เรื่องราวหลากหลายเทคโนโลยีน่ารู้เพื่อคุณ
Group Blog
 
All Blogs
 

เมื่อคำถามลับเฉพาะไม่ลับเฉพาะ

สวัสดีครับ ผมหายไปนาน........มากอีกแล้วครับ ยุ่งมากๆๆๆๆๆๆๆ ครับทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องที่จะเขียนวันนี้ก็เขียนเกือบเสร็จมานานแล้วครับ แต่ไม่มีเวลามาเขียนให้จบ ไม่มีเวลากระทั่งจะเข้ามาที่บล็อก เรียกว่าผมใช้คอมพิวเตอร์ในช่วงสัปดาห์สองสัปดาห์ที่ผ่านมานี่ทำงานอย่างเดียวจริง ๆ ครับ พอดีวันนี้พอจะมีเวลาหายใจสักเล็กน้อยก็เลยมาต่อให้เสร็จ ก็ขอบคุณเพื่อน ๆ นะครับที่เขามาทักทายส่งความคิดถึงกัน บางคนเข้ามาตั้งหลายครั้ง เอาละไม่พูดมากดีกว่ามาเล่าเรื่องให้ฟังเลยก็แล้วกัน เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใกล้ตัวเราซึ่งเราอาจมองข้ามครับ ผมคิดว่าพวกเราก็คงจะมีฟรีอีเมล หรือเคยสมัครใช้บริการเว็บต่าง ๆ หลายเว็บ ซึ่งเว็บส่วนใหญ่ก็จะมีระบบช่วยเมื่อเราลืมรหัสผ่านคือให้เราเลือกคำถามลับเฉพาะ (secret question) และให้คำตอบไว้ พอเราลืมรหัสผ่าน ก็จะถามคำถามลับเฉพาะนี้ และให้เราตอบ ถ้าเราตอบถูกเขาก็จะจัดการให้ ซึ่งพวกเราบางทีก็ไม่ได้สนใจอะไรมากใช่ไหมครับ เขาให้ทำเราก็ทำไป

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือคำถามลับเฉพาะนั้นบางทีเป็นคำถามที่ง่ายเกินไปหรือยากเกินไป เช่นถ้าเป็นคำถามที่ง่ายเกินไปก็มักจะเป็นคำถามพื้น ๆ เช่นทีมฟุตบอลโปรดของคุณคือทีมอะไร คำถามอย่างนี้ถ้าเป็นคนที่รู้จักเรา หรือเคยเข้าไปในเว็บส่วนตัวของเรา ซึ่งเราก็อาจเผลอให้ข้อมูลเหล่านี้ไว้ เขาก็สามารถรู้รหัสผ่านของเราได้ หรือต่อให้คนที่ไม่รู้จักเราเขาก็อาจจะเดาคำตอบได้ เพราะทีมฟุตบอลดัง ๆ ที่คนเชียร์อยู่ในโลกนี้ก็มีอยู่ไม่กี่ทีม ในส่วนที่ยากเกินไปก็เกิดปัญหาครับ เพราะคำถามพวกนี้บางทีมันเป็นคำตอบที่ต้องจำ ซึ่งจากการวิจัยพบว่าผู้คนร้อยละ 16 จะลืมคำตอบเหล่านี้ภายใน 3 ถึง 6 เดือน ดีไม่ดีให้จำคำตอบยังยากกว่าจำรหัสผ่านอีก ลองคิดดูครับขนาดรหัสผ่านเรายังลืมแล้วเราจะไปตอบคำถามพวกนี้ได้อย่างไร ประเด็นก็คือระบบช่วยกู้รหัสผ่านนี้จะต้องมีคุณลักษณะสองอย่าง คือต้องให้ผู้ใช้ตัวจริงผ่านเข้าไปได้ และต้องป้องกันไม่ให้คนอื่น ๆ เข้าไปใช้งาน แต่ระบบคำถามลับเฉพาะนี้ไม่ผ่านทั้งสองอย่าง

