Group Blog
 
All blogs
 
คนที่ถูกเลือกให้จน



อาจารย์ นิธิ เอียวศรีวงศ์ เคยกล่าวไว้ว่า นิยามของความจนถูกกำหนดขึ้นอย่างหยาบๆโดยนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งตีค่าความจนเท่ากับรายได้ หรือ สิ่งที่ขายได้ในตลาด พระภิกษุที่ดีที่สุด จึงเป็นผู้ที่จนที่สุด โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้

คนจนในความคิดของท่าน จึงเหมาะกับนิยาม "ผู้ไม่มีทางเลือก" หรือ ที่ท่านกล่าวว่า "คนจนไม่ได้ตกรถไฟ แกโดนถีบออกมาจากรถไฟมากกว่า คือคนที่ถูกทิ้ง คนที่ไม่สามารถไปกับรถไฟ คนมันเต็มแล้วก็เลยถีบคนทิ้งไป หรืออะไรก็แล้วแต่ และไม่ใช่คนจำนวนน้อย มันเป็นคนจำนวนมากเลยทีเดียว "

ความยากจนที่เราต้องเผชิญอยู่นั้น มีที่มาจากนโยบายการพัฒนาประเทศ ที่เน้นตอบสนองเพื่อชนกลุ่มน้อยมาตั้งแต่ต้น นั่นคือ กลุ่มพวกนายทุน กลุ่มคนรวย ซึ่งมีเพียงแค่หยิบมือเดียว ท่ามกลางคนจนเกือบทั้งประเทศ ดังนั้น คนที่สังคมเรียกว่า คนจน แท้จริงแล้วคือคน ที่ถูกเลือกให้จน และ ถูกสาปให้จนไปตลอดกาล ด้วยกลไกเศรษฐกิจ และนโยบาย

ทรัพยากรในประเทศ ถูกเก็บไว้และกักไว้เพื่อตอบสนองคนกลุ่มน้อยดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน อากาศดีๆ น้ำสะอาด อาหารถูกหลักอนามัย ดูเป็นไปไม่ได้สำหรับคนจน คนเดินถนน หรือ ผู้โดยสารรถเมล์ในกรุงเทพฯ

ความจนในที่นี้ คือการ "ไม่มีทางเลือก ไม่มีที่ไป คุณต้องเดินตามทางนี้เท่านั้น" คนเรียนจบมาก็ต้องไปรับจ้างเป็นพนักงานในบริษัทขนาดใหญ่ หรือ รัฐวิสาหกิจ ความจนจึงถูกขยายจากเกษตรกรเข้าสู่ชนชั้นกลาง คนชั้นกลางจะจนขึ้นเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว จนด้วยปัญญา จนด้วยทางเลือก จนเพราะต้องเดินบนทางเพียงไม่กี่เส้นที่ถูกขีดให้เดินตาม

ตั้งแต่เล็กจนโต เราถูกอบรมบ่มสอนให้จบไปรับใช้ระบบทุนนิยม ไม่มีการสอนใดที่บอกว่า ทำอย่างไรจึงจะค้นพบตัวเอง หรือ มีความสุขที่แท้จริง เราต่างไขว่คว้าเพิ่มเติมวัตถุให้กับชีวิต เช่น บ้าน และ รถยนต์ ในขณะที่ภายในกรวงโบ๋ ชนชั้นกลางกำลังจนลงทุกที คนส่วนใหญ่ไม่กล้าฝัน เพราะ กลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวที่จะขัดกับหลักคำสอนที่ย้ำเตือนมาตลอดชีวิต ที่แย่กว่านั้น หลายคนไม่มีแม้แต่ความฝัน ลองถามดูก็ได้ว่า ตัวคุณเองอยากทำอะไรที่สุด อยากจะเป็นอะไรที่สุด และได้เคยลองทำดูไม๊ หรือ ไม่แม้เพียงคิด

สุนัขที่นำมาฝึกให้คาบสิ่งของ ยื่นมือทักทาย หรือ ยืนสองขาทำท่าสวัสดี มนุษย์ต่างเรียกพวกมันว่าสุนัขฉลาด แสนรู้ แท้จริงแล้วเราไม่ต่างอะไรกับ เจ้าสัตว์โลกชนิดนี้ แท้จริงแล้วสุนัขฉลาดย่อมไม่ยอมทำตามคำสั่งใครง่ายๆ เพราะมันมีอิสระ และเสรีภาพที่จะคิด และ ทำในสิ่งที่ต้องการ

ทุกวันนี้ประเทศที่พัฒนาก่อนหน้าเรา เช่น ประเทศญี่ปุ่น กำลังตะโกนบอกว่า เฮ้ย! เราพลาดไป เราลืมเรื่องคน ตอนนี้เราเป็นประเทศศิวิไลย์ แต่คนของเราไม่มีความสุข อัตราฆ่าตัวตายมีสูงมาก ผู้ป่วยด้วยโรคจิตประสาทก็สูงเช่นกัน

การที่เราดำเนินชีวิตตามที่สังคมยัดเยียดให้ทำ ให้เป็น จะต่างอะไรกับ หนูที่วิ่งอยู่ในกงล้อ เมื่อใดก็ตามที่หนูหยุดวิ่ง และ มีสติคิด หนูก็จะรู้ว่าตัวเองไม่ได้เกิดมาเพื่อวิ่งในวงล้อ ก่อนหน้านี้บรรพบุรุษหนูก็ไม่ได้วิ่งอยู่ในวงล้อ

การมีอิสรภาพที่แท้จริงจึงเริ่มต้นจากความคิดของตัวเอง เมื่อใดก็ตามที่เราก้าวข้ามวงจรอุบาทว์ได้ ชีวิตก็จะเจอกับสิ่งเรียบง่าย และ ความสุขที่ตามหามานาน



Create Date : 28 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2549 21:07:12 น. 1 comments
Counter : 289 Pageviews.

 
อ่านแล้วเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ที่เข้ามาได้นี่เพราะสะดุดกับหัวข้อ จริงๆแล้วมันน่าจะตรงกับใครหลายๆคนนะเนี่ย อยากจนแต่ไม่จนใจ สู้ต่อไป สู้ สู้


โดย: โต๊ะกลม ณ บ้านไร่ วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:10:13:42 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ตุ๊ดตู่ โอ้เย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]









Friends' blogs
[Add ตุ๊ดตู่ โอ้เย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.