Group Blog
 
All blogs
 

311. วัดยอดแก้วศรีวิชัย จ.มุกดาหาร

จากวัดศรีมงคลใต้ผ่านไปยังบริเวณตลาดอินโดจีนในตอนกลาจะเป็นวัด “ยอดแก้วศรีวิชัย” หรือ “วัดกลาง” ทั้งนี้เพราะในอดีตตั้งอยู่กลางเมืองมุกดาหาร

วัดยอดแก้วศรีวิชัยก่อสร้างเมื่อปี 2369 โดยพระยาจันทร์สุริยวงษ์ (กิ่ง) เจ้าเมืองมุกดาหารลำดับที่สอง พร้อมกับเจ้านางยอดแก้ว ผู้เป็นภรรยา ครั้นต่อมาในปี 2389 พระจันทร์สุริยวงษ์ (พรหม) ผู้เป็นลูกได้บูรณปฏิสังขรณ์ใหม่พร้อมกับตั้งชื่อว่า “วัดยอดแก้วศรีวิชัย” เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่เจ้านางยอดแก้วผู้เป็นมารดา ภายในวัดยอดแก้วศรีวิชัยจะมีองค์พระธาตุพนมจำลอง และพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประดิษฐานสำหรับการกราบไหว้สักการะ











 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2560 21:19:20 น.
Counter : 2490 Pageviews.  

312. วัดป่าคำน้ำบุ้น จ.มุกดาหาร

อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร





 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2560 21:20:25 น.
Counter : 1260 Pageviews.  

313. วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จ.นครพนม

ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิด วรมหาวิหาร

ตามตำนานกล่าวว่าสร้างมานานไม่น้อยกว่า ๒,๓๐๐ ปี ผู้ที่สร้าง คือ พระ มหากัสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ ได้นำพระอุรังคธาตุหรือกระดูกหน้าอก ของสมเด็จพระสัมมนาพุทธเจ้ามาเพื่อบรรจุไว้ในพระธาตุผู้ที่ร่วมช่วยในการสร้างพระธาตุนี้คือ ท้ายพระยาเมืองต่าง ๆ พญานันทเสน เมืองศรีโคตรบูรณ์ (เมืองนครพนม เดิม) พญาจุลนีพรหมทัด พระยาอินทรปัตนคร และพญาดำแดง เมืองหนองหารน้อย พากันยกโยธามาช่วยสร้างพระธาตุพนมจนเสร็จและบรรจุอุรังคธาตุพร้อมของมีค่าไว้ ภายในเป็นจำนวนมาก

ในปี พ.ศ. 2485 ได้รับการยกฐานะเป็น พระอารามหลวงชั้นเอกขึ้นเป็น "วรมหาวิหาร" ต่อมาในวันที่ 11 สิงหาคม 2518 เวลา 19.38 น. พระธาตุพนมได้ล้มทลายลงทั้งองค์ เนื่องจากความเก่าแก่ขององค์พระธาตุพนม และประจวบกับระหว่างนั้นฝนตกพายุพัดแรงติดต่อมาหลายวัน ประชาชนทั้ง ประเทศได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิม การก่อสร้างนี้เสร็จ สิ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2522 นอกจากพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุในองค์พระธาตุแล้ว ยังมีของมีค่ามาก มายนับหมื่นชิ้น โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุ มีน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม ปัจจุบันองค์พระธาตุ มีฐานกว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.60 เมตร เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูงแลดูสง่างาม

งานนมัสการพระธาตุพนมประจำปี ถือเอาวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๓ ของ ทุกปีเป็นวันแรกของงานไปสิ้นสุดเอาวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๓