คำถามก็คือแล้วจะมีวีธีการแก้ปัญหาอย่างไร คำตอบก็คือยังไม่มีวิธีการที่ดีกว่าคำถามลับเฉพาะครับ และก็ยังไม่มีตัวอย่างคำถามที่ถือว่าดีด้วย แต่เว็บบางแห่งก็เปิดโอกาสให้เราตั้งคำถามคำตอบเอง ตรงนี้ก็อาจเป็นจุดหนึ่งที่ช่วยได้ แต่ถ้าไม่อยากตั้งคำถามเองผมคิดว่าเราก็อาจจะใช้วิธีเหล่านี้ได้นะครับเช่น ถ้าถามว่าทีมฟุตบอลโปรดของคุณคืออะไร เราก็เลือกทีม อบต. อะไรสักทีมหนึ่ง หรือคิดขึ้นมาเอง เช่นทีมบ้านโคกอีแร้ง (หวังว่าคงไม่มีนะ) หรืออาจจะตอบแบบไปไหนมาสามวาสองศอกก็ได้เช่น ถามทีมฟุตบอลก็ไปตอบชื่อดารา อีกวิธีการหนึ่งก็คือเลือกเอาประโยคจากหน้าใดหน้าหนึ่งของหนังสือเล่มที่เราชอบอ่านมาเป็นคำตอบครับ วิธีนี้ผมได้แนวคิดมาจากเกมที่ชื่อว่า Prince of Persia ที่ผมเคยเล่นตอนเด็ก ๆ คือเวลาจะผ่านด่านได้นี่ เราจะต้องไปเปิดคู่มือเกมหน้าที่เขาบอกเพื่อเลือกรหัส ใครที่มีคำถามลับเฉพาะแบบง่าย ๆ อ่านจบแล้วก็หาเวลาว่างไปเปลี่ยนกันซะนะครับ...




คำสำคัญ: Secret Question, Security

อ้างอิง


Technology Review




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2552    
Last Update : 3 มิถุนายน 2552 19:47:10 น.
Counter : 616 Pageviews.  

ขนาดมาตรฐานของไทย

สวัสดีครับ ผมกลับมาลองเซอร์ฟเวอร์ใหม่แล้วครับ จริง ๆ ว่าจะเขียนตั้งแต่วันแรก ๆ ที่เปิด แล้วก็จะไปทักทายเพื่อน ๆ แล้วครับ แต่รู้สึกว่าอะไรมันยังไม่เข้าที่เข้าทาง ก็เลยรอไว้ก่อน พอรอไว้ก็เลยไม่ว่างเลยทีนี้ ก็เลยล่วงเลยกันมาถึงวันนี้นี่แหละครับ สำหรับวันนี้มาว่ากันด้วยเรื่องใกล้ ๆ ตัวเราอีกเรื่องแล้วกันครับ เรื่องที่ว่าก็คือเรื่องโครงการ Size Thailand ซึ่งรับผิดชอบโดย NECTEC ครับ จริง ๆ เรื่องนี้มีเป็นข่าวมานานแล้วประมาณเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผมก็ว่าจะเขียนถึงจะเขียนถึง แต่ก็ไม่ได้เขียนสักทีจนลืมไป ก็ว่าจะไม่เขียนแล้วละครับ เพราะเห็นว่ามันเก่าแล้วพวกเราน่าจะรู้กันแล้ว แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจเขียนเพราะว่า หัวหน้าโครงการวิจัยนี้คือ ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ เป็นเพื่อนของผมเองครับ (ผมได้อาศัยเลคเชอร์อันสวยงามของเธอเป็นประจำสมัยเรียนปริญญาตรีอยู่ด้วยกัน) ก็เลยคิดว่าน่าจะเกาะกระแสความดังของเพื่อนหน่อย ล้อเล่นน่ะครับ จริง ๆ คือได้ไปอ่านเรื่องนี้อีกทีในวารสาร Sofware Magazine ฉบับเดือนมีนาคม-เมษายน 2552 ก็เลยนึกขึ้นได้ แล้วลองนั่งค้นดูในอินเทอร์เน็ตก็ปรากฏว่าไม่ค่อยมีใครเขียนถึงเรื่องนี้เท่าไร ในบล็อกแก๊งนี่รู้สึกว่าจะไม่มีเลย เลยไม่แน่ใจว่ามีใครรู้เรื่องกันมากแค่ไหน ก็เลยคิดว่าน่าจะมาเขียนซะหน่อยเพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์ โฉมหน้าทีมวิจัยจาก NECTEC ดูได้ดังรูปครับ



