทั้งสามเทพคือตรีมูรติ ดังเห็นได้จากในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พราหมณ์อ่านมนต์เปิดเขาไกรลาศเชิญพระอิศวรมาประทับในพระเจ้าอยู่หัวตอนนี้พระมหากษัตริย์จึงนับเป็นพระอิศวร

เมื่อลงประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงษ์ดังกาพย์เห่เรือตอนหนึ่งที่ว่า "เพียงหงส์ทรงพรหมมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม" คำว่าพรหมมินทร์หรือพระพรหมในที่นี้หมายถึงพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระพรหมอีกด้วย

คติพราหมณ์ยังแฝงอยู่รอบๆตัวเราอีกเยอะครับ จะอัพเดทเรื่องต่อๆไปเร็วๆนี้


โดย: AllSTORY วันที่: 10 สิงหาคม 2549 เวลา:0:27:35 น.  

 
ถูกใจกับบล็อคดีๆอย่างนี้ค่ะ
ไม่เก่งเรื่องสาขานี้ แต่สนใจเสมอที่จะฟังและจะได้รับรู้

ขอบคุณมากค่ะ


โดย: แตนต่อย วันที่: 10 สิงหาคม 2549 เวลา:15:30:42 น.  

 
blog ดีๆแบบนี้ ไม่เก็บไว้ใน friend ได้ไง เน๊อะๆ

เรื่องราวน่าสนใจและเป็นประโยชน์มากเลยนะคะ



โดย: แตงโม (rabbit doll ) วันที่: 10 สิงหาคม 2549 เวลา:20:55:23 น.  

 
บลอคน่าสนใจมาก ให้ความรู้ที่เป็นรายละเอียดดีมาก

เพิ่งรู้ประวัติ ครุฑยุดนาคว่ามาจากอะไร และ

เพิ่งรู้ว่า งูที่มีลิ้นสองแฉก มีตำนานเรื่องเล่าด้วย

เป็นประโยชน์และความรู้ดีมากค่ะ



โดย: greentea_in_ice IP: 58.64.81.182 วันที่: 10 สิงหาคม 2549 เวลา:21:53:44 น.  

 
ว้าว ความรุ้แน่นมากค่ะ


โดย: mungkood วันที่: 11 สิงหาคม 2549 เวลา:19:23:16 น.  

 
แวะเข้ามาอ่านประวัติของครุฑค่า แล้วยังได้รู้อีกว่า แสงอรุณ มาจากไหน

ปล.ดีใจเจอคนชอบสนู๊ปปี้


โดย: LEE (lyfah ) วันที่: 11 สิงหาคม 2549 เวลา:19:38:15 น.  

 
ขอบคุณ 1. สำหรับความรู้

2. ที่แวะเยี่ยมที่บล็อกค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 11 สิงหาคม 2549 เวลา:21:58:25 น.  

 
ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย

เคยเห็นรูปครุฑอยู่บ่อยๆ แต่ไม่เคยรู้ประวัติของมัน ข้อมูลปึ๊กมาก

ขอบคุณนะคะ


โดย: andie (sweetyandie ) วันที่: 11 สิงหาคม 2549 เวลา:22:25:30 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้และการอนุรักษ์ครับ ศิลปวัฒนธรรมของไทยเรามีเสน่ห์ในตัวเองอย่างยิ่งเลยครับ


โดย: คนรักน้ำมัน (คนรักน้ำมัน ) วันที่: 11 สิงหาคม 2549 เวลา:22:33:39 น.  

 
สงสัยจัง มันมีตำนานที่ ครุฑจับนาคมากินด้วยอ่ะค่ะ มันเป็นเรื่องเดียวกันหรือเปล่าคะ หยูเยี่ย


โดย: HTK (HTK ) วันที่: 11 สิงหาคม 2549 เวลา:23:55:48 น.  

 
ครุฑยุดนาคก็คือครุฑจับนาคครับเป็นตำนานเดียวกัน

คำว่า "ยุด" พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตให้ความหมายว่า "ฉุดหรือดึงไว้" ครับ


โดย: AllSTORY วันที่: 12 สิงหาคม 2549 เวลา:0:26:47 น.  