รูปลักษณะพระธาตุเป็นรูปสี่เหลี่ยมก่อด้วยอิฐ มีลวดลายสลักลงบนแผ่นอิฐสวย งามมาก มีซุ้มกั้นด้านและซุ้มซ้อนกันสามชั้น ลดหลั่นกันลงมา แล้วจึงถึงองค์พระสถูป เบื้องบนยอดพระธาตุหุ้มทองคำประดับพลอยสวยงามมาก สมเด็จพระกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย ทรงกล่าวถึงพระธาตุพนมไว้ใน นิทานโบราณคดีเรื่องแม่น้ำโขง ตอนหนึ่งว่า

“..พระเจดีย์ธาตุพนมอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง สร้างเป็นสถูปทางพระพุทธ ศาสนาจะสร้างตามลัทธิมหายานหรือหินยาน ไม่มีที่สังเกตเหมือนอย่างที่พิมาย แต่ไม่ มีเค้าศาสนาพราหมณ์เจือปนอยู่เลย บรรดาเจดีย์สถานในพระพุทธศาสนาซึ่งสร้าง ใน สมัยของเขมรที่พบในเมืองไทย ที่สร้างสถูปเป็นประธานมีแต่พระธาตุพนมแห่งเดียว ทั้ง รูปสันฐานลวดลายก็เป็นอย่างอื่นต่างจากแบบช่างขอม ชวนให้เห็นว่าจะสร้างสมัยขอม คือ สร้างในสมัย เมื่อประเทศอันหนึ่งซึ่งเรียกในจดหมายจีนว่า “ฟูนัน” คล้าย “พนม “ เป็นใหญ่อยู่ต่างหาก รูปทรงพระเจดีย์ธาตุพนมเป็นสี่เหลี่ยมเหมือนมณฑป มีซุ้มต้น สามซุ้มซ้อนกันเป็นสามชั้น เล็กเป็นหลั่นกันขึ้นไป แล้วถึงองค์พระสถูปอยู่เบื้องบน มณฑปทั้ง ๓ ชั้น ยอดสถูปหุ้มแผ่นทองคำ เช่นเดียวกับพระธาตุเมืองมหาธาตุเมือง นครศรีธรรมราช ขนาดพระสถูปดูจะเท่า ๆ กัน...”









 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2560 21:22:03 น.
Counter : 561 Pageviews.  

314. วัดธาตุเรณู จ.นครพนม

หมู่ 1 ตำบลเรณู อำเภอเรณูนคร จังหวัด นครพนม

วัดธาตุเรณู แต่เดิมชื่อ วัดกลาง เพราะสร้างขึ้นตรงกลางเมือง มีพื้นที่ประมาณ 16 ไร่เศษ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง แต่จะสร้างขึ้นเมื่อใดนั้นไม่มีหลักฐานแน่นอน เล่ากันมาว่าเจ้าผู้ปกครองเมืองคนแรกพร้อมด้วยอุปฮาดกรมการเมืองและราษฎรร่วมกันสร้างขึ้น แต่โบราณกาลมาถือว่าวัดกลางเป็นวัดสำคัญของเมือง เป็นวัดสำหรับกระทำพิธีดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยาตามประเพณีด้วย ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อวัดกลางมาเป็น วัดธาตุเรณู ตาม พระธาตุเรณู ดังที่เรียกกันอยู่ในปัจจุบันนี้

พระธาตุเรณู สร้างด้วยอิฐถือปูน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของวัดในปัจจุบัน มีการก่อสร้างถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2461 แต่ยังไม่ทันจะทำการฉลองสมโภชก็ถูกฟ้าผ่าพังทลายจนหมดสิ้น เป็นที่เศร้าเสียใจกันทั่ว ทั้งฝ่ายสงฆ์และฝ่ายฆราวาสจึงประชุมเห็นพร้อมกันว่าต้องทำการก่อสร้างพระธาตุนี้ขึ้นอีกให้ได้ โดยก่ออิฐให้หนาขึ้น ทำการก่อสร้างอยู่ราวปีกว่าก็สำเร็จเรียบร้อย จึงได้จัดงานฉลองสมโภชในปี พ.ศ. 2463