ภาพจาก fibre2fashion.com

สำหรับโครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อกำหนดมาตรฐานสำหรับขนาดร่างกายของคนไทยครับ วิธีการก็คือใช้เครื่องที่เรียกว่า 3D Body Scanner หรือถ้าจะแปลเป็นไทยก็น่าจะประมาณว่าเครื่องอ่านร่างกายแบบ 3 มิติ โดยเครื่องนี้จะเก็บรูปร่างของเราและส่งข้อมูลไปประมวลผลด้วยโปรแกรม ก็จะได้ขนาดร่างกายเราออกมา ซึ่งวิธีนี้เขาบอกว่าเร็วและได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำกว่าการวัดตัวแบบดั้งเดิมที่ช่างตัดเสื้อใช้เวลาที่เราไปตัดเสื้อผ้ากันครับ โดยข้อมูลที่เขานำมาสรุปนี้เก็บจากข้อมูลประชากร 13, 442 คนทั่วประเทศ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับขนาดของคนไทยที่ได้จากโครงการนี้ก็สามารถสรุปได้ดังนี้ครับ

มาตรฐานขนาดของไทยกำหนดโดยขนาดของรอบอก และรอบเอว (ผู้หญิงจะมีรอบสะโพกด้วย) โดยแบ่งได้ดังนี้ครับ ผู้ชายมี 9 ขนาด ผู้หญิงมี 10 ขนาด รายละเอียดของแต่ละขนาดดูจากตารางขนาดได้เลยครับ โดยเฉลี่ยผู้ชายไทยจะอยู่ที่ขนาด 40 และผู้หญิงจะอยู่ที่ขนาด 36 ในข่าวบอกว่ามาตรฐานนี้กำลังรอการรับรองเพื่อประกาศใช้อย่างเป็นทางการจากสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) อยู่ครับ ข้อมูลอีกประการหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ สัดส่วนของคนไทยเมื่อเทียบกับเมื่อ 25 ปีก่อนครับ คือเราเคยมีการสำรวจอย่างนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 25 ปีก่อน โดยสมอ. ซึ่งสำรวจเองโดยไม่ได้ใช้เครื่องอ่านร่างกายแบบ 3 มิติเหมือนในสมัยนี้นะครับ ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วพบว่า ผู้หญิงไทยอายุไม่เกิน 50 ปี สูงขึ้น 5 ซม. หนักขึ้น 5.4 กก. โดยรอบเอวเพิ่มขึ้น 3.7 นิ้ว รอบสะโพกเพิ่มขึ้น 2 นิ้ว และรอบอกเพิ่มขึ้น 2.2 นิ้ว ส่วนผู้ชายอายุไม่เกิน 50 ปี สูงขึ้น 7.2 ซม. หนักเพิ่มขึ้น 11.4 กก. รอบอกเพิ่มขึ้น 5.4 นิ้ว เอวเพิ่มขึ้น 4 นิ้ว และรอบสะโพกเพิ่มขึ้น 3.4 นิ้ว

