Group Blog
 
All blogs
 
การเดินทางของ( นิดหน่อย )



[ 1 ]


"นิดหน่อย ตื่นเถอะเดี๋ยวสายนะ" นาฬิกาชีวภาพในตัวตะโกนปลุกด้วยเสียงเบื่อหน่ายกับงานประจำของเจ้าหล่อน ใครจะรู้บ้างนะว่าหล่อนมีมันสมองล้ำเลิศทำอะไรได้มากกว่านี้ แต่ก็ช่างเถอะ มันก็ง่ายดีหรอก จะได้มีเวลาไปหัดทำขนมและวางแผนเที่ยวตลอดวัน

นิดหน่อยบิดขี้เกียจไม่ลืมที่จะออดอ้อนต่อเวลากับนาฬิกาไฮโซ คุณนายแนนนี่เจ้าประจำ "ขอนอนต่ออีกนิดเถอะนะ นะ นะ 2.2 นาทีก็ยังดี เมื่อวานท้องเสีย ดูสิเข้าห้องน้ำตั้งไม่รู้กี่รอบ ไม่ได้หลับได้นอนเลยนะ เธอก็น่าจะรู้นี่" ว่าแล้วก็หันไปกรนต่อ ครอกๆ พรืดๆ กลิ้งตัวไปมา ผ้าห่มพันตัวจนเป็นก้อนกลม ยังกะตัวหม่อน

"ตื่นเดี๋ยวนี้นะ" พอกันที นาฬิกาไฮโซเริ่มมีน้ำโห จะเอาอะไรกันอีกหล่ะยายนิดหน่อย เป็นกันได้ทุกวัน ชั้นชักเบื่องานจำเจไร้สมองนี่เต็มทนแล้วนะ เธอไม่ลืมที่จะหันไปชำเลืองกระจกเงาเผื่อจะหลุดภาพไม่สวยงามออกไป ช่วยไม่ได้ก็เธอมันคนมีชาติตระกูล

"ก็ได้ๆ ตื่นก็ได้" นิดหน่อยไม่อยากออกศึกแต่เช้า "ดีเหมือนกัน ก่อนที่ชั้นจะไปล็อบบี้คุณเบรน ให้ตั้งนาฬิกานิวเคลียร์ แทนนาฬิกาชีวะอ่อนโยนอย่างชั้น และถ้าชั้นลาออกไปกระทันหัน เธอจะเป็นยังไงลองคิดดู" แนนนี่ขู่ฟอดๆ

นิดหน่อยสะบัดตูดเล็กน้อย ให้ผ้าห่มหลุดออกจากร่างกลมๆ ก่อนหันไปพูดกับมันว่า "ไม่มีเวลาพับอะ วันนี้ตื่นสาย เดี๋ยวก็กลับมานอนต่อ ไม่ว่ากันนะ" นิดหน่อยส่งสายตาติงต๊องใส่ผ้าห่ม จริงๆแล้วผ้าห่มไม่สนใจอะไร เบะปากมองเหยียดๆ "คนอะไรอ้วนก็อ้วน"

"เฮ้อ เมื่อไหร่จะร่ำรวย ไม่ต้องทำการทำงาน ก็มีกินนะ ป่านนี้พวกลูกคนรวยจะทำอะไรอยู่น๊า พวกคุณเธออาจตื่นสัก 10 โมงแล้วโทรนัดเพื่อนๆไปชอปปิ้งที่เอมโพเรี่ยมละมั๊ง" นิดหน่อยพึมพัมทุกเช้า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสักวันหนึ่งจะเกิดขึ้นกับเธอบ้าง เอ.... หรือถ้าหยุดคิดนิดหน่อยอาจเจริญขึ้นก็ได้นะ อันนี้นิดหน่อยไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ยังไงก็ต้องรีบแปรงฟัน อาบน้ำ แต่งตัว แล้วหล่ะ

ฝักบัวชั้นสองนี่ น้ำไหลเอื่อยจัง นิดหน่อยคิดอยากจะลงไปติดตั้งปั๊มน้ำเพิ่มเป็นสองลูก แต่นึกได้ว่าตัวเองต้องรีบไปทำงาน นิดหน่อยใช้เวลาอาบน้ำเกือบครึ่งชั่วโมงทุกวัน ทำอะไรน่ะเหรอ ก็ทำนู่นทำนี่ ขัด ฟอก ถู อาจนานไปหน่อยแต่ก็ไม่ช่วยให้สวยขึ้นแต่อย่างใด