 
สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่แวะที่เยี่ยมที่บล็อคนะคะ

ตามกลับมาเยี่ยมค่ะ อ่านไปหลายเรื่อง สนุกจังเลย

เราชอบเรื่องแบบนี้อยู่พอดี แบบนี้ต้องมาบ่อยๆแล้วสิ

แอบอ่านอยู่นาน มาตั้งแต่เที่ยงคืนกว่าๆ จนตี 1 แล้วยังอยู่เลย

มารบกวนนานแล้ว ขอลาล่ะค่ะ ไว้ว่างๆจะมาเยี่ยมใหม่ค่ะ


ปล. รูปขวามือ จขบ เหรอคะ นึกว่าผู้หญิงซะอีกแน่ะตอนแรก


โดย: กระต่ายลงพุง วันที่: 12 สิงหาคม 2549 เวลา:1:06:18 น.  

 
เรื่องราวน่าสนใจดีนะคะ เราชอบดูหนังจักรๆ วงศ์ๆ ง่ะ เดี๋ยวแวะมาอ่านเรื่องอื่นต่อค่ะ


โดย: สร้อยสายรุ้ง วันที่: 12 สิงหาคม 2549 เวลา:2:50:17 น.  

 
ถูกใจค่ะ หมอนวดชอบค่ะแบบนี้ ได้ความรู้ดีแล้วจะแวะมาบ่อยๆ

ตามมายืมหลักฐานบัญชีธนาคาร 73000 ล้าน มีให้ยืมไปโชว์ก่อนมะ


โดย: Odense วันที่: 12 สิงหาคม 2549 เวลา:4:40:06 น.  

 
ขอบคุณคุณกระต่ายลงพุงที่อ่านจนจบนะครับ รูปขวามือก็เจ้าของบลอคเมื่อ ๒ ปีก่อน ปัจจุบันแก่ไปเยอะ ฮ่าๆ

เรื่องพวกนี้เป็นเทวตำนานครับ ในขณะที่หนังจักรๆวงศ์ๆจะสร้างมาจากนิยาย

ตำนานเป็นสิ่งที่ผู้คนเล่าสืบต่อกันมา อาจมีคนกลุ่มหนึ่งหรือในยุคหนึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ส่วนนิยายคือเรื่องแต่งไม่จำเป็นต้องมีคนเชื่อฮะ

ส่วนคุณ Odense หากต้องการบัญชี 73000 ล้านแนะนำให้ไปหาแถวทำเนียบครับ อิอิ พูดมากไม่ได้ อันตราย


โดย: AllSTORY วันที่: 12 สิงหาคม 2549 เวลา:12:26:31 น.  

 
แวะมารับรู้เรื่องราว
ได้ความรู้เพิ่มขึ้นครับ.......
ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันนะครับ.....


โดย: sananda (sananda ) วันที่: 12 สิงหาคม 2549 เวลา:14:54:28 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูล และ คำชมที่บล๊อค ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
ขอให้มีความสุขนะคะ


โดย: Petit Patty วันที่: 12 สิงหาคม 2549 เวลา:19:50:38 น.  

 
เจอคนเก่งอีกแล้ว ข้อมูลละเอียดดีจัง ขอบคุณมากที่แวะไปเยี่ยมนะคะ

สุขสันต์วันแม่ค่ะ



โดย: haiku วันที่: 12 สิงหาคม 2549 เวลา:21:24:17 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ นะคะ


โดย: Benz (BUFILM ) วันที่: 12 สิงหาคม 2549 เวลา:22:04:08 น.  

 
รักในหลวงพร้อมใจใส่เสื้อเหลือง
รักบ้านเมืองจงน้อมใจให้สร้างสรรค์
ใส่สีเดียวแล้วใจเดียวกลมเกลียวกัน
รักเช่นนั้นชาติของตนจึงพ้นภัย



ครุฑเป็นสัตว์ราชพาหนะที่คนเราเห็นบ่อยมาก แต่ทำไมเดี๋ยวนี้คนเราไม่เห็นว่าศักดิ์สิทธิ์


โดย: ดนย์ วันที่: 12 สิงหาคม 2549 เวลา:23:21:08 น.  

 
แวะเข้ามาหาความรู้คะ


โดย: natural guy วันที่: 13 สิงหาคม 2549 เวลา:1:15:25 น.  

 
แวะเข้ามาทักทายก่อนค่ะ

ยังอ่านไม่จบเลยค่ะ จ้องคอมนานๆมันแสบตา น้ำตาก็ไหล
แล้วจะแวะเข้ามาอ่านทุกวันเลยนะค่ะ

ขอบคุณที่แวะเข้าไปทักทายกันที่บล็อคนะค่ะ


โดย: นางฟ้า ตาโต วันที่: 13 สิงหาคม 2549 เวลา:4:25:58 น.  