หลายคนอาจถามว่าแล้วมันมีประโยชน์อะไรจากการรู้ข้อมูลตรงนี้ ประโยชน์ที่จะได้จากโครงการนี้ก็เช่น เจ้าของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่นเสื้อผ้า ก็สามารถใช้ข้อมูลนี้ในการออกแบบและตัดเสื้อผ้าที่เหมาะกับรูปร่างของคนไทย โดยเมื่อรู้ว่าคนไทยส่วนใหญ่มีรูปร่างขนาดไหนก็ตัดขนาดนั้นออกมามาก ๆ และลดจำนวนเสื้อผ้าที่มีขนาดไม่เหมาะกับคนไทยส่วนใหญ่ลงไป ซึ่งจะช่วยลดการสต็อกสินค้าที่ไม่จำเป็นได้ หรืออุตสาหกรรมรถยนต์ ก็สามารถออกแบบที่นั่งในรถยนต์ให้เหมาะกับคนไทยได้ เป็นต้น นอกจากนี้ทางด้านการแพทย์ก็สามารถใช้ข้อมูลนี้ในการจัดการดูแลด้านสุขภาพอนามัยของคนไทยได้อีกด้วย ตามข่าวบอกว่าโรงพยาบาลรามาธิบดีได้นำร่องใช้เครื่องอ่านร่างกายแบบ 3 มิติ ร่วมกับการตรวจสุขภาพประจำปีอีกด้วย ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ อเมริกา หรือฝรั่งเศส ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ สร้างประโยชน์ให้กับวงการอุตสาหกรรมของประเทศเหล่านั้นมาแล้ว และเป็นที่น่าภูมิใจครับว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่สองในเอเชียต่อจากญี่ปุ่น ที่ได้จัดทำขนาดมาตรฐานโดยใช้เทคโนโลยีนี้

ประโยชน์สำหรับพวกเราก็น่าจะเป็นดังนี้ครับ เมื่อขนาดมาตรฐานนี้ได้รับการรับรองแล้ว และเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ผลิตออกมาอิงตามมาตรฐานนี้ ถ้าเราทราบขนาดเอว ขนาดอกของเรา เราก็สามารถไปเทียบหาขนาดจากตารางขนาด แล้วก็นำไปซื้อเสื้อผ้าได้ โดยอาจไม่ต้องไปลองในห้องลองเสื้อ ซึ่งก็จะช่วยลดเวลา และความเสี่ยงของคุณสุภาพสตรีในการถูกแอบถ่ายจากผู้ไม่ประสงค์ดี หรืออาจไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกโขมยกางเกง !!!! คิดว่าคงรู้ข่าวกันนะครับ ที่มีคนร้ายไปโขมยกางเกงคนเข้าห้องน้ำตามห้าง ผมกลัวว่ามันจะลุกลามมาถึงห้องลองเสื้อผ้าน่ะครับ ไม่รู้มันจะอะไรกันนักหนาโจรสมัยนี้ อ้าวมาจบตรงนี้ได้ไงละนี่... สวัสดีครับ




คำสำคัญ: Fashion, NECTEC, Size Thailand

อ้างอิง

  • Software Magazine มีนาคม-เมษายน 2552 หน้า 104-107

  • Size Thailand เข้าอ่านล่าสุด 16 พ.ค. 2552

  • fibre2fashion.com เข้าอ่านล่าสุด 16 พ.ค. 2552



  •  

    Create Date : 16 พฤษภาคม 2552    
    Last Update : 18 พฤษภาคม 2552 19:43:20 น.
    Counter : 1907 Pageviews.  

ซอฟต์แวร์ฟรีเพื่อชุบชีวิตคอมพิวเตอร์เก่า

สวัสดีครับ สำหรับเรื่องเล่าข่าวไอทีเรื่องแรกประจำปีที่สองนี้ ขอเป็นเรื่องใกล้ ๆ ตัวพวกเราแล้วกันนะครับ พวกเราหลายคนอาจรู้สึกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตัวเองใช้อยู่ทำงานช้าไม่ทันใจ และอาจจะอยากเปลี่ยนเครื่องกัน แต่ก็ติดที่ว่าไม่อยากจะจ่าย เงินแพง ๆ วิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้คอมพิวเตอร์ของเราทำงานเร็วขึ้นได้ก็คือการปรับแต่งเครื่อง ซึ่งก็ทำได้หลายวิธี เช่นการไม่ให้โปรแกรมที่เราไม่ได้ใช้รันขึ้นมาตอนเราเปิดเครื่อง การปรับแต่งค่าในรีจิสตรี (registry) ของวินโดวส์ การลบข้อมูลที่ไม่จำเป็นในฮาร์ดดิสก์ทิ้งไป พูดมาแค่นี้หลายคนอาจบอกว่าอะไรกันนี่ไม่รู้เรื่อง ทำไม่เป็น รีจิสตรีคืออะไร อย่างนี้ยอมใช้เครื่องช้า ๆ แบบเดิมไปแล้วกัน