นิดหน่อยปิดประตูบ้าน พร้อมกับเช็คว่าตัวเองเผลอลืมปิดสวิตซ์ หรือ ล็อคประตูบ้างหรือเปล่า "ต้องระวังเป็น 2 เท่าเรามันอยู่คนเดียว" น่าสงสารนิดหน่อย แต่ใครจะรู้ว่านิดหน่อย พอใจที่จะอยู่คนเดียวมากกว่า

[ 2 ]


"วันนี้อากาศร้อนจัง เดือนอะไรกันนี่ เอ จริงๆเดือนนี่มันน่าจะฝนตกนะ" นิดหน่อยไม่ลืมที่จะบ่นกับกรมอุตุ ถ้ามีเวลามากกว่านี้ นิดหน่อยอาจบ่นไปถึงลักษณะภูมิประเทศ เช่นเดียวกับมนุษย์ผู้ไม่ค่อยมีอันจะกินทั่วไปในเมืองหลวง นิดหน่อยเร่งฝีเท้าเดินไปยังป้ายรถเมล์ ไม่ลืมที่จะหลบป้ายโฆษณาข้างทาง ที่บางวันก็เผลอไปปักหัวใครต่อใคร

และแล้วนิดหน่อยก็มารวมพล กับพวกเดียวกัน "พวกฐานะไม่ดีถึงปานกลาง" ควันสีเทาเคลื่อนปกคลุมมาแล้ว นิดหน่อยไม่ลืมปิดปาก ปิดจมูก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยปกป้อง ปอดน้อยๆและระบบทางเดินหายใจของตัวเองได้ "ไอ้พวกนี้ ทำไมไม่เหม็นไม่กลัวกันบ้างรึไงนะ นั่น ป้าคนนั้น ไปยืนดมควันในท่อรถเมล์อยู่ได้" นิดหน่อยต้องฝืนตัวเองไม่ให้กระชากป้าออกห่างจากท่อรถเมล์

ควันสีเทาค่อนไปทางดำ แวะมาทักทายนิดหน่อย "เป็นยังไงเช้านี้ ดูงัวเงียนะจ๊ะ น้องสาว" นิดหน่อยไม่ค่อยชอบควันพวกนี้ มันชอบแซวนิดหน่อย สงสัยคงเป็นพวกเดียวกับนักเรียนเพาะช่างอันธพาล พวกนี้ชอบนั่งเบาะท้ายรถเมล์ เขียนคำงี่เง่า ประกาศศักดา เพราะมีปมด้อยในใจบางอย่าง "ก็งัวเงียมันทุกวันแหละ ว่าแต่ที่ทักนี่ มีเงินจะให้เหรอ" นิดหน่อยกวนตีนกลับไป

ควันสีดำ มีชื่อเท่ห์ ว่า "โทมัสที่ 1" มันหันมายิ้มให้นิดหน่อยอย่างมีนัยยะ "ผู้หญิงว่า หมายถึงผู้หญิงรัก ผู้หญิงกวนตีน หมายถึง คิดถึงสุดๆ" "เอาหล่ะๆ ช่วยดูรถเมล์สาย 545 ให้หน่อยสิ มองจนคอจะเป็นเอ็นอยู่แล้ว" นิดหน่อยไม่ลืมจะหลอกใช้โทมัสที่ 1 ระหว่างที่นิดหน่อยเผลอเอามือออกจากจมูก เจ้าโทมัสได้ชักชวนโทมัสที่ 2-7 ไปเที่ยวในปอดของนิดหน่อย "ปอดสะอาดใสกิ๊กเลยนะจ๊ะน้องงง" โทมัสกรุ๊ปพูดเย้า "ไอ้ควันเลว เผลอไม่ได้เชียว" นิดหน่อยค้อน ควันดำแฟมิลี่ไม่ว่าอะไรเพราะ มันยุ่งกับการทัวร์ปอดของเหล่าสมัชชาคนจน

