อู๋ซิ-โจวจวง-เซี่ยงไฮ้
ได้มีโอกาสไปเที่ยวแดนมังกรมาเมื่อช่วงสงกรานต์ปี49 ที่ผ่านมานี่ครับ หลังจากที่เคยไปจิ่วจ้ายโกวมาทีนึงแล้วเมื่อหลายปีก่อน ได้เห็นความเจริญมั่งคั่งของมหานครเซี่ยงไฮ้ เลยเอามาเล่าสู่กันฟัง....ไปเที่ยวนี้ ไปกับทัวร์คณะใหญ่ครับ รถบัสร่วมสามคัน ก็มีขลุกขลักบ้างตามประสากรุ๊บทัวร์ครับ เนื่องจากไกด์ต้องดูแลลูกทัวร์ที่เป็นผู้สูงอายุ ที่มีจำนวนไม่น้อยด้วยสิ เวลาที่มีพอจะให้ผมได้เก็บภาพ ก็เลยน้อยไปด้วยเริ่มกันเลยละกัน วันแรกไปเที่ยวสวนจั่วเจิ้นหยวน ที่เมืองซูโจว เป็นสวนของคหบดีจีนในยุคโบราณนั่นแหล่ะครับ ลักษณะก็เหมือนสวนจีนทั่วๆไปครับในช่วงที่ไปถึง อากาศตอนนั้นค่อนข้างหนาวเลยล่ะครับ ประมาณ 8-10 องศา ลมแรงมากด้วย ท้องฟ้าไม่ใสครับ อยากได้ท้องฟ้าใสๆ แต่ก็ต้องทำใจในสวนมีต้นไม้จีนสวยๆ ตั้งใชว์ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปด้วยครับ วันถัดมา ได้ไปเยือนโรงถ่าย CCTV ที่เป็นโรงถ่ายละครสามก๊ก มีการแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมเล็กน้อยครับมีรูปจำลอง เล่าปี่ ขงเบ้ง โจโฉ ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปคู่บริเวณหน้าโรงถ่าย กับนางแบบจำเป็นมีสวนต้นไม้สวยๆ ในโรงถ่ายด้วยนะหลังจากนั้น ก็ไปชมพระใหญ่วัดหลิงซาน (ไม่ใช่เหลียงซานนะ) ตัววัด อยู่ด้านบนครับ ต้องเดินขึ้นบันไดไปพอเหนื่อยเล็กน้อยราวแขวนระฆังบริเวณวัดครับ...ตกเย็น ได้ไปชมเมืองโจวจวงครับ เมืองนี้ลักษณะจะเป็นเมืองเก่าที่มีแม่น้ำเล็กๆคั่นกลาง คล้ายกับเมืองเวนิสในอิตาลีครับ ที่สำคัญ เมืองนี้ได้ถูกเลือกเป็นฉากหนึ่งในหนัง Mission Imposible III ด้วยครับเสียดายตอนที่ไปถึงนั่นเป็นตอนดึกแล้วครับ เลยไม่ได้เก็บภาพอะไรมา ถ่ายไว้รูปเดียวเองครับ ตอนที่นั่งเรือชมทิวทัศน์รอบๆ เมือง อ้อ.. ถ้าจะมาชมเมืองที่นี่ เขาเก็บค่าผ่านประตูเพื่อชมเมืองด้วยนะครับวันถัดมา ขึ้นเรือเพื่อไปชมทิวทิศน์ของเมืองเซี่ยงไฮ้ครับ เมืองเซี่ยงไฮ้นี่แทบจะเป็นตึกระฟ้าทั้งเมืองแล้วครับ เพราะทางรัฐบาลจีนต้องการใช้พื้นที่ในตัวเมืองให้ได้ประโยชน์คุ้มค่ามากที่สุดครับ เพราะประชากรเขาแยะ ก็เฉพาะเซี่ยงไฮ้นี่ก็ราวๆ 17 ล้านคนแล้วครับตอนแรกนึกว่าตึกสูงๆทั้งหลายนี่เป็นอาคารสำนักงานครับ แต่จริงๆแล้ว ก็เป็นอาคารที่พักอยู่แยะเหมือนกันครับ...