|
|
มงคล 38 เหตุแห่งความสุขและความเจริญก้าวหน้า
วัคซีน ป้องกันกาย ไม่ให้เป็นโรค - ธรรมะ ป้องกันใจ ไม่ให้ไหลลงต่ำ
มงคล 38 ประการ เหตุแห่งความสุขและความเจริญก้าวหน้า
มงคล คือเหตุแห่งความสุข ความก้าวหน้าในการดำเนินชีวิต ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้พึงปฏิบัติ นำมาจากบทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่า คุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญหรือมี "มงคลชีวิต" ซึ่งมี 38 ประการได้แก่
1. การไม่คบคนพาล
คนพาล คือ คนที่คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว / แนะนำเราไปในทางที่ผิด / ทำในสิ่งที่ไม่ใช่ธุระ เช่น ไม่ทำหน้าที่ของตน แต่ไปก้าวก่ายงานของผู้อื่น / เห็นสิ่งผิดเป็นของดี / โกรธเคืองเมื่อพูดเตือน / ไม่มีระเบียบวินัย ไม่เคารพกฎหมาย
2. การคบบัณฑิต
บัณฑิต คือ ผู้ทรงความรู้ มีปัญญา มีจิตใจงาม และมีการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง รู้ดี รู้ชั่ว คิดดี พูดดี ทำดี / ชักนำเราไปในทางที่ถูกที่ควร / ทำในสิ่งที่เป็นธุระ เช่น ทำหน้าที่ของตนให้ลุล่วง ใช้เวลาที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ / รับฟังดี ไม่โกรธ / รู้ระเบียบ กฎ กติกา มารยาทที่ดี
3. การบูชาบุคคลที่ควรบูชา
บุคคลที่ควรบูชา ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระมหากษัตริย์ พ่อแม่ ครูอาจารย์
4. การอยู่ในถิ่นอันสมควร
ถิ่นอันสมควร ประกอบด้วย ที่อยู่สบาย สะอาด เดินทางสะดวก ไม่เป็นแหล่งอบายมุข / อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ / ที่ที่มีคนดี จิตใจโอบอ้อมอารี มีศีลธรรม / มีที่พึ่งด้านธรรมมะ มีที่ฟังธรรม
5. เคยทำบุญมาก่อน
บุญ มีคุณสมบัติ ดังนี้ ทำให้กาย วาจา ใจ สะอาด / นำมาซึ่งความสุข / ติดตามเราไปตลอดจนถึงชาติหน้า / เป็นของเฉพาะตน ทำเองได้เอง / เป็นที่มาของโภคทรัพย์ทั้งหลาย / ให้ความสมบูรณ์ตั้งแต่ทางโลกจนถึงนิพพาน / เป็นเกราะป้องกันภัยในวัฏสังสาร บุญจะคุ้มครองให้เกิดในที่ดี อยู่อย่างมีความสุข
การทำบุญ ได้แก่ การทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา
6. การตั้งตนชอบ
คือ ดำเนินชีวิตอย่างมีเป้าหมาย ด้วยความถูกต้องและสุจริต อยู่ในสัมมาอาชีพ เตรียมพร้อม ไม่ประมาท และมีความอดทน ไม่ละทิ้งกลางคัน
7. ความเป็นพหูสูต
เป็นผู้ที่ฟังมาก เล่าเรียนมาก เป็นผู้รอบรู้ รู้ลึก รู้รอบ รู้กว้าง รู้ไกล
อยากเป็นพหูสูต ต้องตั้งใจฟัง ตั้งใจจำ ตั้งใจท่อง ตั้งใจพิจารณา และมีปัญญารู้แจ่มแจ้งในปัญหา
8. การรอบรู้ในศิลปะ
ผู้ที่มีศิลปะ คือ ผู้ที่มีศรัทธาในความงดงามของสิ่งต่างๆ หมั่นสังเกตและพิจารณา มีความประณีต สุขุม มีความคิดสร้างสรรค์
9. มีวินัยที่ดี