นิดหน่อยใช้คอแหวกฝูงชนที่ต่างรอรถเมล์ของตนเอง "จะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไม๊นะ ถ้ากรุงเทพฯจะมีป้ายที่บอกสายรถเมล์ พร้อมเวลา ประจำป้ายรถเมล์ทุกป้าย" นิดหน่อยขนลุกเล็กน้อย กับความคิดของตนเอง รออยู่นาน ควันจากรถเมล์ มอเตอร์ไซค์ ตุ๊กๆ รวมตัวสามัคคียิ่งกว่ารัฐบาล รวมจนเป็นก้อนกลม เหมือนเมฆ นี่ถ้ามนุษย์ต่างดาวมาเยือน คงคิดว่าเป็นหลุมดำ มีคนซื้อราดหน้า ตะโกนบอกคนขาย "ห่อให้ด้วย" นิดหน่อยอยากตะโกนบอกเหมือนกันว่าอย่าลืมห่อพวกครอบครัวโทมัสไปทิ้งนอกโลกด้วย นิดหน่อยชำเลืองมองโทมัสที่ 1 อย่างสะใจ แต่โทมัสที่ 1 คิดว่านิดหน่อยมีใจให้

[ 3 ]


รออยู่นาน 545 ก็ยังไม่มา นี่มันสายโด่แล้วนะ นิดหน่อยเริ่มมีท่าทีร้อนรน ความเครียดปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ นิดหน่อยสบตากับเพื่อนร่วมชะตากรรม บ้างสบตาตอบ บ้างหลบตา แต่เป็นอันรู้กันถึงความเหนื่อยหน่ายที่ต้องเฝ้ารอ สาย 40 รถเมล์หวานเย็นวิ่งตุเล็งๆเข้ามา "เอาล่ะวะ" นิดหน่อยคิด พร้อมวิ่งตามรถอย่างตุปัดตุเป๋ นิดหน่อยอยากให้ผู้กำกับหนัง คิดสร้างพล็อตนางเอกวิ่งตามรถเมล์ ที่วิ่งๆหยุดๆเหมือนหลอกล่อให้คนวิ่งตามมันไปเรื่อยๆ "วันนี้คงอึ๊ไม่สุด" นิดหน่อยคิดขำๆ พอก้าวขึ้นรถก็หันไปอมยิ้มกับคนขับ เจอสายตากระเป๋ารถเมล์มองค้อน นิดหน่อยจึงรู้สึกตัว "ชิดในเลยค่ะ คนขึ้นใหม่ส่งค่าโดยสารด้วยยย" ไม่มีมือไหนว่างเลย มือซ้ายถือกระเป๋า มือขวาจับราว "รอให้รถหยุดก่อนละกันเดี๋ยวค่อยจ่าย" แต่กระเป๋ารถเมล์ไม่คิดอย่างนิดหน่อย "จ่ายค่าโดยสารด้วยค่ะ" นิดหน่อยปล่อยมือที่จับราว ล้วงกระเป๋า แล้วรถเมล์เจ้ากรรมก็กระชาก ออกตัวไปอย่างไม่เกรงใจใคร นิดหน่อยถลาไปข้างหน้า เหยียบตาปลาของพี่ผู้ชายข้างๆ เขาคนนั้นแอบเคืองแต่ฝืนยิ้มให้เพื่อแสดงถึงความมีอารยธรรม "ขอโทษค่ะ" นิดหน่อยพูดเซ็งๆ ความรู้สึกผิดน้อยกว่าความหงุดหงิด พร้อมกับส่ายสายตา หาเด็กนักเรียน เพราะเด็กคือที่นั่งในอนาคต ถ้าไม่มีเด็กนิดหน่อยก็จะสังเกตผู้คนจากโหงวเฮ้งว่าน่าจะทำงานใกล้บ้าน

