photo banner_zpsf859efd9.jpg
Group Blog
 
All blogs
 

Review // Etude House play 101 Pencil..ดินสอสีมหัศจรรย์ *.:。✿

สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้เอจะมารีวิวดินสอสีตัวใหม่ล่าสุดที่พึ่งออกมาของ Etude House โดยยังไม่มีวางจำหน่ายในไทยนะคะ
มีชื่อว่า "Etude House play 101 Pencil"


ที่เอเรียกดินสอสีเพราะเค้าไม่ใช่เป็นแค่ดินเขียนขอบตา แต่สามารถใช้ได้ทั้งกับตา ปาก แก้ม คิ้ว รวมถึงสามารถใช้เป็นไฮไลต์ คอนทัวร์ หรือแม้แต่คอนซิลเลอร์ได้...ช่างเป็นดินสอสีมหัศจรรย์จริงๆ

โดยออกมาให้ยั่วกิเลสกันถึง 50 สี

พิเศษกว่าที่ได้บิวตี้บล๊อกเกอร์ชื่อดังของเกาหลีอย่าง Pony มาครีเอทลุคให้กับEtude House โดยเฉพาะ

งามเนอะ! เห็นแล้วอยากสอยมากมาย

พอดีกับเอได้มีโอกาสได้ไปเกาหลีเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ เลยไม่พลาดที่จะสอยแน่นอนค่ะ
คือขอบอกว่าอยากได้ทั้ง 50 สีเลยค้าา แต่ยังดีมีสติอยู่ เลยสอยมาแค่ 10 แท่งค่ะ

พยายามเลือกสีที่คิดว่าชอบและได้ใช้จริงๆมา (อันที่จริงข่มใจตัวเองสุดฤทธิ์ ฮ่าาา)


เค้าจะวางขายเป็นชั้นขายแยกเฉพาะตัวนี้เลยค่ะ วางเรียงกัน 50 สี (อิแม่จะเป็ยลม..งามมาก)
ตัวดินสอบรรจุมาในกล่องดูดีมีสกุลแบบในรูปด้านบนค่ะ

สีที่เอสอยมาทั้ง 10 สีก็มีเบอร์ 9, 11, 17, 18, 20, 30, 31, 34, 39, 44


ดูแล้วมันเลอค่าเนอะ เฉดสีที่เอามาก็ไม่ต่างกันมาก เป็นโทนที่ส่วนตัวชอบเป็นพิเศษ ทั้งส้ม ชมพู ม่วง น้ำตาล
สรุปง่ายๆค่ะ ฟินส์.....


สว็อชสีแบบให้เห็นชัดๆกันค่ะ ทั้ง 10 สีเลย
ต้องบอกว่า play 101 Pencil มีทั้งเนื้อด้านและเนื้อวาวนะค่ะ ตามแต่คนชอบเค้าจะมีคละเนื้อไปใน 50สี

เนื้อสัมผัส>> ตัวนี้เนื้อนุ่มมากๆๆค่ะ ไม่แข็งเลย ใช้ง่ายเขียนวอเตอร์ไลน์ได้อย่างไม่มีปัญหา แถมเนื้อทนมาก

มาดูการทดสอบความทนของเจ้าตัว play 101 Pencil กันค่ะ


ล้างด้วยน้ำเปล่าธรรมดา
หลังจากเอปาดทั้ง 10 สีลงบนแขนใช้ชีวิตปกติในอุณหภูมิร้อนสุดๆของเมืองไทย ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง
แล้วเอลองล้างด้วยน้ำเปล่า ผลปรากฎว่าสียังอยู่ค้าา ทนสุดๆ ไม่เลือนเลย แม่แต่วิ้งๆก็ยังอยู่


ล้างด้วยสบู่เหลวอาบน้ำ
ถูด้วยสบู่เหลวอาบน้ำแรงๆวนไปมา แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
ผลปรากฎว่าพวกนางทั้ง 10 ยังอยู่ดีมีสุขไม่จางหายไปเลยค่ะ