รูปแบบของพระธาตุเรณูได้จำลองรูปทรงมาจากพระธาตุพนมองค์เดิม (องค์ก่อนกรมศิลปากรบูรณะเมื่อปี พ.ศ. 2483) แต่มีขนาดเล็กกว่า สูงประมาณ 35 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 8.37 เมตร เรือนธาตุเป็นทรงสี่เหลี่ยมสูง เรือนธาตุชั้นแรกและชั้นที่ 2 ประดับด้วยซุ้มประตูหลอกและลวดลายปูนปั้นทั้ง 4 ด้าน ถัดขึ้นไปเป็นส่วนองค์ระฆังทำทรงบัวเหลี่ยมประดับด้วยลายดอกจอกปูนปั้น ถัดขึ้นไปจึงเป็นส่วนของยอดซึ่งประดับด้วยฉัตรอยู่ด้านบนสุด ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน รวมทั้งของมีค่าที่เจ้าเมืองและประชาชนมีศรัทธาบริจาค

นอกจากนั้น ภายในวัดธาตุเรณูยังเป็นที่ประดิษฐานของ "พระองค์แสน" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่ประชาชนเคารพนับถือมาก พระองค์แสนมีน้ำหนักถึง 10 หมื่น ตามมาตราชั่งที่นิยมใช้กันในท้องถิ่น คือ 1 หมื่น เท่ากับ 12 กิโลกรัม 10 หมื่น จึงเท่ากับ 120 กิโลกรัม แต่การนับในปัจจุบัน 10 หมื่นเป็น 1 แสน เพราะเหตุนี้จึงเรียกชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ว่า "พระองค์แสน" หรือ "หลวงพ่อองค์แสน" ลักษณะของพระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปทองเหลือง หน้าตักกว้าง 50 เซนติเมตร สูง 50 เซนติเมตร ปางสมาธิ พระพักตร์เป็นแบบลาว ขมวดพระเกศาเล็ก พระรัศมีเป็นเปลว อายุประมาณ 100 ปีขึ้นไป พระสงฆ์และชาวบ้านร่วมกันหล่อพระองค์แสนขึ้นเพื่อจะให้เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ ขจัดภัยพิบัติข้าศึกศัตรูหมู่อมิตร เป็นนิมิตหมายถึงความอุดมสมบูรณ์พูนสุขแก่ประชาชนที่เคารพนับถือ ให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ให้ได้ทำไร่ทำนากันทั่วไป และเมื่อถึงวันสงกรานต์ของทุก ๆ ปี จะมีพิธีอัญเชิญพระองค์แสนแห่ไปรอบเมือง เพื่อให้ประชาชนได้สักการบูชาและสรงน้ำด้วย









 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2560 21:23:29 น.
Counter : 881 Pageviews.  

315. วัดป่าภูธรพิทักษ์ จ.สกลนคร

อ.เมือง จ.สกลนคร

เดิมชื่อ "วัดป่าธาตุนาเวง" พระอาจารย์ฝั้น ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ (วัดป่าธาตุนาเวง) เป็นเวลาถึง ๙ ปี ท่านได้พัฒนาวัด และรวมถึงบริเวณใกล้เคียงกับวัดให้เกิดสุขลักษณะที่ดี โดยเฉพาะบริเวณโรงเรียนพลตำรวจ เขต ๔ เป็นตัวอย่าง เมื่อออกพรรษาเสร็จงานกฐิน พระอาจารย์ฝั้น ท่านจะพาภิกษุ สามเณร เดินธุดงค์ไปวิเวกตามสถานที่ต่าง ๆ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๑ เมื่อออกพรรษา ท่านได้พาภิกษุสามเณร เดินธุดงค์ไปวิเวกที่ ภูวัว ในท้องที่ อำเภอบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย







 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2560 21:24:45 น.
Counter : 1361 Pageviews.  

1  2  

เหมียวสินธร
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




Friends' blogs
[Add เหมียวสินธร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.