นิดหน่อยหลือบมองป้าย "กรุณาเอื้อเฟื้อ ต่อเด็ก สตรี และ คนชรา" ในสายตาของเด็กบ้านนอกอย่างนิดหน่อย ช่างน่าขันที่คนกรุงเทพฯต้องเขียนเพื่อ ขอความเอื้อเฟื้อขนาดนี้ คนกรุงเทพฯคงถือเป็นเรื่องลำบากมากที่จะต้องทำเองโดยไม่มีป้ายประจาน แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีวัฒนธรรมผู้ชายลุกให้ผู้หญิงนั่งกันแล้ว นิดหน่อยดีใจที่ผู้ชายไม่เห็นว่าผู้หญิงอ่อนแออีกต่อไป นิดหน่อยจึงเห็นพี่ๆผู้ใช้แรงงานนั่งหลับกันเป็นทิวแถว "ไม่เป็นไร นั่งเถอะครับ" นั่นแน่มีผู้ชายในอดีตกาลหลงเหลืออยู่ด้วย นิดหน่อยสังเกตถึงสายตาเสียดายที่ชัดเจน เค้าคนนั้นคงอยากนั่งใจจะขาด นิดหน่อยชื่นชม และเวทนาในเวลาเดียวกัน ระหว่างการให้อย่างเต็มใจและการให้โดยมารยาท คนที่ได้รับความช่วยเหลือจะคิดยังไง คนนั่งข้างแอบฟังความคิดของนิดหน่อย พร้อมตะโกนบอกว่า "ช่างมันเถอะ ใครเค้าสนกันหล่ะ" นั่นสิ ในโลกที่แข่งขันอย่างนี้ ใครแคร์ความรู้สึกใครกันเหรอ

กลิ่นอับๆของรถเมล์ ผสม กับอากาศร้อนๆ ทำให้เราหงุดหงิดได้ง่าย อากาศเหม็นเหลือเกิน นิดหน่อยเคยได้ยินว่า คนสมัยนี้มีนิสัยการหายใจที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะคนในเมืองที่หลบเลี่ยงอากาศเสียๆด้วยการหายใจสั้น นิดหน่อยคงเป็นหนึ่งในนั้น ใช่สิ ใครจะสูดหายใจยาวๆเอาควันดำเข้าไปเต็มถุงปอด มองออกไปนอกหน้าต่าง มีแต่ญาติๆและเพื่อนพ้องของโทมัส บ้างก็วิ่งทะลุเข้าไปในปอด ผ่านจมูก ตา เข้าไปในปาก กระแสเลือด บางครั้งนิดหน่อยรู้สึกว่าปากขม จนอยากกระอักเอาควันขมๆนั้นออกมา "ชั้นจะหลบพวกแกพ้นได้ยังไงนะ โทมัสกรุ๊ปปปปปป" นิดหน่อยสติแตก ส่งเสียงตะโกนก้อง แต่ไม่มีใครได้ยิน และแล้วรถเมล์ก็มาติดไฟแดงหฤโหด ใครๆก็รู้กันว่าแยกนี้ติดกันนานเป็นโคตรเหง้าเลยทีเดียว "รับควันดำ ไอเหม็น และเชื้อโรค กันให้ชุ่มปอดไปเลยนะจ๊ะ" โทมัสกรุ๊ปร่าเริง "สักวันเถอะ แกจะจ๋อย ไอ้โทมัสแฟมิลี่" นิดหน่อยคิด แต่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แน่สิ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในเมืองหลวงแห่งนี้

"ตามหาชั้นให้เจอสิจ๊ะ ชั้นกำจัดโทมัสได้" เสียงไพเราะเหมือนอยู่ใกล้ๆแต่เบามาก "ใครพูดน่ะ"นิดหน่อยถาม " ชั้นไง อยู่นี่ ริมถนนนี่ไง" อ๋อ เจ้าต้นไม้ประดับสวยงาม พวกรัฐบาลเอามาประดับไว้เพื่อให้เขตที่ตนรับผิดชอบดูดีกว่าเขตอื่นๆ "เจ้าว่า เจ้ากำจัดโทมัสได้เหรอ" นิดหน่อยแกล้งถาม แต่ไม่เชื่อ "ไม่ใช่ชั้นหรอกจ๊ะ หมายถึงว่า เธอจะต้องตามหาพวกของชั้น ที่ๆพวกของชั้นอาศัยอยู่มากๆน่ะ"

[ 4 ]


พวกเธออยู่ที่ไหนกันเหรอ บอกหน่อยสิ ชั้นจะได้ตามหาถูก ชั้นอยากออกไปจากโลกสีเทา บอกชั้นหน่อยนะ นิดหน่อยออดอ้อน ต้นไม้เล่าต่อไปว่า "โลกของชั้น เวลาจะเดินช้ากว่านี้ 2 เท่า" นิดหน่อยสงสัยยิ่งนัก โลกไหนกันที่มีเวลาเดินช้าขนาดนั้น นิดหน่อยไม่เคยรู้จัก