ล้างด้วยโฟมล้างหน้าแบบมีสครับ
ถูๆด้วยโฟมล้างหน้าที่มีสครับ วนไปวนมาแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
ผลปรากฎว่าสีโทนอ่อนมีจางลงไปบ้าง แต่สีเข้มยังอยู่ดีมีสุขค่ะ

✿สรุป✿
เนื้อสัมผัส>> นิ่มนุ่มมาก ไม่เจ็บเวลาใช้เขียนง่ายและลื่นกำลังดีค่ะ
ความทนทาน>> บอกได้คำเดียวว่า "ทน..." มันทนจริงๆตามที่พิสูจน์ให้เห็นด้านบน และบวกกับการได้ลองใช้จริงๆกับหน้าเช้ายันเย็นนางยังติดอยู่ดีบนหน้า ขนาดเอามาทาปาก กินข้าวกินน้ำทั้งวันสียังติดไม่เลือน จนเพื่อนถามว่าลิปของอะไรค่ะ
เฉดสี>> มีให้เลือกเยอะมากกก ตั้ง 50 สี แถมมีทั้งเนื้อด้าน และเนื้อวาวๆ ด้วย
แพ็คเกจ>> ตัวแท่งดินสอจับง่ายไม่ต้องเหล่าใช้ระบบหมุนๆเอาค่ะ
ราคา>> ถูกมากกกก หากเทียบกับคุณภาพที่ได้เลิศเว่อ เพียง 6,000 วอน หรือประมาณ 180 บาท (ซื้อจากเกาหลี)

เอให้เลย ✿✿✿✿✿ เต็มค่ะ
เพราะชอบมากก ชอบสุดๆ ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างที่ตั้งใจไปสอยเลยย
เอรู้สึกว่าพักหลังมานี้พวกโปรดักส์ที่เป็นดินสอของแบรนด์เกาหลีจะทำออกมาได้ดีมากค่ะ
ทนมากๆๆ สีโดนใจมากๆหลายแบรนด์เลย หรืออาจจะเป็นเพราะใกล้ซัมเมอร์ของที่นั่นเลยทำสินค้าออกมาให้ติดทนมากขึ้นมั้งคะ



ไม่เพียงเท่านี้! เอมี mini How to ที่ใช้ play 101 Pencil ในการแต่งมาให้ชมด้วยค่ะ



ปกปิดรอยคล้ำใต้ตาด้วย play 101 Pencil เบอร์ 9 ค่ะ


ใช้ play 101 Pencil  เบอร์ 20 ลงเป็นบรัชออน
โดยเขียนเป็นเส้นๆ แล้วใช้นิ้วมือเกลี่ยๆค่ะ



สำหรับตา เอใช้ play 101 Pencil เบอร์ 31, 34 เป็นขอบตาบน และใช้เบอร์ 39 เขียนขอบตาล่าง
สีปากเอใช้ play 101 Pencil เบอร์ 11 ค่ะ


.......................................................................................................
ราคา>> 6,000 วอน หรือประมาณ 180 บาท
ซื้อที่>> Etude House ที่ประเทศเกาหลี




 

Create Date : 23 พฤษภาคม 2557    
Last Update : 23 พฤษภาคม 2557 15:31:37 น.
Counter : 3552 Pageviews.  

Review // BIOTHERM LIFE PLANKTON ESSENCE ผิวอ่อนเยาว์ลง 3 ปี ใน 8 วัน *.:。✿

สวัสดีค่ะวันนี้จะมารีวิวเอสเซ็นส์ตัวใหม่ล่าสุดของ BIOTHERM mี่กำลังเป็นที่พูดถึงกันมากในหมู่บล็อกเกอร์เอเชียในขณะนี้ค่ะ นั่นคือ

"BIOTHERM LIFE PLANKTONTM ESSENCE"


เอสเซ้นส์บำรุงผิวที่อุดมไปด้วยคุณค่าจากสารสกัดแพลงตอนน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ 
ช่วยให้การฟื้นบำรุงผิวที่เหนือกว่า สัมผัสผิวอ่อนเยาว์ลง 3 ปี ภายใน 8 วัน

