|
|
|
|
|
|
ฟันดี ฟันสวย ...
ผู้หญิงเรามักเอาใจใส่แต่ผิวพรรณใบหน้าเสียเป็นส่วนใหญ่โดยไม่ทันสังเกต ว่าฟันสวยนี่แหละ คือเคล็ดลับง่ายๆ อย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม การหมั่นดูแลเอาใจใส่และรักษาสุขภาพฟันให้ขาวสดใส ไม่มีฟันผุ สามารถเติมเสน่ห์บนใบหน้าให้สวยดึงดูดใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ
มีการสำรวจพบว่าปัญหาสุขภาพในช่องปากของคนไทยส่วนใหญ่ ได้แก่ โรคฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งเกิดได้กับทุกเพศ ทุกวัย แต่สำหรับผู้หญิงอาจทำให้รู้สึกกังวลมากกว่า เพราะส่งผลโดยตรงต่อบุคลิกภาพและบ่งบอกถึงการดูแลเอาใจใส่ตนเอง
ฟันดี ฟันสวย ต้องหมั่นดูแล ...
การดูแลสุขภาพในช่องปากให้ดีอยู่เป็นประจำจะช่วยให้ฟันมีสุขภาพแข็งแรง เป็นเงางาม เพราะโดยปกติผิวเคลือบฟันของเราจะเรียบมัน และมีสีออกขาวขุ่น นอกจากนี้ผิวของฟันที่สะอาดจะไม่มีรอยคราบใดๆ หลงเหลืออยู่ แต่หากแปรงฟันไม่สะอาดพอ จะเกิดการสะสมของคราบอาหารและเชื้อแบคทีเรียบนตัวฟัน หรือที่เรียกว่าคราบจุลินทรีย์ (Dental Plaque) ซึ่งเป็นต้นเหตุของฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียที่ติดอยู่ในร่องหรือหลุมบนตัวฟันจะปล่อยสารพิษออก มาทำลายฟันจนเกิดเป็นรอยผุขึ้นในที่สุด
ตัวช่วยใหม่ในการดูแลฟัน
ทุกวันนี้เรามีทางเลือกมากมายในการดูแลรักษาสุขนามัยที่ดีในช่องปากและฟัน โดยขณะนี้มีสารตัวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม และเป็นที่ยอมรับกันว่ามีคุณสมบัติในการช่วยลดปัญหาเรื่องฟันผุได้อย่างง่าย ดาย นั่นคือ “ไซลิทอล” (Xylital) ซึ่งเป็นน้ำตาลแอลกอฮอล์ในธรรมชาติชนิดหนึ่ง พบได้ในผักและผลไม้หลาชนิด เช่น ต้นเบิร์ช สตรอว์เบอร์รี่ ราสพ์เบอร์รี่ ผักกาดหอม ผักโขม ดอกกะหล่ำ รวมถึงผลไม้เปลือกแข็งเช่น ถั่วเชสนัต และถัววอลนัต หรือแม้แต่ในร่างกายของเราก็สามารถผลิตขึ้นได้เองในตับ โดยเกิดในระหว่างกระบวนการสันดาปของกลูโคส ทั้งนี้ไซลิทอลจะให้ความหวานมากเท่ากับน้ำตาลซูโครส แต่กลับให้แคลอรีน้อยกว่าถึงร้อยละ 40
ไซลิทอลกับการป้องกันฟันผุ
เนื่องจากในไซลิทอลมีคาร์บอน 5 อะตอม ซึ่งแบคทีเรียในช่องปากอันเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุชื่อมิวแทน สเตรปโตค็อกไต (Mutans Streptococci) ไม่อาจย่อยสลายมาเป็นอาหารได้ ทำให้แบคทีเรียดังกล่าวอ่อนแอและค่อยๆ ลดจำนวนลง ดังนั้นถ้าใช้ไซลิทอลต่อเนื่องเป็นประจำจะช่วยแก้ปัญหาให้แบคทีเรียตัวนี้ และยังช่วยลดการเกิดคราบเชื้อจุลินทรีย์ที่ยึดเกาะฟันได้อีกด้วย
ประโยชน์สำคัญอีกอย่างของไซลิทอล
ช่วยในการคืนกลับของแร่ธาตุ (Remineralization) โดยปกติฟันผุเกิดจากองค์ประกอบ 3 ส่วนคือ น้ำตาล แบคทีเรีย และฟัน เมื่อเรากินอาหาร แป้งจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ส่วนแบคทีเรียในปากจะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นกรด จึงทำให้มีค่า pH ในช่องปากลดลง ซึ่งกรดนี้จะทำลายแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ เช่น แคลเซียมและฟอสเฟตต่างๆ ที่เคลือบฟันอยู่ให้หลุดออกไป เป็นการทำลายสารเคลือบฟัน (Deminalization) ตามธรรมชาติ
น้ำลายของเราก็เป็นตัวช่วยให้แร่ธาตุต่างๆ ที่หลุดออกไปกลับคืนสู่ฟันอีกครั้ง ซึ่งถ้าหากมีไซลิทอลผสมอยู่จะช่วยให้น้ำลายมีความสามารถในการสะเทินกรดด่าง ได้ดีขึ้น และเมื่อมีการสะสมแร่ธาตุคืนกลับ จะช่วยป้องกันฟันผุ ลดการสูญเสียเนื้อฟัน หรือในผู้ที่มีรอยผุระยะเริ่มแรก (White Spot Lesions) ก็จะไม่เกิดเป็นรูผุเพิ่มขึ้น
ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
ไซลิทอลเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากกว่า 30 ปีในแถบยุโรป โดยได้รับการรับรองถึงประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุจากสมาคมทันตแพทย์ชั้นนำ กว่า 10 ประเทศ เช่น ฟินแลนด์ แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส จากนั้นก็ขยายสู่อเมริกา และมาถึงเอเชียในปี พ.ศ. 2540 โดยเริ่มจากประเทศญี่ปุ่น เกาหลี จีน และไต้หวัน ด้วยคุณประโยชน์หลายอย่างที่มีต่อสุขภาพปากและฟัน ดังนั้นนอกเหนือจากฟลูออไรด์ซึ่งแพร่หลายมานานและเป็นที่รู้จักกันดีในเมือง ไทยในเรื่องของประสิทธิภาพป้องกันฟังผุ โดยมีทั้งนิยมใช้เป็นส่วนผสมอยู่ในยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก และชนิดรับประทาน สารไซลิทอลจึงนับเป็นทางเลือกใหม่ที่มีส่วนช่วยดูแลป้องกันฟันผุ สามารถนำมาเป็นส่วนประกอบที่ให้ความหวานแทนน้ำตาลในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น หมากฝรั่ง ลูกอม น้ำยาบ้วนปาก รวมทั้งนำมาเป็นส่วนผสมในยาสีฟัน ซึ่งการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไซลิทอลจำเป็นต้องเลือกชนิดที่มี ปริมาณเกินร้อยละ 50 ของปริมาณสารให้ความหวานที่เป็นส่วนผสมอยู่ และถ้าเป็นหมากฝรั่งก็ควรจะเคี้ยวนานอย่างน้อย 3 นาทีขึ้นไป จึงจะได้ผลในการป้องกันฟันผุ
อาหารที่มีประโยชน์กับฟัน
อาหารที่อุดมด้วยแมกนีเซียม เช่น ผักสีเขียว ปลาเล็กที่กินได้ทั้งตัว ธัญพืช ถั่วเหลือง เมล็ดเปลือกแข็ง รวมทั้งอาหารอุดมด้วยฟอสฟอรัส เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ผลิตภัณฑ์จากนม จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ฟัน ส่วนอาหารที่มีผลทำให้เกิดฟันผุก็คือ อาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ดังนั้นควรเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลให้มากที่สุด หรือเลือกชนิดที่มีน้ำตาลต่ำ ผลไม้ชนิดที่ไม่หลานจัด เช่น ฝรั่ง ชมพู่ แอปเปิ้ล สำหรับเครื่องดื่ม ไม่ควรดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน และน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเนื่องจากมีฤทธิ์เป็นกรดหรืออาจเคี้ยวหมากฝรั่ง ซึ่งมีส่วนผสมของไซลิทอลหลังอาหาร เพื่อช่วยลดการเกิดฟันผุได้
รักฟัน... ต้องเอาใจใส่ฟัน
แม้ว่าไซลิทอลจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาในการดูแลรักษาฟัน แต่การหมั่นดูแลฟันโดนการแปรงฟันอย่างถูกวิธีด้วยแปรงสีฟันที่มีคุณภาพดี ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน การใช้ไหมขัดฟันนอกจากเพื่อขจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ ยังช่วยขจัดคราบจุลินทรีย์ที่มองไม่เห็นได้ด้วย โดนคราบฟันที่เราสามารถขจัดออกได้โดยการแปรงฟันร่วมกับไหมจัดฟันนี้ต้องเป็น คราบฟันที่เพิ่งเกิดไม่เกิน 24 ชั่วโมง เนื่องจากถ้าปล่อยคราบฟันทิ้งไว้เกิน 24 ชั่วโมง ก็จะเริ่มมีแร่ธาตุต่างๆ มาจับและตกตะกอนมากขึ้น โดยที่เราไม่อาจขจัดออกไปได้และจะสะสมตัวกลายเป็นหินปูนที่จำเป็นต้องให้ ทันตแพทย์ เป็นผู้ขจัดออก ทั้งนี้การดูแลสุขภาพในช่องปากที่ดีจะส่งผลให้มีเหงือกและฟันแข็งแรง ไม่ติดเชื้อง่ายและบดเคี้ยวอาหารได้ดี ส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารเป็นไปด้วยดี และยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย เป็นการเติมเต็มคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีทั้งภายในและภายนอก
ดูแลฟันอย่างไรให้ถูกวิธี?
1. แปรงฟันอย่างน้อยวัยละ 2 ครั้ง และควรบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดทุกครั้งหลังอาหาร ส่วนผู้ที่ใส่ที่ ดัดฟัน หรือใส่ฟันปลอมต้องแปรงฟันทุกครั้งหลังอาหาร 2. ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละครั้ง 3. เลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพฟัน และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง 4. ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ข้อมูลเพิ่มเติม
ชมรมป้องกันฟันผุ (Thailand Society for Tooth Decay Prevention หรือ TSTDP) ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2546 โดยเป็นการรวมตัวของทันตแพทย์และคนในวงการทันตกรรมที่สนใจประโยชน์ของสารไซ ลิทอลเพื่อป้องกันฟันผุ รวมทั้งความก้าวหน้าต่างๆ ทางวิชาการที่จะช่วยป้องกันฟันผุ และร่วมกันเผยแพร่ประโยชน์ของไซลิทอลสู่ทั้งทันตแพทย์ สื่อมวลชน และสาธารณชน
ที่มาบทความ: นิตยสาร Elle
Create Date : 25 มีนาคม 2553 |
Last Update : 25 มีนาคม 2553 16:23:14 น. |
|
0 comments
|
Counter : 261 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|