"โลกของเธอคงเชื่องช้ามาก เธอไม่เบื่อกันหรือไง" นิดหน่อยถาม "แล้วเธอไม่เบื่อกันบ้างเหรอ ที่ต้องเดินเร็วๆ พูดเร็วๆ กินเร็วๆ" ต้นไม้ยิ้มอย่างใจดี "ที่ของชั้น คนจะค่อยๆเดิน ค่อยๆกิน ค่อยๆพูด ต้นไม้อย่างเรามีเวลารับแสงแดดเต็มที่ มีสายลมพัดแผ่วๆ มีอากาศสะอาดหายใจ นั่นแหละ ที่ๆเธอต้องไป" แล้วมันที่ไหนกันหล่ะ นิดหน่อยสงสัยว่า ต้นไม้อาจเรียนไม่จบปริญญา เพราะพูดได้ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ก่อนที่นิดหน่อยจะเอ่ยปากขอแผนที่ รถกระป๋องก็เคลื่อนตัวจากไป "พรุ่งนี้ค่อยมาถามใหม่ก็ได้ ลาก่อน แต่ เอ เธอชื่ออะไรนะ"

ในที่สุดก็ถึงรถไฟฟ้าเสียที ผู้คนมายืนออกันหน้าประตูรถเมล์ และกรูออกจากรถเหมือนโดนวางระเบิด เป้าหมายคือการเดินขึ้นบันไดสูงชันด้วยความเร็วสูง นิดหน่อยสังเกตฝูงชนที่เดินเบี่ยงมาด้านซ้าย อ๋อ มีอาม่าแก่ๆเดินเงอะงะ ขึ้นบันไดนั่นเอง แกคงคิดว่ากำลังไต่กำแพงเมืองจีนแน่ๆ "งบมีน้อย สร้างบันไดเลื่อนได้ข้างเดียว แค่นี้ก็บุญแล้ว" นิดหน่อยเหมือนได้ยินเสียงนักการเมืองกระซิบ คนเป็นกลุ่มพากันเดินหลบอาม่า นิดหน่อยรู้สึกลำบากใจ ทำไมเราต้องลำบากใจด้วยนะ แต่แล้ว นิดหน่อยก็เดินฉีกออกไปเหมือนกับคนกลุ่มข้างหน้า ไม่สามารถอุ้มอาม่า หรือ ยกอาม่าขึ้นไปได้

[ 5 ]


"ปิ๊ดๆๆๆๆ" เสียงรัวของประตูรถไฟฟ้า เรียกให้คนข้างนอกรีบดันตัวเองเข้าไปภายในตู้สีขาวที่ภายนอกแปะด้วยโฆษณาของบริษัทเอกชน

นิดหน่อยถูกเบียดด้วยผู้คนหลายเชื้อชาติ เด็ก คนแก่ และ สตรีมีครรภ์ ถึงแม้ใกล้กันขนาดเส้นขนสัมผัสกันได้ แต่ไม่มีใครอยากสบตากัน ความสันโดษเกิดขึ้นได้ในอาณาจักเพียงแค่ 1 เซนติเมตร ความรู้สึกนี้คล้ายๆกับเวลาอยู่ในลิฟต์ หรือ นั่งตรงข้ามกับคนไม่รู้จัก นิดหน่อยคิดว่า มนุษย์คงมียีนในการปกป้องตนเองสูงมาก นั่นอาจเพื่อความอยู่รอด ทั้งๆที่มนุษย์เป็นสัตว์ที่ชอบสังคม อ้อ นั่นก็เป็นเหตุผลเดียวกัน เพื่อความอยู่รอด ใกล้จะถึงที่ทำงานแล้ว เย็นนี้นิดหน่อยจะกลับเข้ามาวิ่งในวงล้อนี้อีก ทุกๆคนก็เช่นกัน






Create Date : 10 กันยายน 2549
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2549 22:25:12 น. 1 comments
Counter : 321 Pageviews.

 
แวะมาอ่านค่ะ


โดย: กอหญ้าพาฝัน วันที่: 10 กันยายน 2549 เวลา:14:08:38 น.  

ตุ๊ดตู่ โอ้เย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]









Friends' blogs
[Add ตุ๊ดตู่ โอ้เย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.