มาทำความรู้จักเจ้าแพลงตอนที่เป็นส่วนผสมหลักของเอสเซ้นส์ตัวนี้กันค่ะ

Life PlanktonTM เป็นสารสกัดจากแพลงตอนน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ 
ซึ่งทางไบโอเธิร์มนำ Life PlanktonTM 5% ผสานลงใน LIFE PLANKTONTM ESSENCE โดยเป็นครั้งแรกที่ใช้ความเข้มข้นสูงขนาดนี้เท่าที่แบรนด์เคยใช้มาเลยค่ะ เพื่อฟื้นบำรุงให้ผิวกลับมามีผิวสุขภาพกีราวกัยผิวใหม่กันเลยทีเดียวค่ะ

โดยทางแบรนด์ได้ส่งขนาด 30 ml. มาให้เอได้ลองพิสูจน์ค่ะ



เป็นเอสเซ้นส์ที่มีเนื้อเหลวเป็นน้ำใสๆค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ (ไม่ทำให้ปวดหัวเพราะกลิ่นหอมแรง..ตรงนี้ดีมากๆเลย)


จากรูปด้านบนจะเห็นได้ว่า ตัวเอสเซ้นว์ซึมเข้าสู่ผิวโดยไม่ทิ้งความมันวาวไว้เลยค่ะ
เนื้อสัมผัสบางเบามากค่ะ เหมือนน้ำซึมเข้าสู่ผิว ไม่เหนอะหนะ ไม่ทำให้ผิวมันเยิ้ม และไม่ทำให้ผิวแห้งด้วย รู้สึดชุ่มชื่นหลังใช้และเหมือนกับว่าผิวจะเด้งๆหลังใช้ค่ะ (ความรู้สึกส่วนตัวนะคะ)

LIFE PLANKTONTM ESSENCE ใช้เป็นขั้นตอนแรกในการบำรุงผิวค่ะ
เพียงแค่หยดใส่ฝ่ามือ แล้วตบๆลงบนผิวหน้าและลำคอให้ทั่วค่ะ
ซึ่งเอใช้ติดต่อกัน เช้าและเย็น ตลอด 8 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 15-22/5/14
มาดูกันค่ะว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไรบ้าง หน้าจะดูเด็กลงจริงมั้ย


(ทั้ง 2 ภาพ คือใบหน้าที่ไร้เมคอัพก่อนอาบน้ำ จะเห็นว่าสีภาพต่างกันเพราะตามช่วงเวลาค่ะ)

Day 0 >> ก่อนใช้ LIFE PLANKTONTM ESSENCE ค่ะ ผิวหน้าเอจะไม่ค่อยสม่ำเสมอ มีรอยคล่ำจากสิวอยู่บ้าง และรอยคล่ำใต้ตาเห็นได้อย่างชัดเจนค่ะ

Day 8 >> หลังใช้ LIFE PLANKTONTM ESSENCE ไป 8 วันค่ะ ผิวดูสุภาพดีขึ้น สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น รอยจากสิวดูจางลง รอยคล่ำใต้ตาดูดีขึ้นค่ะ

มาดูกันแบบชัดๆในเรื่องของรอยต่างๆกันค่ะ

(ทั้ง 2 ภาพ คือใบหน้าที่ไร้เมคอัพก่อนอาบน้ำ ไม่มีการปรับแสง จะเห็นว่าสีภาพต่างกันเพราะตามช่วงเวลาค่ะ วันที่8หน้าออกแดงเพราะถ่ายตอนเย็นแล้วต้องขออภัยด้วยนะคะ กล้องใช้โหมดportrait อาจจะดูเหมือนทารองพื้นเลย)

Day 0 >> ก่อนใช้ LIFE PLANKTONTM ESSENCE" ค่ะ 
Day 8 >> หลังใช้ LIFE PLANKTONTM ESSENCE ไป 8 วันค่ะ

