Happy Holiday ค่ะ

Congrats!!

3 เดือนได้งานที่ต้องการ ถือว่าเก่งและโชคดีมากแล้ว

แล้วจะมาคุยทีหลังจ้า :)

ตอนนี้กำลังงานหางานทำพอดีค่ะ ได้เข้ามาอ่านบล๊อกนี้ทำให้มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ

บอกตรงๆ ว่าตอนนี้กำลังท้อมากับเรื่องหางาน..ส่ง CV และกรอกใบสมัครไปก็มาก
เรียกสัมภาษณ์ประมาณ 40% แล้วก็ได้แต่รอ....บางที่ก็ส่งจดหมายมา say sorry....เบื่อจริงๆ...แต่ขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้มาให้กำลังใจกับทุกๆคนที่กำลังหางาน
...แต่มันก็อดท้อแท้ไม่ได้จริงๆค่ะ...ไปหาอะไรกินแก้ฟุ้งซ่านดีก่าเรา....ไว้เจอกันใหม่น๊ะ

ค่ะ เครียด จริงๆ ค่ะ ...

หลงเข้ามาอ่าน ... อ่านแล้วก็ยิ่งเครียด เพราะสมัครไปเป็นร้อยๆ แล้วเหมือนกัน ... แย่ที่ตัวเองไม่มีประสบการณ์อย่างคุณ จขบ

ขอ เฮ้อออ ตบท้ายค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแชร์ความรู้สึกค่ะ ขอบคุณพี่หมอ twojay ด้วยค่ะ

อ่านแล้วเครียด เพราะเจอคนที่มีสภาพเหมือนกัน แต่ก็อยากให้กำลังใจนะคะ ว่าถ้าคนอื่นทำได้ เราก็ทำได้เหมือนกัน เพียงแต่จังหวะและโอกาสของเรายังมาไม่ถึงเท่านั้นเอง
ของคุณ Pui & Deb เนี่ยได้เรียกสัมภาษณ์ถึง 40% ก็แสดงว่าโอกาสของคุณค่อนข้างมีเยอะนะ อดทนต่อไปเชื่อว่าคงได้เร็วๆนี้ค่ะ
ส่วนคุณเจี๊ยบคะ เข้าใจว่าเครียด ไม่มีประสบการณ์ก็คงต้องอาจขอเค้าฝึกงานแบบไม่เอาเงินก่อนก็ได้นะ
...ยังมีเพื่อนในพันทิปอีกหลายคนที่เค้าได้งานทำกันเยอะแยะ ก็ขอเอามาเป็นกำลังใจให้ตัวเองแล้วกันนะคะ รวมถึงคุณ Thaidoll ด้วยค่ะ ...เพราะไม่รู้จะปลอบอย่างไรเหมือนกันค่ะ แหะ แหะ

ดีใจจังค่ะ พี่ติ๊กกับพี่โชคกลับมาแล้ว

ยินดีด้วยกับงานใหม่ค่ะพี่โชค

แอร์ก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ว่าเรื่องการหางานเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ท้อแท้ในการอยู่ที่ออส แอร์ก็เลยเลือกที่จะพัฒนาภาษาโดยการเริ่มเรียน TAFE ก่อนค่ะ เพราะตัวแอร์เองก็ไม่ใช่คนเก่งภาษา แค่พอถูๆไถๆ เลยคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่เราควรพัฒนา อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือประสบการณ์การทำงานค่ะ แอร์เลยเลือกทำงานที่ไทยให้ครบ 5 ก่อนแล้วค่อยเดินทางไปเรียนต่อ ซึ่งก็เป็นช่วงระหว่างรอผล PR Visa ค่ะ

คิดว่าน่าจะเดินทางประมาณ มิ.ย. - ก.ค. หากต้องการของอะไรในเมืองไทย บอกได้นะคะ จะเอาไปฝากให้ค่ะ

น้องแอร์คะ

เตรียมตัวมาดีๆนะคะ พกใจที่ต้องเกินร้อยมา เพราะนอกจาก home sick แล้วมันมีอะไรมากกว่านั้น ที่พี่เองก็แชร์ไม่ได้เหมือนกันค่ะ แล้วแต่ใครจะเจออะไรค่ะ

เห็นด้วยนะคะ ที่เริ่มจาก TAFE อย่างน้อยเรื่องภาษาและ network ที่เราจะสร้างได้ อย่างน้อยมาตัวคนเดียวจะปรับตัวได้เร็วกว่า โอกาส/ ความคล่องตัวในการหางานจะง่ายกว่า และเรื่องประหยัดจะทำได้กว่าพวกพี่เยอะมากค่ะ

แต่อะนะ พี่ก็บอกตรงๆว่า อ่านทั้งของพวกพี่และของเพื่อนๆที่เค้าเครียดๆเรื่องหางาน แล้วเราก็เอามาเตรียมใจด้วยจริงๆนะคะ อย่าหวังไว้สูง แต่ก็อย่ากลัวจนเครียด นะคะ case ของแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ

ส่วนของที่ฝากคงไม่มีค่ะ ขอบคุณมากค่ะ พี่คาดว่าจะพาเด็กๆกลับเที่ยวไทยปีหน้าค่ะ ถ้ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงซะก่อนให้เราต้องอพยพกลับ เราคงได้เจอกันค่ะ และคงได้ช่วยเหลือน้องแอร์ได้บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