รถราในเมืองเซี่ยงไฮ้นี่เขานิยมคนซีดานขนาดกลางครับ โดยเฉพาะยี่ห้อโฟล์คสวาเกนนี่เห็นแยะสุดครับ เพราะเป็นรถtaxi ของชาวจีนเขาด้วย Masda 6 ที่ยังไม่จำหน่ายในบ้านเรานี่ก็เห็นแยะพอประมาณ Camry นี่ก็พอเห็นอยู่บ้าง แต่ไม่มากนักครับพวกรถเล็กๆ อย่าง Vios , Jazz นี่ไม่ค่อยเห็นครับ ยิ่งรถกระบะนี่แทบหาในเซี่ยงไฮ้ไม่ได้เลยครับตกเย็น ได้ไปชมกายกรรมเซี่ยงไฮ้ ใครได้ไปก็อย่าลืมไปชมดูนะครับ สวยงาม และคุ้มค่าเข้าชมมากครับ เวทีก็จัดได้ไฮเทคทันสมัยดีมากครับไฮไลต์ก็คือมอเตอร์ไซด์ไต่ลูกโลกครับ ไม่เหมือนมอไซด์ไต่ถังในงานวัดบ้านเรานะครับ คือเขาจะเอารถเข้าไปไต่อยู่ในนั้นถึงแปดคันเลยครับ อ้อ..ถ่ายรูปที่นี่เขาห้ามใช้แฟลชนะครับวันสุดท้าย ช่วงเช้า ได้ไปดูศูนย์ผังเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณจตุรัส ประชาชน ที่นี่แสดงถังผังเมืองจำลองของเซี่ยงไฮ้ทั้งหมดครับ รวมถึงโครงการณ์ต่างๆ ที่จะจัดทำขึ้นมาในอนาคต และมีภาพเปรียบเทียบเซี่ยงไฮ้ในอดีต และในปัจุบัน แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างด้วยครับต่อมา ได้เข้าไปชมสวนอี้หยวน ไกด์บอกว่า บริเวณหน้าสวนนี่ มีพวกร้านขายของที่ระลึกเต็มไปหมด ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ ไม่ค่อยชมทัศนียภาพในสวนหรอกครับ แต่สนใจจะมา ช๊อป สินค้าหน้าสวนกันมากกว่าภาพนี้จากบริเวณหน้าสวนครับ ร้านค้าต่างๆ จะทำเป็นรูปแบบจีน ให้เป็นที่ดึงดูด แม้แต่ร้านกาแฟสตาร์บัค ก็ทำเป็นอาคารแบบจีนครับ...อีกจุดนึง บริเวณร้านค้าหน้าสวนอี้หยวน ที่บริเวณนี้จะต่างกับตลาดนัดเซี่ยนหยางตรงที่ เซี่ยนหยางจะขายพวกของก๊อปครับ เช่นกระเป๋าเป้ The north face , Samsonite , ปากกามองบลัง แต่ตลาดที่สวนอี้หยวนจะเน้นไปที่ซูวิเนียร์ต่างๆครับที่สวนอี้หยวนนี่ ผมมีโอกาสได้เดินอยู่นานพอควร เพราะน้องสาวที่เป็นนางแบบจำเป็นให้กับผม หนีไปชอปปิ้งแล้ว ก็เลยมีเวลาตั้งกล้องเก็บภาพได้นานหน่อยอีกมุมนึง... ในนี้เงียบและบรรยากาศดีมากครับ สวยกว่าสวนจั่วเจิ้นหยวนที่แวะในวันแรกอยู่พอสมควรอีกมุมนึงครับช่วงเย็นก่อนจะกลับ ได้ไปทานอาหารที่ภัตตาคารใกล้ๆกับหอไข่มุก มาเซี่ยงไฮ้ทั้งที ถ้าไม่ได้เยือนมาชมความงามของหอไข่มุก คงเสียดายแย่เลย ก็เลยแวะเก็บภาพซะหน่อย....สุดท้ายตอนกลับ ก็ได้อาศัยรถไฟแม่เหล็ก Maglev กลับไปสนามบินครับ แต่ภาพยังคากล้องอยู่... ตอนเดินทางใช้เวลาแค่ 7 นาทีเท่านั้นเองครับจากสถานีรถไฟไปยังสนามบิน ถ้าจำไม่ผิดความเร็วสูงสุดน่าจะราวๆ 430 กิโลเมตรต่อชั่วโมงครับ...