สรุปผลลัพธ์หลังใช้ LIFE PLANKTONTM ESSENCE ใน 8 วัน

รู้สึกได้ว่าผิว(ไร้เมคอัพ) ดูสุขภาพดีขึ้น สีผิวสม่ำเสมอกระจ่างใสขึ้น ริ้วรอยจากสิวและรอยคล่ำใต้ตาดูจางลง นอกจากนี้ที่ชอบคือผิวชุ่มชื่นค่ะ (เพราะเอเป็นคนผิวแห้งมาก) แก้มนิ่มขึ้นแบบคนใกล้ตัวยังทักว่าแก้มนิ่มขึ้นนะ อิอิ โดยรวมแล้วเอว่าตัวนี้ใช้แล้วเห็นผลดีทีเดียวเลยค่ะ สำหรับเรื่องหน้าเด็กลงไป 3 ปี ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าเด็กลงรึป่าวส่วนตัวรู้สึกเหมือนเดิม แต่หากบอกว่าผิวดูเด็กลงนี้ยอมรับเลยค่ะ ผิวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ แม้ผิวแห้งขั้นสุดแบบเอใช้แล้วผิวชุ่มชื่นขึ้น นับว่าเค้าทำออกมาได้เหมาะกับทุกผิวจริงๆค่ะ ^^

........................................................
สำหรับ LIFE PLANKTONTM ESSENCE ขนาด 125 มล. (ไซส์จริง) ราคา 2,300 บาท ค่ะ
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมาค่ะ
........................................................

คะแนน

ความชุ่มชื่น 
ความไม่เหนอะหนะ 
กระจ่างใส
ลดริ้วรอย 
ราคา 

เพื่อนๆสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางแฟนเพจ >> BIOTHERM

ขอขอบคุณสำหรับการติดตามรีวิวนะคะ
ลาไปด้วยภาพหลังใช้ LIFE PLANKTONTM ESSENCE (มีเมคอัพ)ค้าา

XOXO




 

Create Date : 22 พฤษภาคม 2557    
Last Update : 2 มิถุนายน 2557 22:20:50 น.
Counter : 3979 Pageviews.  

Review // NIVEA Body Lotion In-Shower Extra Whitening Skin Conditioner *.:。✿

 สวัสดีค่ะเนื่องจากเอเป็น 1 ใน 10 บล็อกเกอร์ผู้โชคดีที่ผ่านเข้ารอบรีวิวของกิจกรรม 
NIVEA In-Shower Extra Whitening blog Contest
จึงได้ผลิตภัณฑ์มาลองใช้และรีวิวให้เพื่อนๆดูกันค่ะ นั่นก็คือ

"NIVEA Body Lotion In-Shower Extra Whitening Skin Conditioner"


นีเวีย ไวท์ โลชั่นชนิดล้างออก
นวัตกรรมใหม่! อีกขั้นของการฟื้นบำรุง ให้ผิวเนียนกระจ่างใส 
เพราะบำรุงลึกถึงรูขุมขน ขณะผิวเปียก ซึ่งรูขุมขนเปิดกว้างรับการบำรุงได้เต็มที่
แค่ล้างออก ผิวก็ขาวกระจ่างใส อิ่มน้ำ ทั่วเรือนร่าง 
ต่างกับการทาโลชั่นขณะตัวแห้งผิวไม่เปิดรับการบำรุงอย่างเต็มที่

ความพิเศษของ NIVEA Body Lotion In-Shower Extra Whitening Skin Conditioner ที่เอว่าเป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวให้กระจ่างใจคือ โลชั่นชนิดล้างออกนี้ ผสานคุณค่าวิตามินซี 50 เท่า จาก คามู คามู สุดยอดผลไม้จากป่าอะเมซอน ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุด โดยมีปริมาณวิตามินซีเข้มข้นถึง 50 เท่าเมื่อเทียบกับมะนาว 


แล้วโลชั่นแบบล้างออกดีกว่าโลชั่นทั่วไปอย่างไรนั้น เอมีคำตอบค่ะ

จะเห็นได้ว่าการใช้โลชั่ยขณะอาบน้ำแบบล้างออกนั้นผิวจะสามารถรับอณูของโลชั่นได้มากกว่า ผิวกระจ่างใสและอิ่มน้ำกว่าการทาโลชั่นขณะผิวแห้งนะจ๊ะ

วิธีการใช้มี 4 ขั้นตอนง่ายๆค่ะ







เอว่าโลชั่นแบบล้างออกแบบนี้ดีมากสำหรับคนที่ไม่ชอบทาโลชั่นตอนผิวแห้ง เพราะรู้สึกเหนอะหนะตามตัวค่ะ ^^