ไม่ต้องตกใจครับ เราไม่ต้องทำเองหรอกครับ คุณ Preston Gralla จาก Computer World มีโปรแกรมมาแนะนำเพื่อจะช่วยงานของเราครับ โดยแต่ละตัวก็จะมีความสามารถแตกต่างกันออกไป หรือก็อาจมีคุณสมบัติที่ซ้ำกันบ้าง แต่ผมก็มีคำเตือนสักเล็กน้อยนะครับว่า โปรแกรมอะไรที่มันไปแก้ไขระบบนี่ก็อาจทำให้เกิดปัญหาได้นะครับ ดังนั้นก็ขอให้สำรองข้อมูลสำคัญ ๆ ไว้ก่อนใช้งานนะครับเผื่อเกิดปัญหา ถ้าจะให้ดีก็สร้าง restore point ไว้ด้วย ซึ่งบางโปรแกรมจะแนะนำให้เราสร้าง restore point ไว้ก่อนที่จะสั่งให้โปรแกรมทำงาน

สำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่า restore point คืออะไร ก็ขออธิบายสั้น ๆ ดังนี้ครับ restore point ก็คือจุดที่เราสั่งให้วินโดวส์จำไว้ มักจะเป็นจุดที่วินโดวส์ของเราทำงานได้เป็นปกติ เวลาที่เราจะติดตั้งโปรแกรมใหม่หรือปรับแต่งเครื่อง ถ้าเราสั่งให้วินโดวส์สร้าง restore point ไว้ ถ้ามีปัญหาหลังจากการติดตั้งโปรแกรมหรือปรับแต่งระบบ เราก็สามารถสั่งให้วินโดวส์ย้อนกลับมาที่จุด restore point นี้ได้ อย่างไรก็ตามการที่จะกลับมาที่ restore point นี้ได้ ต้องหมายความว่าเครื่องเรายังต้องบูตเครื่องเข้าวินโดวส์ได้นะครับ ดังนั้นถ้าบูตเครื่องไม่ได้ก็เสร็จเหมือนกัน ถ้าใครต้องใช้เครื่องทำงานสำคัญ และอาจไม่มีเวลาลงวินโดวส์ใหม่ (ถ้าจำเป็น) ก็อาจจะชลอการใช้งานโปรแกรมไปก่อนก็ได้ครับ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ใช้เครื่องเป็นหลักในการอัพบล็อกในบล็อกแกงค์นี่อาจรอวันที่เขาปิดระบบเพื่อเปลี่ยน server (วันที่ 8-9 พ.ค. 2552 นี้) แล้วค่อยลองใช้โปรแกรมดูก็ได้นะครับ แค่เตือนครับอย่าซีเรียสผมใช้ดูแล้วไม่มีปัญหาอะไรครับ พูดถึงวันที่เขาจะเปลี่ยน server นี่ก็เหมือนกับเขาจะให้พวกเราชาวเน็ตนี่ไปเที่ยวกันเพราะเป็นวันหยุดยาวนะครับ ให้ห่าง ๆ คอมพิวเตอร์ซะบ้าง อ้อมีคำเตือนเล็กน้อยนะครับ สำหรับใครที่คิดว่าตัวเองมีข้อมูล รูป หรืออะไรก็ตามที่อยู่บนบล็อกแกงค์ ผมแนะนำให้เอาออกมาเก็บไว้ที่อื่นก่อนนะครับ เพราะการย้าย server อาจจะมีข้อมูลหายบ้าง กลับมาที่เรื่องวันนี้กันดีกว่า มาดูโปรแกรมที่จะแนะนำกันครับ ถ้าจะดาวน์โหลดโปรแกรมก็ให้คลิกที่ชื่อโปรแกรมเลยนะครับ

