All Blog
Acne Skin Routine รีวิวสกินแคร์กู้ผิวหน้าพังหลังสิวบุก








Acne Skin Routine รีวิวสกินแคร์กู้ผิวหน้าพังหลังสิวบุก


ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาเรียกได้ว่า ผิวหน้าอีฟพังมากกกกกค่ะ

มากที่สุดในรอบสิบปีเลยก็ว่าได้ ไม่รู้ว่าอัดอั้นมาจากไหน ปะทุแบบแทบไม่อยากส่องกระจก แถมยังเจอปัญหาหน้าแห้งลอกแล้วก็รอยดำจากสิวอีก ใครเห็นเป็นต้องทักว่าไปทำอะไรมาทำไมหน้าเยินขนาดนี้



รูปนี้ถ่ายเมื่อ 30 มี.ค. 61 ที่ผ่านมาค่ะ



ส่วนรูปนี้ถ่าย 9 พ.ค. 61


ผิวหน้าดีขึ้น ถึงยังไม่ได้เนียนใส  100% เหมือนเดิม แต่ก็ถือว่าดีขึ้นมากๆ จากตอนแรกที่ผิวแทบไม่มีที่ว่าง สิวขึ้นเต็มหมด ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก แก้ม คาง ลามไปถึงคอ ตอนนี้เหลือสิวเล็กน้อยกับรอยดำจากสิวที่ถือว่าจางลงไปมาก อีฟเลยอยากมาแชร์สกินแคร์ที่ใช้แล้วตอบโจทย์คนที่ประสบปัญหาผิวเพราะสิวบุก วันนี้จิ้มมาเฉพาะตัวที่ใช้แล้วผิวดีขึ้นจริง เพราะตอนเป็นสิวไม่กล้าใช้อะไรเยอะ กลัวสิวเห่อหนักกว่าเดิมค่ะ



เริ่มจากตัวแรก Moha Rose Mist เป็นสเปรย์น้ำกุหลาบผสมว่านหางจระ ฉีดเหมือนสเปรย์น้ำแร่ ช่วยให้สดชื่น ผิวหน้าชุ่มชื้น เป็นการเตรียมผิวสำหรับการบำรุงต่อไป ส่วนตัวใช้แล้วชอบ ติดอย่างเดียวคือกลิ่น เพราะมันไม่ได้หอมกลิ่นกุหลาบ แต่เป็นกลิ่นสมุนไพรจัดๆ เลยจ้า ตอนฉีดก็กลั้นหายใจเอา ซักพักกลิ่นมันก็หายไปเองค่ะ 555



Burnova Gel เจลว่านหางจระเข้ อันนี้รักมากกกก เคยรีวิวไปแล้ว ทุกคนที่ซื้อมาใช้ตามอีฟก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าดีมากๆ อ่อนโยน ผิวเป็นสิว แพ้ง่ายก็ทาได้ เพราะเจลว่านหางจระเข้นอกจากช่วยให้ผิวชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยลดอาการผิวลอก อาการคัน สมานแผลจากสิว แล้วก็ลดรอยแผลเป็นด้วย เวลาทายาสิวผิวจะแห้งลอก พอกตัวนี้เข้าไปก็ช่วยได้ เนื้อเจลซึมไว ไม่เหนียว ไม่ทำให้ผิวมันเยิ้ม ราคาไม่แพง เซเว่นมีขาย วัตสันก็มี ราคาไม่แพงด้วย โอ้ย คุ้ม! บอกเลย



สิวหายแต่รอยสิวยังตามหลอกหลอน ตัวที่อีฟใช้ลดพวกรอยดำจากสิวคือ NOWSO Madonna Lily Serum ไปเจอมาจากโฆษณาในเฟสบุ๊ก เป็นเซรั่มมาดอนน่าลิลลี่ มีสารสกัดจากดอกมาดอนน่าลิลลี่ที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องผลัดเซลล์ผิว ควบคุมการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยแก้ปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำจากต้นเหตุ แถมยังช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ที่กล้าใช้ตอนรักษาสิวเพราะอ่อนโยน ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำหอม แล้วก็ไม่มีซิลิโคน ไม่ทำให้อุดตันเพิ่ม