เอเปรียบเทียบให้ดูกันแบบชัดๆเลยนะค่ะหว่าก่อนใช้หลังใช้ผิวจะเป็นอย่างไร
ก่อนใช้: ผิวดูแห้งๆ ไม่มีน้ำมีนวล
หลังใช้: ผิวดูมีน้ำมีนวลขึ้น นุ่มขึ้น แต่ไม่ทิ้งคราบเหนอะหนะไว้บนผิวอีกด้วย



สรุปผลการใช้ค่ะ
เอเป็นคนผิวแห้งค่ะ ตัวนี้เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวเอได้ดีเลยค่ะ หลังใช้ผิวจะนุ่มเด้งขึ้นทันที มีวิตามิน C สูงมากสุดๆ ช่วยให้ผิวที่พึ่งออกแดดคล้ำมาสว่างขึ้นด้วยจ้า และด้วยวิธีใช้ต้องใช้ขณะอาบน้ำเอว่าเป็นข้อดีตรงที่สามารถผ่านทุกส่วนบนร่างกาย ซึ่งบางจุดไม่สามารถทาโลชั่นถึงได้อย่างแผ่นหลังค่ะ เยี่ยม! แถมอาบน้ำเสร็จก็ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งทาโลชั่นอีก แค่อาบน้ำก็ทาโลชั่นไปพร้อมๆกัน เริศ!!



คะแนน

ความชุ่มชื่น 
ผิวอิ่มน้ำ 
ความไม่เหนอะหนะ 
ล้างออกง่าย 
บรรจุภัณฑ์ 
ราคา 

ก่อนจะเชื่อ เอขอให้เพื่อนๆได้ลองดูก่อนนะคะ แล้วจะติดใจจริงๆ โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยชอบทาโลชั่นขณะผิวแห้ง ตัวนี้ช่วยได้เลยค่ะ ไม่ต้องเสียเวลารอผิวแห้งเพื่อทาโลชั่น หรือต้องรอให้โลชั่นซึมผิวก่อนออกจากบ้าน หมดปัญหานี้แน่นอน ชีวิตดูง่ายขึ้นเยอะเลยน้าา

ขอบคุณค่ะ

..................................................................................................................................
พบกับ นีเวีย ไวท์ โลชั่นชนิดล้างออก ผลิตภัณฑ์ใหม่ของนีเวียได้แล้ววันนี้ 
 ที่แผนกโลชั่น ตามห้างสรรพสินค้า และซุปเปอร์มาเก็ตชั้นนำทั่วประเทศ 
ขนาดบรรจุ 100 มล. ราคา 75 บาท
ขนาดบรรจุ 250 มล. ราคา 155 บาท
ขนาดบรรจุ 400 มล. ราคา 199 บาท




 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2557    
Last Update : 15 พฤษภาคม 2557 1:48:42 น.
Counter : 1255 Pageviews.  

Review // CHAMOS ACACI Matte Pore Primer *.:。✿

 สวัสดีค่ะวันนี้เอจะมารีวิวไพร์เมอร์ที่เอกำลังชื่นชอบในขณะนี้
นั่นคือ CHAMOS ACACI MATTE PORE PRIMER
ไพรเมอร์เนื้อบางเบา แต่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่าช่ายเติมเต็มรูขุมขนให้เรียบเนียน ปกปิดริ้วรอย ทำให้แต่งหน้าอยู่ทนทั้งวันค่ะ

ต้องขอบอกว่าแบรนด์ CHAMOS ACACI เป็นแบรนด์ของเกาหลีที่บริษัท SesaCosmetic นำเข้ามาค่ะ
เจ้าเดียวที่นำเข้า wet n wild ค้า

และต้องขอบอกว่าตัวนี้เอซื้อเอง ใช้เอง ชอบเองล้วนๆค่ะ เลยอยากมาแชร์ให้เพื่อนๆได้รู้จักกันค้า

มาในหลอดสีน้ำตาล ปริมาณ 30 g.ค่ะ
แพ็คเกจดูดีน่าจับต้องมากๆ..และก็จริงด้วย เอสะดุดตาครั้งแรกเพราะแพ็คเกจค่ะดูผู้ดี๊ผู้ดี


