ลิ้นสะอาด ช่วยลดกลิ่นปากได้!!

หากท่านต้องการให้ลมปากสะอาด ก็ไม่ควรมองข้ามถึงการทำความสะอาดลิ้น!!

เนื่องจากลิ้นของเรามีผิวที่ไม่เรียบ แต่ขรุขระถ้าเปรียบไปแล้วก็เหมือนกับพรมหนาๆ ที่ถักด้วยเส้นใยผ้า มีซอกเล็กซอกน้อยเต็มไปหมด ดังนั้นลิ้นจึงเป็นที่กักเศษอาหารอย่างดีที่สุด เหมาะที่สุดที่จะให้แบคทีเรียที่ไม่ต้องการออกซิเจนในการเจริญเติบโตอาศัย อยู่ แบคทีเรียเหล่านี้ปล่อยสารพิษที่ทำอันตรายต่อเหงือกและฟันแล้ว ยังก่อให้เกิดก๊าซซัลเฟอร์มีกลิ่นเหม็นเน่า

จากการวิจัยพบว่าแบคทีเรียที่มีผลต่อกลิ่นปากมากๆ มักจะอยู่ตามโคนลิ้นมากกว่าที่ฟันและเหงือก ก็เป็นคำตอบที่ดีสำหรับหลายท่านที่สงสัยว่า

      - ฟันผุก็อุดแล้ว

      - เหงือกก็ไม่อักเสบ ขูดหินปูนทุก 6 เดือนตามหมอนัด

      - แปรงฟันหลังอาหารทุกวัน

      - เสียเงินไปก็มากกับการใช้น้ำยาบ้วนปากหลากหลายชนิด

แต่ก็ยังไม่วาย รู้สึกมีกลิ่นปาก ลมหายใจที่ไม่สะอาด....

ลองมาสังเกตลิ้นของท่านดูว่ามีคราบอาหารจับหรือไม่ ?

ท่านเคยทำความสะอาดลิ้นหรือเปล่า?

การทำความสะอาดลิ้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาสุขภาพในช่องปาก นอกจากการแปรงฟัน และใช้ Dental Floss เพื่อทำความสะอาดซี่ฟัน

เราจะทำความสะอาดลิ้นอย่างไร?

เดี๋ยวนี้มีอุปกรณ์ทำความสะอาดลิ้นทำจาก plastic เป็นรูปตัว U วิธีใช้ให้แลบลิ้นออกมาให้สุด ใช้ไม้ขูดลิ้น ขูดจากโคนลิ้นมาด้านหน้า ทำสัก 3-4 ครั้ง จะเห็นคราบอาหารติดออกมา เราจะทำวันละ 2 ครั้งต่อวัน ตอนเช้าตื่นนอน และหลังอาหารเย็นก่อนนอน

การทำความสะอาดลิ้นอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยลดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นแล้ว ยังมีผลทำให้ลิ้นสามารถรับรสได้ดีขึ้น (วารสารทันตแพทย์สมาคมสหรัฐอเมริกา ธันวาคม 1999) และก็มีข้อมูลที่น่าสนใจในวงการแพทย์ว่ามีความสัมพันธ์ที่มีนัยสำคัญว่า แบคทีเรียในช่องปากมีโอกาสทำให้ติดเชื้อและเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ และจากวารสารของสมาคมทันตแพทย์สหรัฐอเมริกาเดือนมีนาคม 2001 ก็ยืนยันว่าก๊าซที่เกิดจากแบคทีเรียในช่องปากมีโอกาสเกิดอันตรายต่อเยื่อ หุ้มปอดเช่นกัน

การขจัดแบคทีเรียในช่องปากนอกจากจะมีผลดีต่อสุขภาพในช่องปาก ทำให้ลดกลิ่นแล้ว ยังมีผลต่อสุขภาพร่างกายส่วนอื่นด้วย ไม่เป็นการเพียงพอแล้วสำหรับการแปรงฟัน ใช้ Dental Floss หรือน้ำยาบ้วนปาก

รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมทำความสะอาดลิ้นด้วยนะจ๊ะ

ที่มา : HealthToday




 

Create Date : 07 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 7 พฤษภาคม 2553 18:52:21 น.
Counter : 217 Pageviews.  