เนื้อเซรั่มเข้มข้นแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าผิวเร็ว มีกลิ่นหอมอ่อนๆจากธรรมชาติ ตอนทาก็จะรู้สึกเย็นๆ หลัวทาผิวจะลื่นๆ วาวๆ ดูฉ่ำน้ำ อีฟทาหลังล้างหน้าเช้า-ก่อนนอน รอยดำจากสิวค่อยๆ จางลง ย้ำว่าค่อยๆ จางนะคะ ไม่ได้หายไปแบบปุบปับ ใช้ไปเรื่อยๆผิวมันจะค่อยๆ ผลัด แล้วก็ดูเรียบเนียนขึ้นด้วย หาซื้อได้ที่

https://www.nowsothailand.com/serum/

https://www.facebook.com/NOWSOofficial/



เซรั่มวิตามินอีของยันฮี หาซื้อได้ในเซเว่นเช่นกัน ตัวนี้ชอบตรงที่เนื้อเซรั่มเข้มข้นแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยเรื่องกระชับผิว ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น ลดริ้วรอยแห่งวัย



คือพอเป็นสิวแล้วต้องพักพวกครีมบำรุงทั้งหลาย หน้าก็แห้งเพราะยาแถมยังเหี่ยวย่น ใช้ตัวนี้ช่วยได้ ผิวหน้าจะนุ่มๆขึ้น ดูฟูๆ ไม่แห้งเหี่ยว เนื้อซึมไว ไม่ทิ้งความมัน ทาแล้วแต่งหน้าต่อได้ ไม่ทำให้หน้าเยิ้ม ด้วยความที่เนื้อข้นสุดในบรรดาสกินแคร์ที่กล่าวมา ก็เลยทาเป็นขั้นตอนสุดท้ายค่ะ



แถมรูปตอนแต่งหน้า รู้สึกว่าผิวดูเนียนขึ้น (ใช้แป้งพัฟ ไม่ได้ใช้รองพื้นค่ะ) จากตอนแรกที่พังมาก แต่งหน้าก็ไม่ติด ตอนนี้คือเหลือแต่รอยสิว พอแต่งหน้านิดหน่อยก็โอเค ไม่ต้องโบกรองพื้นหนา ผิวไม่เป็นตะปุ่มตะป่ำ คือดีใจมากกกกก


ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับสาวๆที่กำลังเจอปัญหาผิวคล้ายๆ อีฟนะคะ คือเข้าใจเลยว่าเวลาเป็นสิว ผิวแย่เนี่ยมันจิตตกขนาดไหน แต่ยังไงก็อย่าเครียดนะคะ เข้มแข็งไว้แล้วฟื้นฟูผิวไปด้วยกันค่า ;)






Create Date : 05 มิถุนายน 2561
Last Update : 18 กันยายน 2561 14:34:15 น.
Counter : 3075 Pageviews.

0 comment
Review & How To ::: cute press Asta Gold ตัวช่วยแต่งหน้าในช่วงอากาศแห้งผิวลอกเป็นขุย + แต่งหน้าฉ่




Review & How To ::: cute press Asta Gold

ตัวช่วยแต่งหน้าในช่วงอากาศแห้งผิวลอกเป็นขุย + แต่งหน้าฉ่ำโกลวแบบคิวท์ๆ


สวัสดีค่ะทุกคน ช่วงนี้อากาศหนาวแล้วนะคะ (ซึ่งน่านอนดีมาก อยากให้เป็นแบบนี้ไปนานๆ) 
และถึงจะหนาวได้ไม่กี่วันแต่ก็สัมผัสได้ว่า ผิวมีความแห้งมากขึ้น 
ปัญหาหน้ามันแต่บางจุดแห้งลอกเป็นขุย แต่งหน้าแล้วไม่เนียน เครื่องสำอางไม่ติดผิวก็มา 
วันนี้อีฟเลยจะมาแนะนำไอเท็มที่ช่วยบำรุงผิวในยามอากาศแห้งๆ แบบนี้ 
แถมทำให้เครื่องสำอางติดผิวเรียบเนียนเวลาแต่งหน้าด้วยค่ะ


ชื่อของนางคือ cute press Asta Gold Oil Essence เป็นออยล์ เอสเซ้นซ์ ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากสาหร่ายสีแดงของญี่ปุ่น (Astaxanthin)

กับผงทองคำบริสุทธิ์ 24k นอกจากนี้ส่วนผสมที่เด่นๆ ก็จะมีวิตามิน A, C, E

น้ำมันสกัดจากธรรมชาติและไลโคปีนจากมะเขือเทศค่ะ


คุณสมบัติหลักๆ ที่เค้าเคลมมา คือ ช่วยบำรุงผิวให้กระชับเรียบเนียน ลดริ้วรอยและจุดด่างดำ