ครั้งแรกที่ลองก่อนจะซื้อนั้นคือชอบมากตรงที่เนื้อบางจริงๆค่ะ ทาบนผิวแล้วลื่นๆ(ไม่เหนียวนะ) เหมือนมีอะไรมาเคลือบผิวไว้ แถมรู้สึกแมตท์แต่ไม่แห้งเลยนะคะ^^ เนื้อสัมผัสของตัวไพรเมอร์อารมณ์เดียวกับยาหมองค่ะ 555+


หลังจากสอยมาในราคา 790 บาทที่แผนกบิวตี้ Tops supermarket สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว
เพียงเพราะชอบเนื้อลื่นๆของมันแล้ว พอมาลองใช้จริงกับผิวหน้า รู้สึกได้เลยค่ะว่า เอ้ย! มันเวิค! 
ทำให้ผิวหน้าก่อนลงรองพื้นเรียบเนียนมาก ยังกะไม่มีรูขุมขนกันเลยทีเดียว ผิวเรียบลื่นสุดๆ

จากภาพด้านบน 
(Before) จะเห็นรอยที่ฝ่ามือนะค่ะ 
(After) หลังทาไพรเมอร์ตัวนี้รอยบนฝ่ามือตื้นขึ้นเลยค่ะ

สรุปนะคะ
CHAMOS ACACI Matte Pore Primer น่าจะถูกใจสาวๆที่ชอบลุคแมตต์ โดยเฉพาะสาวหน้ามัน หรือคนที่มีปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้างค่ะ (ส่วนตัวเอเป็นคนหน้าแห้งค่ะ) ใช้ตัวนี้แล้วไม่มีปัญหาว่าหน้าจะแห้งไปกว่าเดิม รองพื้นแป้งอยู่ทนกว่าเดิมขึ้นค่ะ ไม่ทำให้หน้าหมองระหว่างวัน ส่วนเรื่องอุตตันมีบ้างเล็กน้อยนะในส่วนของจมูก แนะนำว่าต้องล้างหน้าให้สะอาดนะคะ 

สำหรับราคานั้น 790 บาท ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆที่อยู่ใน Tops (เซ็นทรัลลาดพร้าว) ค่ะ แต่เอเห็นในเว็ปไซต์ทั้งของ Sesa เองและเว็ปอื่นๆที่นำตัวนี้ไปขายด้วย ราคาจาก 790 ลดเหลือ 490 บาทเอง หากราคานี้น่าสนอยู่นะ (แอบเสียใจเบาๆซื้อมาสูงกว่าตั้ง 300 แหละ..ไม่งั้นซื้อรุ่น silky ได้ด้วย ฮือๆๆ

สามารถหาซื้อได้จากเว็ปไซต์ของ sesa cos ค่ะ หรือซื้อที่ Tops ส่วนเรื่องสาขานั้นเอไม่แน่ใจนะคะ แต่เอซื้อจาก Tops สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว แนะนำว่าไปลองเล่นดูแล้วค่อยสั่งทางเว็ปเค้าดีกว่าค่ะ ถูกกว่าเยอะเลย


คุณภาพ 5 /5
ราคา 4 /5 (สำหรับราคาเต็ม)
แพ็กเก็จ 4 /5
แหล่งจำหน่าย 5 /5

หวังว่ารีวิวจะช่วยให้เพื่อนๆตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อยนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ
XOXO





 

Create Date : 09 พฤษภาคม 2557    
Last Update : 9 พฤษภาคม 2557 19:39:14 น.
Counter : 2622 Pageviews.  