โปรแกรมแรก Advanced SystemCare Free โปรแกรมนี้ทำงานได้บน Windows2000/XP/Vista ครับ โปรแกรมนี้ช่วยทำหลายอย่างครับ ตั้งแต่การสแกนระบบเราเพื่อหา Spy Ware แก้ปัญหารีจิสตรี ของวินโดวส์ ตรวจสอบหาอะไรที่จะเป็นอันตรายกับความเป็นส่วนตัวของเรา หรือลบไฟล์ระบบที่ไม่จำเป็นทิ้งไปจากระบบ เห็นคำว่ารีจิสตรีมาหลายทีแล้ว ขอขยายความสักเล็กน้อยนะครับว่ามันคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร รีจิสตรีก็เปรียบได้กับระบบลงทะเบียนซอฟต์แวร์ของวินโดวส์นั่นเอง กล่าวคือเวลาเราติดตั้งซอฟต์แวร์ภายใต้วินโดวส์ ข้อมูลที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่เราติดตั้งจะถูกเก็บอยู่ในรีจิสตรี ปัญหาก็คือ บางครั้งเวลาเราเอาซอฟต์แวร์ออกไปจากเครื่องของเรา ถ้าทำไม่ถูกวิธี หรือมีการทำงานผิดพลาดอะไร ข้อมูลของซอฟต์แวร์ตัวนั้นก็อาจค้างอยู่ในรีจิสตรี ถ้ามีอยู่มาก ๆ ก็เปรียบเหมือนเรามีขยะกองใหญ่อยู่ในเครื่องของเรา ซึ่งก็มีผลทำให้เครื่องเราทำงานช้าลง ซึ่งโปรแกรมนี้ก็จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว

หน้าตาของ Advanced SystemCare Free เป็นดังนี้ครับ



โปรแกรมที่สอง Glary Utilities โปรแกรมนี้ทำงานได้บนWindows2000/XP/Vista เช่นกันครับ โปรแกรมนี้ก็จะมีความสามารถในการลบข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกจากรีจิสตรี ทำความสะอาดฮาร์ดิสก์ (ไม่ใช่เอาที่ปัดฝุ่นไปปัดฮาร์ดิสก์ให้นะครับ แต่หมายถึงลบแฟ้มที่ไม่จำเป็นทิ้งไป) ยังมีโปรแกรมที่จะช่วยจัดการแก้ไข shortcut เช่นมี shortcut อยู่แต่โปรแกรมไม่มีอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมายเช่นการจัดการ context menu ซึ่งคือเมนูที่แสดงเวลาที่เราคลิกขวาบนชื่อไฟล์ มีเครื่องมือเข้ารหัส และเครื่องมือลบร่องรอยการท่องอินเทอร์เน็ตของเรา เป็นต้น

หน้าตาของ Glary Utilities ครับ



จริง ๆ คุณ Gralla เขาแนะนำไว้ 15 โปรแกรมครับ แต่ 2 โปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมแบบ all-in-one ครับ ที่เหลือค่อนข้างจะเป็นโปรแกรมเน้นหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่ง ซึ่งถ้าใครสนใจโปรแกรมที่เหลือก็ลองเข้าไปดูจากบทความต้นฉบับแล้วกันนะครับ อ้อถ้าใครใช้โปรแกรมแล้วมีปัญหาอย่าโทษผมนะครับไปเขียนว่าคุณ Gralla เอา แต่ถ้าใช้แล้วดี ชมผมได้เลยครับ ผมเป็นคนรับ(ผิด)ชอบครับ ...




คำสำคัญ: Computer Tuneup Programs

อ้างอิง


Computer World เข้าอ่านล่าสุด 4 พ.ค. 2552




 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 7 พฤษภาคม 2552 20:14:32 น.
Counter : 628 Pageviews.  

1  2  3  

motokop
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สวัสดีครับ สำหรับบล็อกนี้ผมก็ตั้งใจจะให้เป็นข่าวสารที่น่าสนใจทางคอมพิวเตอร์ ทั้งข้อมูลด้านเทคโนโลยีที่น่าสนใจ การพัฒนาโปรแกรม และงานวิจัยต่าง ๆ อาจแทรกไปด้วยเรื่องอื่นๆ บ้าง ตามแต่อารมณ์และสถานการณ์ครับ ยินดีรับความคิดเห็นของทุกคนครับ
Visit InfoServe for backgrounds.

เพื่อนที่กำลังชมบล็อก:

ผู้ชมทั้งหมด:

Friends' blogs
[Add motokop's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.