ให้ความชุ่มชื้นยาวนาน 8 ชั่วโมง พร้อมปกป้องผิวจากรังสียูวีและมลภาวะด้วย



ที่เลือกมาเพราะอ่านดูส่วนผสมแล้วคิดว่าเหมาะกับคนเรื่องเยอะปัญหาผิวหน้าแยะแบบอีฟ

คือออยล์เอสเซ้นซ์ตัวนี้นางปราศจากส่วนผสมหลายอย่างที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือผิวอุดตันอย่างพวกมิเนรัล ออยล์ แอลกอฮอล์ ซิลิโคน

ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็ใช้ได้ อันนี้ถูกใจมาก เพราะผิวอีฟแพ้ง่ายมากสิวเห่อง่ายมากเช่นกัน

เลยค่อนข้างจะระวังเวลาเลือกใช้สกินแคร์ค่ะ


ฝาขวดเป็นดรอปเปอร์แบบไฮโซ ไม่ต้องบีบ แต่ใช้การกดไป 1 ครั้งก่อนเปิดฝา

แล้วก็กดอีกทีเพื่อหยดออยล์บนผิว ใช้ง่าย อันนี้ชอบ


เนื้อสัมผัสเหลว สีเหลืองทอง มีความเป็นออยล์แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาไปซักพักเนื้อออยล์จะซึมเข้าไปในผิว

ไม่ทิ้งความมัน จนแบบงงๆว่านี่เอาน้ำมันทาหน้าจริงเหรอ ทำไมไม่มันไม่เหนียว

แต่เดี๋ยวจะหาว่าอวย แนะนำให้ลองเองว่าจริงมั้ย


เค้าบอกว่าใช้ได้ทุกสภาพผิว อีฟว่าก็ใช้ได้นะ แต่ปริมาณที่ใช้ก็ต้องแตกต่างกันไปตามสภาพผิว

อย่างคนผิวแห้งก็ใช้เยอะหน่อยซัก 3 หยด แต่ถ้าผิวมันใช่แค่หยดสองหยอดก็พอค่ะ


จากที่ใช้มา อีฟว่าความดีงามของออยล์เอสเซ้นส์ตัวนี้คือ นอกจากจะทาแล้วผิวหน้าชุ่มชื้น

รอยสิวหายเร็วแล้ว นางยังช่วยให้เครื่องสำอางเนียนติดผิวดีขึ้น ไม่เป็นคราบ

แถมเอาไปผสมพวกรองพื้นหรือบีบีเพื่อสร้างลุคผิวฉ่ำโกลวได้ด้วย


วันนี้อีฟมีตัวอย่างฮาวทูแต่งหน้าลุคฉ่ำโกลวด้วยเอสเซ้นซ์ออยล์ของคิวท์เพรสมาฝากด้วยค่ะ

ทุกคนจะได้เห็นภาพว่า เวลาเอาไปผสมรองพื้นแล้วมันจะได้งานผิวประมาณไหนนะคะ


เริ่มจากมาดูหน้าสดกันก่อนค่ะ ผิวก็จะสุดโต่งหน่อย บางที่ก็มันมาก บางที่ก็แห้งลอกเป็นขุย



รองพื้นที่ใช้เป็น 2 สีผสมกัน สีเข้มของ Sola สีอ่อนของ Nars ค่ะ



ผสมออยล์เอสเซ้นซ์ 1 หยด กับรองพื้นแล้วก็เกลี่ยให้เข้ากัน



อีฟใช้ฟองน้ำชุบน้ำบิดหมาดๆลงรองพื้นค่ะ เกลี่ยง่ายแล้วก็เนียนดี จะเห็นว่าพอใช้ออยล์เอสเซ้นซ์ผสมเข้าไปในรองพื้น ผิวดูฉ่ำวาวขึ้นชัดเจน ขนาดยังไม่ได้ลงไฮไลท์



ใช้คอนซีลเลอร์ปิดรอยคล้ำใต้ตาแล้วก็พวกรอยสิว



ทาแป้งบางๆ เพื่อเซ็ทรองพื้น



เขียนคิ้วตามอัธยาศัย



งานตาวันนี้จะเป็นแบบน้อยแต่มาก เน้นสดใสแบบคลีนๆ

ลงอายชาโดวสีนู้ดชมพูอมส้มให้ทั่วเปลือกตา

(3CE สี Gotta Do)