คุณใส่บราถูกขนาดอยู่รึเปล่า?

คุณเคยเจอปัญหาอย่างนี้ไหม?

1. เมื่อยหลัง เมื่อยไหล่ เมื่อยคอ
2. เป็นรอยแดงๆ จากการกดทับของเสื้อชั้นใน สายหรือแถบเสื้อในกดเนื้อเป็นรอยบุ๋มขณะใส่ โครงเหล็ก/ลวด ใต้บรา บีบรัดและกดทับเนื้อหน้าอก พอถอดออกแล้วเห็นเป็นรอยแดง
3. เป็นจ้ำ เป็นผื่นแดง ผื่นคัน ผดหรือสิวบริเวณที่เสื้อชั้นในสวมทับ
4. เนื้อหน้าอก (นม) ล้นเต้า(Cup) เสื้อในออกมา (กรณีที่ใส่บราธรรมดา ไม่ใช่ Push- Up Bra หรือเสื้อชั้นในแบบ Demibra หรือบิกินี่ เน้นการปกปิดที่น้อยที่สุดทำให้มันดูล้นๆ )
5. เสื้อชั้นในเหี่ยวๆ บุ๋ม หรือมีเนื้อที่เหลือระหว่างเสื้อชั้นใน กับเนื้อหน้าอก
6. เจ็บหน้าอก เวลาออกกำลังกาย เจ็บที่เนื้อ ผิวหนัง ไม่ใช่ที่อวัยวะภายใน เช่นกระดูก กระบังลม หัวใจ ปอด

ถ้าตอบว่าใช่ 1 ใน 6 ข้อข้างต้น แสดงว่า บราตัวนั้นๆ อาจไม่ใช่ขนาดที่เหมาะสมสำหรับคุณ

1. วัดรอบตัว การวัดรอบตัวทำได้ 2 วิธี ซึ่งควรจะวัดทั้ง 2 แบบ แล้วเปรียบเทียบกัน ถ้าวัดถูกต้อง ค่าที่ได้จะต้องเท่ากัน
แบบที่1
ใช้สายวัด วัดรอบลำตัวเหนือหน้าอก รอดใต้วงแขน วัดเป็นนิ้ว ถ้าได้เลขคี่ ให้ปัดขึ้นเป็นเลขคู่ เช่น 31 นิ้ว ปัดเป็น 32 นิ้ว ถ้าได้เลขคู่ ก็ใช้เลขนั้นได้เลย เช่น วัดได้ 32 นิ้ว ลำตัวของคุณคือ 32
แบบที่ 2
ใช้สายวัด วัดรอบลำตัว ใต้หน้าอก (แบบนี้คนไทยนิยมวัดกัน) วัดได้เท่าไหร่ บวกเพิ่มเข้าไปอีก 5 นิ้ว เช่น วัดได้ 27 นิ้ว บวก 5 ค่าลำตัวของคุณคือ 32 ถ้าบวกออกมาได้เลขคี่ ให้ปัดขึ้นเป็นเลขคู่

2. วัดรอบอก

การวัดรอบอก ใช้สายวัดวัดรอบจุดที่นูนที่สุดของหน้าอกคุณ แต่คราวนี้ให้วัดหลวมๆ หายใจปกติ วัดเป็นนิ้ว

3. หาขนาดเต้า
หรือ Cup ด้วยการนำ รอบอก(นิ้ว) - รอบลำตัว(นิ้ว) หรือนำผลที่ได้จากข้อ 2 หักลบด้วยผลที่ได้จากข้อ1 ผลลัพธ์ที่ได้ จะเป็นค่า CUP ของเสื้อใน A B C D ตามตาราง
ตารางเปรียบเทียบ ขนาดคัพ(ปริมาตร) ที่เท่ากัน แต่ลำตัวต่างกัน (ดูตามแนวดิ่ง)