 
คิดถึงเช่นกันค่ะน้องบีม


โดย: Arabianangel วันที่: 13 สิงหาคม 2549 เวลา:12:10:20 น.  

 
ชอบอ่านเรื่องแนวนี้มากๆเลยค่ะ คล้ายๆหนังจักรๆวงๆทางช่องเจ็ดสีอะค่ะเมื่อก่อนตอนเป็นเด็กๆชอบดูมากๆ


โดย: แม่น้องKevin and Jasmin วันที่: 17 สิงหาคม 2549 เวลา:1:15:53 น.  

 
เรื่องของตำนานนั้นต่างกับนิยายครับ แต่นิยายจักรๆวงศ์ๆบางครั้งจะมีตัวละครซึ่งอยู่ในตำนานมาประกอบ


โดย: AllSTORY วันที่: 17 สิงหาคม 2549 เวลา:14:30:03 น.  

 
แวะมาอ่านความรู้ค่ะ
ขอบคุณสำหรับสาระดีดีมาแบ่งปันกันน่ะค่ะ


โดย: Mrs.McCrae วันที่: 17 สิงหาคม 2549 เวลา:18:05:17 น.  

 
Very good article. I m enjoying while read this story. many thanks.


โดย: Duke of York วันที่: 24 สิงหาคม 2549 เวลา:19:34:59 น.  

 


โดย: ทีม IP: 125.25.157.230 วันที่: 30 สิงหาคม 2549 เวลา:18:17:26 น.  

 


โดย: ทีม IP: 125.25.157.230 วันที่: 30 สิงหาคม 2549 เวลา:18:22:44 น.  

 


โดย: แตนต่อย IP: 84.72.14.171 วันที่: 14 กันยายน 2549 เวลา:15:15:24 น.  

 
ชอบมาก


โดย: นนท์ IP: 124.121.183.159 วันที่: 23 ธันวาคม 2549 เวลา:23:14:09 น.  

 
ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูลที่นำมาเล่าให้ฟัง
เคยเรียนแล้วก็ลืมค่ะ พอจะใช้อีกที จำไม่ได้ซะแล้ว โชคดีมีให้อ่านค่ะ


โดย: ไผ่แก้ว IP: 124.120.86.87 วันที่: 28 มกราคม 2550 เวลา:23:43:53 น.  

 
สุดยอด


โดย: รัฐ IP: 58.137.81.212 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:15:09:40 น.  

 


โดย: นรนร IP: 125.24.217.231 วันที่: 15 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:31:13 น.  

 
ขอบคุณนะคะ ชอบมาก


โดย: spaceship IP: 66.92.210.130 วันที่: 24 พฤษภาคม 2550 เวลา:1:09:14 น.  

 
แล้วทำไมครุฑยุดนาคต้องใช้มือจับหางแล้วเอาเท้าคีบหัว.....
......

...

...
ครุฑ จับนาคกินเป็นอาหาร แต่เดิม ก้อใช้มือจับด้านหัวขึ้นมาธรรมดา
แต่พอพวกนาคถูกกินไปมาก จึงออกอุบายโดยการกลืนก้อนหินเพื่อถ่วงน้ำหนักตัวเอง พอครุฑจับนาคได้ก้อหลุดมือไปหมด เพราะน้ำหนักของหิน ครุฑจึงใช้มือจับหาง แล้วเอาเท้าคีบหัว เพื่อให้ก้อนหินที่อยู่ในท้องนาคนั้น หล่นออกมาจากปากนาค แล้วก้อกินนาคเป็นอาหารต่อไป....
...
...
...
...
...
...
จนปัจจุบัน
...
...
...
...
นก
ก้อ
ยัง
คง
กิน
งู
เปน
อา
หาร
...
เนาะ
...
...
...
...
...
เฮ้อ!!!!
...
...
...
...
...
จริงๆแล้ว
ถ้านางกัทรุ และวินตา
มีความรักใคร่ปรองดอง
ไม่อิจฉาริษยากันเอง
ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นหรอกเนอะ
...
...
...
...


โดย: เด็กน้อย IP: 125.24.134.32 วันที่: 26 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:47:03 น.  

 


โดย: toto IP: 202.28.21.4 วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:11:46:01 น.  

 
ขอบคุณมากที่ทำไห้มีความรู้มากเพราะเราคือครุฑค่ะไม่ต้องงงนะค่ะเราสามารเรียกพายุได้นะค่ะ


โดย: จั้ม IP: 203.172.129.242 วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:8:28:46 น.  