ใช้สีน้ำตาลคัดเบ้า เน้นหางตากับขอบตาล่างให้ตาดูมีมิติ



ใช้แปรงหัวตัดกับสีน้ำตาลเข้ม เขียนเส้นชิดขอบตาบน แล้วก็ช่วงหางขอบตาล่าง



กรีดอายไลเนอร์เส้นยาวพอดีๆ ไม่ตวัดหางขึ้นสูง


ดัดขนตาปัดมาสคาร่า แล้วก็ติดขนตาปลอมค่ะ



เฉดดิ้งสันจมูกกับกรอบหน้า



ปัดแก้มด้วยสีพีช (Tarte สี Mod)



ทาลิปสีพีช (Revlon สี Smoked Peach) แล้วเติมด้านในปากด้วยสีที่เข้มกว่า (ปากแห้งมาก ลืมทาลิปมัน T^T)



ไฮไลท์จุดที่อยากให้ดูสว่างและพุ่ง >> หน้าผาก สันจมูก หัวตา โหนกคิ้ว คาง ปาก เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ



พร้อมเซลฟี่



ยิ้มหวานให้ผู้ 1 ที (แทนคำขอบคุณที่ถ่ายรูปให้ 555)



ลุคมันแบ๊วขอทำหน้าแบ๊วนิดนึง



ลากันไปด้วยท่า “เห้อ.. กลุ้มใจ สวยแล้วจะไปไหนต่อดี” 555555


จบดีกว่าเนอะ ไว้เจอกันใหม่คราวหน้าค่ะ


บายยยย






Create Date : 22 ธันวาคม 2560
Last Update : 22 ธันวาคม 2560 11:58:17 น.
Counter : 1927 Pageviews.

1 comment
[รีวิว] คอนแทคเลนส์สีรายวัน Maxim Sof eye คนตาแห้งเว่อใส่แล้วจะรอดไหม?


[รีวิว] คอนแทคเลนส์สีรายวัน Maxim Sof eye คนตาแห้งเว่อใส่แล้วจะรอดไหม?


สวัสดีค่ะซิสๆทั้งหลาย

วันนี้อีฟจะมารีวิวคอนแทคเลนส์ที่ใช้แล้วชอบ Maxim Sof eye 1 day ซึ่งเป็นคอนแทคเลนส์สีรายวันใหม่จาก Maxim ค่ะ

เห็นรีวิวจากในจีบันแล้วก็หลายๆบล็อกเค้าว่านิ่ม ตาแห้งก็ใส่ได้ เลยอยากลอง

เพราะปกติอีฟเป็นคนที่ตาแห้งมาก แล้วก็นอนดึก ตื่นมาตาก็ยิ่งแห้ง

ชีวิตประจำวันจะใส่แว่นมากกว่าคอนแทคเลนส์ แต่ก็ชอบใส่คอนแทคเลนส์สี เพราะเวลาแต่งหน้าถ่ายรูปมันดูเปลี่ยนลุคดี

แต่ด้วยความที่ตาแห้งมากเลยทำให้หาคอนแทคเลนส์ใส่ยาก มีไม่กี่แบรนด์ที่ใส่ได้

แบบรายเดือนที่ว่านิ่มแล้วอีฟใส่ได้อย่างมากไม่เกิน 3-4 ชั่วโมง

ส่วนแบบรายวันจะนิ่มกว่าและใส่ได้นานกว่า (แต่ก็เต็มที่ไม่เกิน 6 ชั่วโมง)





ที่ผ่านมาเราจะคุ้นเคยกับคอนแทคเลนส์สีแบบรายเดือนกับพวกบิ๊กอายของแม็กซิมใช่มั้ยคะ

แต่คอนแทคเลนส์รุ่น Sof eye 1 day อันนี้แหวกความเชื่อเกี่ยวกับแบรนด์แม็กซิมของอีฟไปเลย

เพราะอันนี้มาแบบรายวัน แถมเป็นสีแนวธรรมชาติ ขนาดเท่าตาปกติ ไม่โตแบบบิ๊กอาย

ใส่ครั้งแรกคือแบบ นิ่มจริงๆแฮะ ใส่ได้ไม่เคืองตา แล้วก็ไม่ทำให้ตาดูโตเว่อเหมือนเอเลี่ยน