32/70 A 34/75 A 36/80 A 38/85 A 38/85 B
30/65 B 32/70 B 34/75 B 36/80 B 36/80 C
30/65 C 32/70 C 34/75 C 34/75 D
6. ควรวัดขนาดหน้าอกตัวเอง ทุกๆ 1-2 ปี

และ-หรือ คอยสังเกตว่ารู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวเวลาสวมใส่เสื้อชั้นในหรือไม่ เพราะอาจเป็นสัญญาณบอกให้คุณเปลี่ยนขนาด เปลี่ยนแบบ เปลี่ยนยี่ห้อเสื้อชั้นในได้แล้ว

** เสื้อชั้นในควรซักมือ ตากในที่ร่มลมโกรก หรือแดดอ่อนๆ ส่วนกางเกงชั้นในใส่แล้วซักอย่าหมักหมม เดี๋ยวเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียจะมาเพาะพันธุ์ ซักมือหรือเครื่อง แล้วตากแดดฆ่าเชื้อโรคจะดีกว่า




 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 4 พฤษภาคม 2553 22:46:36 น.
Counter : 284 Pageviews.  

"เก๋ากี้" เครื่องยาจีน มีประโยชน์

      "เก๋ากี้" เป็นหนึ่งในส่วนผสมเครื่องยาจีนสำคัญที่เราเคยเห็นเคยชิมกันบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นไก่ตุ๋นยาจีนหรือแกงจืดต่างๆ ซึ่งเก๋ากี้นี้ถือเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศจีน ถือเป็นยาบำรุงชั้นดี และในอดีตเคยใช้เป็นผลไม้ถวายบรรณาการแด่ฮ่องเต้อีกด้วย

      ผลสดของต้นเก๋ากี้นั้นเป็นรูปรีมีสีแดง เนื้อหนา อ่อนนิ่ม รสหวานและออกขมนิดๆ ชุ่มคอ แต่ที่นำมาประกอบอาหารหรือตุ๋นยาจีนนั้นเป็นผลแห้ง เก๋ากี้มีคุณค่าทางอาหารมากมาย เช่น มีวิตามิน B1, B2, C ใน ปริมาณที่สูง มีกรดอะมิโน 18 ตัว ซึ่งในจำนวนนี้มี 8 ตัวที่ร่างกายขาดไม่ได้ รวมไปถึงแร่ธาตุสำคัญอย่างสังกะสี เหล็ก ทองแดง แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส มีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ทำหน้าที่ต้านอนุมูล อิสระ ช่วยปกป้องผนังเซลในร่างกายด้วย และยังพบสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides) ที่ช่วยกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดขาวทำงานได้ดีขึ้น

      นอกจากนั้น เก๋ากี้ยังมีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย บำรุงสายตา เพราะมีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยกล่อมประสาททำให้หลับสบาย บำรุงไต ตับ ปอด บำรุงเลือด ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง สดชื่น อีกทั้งยังช่วยชะลอความแก่ เป็นเหมือนยาอายุวัฒนะ สร้างภูมิคุ้มกันโรคให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ

ที่มา : daradaily.com




 

Create Date : 30 เมษายน 2553    
Last Update : 30 เมษายน 2553 16:35:12 น.
Counter : 254 Pageviews.  

ระวัง!! เครื่องดื่มเกลือแร่ทำฟันผุ

   ผลการศึกษาของทีมนักวิจัยสหรัฐพบว่า เครื่องดื่มเกลือแร่บำรุงกำลังที่นิยมดื่มหลังการออกกำลังกาย เป็นตัวการทำให้ฟันผุและมีผลเสียต่อคุณภาพของรอยยิ้มที่สดใสยิ่งกว่าน้ำอัด ลม น้ำหวานหรือน้ำผลไม้