Review // Sipang; Coconut Oil Soap Bar..สบู่จากธรรมชาติ *.:。✿

 สวัสดีค่ะ
ช่วงหลังมานี้พอเอเริ่มอายุมากขึ้นก็หันมาดูแลตัวเองอย่าจริงจังมากขึ้น
ทั้งอาหารการกิน การออกกำลังกาย รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับตัวเอง 
(ลามไปถึงคนใกล้ตัวด้วยค่ะ)

เอเริ่มหันมาสายธรรมชาติ ออแกนิกส์มากขึ้น ทำให้ครึ่งปีหลังมานี้เฟ้นหาผลิตภัณฑ์ทั้งไทยและต่างประเทศที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นสำคัญมาใช้ รวมถึงไม่มีสาวนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอร์ และพวก paraben ด้วยค่ะ

สำหรับการดูแลขั้นพื้นฐานอย่างการอาบน้ำนั้น เอก็จะใช้สบู่ที่ทำจากธรรมชาติเป็นประจำ และหลายๆตัวที่เอใช้จะเป็นแบบที่ไม่มีส่วนผสมของ SLS หรือสารทำฟองนั่นเองค่ะ

วันนี้เอเลยจะมารีวิวสบู่อาบน้ำที่ทำมาจากธรรมชาติ ที่เอปลื้มมากสุดๆในตอนนี้ค่ะ
นั่นคือ "Sipang; Coconut Oil Soap
สบู่ทำจากน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% โรยด้วยผงส้มแขก 
ไม่ใส่สี สารเร่ง กลีเซอร์ลีน และสารทำฟอง (SLS) ค่ะ


ต้องขอบอกว่าเอรู้จักแบรนด์นี้ได้เพราะรุ่นพี่ของเอเป็นเจ้าของแบรนด์นี้ค่ะ ซึ่งเค้าคิดค้นสบู่ตัวนี้มาเพื่อนสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องผิวหนังและแพ้สารในสบู่โดยเฉพาะค่ะ เอเลยลองนำมาใช้ดู สรุปติดใจมากจริงๆ เลยอยากแชร์ให้เพื่อนๆได้รู้จักกันค่ะ

มาในถุงผ้าแนว ECO มากๆ ด้านในสบู่ถูกห่อด้วยกระดาษอีกชั้นนึงนะค่ะ
เนื้อสบู่แน่นมากค่ะ ไม่นิ่มเหมือนสบู่มะพร้าวทั่วๆไป เพราะเค้าไม่ใส่กลีเซอร์ลีนเลย เป็นน้ำมันมะพร้าวล้วนๆค่ะ ด้านบนเป็นลายสบู่ที่เกิดจากการโรยผงส้มแขก แน่นอนว่าแต่ละก้อนไม่เหมือนกัน

ซึ่งก้อนนี้เป็นก้อนที่ 4 แล้วที่เอได้ใช้ติดใจมาตลอดชนิดที่ให้ที่บ้านและเพื่อนใช้ด้วย ทุกคนชอบกันมากกับผลที่ได้ ซึ่งตอนแรกๆยอมรับว่าไม่ค่อยสนใจสายออแกนิกซ์เท่าไหร่ค่ะ ทำให้พอใช้ก้อนที่สอง แอบงงว่าทำสีสบู่มันไม่ขาวแบบก้อนแรก...และก็ได้คำตอบว่า
"เพราะสบู่นี้ธรรมชาติล้วนๆสีในแต่ละครั้งทำให้ไม่เหมือนกันค่ะ เนื่องจากไม่ใส่สี"

ส่วนผสมหลักของสบู่ Sipang; คือน้ำมันมะพร้าว และผงส้มแขกค่ะ

แน่นอนเพื่อนๆอาจจะรู้กันอยู่แล้ว่าน้ำมันมะพร้าวมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเรื่องโรคผิวหนัง สิว ความเต่งตึง และเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว โดยไม่ทิ้งความมันให้รำคาญใจ สำหรับผลส้มแขก เป็นพืชที่มีวิตามินซีสูง ช่วยให้ผิวกระจ่างใส


สบู่ตัวนี้เวลาโดนน้ำจะเกิดฟองครีมเล็กน้อย ซึ่งเป็นฟองครีมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของน้ำมันพร้าวค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนซึ่งไม่ช่ายกลิ่นมะพร้าวค่ะ เป็นกลิ่นหอมแบบดอกไม้อ่อนๆ ฟินเว่อ..