 
เเละเรียกฟนได้หยุดฟนได้โดยไช้พลังของเราสวนนาคไม่ตองหวงเราไช้อำนาจคุมไว้ไม่ไห้ขื่นมาค่ะ จริง/เท็จ


โดย: จั้ม IP: 203.172.129.242 วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:8:34:17 น.  

 
คิดดูเอาเอง


โดย: จ.......... IP: 203.172.129.242 วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:8:35:21 น.  

 
ฬฬฬฬฬฬฬฬใ


โดย: กพำ IP: 58.9.122.223 วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:28:25 น.  

 
ฬฬฬฬฬฬฬฬใ


โดย: กพำอิดเด IP: 58.9.122.223 วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:29:04 น.  

 
แล้วนาคตอนนี้สูญพันธุ์ไปหรือยัง


โดย: น้ำค่ะ IP: 58.9.98.29 วันที่: 27 สิงหาคม 2550 เวลา:12:44:08 น.  

 
ใครจะเชื่อไม่เชื่อไม่รู้นะแต่เราระลึกชาติได้ว่าชาติที่แล้วเราเป็นนางครุฑเป็นนางรำเราระลึกชาติได้ด้วยการฝันและถามผู้มี เซนส์


โดย: ตั้ม IP: 125.27.191.198 วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:17:57:39 น.  

 
ครุฑสวยมากๆครับและเนื้อหามากด้วยครับ


โดย: guylovepop IP: 61.19.203.254 วันที่: 18 ธันวาคม 2550 เวลา:14:30:07 น.  

 
เนื้อหามีประโยชน์มากครับ


โดย: รักป๊อปคครับ IP: 61.19.203.254 วันที่: 18 ธันวาคม 2550 เวลา:14:33:32 น.  

 
ดีจ้าดีมาก


โดย: I"am"puza___^^ IP: 202.57.135.50 วันที่: 24 ธันวาคม 2550 เวลา:16:35:23 น.  

 
สำหรับประเทศไทยแล้วเป็นสัญลักษณ์ ของแผ่นดินทีเดียว ดูได้จากสถาบันการเงิน ต่างๆ กว่าจะได้รับพระราชทานนั้นแสนยาก
แต่วันนี้ เราสามารถ นำพา "พญาครุฑ " มอบเป็นของขวัญให้ ท่านผู้ใหญ่ที่เคารพ และ คนที่เรารักได้ ในราคา เพียง 199-บาท
[URL=//i215.photobucket.com/albums/cc77/Googo_album/biga_17.jpg][IMG]//i215.photobucket.com/albums/cc77/Googo_album/th_biga_17.jpg[/IMG][/URL]
[URL=//i215.photobucket.com/albums/cc77/Googo_album/biga_04.jpg][IMG]//i215.photobucket.com/albums/cc77/Googo_album/th_biga_04.jpg[/IMG][/URL]
[URL=//i215.photobucket.com/albums/cc77/Googo_album/biga_03.jpg][IMG]//i215.photobucket.com/albums/cc77/Googo_album/th_biga_03.jpg[/IMG][/URL]


โดย: Gogo IP: 58.10.96.74 วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:18:28:23 น.  

 
สำหรับประเทศไทยแล้วเป็นสัญลักษณ์ ของแผ่นดินทีเดียว ดูได้จากสถาบันการเงิน ต่างๆ กว่าจะได้รับพระราชทานนั้นแสนยาก
แต่วันนี้ เราสามารถ นำพา "พญาครุฑ " มอบเป็นของขวัญให้ ท่านผู้ใหญ่ที่เคารพ และ คนที่เรารักได้ ในราคา เพียง 199-บาท

`เข้าชมได้ที่นี้คะ
//siampowersell.blogspot.com/


โดย: Gogo IP: 58.10.96.74 วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:18:29:58 น.  

 


โดย: joy aphitsada IP: 217.211.23.75 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:52:49 น.  

 
ytsst


โดย: yufryufyfyfu IP: 125.27.113.8 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:02:17 น.  

 
สวยมากครับบบบบบบบบบบ


โดย: แก๊งB-BOY IP: 118.174.193.167 วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:22:14:39 น.  

 


โดย: มินรักเฟิร์สนะ IP: 118.174.193.167 วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:22:17:43 น.  

 
ชอบครุฑมากๆเลยอยากแปลงร่างเป็นครุฑ ควบคุมเหล่านกได้มากมาย


โดย: คน IP: 222.123.13.186 วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:10:20:01 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

AllSTORY
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add AllSTORY's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.