คอนแทคเลนส์รุ่นนี้เป็นแบบรายวัน ก็คือใช้งานได้ไม่เกิน 1 วัน และใช้ได้ครั้งเดียว

ไม่ควรเอามาใช้ซ้ำ เพื่อความสะอาดและปลอดภัยต่อดวงตาอันมีค่าของเรานะคะ

1 กล่องมี 10 ชิ้น (5 คู่) อีฟซื้อที่ร้านแว่นในห้างแถวบ้าน ราคาโปรกล่องละ 425 บาท

มี 2 สี ให้เลือก คือ Bogy Gray และ Bogy Brown

มีทั้งค่าสายตาปกติ จนถึงสั้น -12.00

DIA : 14.2

B.C : 8.6

ค่าอมน้ำ 42%

ประเทศที่ผลิต: Korea



ทีนี้มาดูสีของคอนแทคเลนส์กันค่ะ อีฟว่าเป็นสีแนวธรรมชาติที่คนแต่งหน้าน้อยก็ใส่ได้

คือมันไม่ลอย ไม่หลอก ทำให้ดูตาโตขึ้นนิดนึง แต่ยังดูธรรมชาติ ไม่โป๊ะ

เหมาะกับน้องๆ นักเรียนนักศึกษา ใส่ไปเรียนได้ค่ะ



สีเทา Bogy Gray


สีนี้ดูธรรมชาติ เรียบร้อยแต่สวย คือถ้ามองไกลๆ จะรู้สึกว่าเออ.. ตาดูมีอะไรเนอะ

แต่ถ้าไม่สังเกตจะไม่รู้ว่าใส่คอนแทค ทำให้ตาดูโตขึ้นนิดนึง เพราะมีการตัดขอบด้วยสีเข้ม



ก่อนใส่และหลังใส่ ตาอีฟสีเข้มมากก็จะเห็นสีประมาณนี้ค่ะ





สีน้ำตาล Bogy Brown


สีนี้เป็นแบบ 3 tone ชัดเจนกว่าอีกสี ทำให้สีตาดูอ่อนลง หน้าดูซอฟท์ แต่ยังคงดูธรรมชาติ

ไม่โดด ทำให้ตาดูโตขึ้นเพราะตัดขอบด้วยสีเข้มเช่นกัน



ส่วนตัวอีฟชอบสีนี้ เพราะสีมันดูนัวๆ มีน้ำตาล เหลือง เขียว ปนๆกัน ช่วยเปลี่ยนสีตาได้

แบบยังดูเป็นธรรมชาติ แต่งหน้าแนวใสๆก็ยังเอาอยู่


ตอนที่ลองใส่ครั้งแรกคือใส่ไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง ก็ยังรอดอยู่ ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ


ข้อดีของการใส่คอนแทคเลนส์รายวันคือ มันนิ่มกว่าคอนแทครายเดือน

ทำให้คนที่มีปัญหาตาแห้งสามารถใส่ได้นานขึ้น แล้วก็รักษาความสะอาดได้ง่าย

เพราะใช้แล้วทิ้งเลย ไม่ต้องมาล้างมาแช่ให้วุ่นวาย ประหยัดค่าน้ำยาล้างคอนแทคไปด้วย

ใครที่มีปัญหาคล้ายๆอีฟ แนะนำให้ลองค่ะ






Create Date : 12 ธันวาคม 2560
Last Update : 12 ธันวาคม 2560 16:47:52 น.
Counter : 7585 Pageviews.

1 comment
[รีวิว] ทำผมสีเทางบ 1,500 + ชี้เป้าร้านทำสีผมราคาจิ๋วบริการแจ๋ว






[รีวิว] ทำผมสีเทางบ 1,500 + ชี้เป้าร้านทำสีผมราคาจิ๋วบริการแจ๋ว



สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้อีฟจะมารีวิวการทำสีผมที่ร้านครั้งแรกในรอบหลายปี

ต้องบอกก่อนว่าปกติอีฟเป็นคนที่ไม่ได้เปลี่ยนสีผมบ่อยนะ อย่างมากก็ปีละครั้ง

แล้วส่วนใหญ่ก็จะเลือกซื้อสีมาย้อมเอง เพราะประหยัด (ตามสไตล์ชะนีขี้งก 555)

แต่คราวนี้อยากลองเปลี่ยนลุคบ้าง (ล่าสุดย้อมสีน้ำตาลช็อคโกแลต พอสีหลุดหมดกลายเป็นสีส้ม ได้ลุคสาวสก๊อยนิดๆ)



อยากได้สีอื่นที่ชัดเจนกว่าสีน้ำตาล และไม่อยากให้มันอมส้มเหมือนเดิมแล้ว ก็เลยเลือกเป็นสีเทา