อ้อ...อย่าลืมขอใบรับรองการทำงานภาษาอังกฤษมาจากบริษัทนะคะ ที่นี่ need at least 3 referrees ค่ะ และแถมโทร กลับหานายที่ referrence ที่เมืองไทยด้วยค่ะ พี่โชคเจอมาแล้วค่ะ ซึ่งก็โชคดีที่นายเป็นฝรั่งและยินดีให้โทร referrence ทุกเมื่อ เพราะตอนลาออกมาก็บอกเค้าตรงๆว่ามาที่นี่มาหางานใหม่ด้วยค่ะ

โชคดีค่ะ น้องแอร์

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากค่ะ พี่ติ๊ก

แอร์จะพยายามอดทนและเตรียมใจรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

มีอะไรมาอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมอีกนะคะ

จะรออ่านนะคะ

้เข้ามายืนยัน นอนยันเลยคะ ว่างานที่นี่ไม่ได้หมูอย่างที่คิด บางคนทิ้งงานดีๆ ที่เมืองไทยมาเป็นแรงงานตัวน้อยในต่างแดน เพราะคิดว่ารายได้มากกว่า

แต่ยังไงก็ตามอยา่กให้คนที่หางานอยู่อย่าท้อนะคะ งานอะไรมีก็ทำไปก่อนถ้ามันไม่สาหัสมาก ตอนที่เรามาใหม่ๆ ก็ท้อเรื่องหางานมากๆ ส่งงานออฟฟิศร่วมๆ 200 ที่ ไปสัมภาษณ์ก็เยอะยังไงๆ ก็ไม่ได้งาน เพราะที่นี่มันมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น
- ใบปริญญาจากที่ิืิื่ิอื่นบางทีไม่เป็นที่ยอมรับในออสเตรเลีย
- ประสบการณ์การทำงานต้องตรงสายงานที่เค้าต้องการ และต้องทำงานแบบ Multi Task ได้
- ภาษาเป็นสิ่งสำคัญมาก ถึงแม้ว่าเราจะคิดว่าภาษาเราแน่แล้วที่เมืองไทย แต่ต้องทำความเข้าใจใหม่ ว่าเราอยู่ในเมืองที่พูดภาษาอังกฤษตั้งแต่เค้าเกิด
ภาษาในห้องเรียนต่างจากภาษาใช้ในชีวิตจริง โดยเฉพาะภาษาอังกฤษในการทำงานออฟฟิศ
้้้- เรื่องอายุ งานตามห้าง และ ร้านต่างๆ มักจะจ้างเด็ก
มาทำเพราะจ่ายค่าแรงได้ถูกกว่าจ้างคนอายุเกิน 20 ปี คนอายุเยอะๆ เค้าจะให้มาเป็นผู้จัดการ หรือ ซุปเปอร์ไวสเซอร์มากกว่า


สิ่งที่ควรทำเพิ่มคือหาอะไรเรียนเพื่อจะได้ไปสมัครงานได้ เช่นพวก RSA, Food Handler อะไรประมาณนั้น ลองจากงานเล็กๆ ไปก่อน แล้วเราเอาประสบการณ์ย้ายไปต่อยอดงานอื่นก็น่าจะดีนะคะ

ดีใจค่ะที่เห็นคุณแพนด้า เข้ามาตอบเพราะเคยเข้าไปพันทิปแล้ว add blog ของคุณไว้เหมือนกันเพราะเห็นเป็นแม่บ้านที่นี่ใหม่ๆหมาดๆเหมือนกันค่ะ

หวังว่าเราคงได้คุยกันบ้างนะคะ

กลัวจัง! พึ่งได้ PR มาต้องไปปีหน้า ภาษาก็ไม่ดี ทำไงดีอะ เสียดายเงินที่เสียไป กับPRที่กว่าจะได้เลือดตาแถบกระเด็น แต่กลัวไปแล้วหางานไม่ได้ ทำไงดีหละเรา

ขอบคุณครับผมกำลังหาแนงทางพอดีเลย ขออ่านเป็นความรู้นะครับ

โอ๊โห อ่านแล้วสนุกจังเลยค่ะ ขอเป็นแฟนคลับด้วยคนนึง ถึงจะยังไม่เข้าใจหลายๆเรื่องเลยก็ตาม
แต่จะติดตามต่อไป นะคะ

เราออกจากงานประจำมา 1 ปี หลังจากตากตรำทำมา 6 ปี
ตอนนี้ไม่อยากกลับไปเริ่มทำงานประจำในเมืองไทยอีกแล้ว ว่าจะไปอยู่ออสเตรเลียกับพี่เหมือนกัน

แต่พอมาอ่านบล๊อกนี้แล้วงงและตื่นเต้นเลย เพราะยอมรับเลยนะคะว่าไม่เคยรู้จัก PR เลย ยังงงอยู่ แต่ภาษาเราลืมไปหมดแล้วอ่ะค่ะ

ไม่แน่ใจว่าเจ้าของกระทู้ หางาน office ประเภทไหนอยู่ครับ ไม่แน่ใจว่า่สาย T.I หรือป่าว T_T

พอดีผมกำลังรวมเอกสารสมัคร Skilled – Independent (Migrant) Visa (Subclass 175) อยู่ครับ เพราะว่าคิดว่า สายงานตัวเองที่ทำอยู่(computer engineer ) คิดว่าน่าจะพอหางานแถวๆนั้นทำได้ไม่ยากเท่าไหร่ ยังไงๆ ขอให้คุณ BlackPSP หางานที่ถนัดได้ไวๆ นะครับ