วินัยสำหรับฆราวาส 10 ประการ ได้แก่ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต / ไม่ลักทรัพทย์ / ไม่ประพฤติผิดในกาม / ไม่พูดโกหก / ไม่พูดส่อเสียด นินทา / ไม่พูดจาหยาบคาย / ไม่พูดไร้สาระ เพ้อเจ้อ / ไม่โลภอยากได้ของคนอื่น / ไม่คิดร้าย แค้น ปองร้ายคนอื่น / ไม่เห็นผิดเป็นชอบ
10.กล่าววาจาอันเป็นสุภาษิต
เป็นคำพูดที่ดี มีประโยชน์ต่อผู้ฟัง ต้องเป็นคำจริง ข้อมูลถูกต้อง เป็นคำสุภาพ พูดแล้วมีประโยชน์ พูดด้วยจิตที่มีเมตตา พูดได้ถูกกาลเทศะ
11.การบำรุงบิดามารดา
พ่อแม่เป็นอรหันต์ของลูก ต้องทดแทนคุณ เลี้ยงดูท่านเป็นการตอบแทน
ในทางพุทธศาสนา คือ พยายามให้ท่านมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา เชื่อในการทำดี พยายามให้ท่านเป็นผู้รักษาศีล พยายามให้ท่านรู้จักการให้ด้วยเมตตาโดยไม่หวังผลตอบแทน พยายามให้ท่านหัดนั่งสมาธิภาวนา
12.การสงเคราะห์บุตร
พ่อแม่ มีหน้าที่ ห้ามไม่ให้ลูกทำความชั่ว / ปลูกฝัง สนับสนุนให้ลูกทำความดี / ให้การศึกษา / ให้คำปรึกษาให้ลูกได้คู่ครองที่ดี /มอบทรัพย์ให้ในโอกาสอันควร
13.การสงเคราะห์ภรรยา
สามีมีหน้าที่ต่อภรรยา คือ ยกย่อง แนะนำเปิดเผยว่าเป็นภรรยา / ไม่ดูหมิ่น / ไม่ประพฤตินอกใจ / มอบความเป็นใหญ่ให้ในบ้าน / ให้เครื่องแต่งตัว
ภรรยามีหน้าที่ต้องตอบแทนสามี คือ จัดการงานดี การบ้านการเรือนไม่บกพร่อง / สงเคราะห์ญาติสามี เอื้อเฟื้อเท่าที่พอทำได้ / ไม่ประพฤตินอกใจสามี / รักษาทรัพย์ให้อย่างดี / ขยันทำงาน
14.ทำงานไม่ให้คั่งค้าง
หลักการทำงานให้เสร็จลุล่วง มีดังนี้ ฉันทะ-มีความพอใจในงานที่ทำ / วิริยะ-มีความตั้งใจ พากเพียรในงานที่ทำ / จิตตะ-มีความเอาใจใส่ในงานที่ทำ / วิมังสา-มีการคิดพิจารณาทบทวนงานนั้นๆ
15.การให้ทาน
คือ การให้ที่ไม่หวังผลตอบแทน อยากให้ผู้ได้รับพ้นจากทุกข์ ได้แก่ การให้วัตถุ สิ่งของ หรือเงินเป็นทาน / การสอนให้ธรรมะเป็นความรู้เป็นทาน / การให้อภัยในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ดีกับเรา ไม่จองเวร ไม่พยาบาทกัน
16.การประพฤติธรรม
กายสุจริต คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม
วจีสุจริต คือ ไม่พูดเท็จ ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดจาส่อเสียด ไม่พูดเพ้อเจ้อ
มโนสุจริต คือ การเห็นชอบ ไม่โลภอยากได้ของผู้อื่น ไม่คิดพยาบาทปองร้ายผู้อื่น
17.การสงเคราะห์ญาติ
ในทางธรรม - แนะนำให้ทำบุญกุศล รักษาศีล ทำสมาธิภาวนา
ในทางโลก - ให้ทาน สงเคราะห์เป็นทรัพย์สิน ให้เขาพ้นจากทุกข์ / พูดจาด้วยถ้อยคำอ่อนโยน สุภาพ ปรารถนาดี / ประพฤติตนให้เป็นประโยชน์กับเขา ช่วยเหลือด้วยแรงกาย กำลังใจ หรือความสามารถที่มี / วางตัวให้เหมาะสมอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
18.ทำงานที่ไม่มีโทษ