ซึ่งคิดว่าถ้าซื้อมาทำเองคงไม่ค่อยเวิร์ค เพราะพื้นสีผมเดิมตอนนี้มันส้มมากเด้อ ทำเองกลัวไม่เทาแต่จะเน่าแทน ฮ่าๆ ทำที่ร้านจะดีกว่าเนอะ


ร้านที่อีฟไปทำสีผมมาชื่อว่า Rapi-Rabi (ราปิ-ราบิ) เป็นร้านที่ให้บริการทำสีผมโดยเฉพาะ

ความเก๋คือ ค่าบริการทำสีผม 1,500 บาท (ไม่รวมค่าฟอกสี) ไม่ว่าจะผมสั้นหรือผมยาวก็ราคาเดียวกันค่ะ


พิกัดร้าน Rapi-Rabi อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 เข้าไปในซอยค่อนข้างลึก ไม่ได้ติดถนนใหญ่นะคะ แต่เสิร์ชชื่อร้าน Rapi-Rabi Hair Coloring ในกูเกิ้ลแมพได้ รับรองไปถูก



ร้านจะอยู่บนชั้น 2  ของตึกนะคะ คือถ้ามองจากข้างล่างจะมองไม่เห็นหน้าร้าน ต้องเดินขึ้นบันไดนิดนึง


คำจำกัดความของร้านนี้คือ “น่ารักมาก” อีฟชอบทุกอย่างของร้านนี้ ตั้งแต่โลโก้ร้าน บรรยากาศ สถานที่ไปจนถึงช่างทำผม

คือทุกอย่างในร้านนี้ทำให้อีฟรู้สึกถึงความใส่ใจ เดี๋ยวทุกคนอ่านจนจบแล้วจะรู้ว่าทำไม



บรรยากาศในร้านสงบ สะอาด มีเสียงเพลงญี่ปุ่นคลอเบาๆ

ทุกอย่างดูเรียบง่ายและ cozy



ตรงโต๊ะที่จะนั่งทำสีผมสะอาด ทุกอย่างวางเรียบร้อย

ประทับใจตรงที่อีฟใส่แว่นมา แล้วต้องถอดวางไว้ แต่ไม่ได้วางบนโต๊ะเฉยๆ นะ เค้ามีกล่องแว่นเตรียมไว้ให้ใส่



พอนั่งปุ๊บ ช่างก็ขอดูผม ถามเราว่าอยากได้สีอะไร แล้วก็เอาชาร์ทสีมาให้ดู

ว่าพื้นสีผมประมาณเราเนี่ย ถ้าย้อมสีโดยไม่ฟอกผมก่อน จะได้สีในระดับไหน



อีฟเลือกสี Grey Pearl เพราะดูจากชาร์ทแล้วสวยดี ดูเรียบหรู มีความประกายเทาชัดเจน

ซึ่งช่างบอกว่าสีผมของอีฟเนี่ย ถ้าไม่ฟอก ทำออกมาแล้วจะได้ประมาณระดับ 5 หรือ 7 ในชาร์ทสี

คือจะไม่ได้สว่างมาก แต่ก็เห็นประกายสีชัดเจน แล้วก็บอกว่าผมอีฟติดส้มจะใช้สีเขียวผสมเข้าไปเพื่อกลบความส้มนั้น



ตกลงสีได้แล้วก็ไปสระผม ความฟินมันอยู่ตรงนี้เลยยยย

พี่ช่างสระดีมากกกกกก คือสระแบบใส่ใจอะ เกานาน เกาสบาย เคลิ้มจนจะหลับ

แชมพูก็หอมมาก ฟินจนอยากจะถามว่าที่ร้านมีบริการสระอย่างเดียวมั้ยคะ อยากสระต่ออีกซักชั่วโมง 555



ช่างบอกว่าที่ร้านใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากญี่ปุ่นทั้งหมด สีที่ใช้วันนี้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่จากแบรนด์ Milbon Ordeve Addicthy ที่ผลิตในญี่ปุ่นเช่นกัน