เอลองเปรียบเทียบให้ดูระหว่างก่อนกับหลังใช้นะคะ

**ต้องบอกก่อนว่า เอค่อนข้างมีอคติกับพวกน้ำมันค่ะ เพราะจากประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัวคือมันเหนียว มันทิ้งความมันไว้บนผิว ซึ่งไม่ชอบมากๆ**

แต่สำหรับสบู่ตัวนี้แปลกใจมากที่หลังใช้ผิวนุ่มสุดๆ แต่กลับไม่ทิ้งความมันไว้บนผิวแม้แต่น้อย เลยปลื้มใช้ติดต่อกันมาตลอดเลยค่ะ


(หน้าสดไม่ปรับแสงใดๆ)

สบู่ตัวนี้สามารถใช้ได้ทั้งหน้าและตัวค่ะ 
ซึ่งเอจะใช้สบู่ตัวนี้เป็นตัวสุดท้ายหลังจากล้างหน้าด้วยโฟมล้างแล้วค่ะ

ความรู้สึกที่ได้** ผิวหน้าสะอาดขึ้นมากๆเลย ปกติใช้โทนเนอร์เช็ดก็ยังมีคราบของเครื่องสำอางจางๆติดอยู่แต่พอใช้ตัวนี้มีน้อยลงกว่าเดิมค่ะ ผิวหน้านุ่มขึ้น ไม่แห้งตึง และอีกอย่างคือพวกสิวและรอยแผลหายไวขึ้นค่ะ 
(หน้าเออาจจะไม่เห็นผลมากนัก เพราะไม่ค่อยเป็นสิว แต่สิวตรงหลังนี้หายไวอย่างน่าตกใจค่ะ)



เอลองเปรียบเทียบให้ดูระหว่างใช้สบู่ของ Sipang; กับไม่ใช้ให้ดูกันค่ะ
โดยเอจะใช้โทนเนอร์เช็ดผิวหลังจากทำความสะอาดด้วยสบู่ให้ดูกันค่ะ
(ผิวที่ทารองพื้นทิ้งไว้นะคะ)

ซ้าย: ผิวที่ทำความสะอาดด้วยโฟมล้างหน้ายี่ห้อ XXX อย่างเดียว
ขวา: ผิวที่ทำความสะอาดด้วยสบู่จากน้ำมันมะพร้าวของ Sipang; อย่างเดียว

ผลปรากฎว่าผิวที่ทำความสะอาดด้วยสบู่จากน้ำมันมะพร้าวของ Sipang; อย่างเดียวนั้นสามารถทำความสะอาดผิวได้สะอาดหมดจดกว่าค่ะ


สำหรับราคาอยู่ที่ ก้อนละ 380 บาท/ปริมาณ 100 g.
อาจตกใจที่ราคาสูง แต่เนื่องจากเค้าไม่ใส่สารเร่งให้สบู่แข็งตัวเร็วทำให้ต้องทิ้งไว้ 1 เดือนเพื่อให้สบู่แข็งตัวเองตามธรรมชาติเลยนะจ๊ะ บวกกับคุณภาพคับแก้วถูกใจเอขนาดนี้ เอถือว่าคุ้มค่ากับการดูแลผิวของเรา และยังทำมาจากธรรมชาติ 100% อีกไม่ใส่ทั้งกลีเซอร์ลีน และสารทำฟอง จุดนี้ยอม! ค่ะ

คุณภาพ 5 /5
ราคา 4 /5
แพ็กเก็จ 5 /5
แหล่งจำหน่าย 3 /5

สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายผลิตภัณฑ์ออแกนิกซ์อย่าง
ร้านใบเมี่ยง และ B.smile ทุกสาขา (แถมตอนนี้มีโปรเปิดตัวด้วย)
//www.greenshopcafe.com/sipang

หรือ
ลองเข้าไปดูจากลิ้งหน้าเพจของเค้าก็ได้นะคะ

ขอบอกว่าชอบมาก ใช้จริง ประทับใจเอง โดยเฉพาะเรื่องสิวที่หลัง นี่คือคำตอบของปัญหาสิวที่หลัง (สำหรับเอนะคะ) 

ขอบคุณค่ะ
XOXO






 

Create Date : 07 พฤษภาคม 2557    
Last Update : 7 พฤษภาคม 2557 21:57:00 น.
Counter : 2612 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  

AeBong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]







Follow @ae_bong




Friends' blogs
[Add AeBong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.