ไม่ผิดกฏหมาย ไม่ผิดประเพณี ไม่ผิดศีล ไม่ผิดหลักธรรมทั้งหลาย
อาชีพต้องห้าม ได้แก่ ค้าอาวุธ ค้ามนุษย์ ค้ายาพิษ ค้ายาเสพย์ติด ค้าสัตว์เพื่อนำไปฆ่า
19.ละเว้นจากบาป
บาป คือ สิ่งที่ไม่ดี ความชั่วที่ติดตัว
สิ่งที่ทำแล้วถือว่าเป็นบาป ได้แก่ ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ โลภอยากได้ของผู้อื่น คิดพยาบาทปองร้ายผู้อื่น เห็นผิดเป็นชอบ
20.สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
โทษอันเกิดจากดื่มน้ำเมา คือ ทำให้เสียทรัพย์ เกิดการทะเลาะวิวาท เกิดโรค เสียชื่อเสียง ลืมตัวไม่รู้จักอาย บั่นทอนกำลังสติปัญญา
21.ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย
สิ่งที่ไม่ควรประมาท ได้แก่
ประมาทในเวลา-ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป ไม่ทำอะไรให้เกิดประโยชน์
ประมาทในวัย-คิดว่าอายุยังน้อย อยู่อีกนาน ไม่มีความเพียรพยายาม
ประมาทในความไม่มีโรค-คิดว่าตัวเองแข็งแรง ไม่ตายง่ายๆ
ประมาทในชีวิต-ไม่กำหนดวางแผนอนาคต คิดอยู่แต่ว่ายังมีชีวิตอีกนาน
ประมาทในการงาน-ไม่ขยันตั้งใจให้สำเร็จ ปล่อยตามเรื่องตามราว
ประมาทในการศึกษา-ไม่คิดศึกษาเล่าเรียนในวัยที่ควรเรียน ไม่เอาใจใส่
ประมาทในการปฏิบัติธรรม-ไม่ปฏิบัติสมาธิภาวนา หรือศึกษาหลักธรรม คิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว
22.มีความเคารพ
สิ่งที่ควรเคารพ คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ การศึกษา ความไม่ประมาท การสนทนาปราศัย คือ ต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยความเคารพ
23.มีความถ่อมตน
การไม่แสดงออกถึงความสามารถที่ตัวเองมีอยู่ให้ผู้อื่นทราบเพื่อข่มผู้อื่น หรือเพื่อโอ้อวด การไม่อวดดี เย่อหยิ่งจองหอง แต่แสดงตนอย่างสงบเสงี่ยม
ลักษณะของคนถ่อมตน คือ มีกิริยาที่นอบน้อม วาจาอ่อนหวาน จิตใจอ่อนโยน
24.มีความสันโดษ
การพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ ไม่คิดน้อยเนื้อต่ำใจ ยินดีพอใจในกำลังกาย กำลังทรัพย์ กำลังความสามารถของตน ยินดีในรูปลักษณ์และฐานะความเป็นอยู่ของตน
25.มีความกตัญญู
การรู้คุณ ตอบแทนคุณ รำลึกถึงพระคุณที่เคยให้ความอุปการะแก่เราด้วยความเคารพยิ่ง
26.การฟังธรรมตามกาล
เมื่อมีโอกาส ควรฟังธรรมบ้าง สิ่งที่เป็นประโยชน์ในหลักธรรมนั้นๆจะนำมาใช้กับชีวิตเรา เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น
27.มีความอดทน
อดทนต่อความลำบาก อดทนต่อทุกขเวทนา อดทนต่อความเจ็บใจ อดทนต่ออำนาจกิเลส
28.เป็นผู้ว่านอนสอนง่าย
ไม่พูดกลบเกลื่อน ไม่นิ่งเฉยเมื่อได้รับการเตือน ไม่จัดผิดผู้ว่ากล่าวสั่งสอน มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ยอมรับในคำสอนด้วยความยินดี ไม่ดื้อรั้น ไม่ขัดแย้ง ยินดีให้ตักเตือนได้ทุกเวลา มีความอดทนต่อการเป็นผู้ถูกสั่งสอน ไม่ถือดี ไม่ถือตัว มีปัญญาที่เห็นชอบ