ชื่อสี GreyPearl ความโดดเด่นของสีย้อมผมอันนี้คือ ไม่มีเม็ดสีน้ำตาลเจือปน

ทำให้ได้สีที่ต้องการชัดเจน เห็นประกายสีชัดและมีความโปร่งใส



ก่อนลงสี ช่างจะทาวาสลีนตรงผิวที่อยู่ใกล้ๆโคนผม เพื่อไม่ให้สีเลอะมาติดที่ผิวค่ะ

เค้ามีพลาสติกครอบหูให้ด้วย ไม่ต้องกลัวหูเลอะ จากนั้นก็ค่อยลงสีจนทั่ว แล้วทิ้งไว้

(ในรูปที่เห็นหลับตานั่นคือลืมตาไม่ขึ้น เคลิ้มจนจะหลับจริงๆ)


ที่อีฟไม่ค่อยทำสีผมเป็นเพราะไม่ชอบดมกลิ่นน้ำยาเหม็นๆนานๆ

แต่ครั้งนี้เซอร์ไพรส์มาก มันไม่เหม็นเลย คือมีกลิ่นอ่อนๆ แต่ไม่เหม็นไม่ฉุน



ระหว่างรอให้สีผมได้ที่ ก็มีเมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมาให้เลือกดื่มฟรีด้วย อีฟเลือกชามะลิหอมชื่นใจ



พอได้เวลาก็ไปสระผม ล้างสีออก ลงทรีทเมนต์ แล้วก็มาเป่าผม เซ็ททรงค่ะ



และนี่คือ Before & After ค่ะ

สีที่ได้คือดีงามถูกใจ ผมดูเงาสวยสุขภาพดีกว่าตอนก่อนทำอีก


ถ้ามองในร่มจะได้สีประมาณนี้ ไม่ได้สว่างมาก แต่พี่ช่างบอกว่าสระไปเรื่อยๆ นานไปมันจะสว่างขึ้น แต่จะไม่กลายเป็นสีส้มๆเหมือนเดิม จะออกน้ำตาลธรรมชาติแทน



ออกมาเจอแสงธรรมชาติด้านนอกก็จะเห็นสีอีกแบบ แล้วแต่มุมที่แสงกระทบ



ใครสนใจทำสีผมที่ร้าน Rapi-Rabi ก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลสีผมและราคาค่าบริการต่างๆ

ในเฟสบุ๊กของร้านได้ตามลิงค์นี้นะคะ (ก่อนทำอีฟก็ไปส่องมาเหมือนกัน)


https://www.facebook.com/rapirabi.haircolor/


หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ นะคะ


เจอกันใหม่บล็อกหน้า บ๊ายบายค่า









Create Date : 20 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2560 14:20:01 น.
Counter : 7453 Pageviews.

1 comment
[รีวิว] เลเซอร์กำจัดขนรักแร้ที่ Dr.Tattof (พลีชีพโชว์น้องจั๊ก ขวัญอ่อนไม่ควรดูนะจ๊ะ)





[รีวิว] เลเซอร์กำจัดขนรักแร้ที่ Dr.Tattof

(พลีชีพโชว์น้องจั๊ก ขวัญอ่อนไม่ควรดูนะจ๊ะ)




สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้อีฟจะมาพลีชีพรีวิวเลเซอร์กำจัดขนจุ๊กกุแร้ แบบเนื้อๆ ไม่มีน้ำใดๆทั้งนั้นค่ะ (มาเร็วเคลมเร็วนะจะบอกให้ 55)


ขอเล่าแบ็คกราวด์นิดนึงว่า สมัยก่อนน้องจั๊กนี่พังมาก เนื่องจากการถอนบ่อย มีขนคุดอยู่ตลอดๆ แล้วการพยายามเอาขนคุดออกเนี่ยก็ทำให้รักแร้เป็นแผล แถมย่นเป็นหนังไก่อีก เมื่อ

ประมาณ 2-3 ปีก่อนเลยตัดสินใจทำเลเซอร์กำจัดขนถาวร

ทำไปทั้งหมด 8 ครั้ง ผลลัพธ์หลังจากจบคอร์สคือขนขึ้นน้อยลง แต่ไม่ได้หายไปทั้งหมดนะคะ ยังมีขึ้นบ้างหรอมแหรม จากที่ตอนแรกดกดำเป็นป่าดงดิบ


ครั้งนี้อีฟมาเลเซอร์กำจัดขนที่ Dr. Tattof ค่ะ เค้าเป็นคลินิกที่ให้บริการเลเซอร์ลบรอยสักและกำจัดขนโดยเฉพาะ เท่าที่ทราบมี 3 สาขา อีฟทำที่สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว คลินิกจะอยู่ชั้น 3 ตรงโซนบิวตี้ ถ้าไปไม่ถูกก็โทรถามเจ้าหน้าที่คลินิกได้เลยค่ะ เพราะนี่ถามมาเหมือนกัน บรรยากาศในร้านสะอาดสะอ้านดีค่ะ



เผื่อใครสงสัยเรื่องค่าบริการ รายละเอียดตามป้ายเลยค่ะ



คอร์สกำจัดขนถาวรนี้ต้องทำทั้งหมด 3 ครั้ง ที่รีวิวนี่คือครั้งแรกเลย


เลเซอร์ของที่นี่เป็นแบบ GentleYAG Pro-U คือเป็นเลเซอร์ความยาวคลื่นแสงสูง ทำให้ผ่านลงไปสู่ผิวเพื่อทำลายรากขนได้ลึกกว่าเลเซอร์แบบอื่นๆ และมีเทคโนโลยี DCD ซึ่งเป็นการปล่อยแก๊สเย็นออกมาก่อนยิงเลเซอร์ ปกป้องผิวหนังจากผลข้างเคียงค่ะ


ข้อดีของ GentleYAG Pro-U คือ สามารถกำจัดได้ทั้งขนเส้นเล็กและเส้นใหญ่ ต่างจากเลเซอร์แบบอื่นที่ส่วนใหญ่กำจัดได้เฉพาะขนเส้นใหญ่ๆ แล้วก็สามารถใช้ได้กับทุกสีผิว ไม่ทำลายรูขุมขน จึงเป็นเลเซอร์ที่แพทย์ทั่วโลกนิยมใช้ค่ะ


รูปน้องจั๊กด้านบนคือก่อนทำเลเซอร์ อีฟปล่อยเซอร์ไม่ได้โกนขนมา จะเห็นว่าขนเส้นใหญ่หนา แต่มีปริมาณไม่มาก นอกนั้นเป็นเส้นขนอ่อนๆ ที่มองไกลๆไม่เห็น


ก่อนเลเซอร์คุณหมอใช้อุปกรณ์โกนขนแบบไฟฟ้า (ไม่ใช่มีดโกนนะคะ ไม่ต้องกลัว) โกนขนให้สั้นลง แล้วก็ใช้เจลประคบเย็นที่เป็นถุงสีฟ้าๆโปะจั๊กเอาไว้สักพัก จากนั้นก็เริ่มยิงเลเซอร์ ส่วนที่โดนเจลโปะนานๆ ก็จะชาไม่รู้สึก แต่ได้กลิ่นไหม้ ไม่ต้องตกใจนะคะ ปกติ ส่วนบางที่ที่มันหายชา หรือโปะไม่โดนก็จะแสบๆบ้าง ถ้าเจ็บก็บอกคุณหมอค่ะ หมอจะหยุดยิงแล้วประคบเย็นก่อน


พอยิงครบแล้ว คุณหมอก็จะประคบเย็นอีกรอบ แล้วใช้ยาที่เป็นครีมๆ ทาให้ รูปน้องจั๊กด้านล่างคือหลังทำทันทีค่ะ จะเห็นว่ามันจะแดงๆ หน่อยๆ แต่ไม่ได้เจ็บปวดอะไร (เอ๊ะ หรือว่ามันด้านชา 555)



อันนี้คือยาที่ทางคลินิกให้มาทาเพื่อลดความแสบ บวม แดง ให้ทาหลังอาบน้ำ ไม่เกิน 5-6 วัน แต่อีฟไม่ได้ทาเลย เพราะออกมามันก็ไม่แสบร้อนอะไรแล้ว ที่แดงๆก็หายไปเอง



หลังทำเลเซอร์ ขนก็จะค่อยๆหลุดไป แต่ยังไม่หมดทีเดียวนะคะ ต้องมาซ้ำ เลเซอร์ครั้งต่อไปของอีฟ คุณหมอนัดอีก 1 เดือนข้างหน้าค่ะ


สำหรับใครที่สนใจเลเซอร์กำจัดขนถาวร สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ที่


https://www.facebook.com/dr.tattof/

https://drtattof.com/


แล้วเจอกันใหม่บล็อกหน้า บ๊ายบายค่ะ














 





Create Date : 13 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2560 23:23:18 น.
Counter : 3498 Pageviews.

1 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  

คริสต์มาสอีฟ
Location :
อุดรธานี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]



***Welcome to my blog***

My name is Eve.
Here is my space used to share my makeup tutorials, reviews and much more.
Hope you enjoy :)

Facebook Page: https://www.facebook.com/abcdever
YouTube: abcd_eve
New Comments