   ศาสตราจารย์ มาร์ก วูล์ฟ แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ผู้นำการศึกษาในครั้งนี้กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่สามารถเชื่อมโยงความเกี่ยวพันกันระหว่างกรดซิตริกในเครื่อง ดื่มบำรุงกำลังกับการสึกกร่อนของตัวฟัน จากการทดสอบเครื่องดื่มบำรุงกำลังกับวัว ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีโครงสร้างของฟันคล้ายคลึงกับมนุษย์มากที่สุด พบว่าน้ำผลไม้และน้ำหวานที่ใช้เป็นส่วนผสมมีอัตราส่วนของกรดซิตริกในปริมาณ ที่สูงมาก ซึ่งสามารถทำลายเคลือบฟันได้ทันทีหลังการดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้เพียงไม่ กี่ครั้ง

   ที่สำคัญผลร้ายต่อฟันยังอาจอันตรายมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม หากผู้ดื่มใช้แปรงสีฟันปัดไปที่ฟันโดยตรงหวังขจัดคราบน้ำตาล ก็จะทำให้สารเคลือบฟันถูกทำลายมากยิ่งขึ้น อันเป็นผลมาจากการสีกันระหว่างกรดกับความแข็งของขนแปรง

   การที่เครื่องดื่มบำรุงกำลังมีน้ำตาลและกรดนั้นเนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่ได้ รับการออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพในการเพิ่มเติมเกลือแร่และของเหลวแก่ร่างกาย ที่สูญเสียไปผ่านเหงื่อระหว่างการออกกำลัง เพื่อให้ร่างกายฟื้นคืนสภาพกลับมามีพลังงานดังเดิมอีกครั้งหนึ่ง นอกจากกรดซิตริกแล้วจากการศึกษายังพบด้วยว่าเครื่องดื่มบำรุงกำลังบางยี่ห้อ มีกรดแอสคอร์บิก เพื่อเพิ่มเติมกลิ่นและรสชาติเป็นส่วนผสมที่สำคัญอีกด้วย

   ทั้งนี้ กรดที่อยู่ในเครื่องดื่มบำรุงกำลังจะเข้าไปกัดกร่อนสารเคลือบฟันที่เรียกว่า อีนาเมล หากไม่มีการรักษาอย่างทันท่วงที กรดจะทะลุส่วนของสารเคลือบเข้าไปทำลายฟันหรือเกิดอาการที่เรียกกว่าฟันผุ นั่นเอง

   ที่มา: หนังสือพิมพ์โลกวันนี้




 

Create Date : 30 เมษายน 2553    
Last Update : 30 เมษายน 2553 16:01:55 น.
Counter : 200 Pageviews.  

น้ำแอปเปิล . . . เสริมความจำ

      บรรดาผู้ที่ติดตามข่าวคราวทางสุขภาพคง เคยได้ยินประโยคที่ว่า An apple a day keeps the doctor away ซึ่งเปรียบสรรพคุณของแอปเปิลว่า การรับประทานแอปเปิลเพียงวันละผล สามารถทำให้ห่างไกลจากหมอหรือไม่ต้องไปหาหมอ ทั้งนี้เนื่องมาจากมีงานวิจัยหลายชิ้น กล่าวถึงประโยชน์มากมายของแอปเปิล ทั้งบำรุงหัวใจ ลดโคเลสเตอรอล ลดความดัน ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ลดความอยากอาหารและต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจช่วยลดการถูกโรคร้ายทั้งหลายคุกคาม และล่าสุดพบว่าการดื่มน้ำแอปเปิล ยังอาจช่วยเสริมความจำ และป้องกันภาวะสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้

      จากการศึกษาวิจัยในสัตว์ทดลองของ University of Massachusettse Lowell (UML) เผยว่าการ ดื่มน้ำแอปเปิลอาจช่วยเพิ่มการสร้างของสารสื่อประสาทในสมองที่มี ชื่อว่า อะซีทิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นตัวกำหนดความสามารถในการเรียนรู้และความทรงจำ จึงช่วยชะลอภาวะสมองเสื่อมได้ ปกติแล้วสารสื่อประสาททั้งหลาย รวมทั้งสารอะซีทิลโคลีน เป็นสารเคมีที่ถูกสร้างและหลั่งมาจากเซลล์ประสาทเพื่อส่งต่อไปยังเซลล์ ประสาทข้างเคียง เหมือนเป็นการส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาทด้วยกัน ในการควบคุมการทำงานของทุกส่วนในร่างกาย ตั้งแต่การนั่ง นอน ยืน เดิน รับประทาน รู้สึกและสัมผัส รวมถึงการนึกคิด

      ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยเผยว่า โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมของเซลล์สมอง จนก่อให้เกิดความบกพร่องทางความทรงจำ การตัดสินใจหรือการใช้เหตุผล โดยมักมีอาการหลงลืม สับสนหรืออารมณ์แปรปรวน ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดกับผู้สูงอายุนั้น จะมีปริมาณของสารอะซีทิลโคลีนในสมองน้อยกว่าปกติมาก อย่างไรก็ตามหากมีการเพิ่มปริมาณของสารอะซีทิลโคลีน ก็สามารถช่วยเพิ่มความทรงจำ ลดการหลงลืมและสามารถชะลอภาวะเสื่อมของสมองในผู้ที่เป็นอัลไซเมอร์ได้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่เผยว่า ผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างพวกบลูเบอร์รี แอปเปิลนั้น ก็มีส่วนช่วยชะลอภาวะความจำเสื่อมในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ และยังให้ผลดีกว่าพวกอาหารเสริม หรือวิตามินที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระทั้งหลาย

      โดยงานวิจัยนี้ได้ศึกษาในหนูทดลองปกติวัยผู้ใหญ่ วัยชรา และหนูทดลองสายพันธุ์พิเศษ ที่มีการตัดต่อพันธุกรรม จนสามารถเกิดอาการของโรคอัลไซเมอร์ แบบเดียวกับที่เกิดในคน โดยแบ่งให้รับประทานอาหารปกติ อาหารที่ขาดสารอาหารจำเป็น หรืออาหารที่ขาดสารอาหารที่จำเป็น แต่รวมกับการดื่มน้ำแอปเปิลเข้มข้นแทนน้ำ เป็นเวลา 1 เดือน พบว่าหนูปกติ วัยชรา และหนูที่เป็นอัลไซเมอร์ ซึ่งรับประทานอาหารที่ขาดสารอาหารที่จำเป็น จะมีปริมาณของสารอะซีทิลโคลีนในเนื้อสมองลดลง แต่ปริมาณของสารนี้กลับเพิ่มสูงขึ้น ในหนูที่ดื่มน้ำแอปเปิลเข้มข้นร่วมด้วย อีกทั้งเมื่อนำหนูเหล่านี้ไปทดสอบเกี่ยวกับการเรียนรู้และความจำ พบว่าหนูที่ดื่มน้ำแอปเปิลเข้มข้น จะมีพฤติกรรมการเรียนรู้ และความจำที่ดีกว่าหนูที่ไม่ดื่มน้ำแอปเปิล

      จึงเป็นไปได้ว่าการดื่มน้ำแอปเปิลเข้มข้นอาจช่วยเสริมความจำ โดยมีผลการเพิ่มปริมาณของสารสื่อประสาทอะซีทิลโคลีน ที่ช่วยกระตุ้นความทรงจำ เพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพการเรียนรู้ อีกทั้งช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง อันเนื่องมาจากอายุที่มากขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งน้ำแอปเปิลเข้มข้น ที่ให้หนูกินในแต่ละวัน สามารถเทียบได้กับการดื่มน้ำแอปเปิลเข้มข้นแก้วละ 8 ออนซ์ วันละ 2 แก้ว หรือเท่ากับการรับประทานแอปเปิลวันละ 2-3 ลูก

      ที่มา : นิตยสาร Health Today




 

Create Date : 30 เมษายน 2553    
Last Update : 30 เมษายน 2553 15:47:00 น.
Counter : 321 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  
 
 

ubuntu
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ubuntu's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com