29.การได้สมณะ
สมณะ คือ ผู้สงบกาย วาจา ใจ สำรวมในการกระทำ พูดจาอยู่ในกรอบของความพอดี สุภาพ ทำใจให้สงบปราศจากกิเลสครอบงำ ตั้งมั่นในสมาธิภาวนา
การได้เห็นสมณะ คือ เห็นด้วยตา-เห็นแล้วประทับใจในความสำรวมในกาย / เห็นด้วยใจ-รับฟังหลักคำสอนด้วยใจที่ยินดี / เห็นด้วยปัญญา-ใช้ปัญญาเข้าถึงและรับรู้ถึงคำสอนนั้น
30.การสนทนาธรรมตามกาล
มีศีลธรรม มีสมาธิดี แต่งกายสุภาพ กิริยาสุภาพ วาจาสุภาพ ไม่กล่าวค้านพระพุทธพจน์ ไม่ออกนอกประเด็นที่ตั้งไว้ ไม่พูดนานจนน่าเบื่อ
31.การบำเพ็ญตบะ
การทำให้กิเลส ความรุ่มร้อนต่างๆ หมดไป หรือเบาบางลง ได้แก่ การมีใจสำรวมในอินทรีย์ทั้ง 6 คือ กา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ให้หลงติดอยู่กับสัมผัสภายนอกมากเกินไป ไม่ให้กิเลสครอบงำใจ / เว้นจากกามกิจทั้งปวง / การรู้และเข้าใจในหลักธรรม
32.การประพฤติพรหมจรรย์
ให้ทาน / ช่วยเหลือผู้อื่นในกิจการงานที่ถูกที่ควร / รักษาศีล 5 / มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา / งดเว้นจากการเสพกาม / ยินดีในคู่ของตน / เพียรพยายามที่จะละความชั่ว / รักษาศีล 8 / ใช้ปัญญาเห็ํนแจ้งในอริยธรรม / ศึกษาปฏบัติในศีล สมาธิ ปัญญา ให้รู้แจ้งเห็นจริง
33.การเห็นอริยสัจ
คือ การเห็นถึงความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
34.การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
ภาวะของจิตที่ดับกิเลสได้หมดสิ้น หลุดจากอำนาจกรรม และไม่ต้องวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏอีก คือ พ้นจากทุกข์นั่นเอง
35.มีจิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
ลักษณะของโลกธรรม คือ ได้ลาภ-เสื่อมลาภ ได้ยศ-เสื่อมยศ สรรเสริญ-นินทา สุข-ทุกข์
วิธีทำให้จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม คือ ใช้ปัญญาพิจารณา และการเจริญสมาธิภาวนา
36.มีจิตไม่เศร้าโศก
ใช้ปัญญาพิจารณาอยู่เนืองๆ ถึงความไม่เที่ยงในสิ่งของทั้งหลาย และร่างกายของเรา / ไม่ยึดมั่นในตัวตน / ทุกอย่างในโลกล้วนเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกขณะ / คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่เที่ยงด้วยกันทั้งนั้น
37.มีจิตปราศจากกิเลส
กิเลส คือ สิ่งที่ทำให้เกิดความเศร้าหมอง ได้แก่ ความโลภ โกรธ หลง
38.มีจิตเกษม
มีจิตที่เป็นสุข ละแล้วซึ่งกิเลส
ขอขอบคุณ ข้อมูลจากหนังสือมงคล 38 เหตุแห่งความสุขและความเจริญก้าวหน้า กล่องบุญดอทคอม
| Create Date : 09 ธันวาคม 2554 |
| Last Update : 15 ธันวาคม 2554 17:33:51 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 20476 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [