อยู่กับสิ่งสมมุติ
เราทำหน้าที่ของเราในโลกนี้ อย่างเป็นผู้ที่ให้เกียรติในสมมุติ แต่เราก็ไม่ติดในสมมุติที่เกิด ไม่ผูกพันในสมมุติทั้งหลายเหล่านั้น เราให้เกียรติ ในสมมุติ คือ ให้เกียรติว่าเวลานี้เราเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นผู้นำครอบครัว เป็นผู้รับผิดชอบต่อชีวิตอื่นๆ เราก็ทำตามหน้าที่ของเราเมื่อทำหน้าที่ของเรา ในขณะที่ทำแล้ว เกิดไม่สมบูรณ์ หน้าที่นั้นๆ มีอาการผิดพลาด เราก็ไม่ต้องแสดงออกซึ่งอารมณ์การเสียใจ เมื่อได้มาเราก็ไม่ต้องแสดงออกซึ่งความดีใจ มีความรู้สึกทำไปตามหน้าที่ เพราะสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เราเกิดมาใช้หนี้เก่า เมื่อใช้หนี้เขาหมดไปแล้ว ต่อไปเรา ก็หมดหนี้ เมื่อหมดหนี้คนๆ นั้นก็จะเรียกตัวเองได้ว่าเป็นไท
เพราะฉะนั้นเราเกิดมาในปัจจุบันเป็นผู้ใช้หนี้ ก็รีบใช้ให้มันหมดไป วิธีการใช้ก็ทำตามหน้าที่ที่มีอยุ่ มีชีวิต ในปัจจุบันอย่างผู้อิสระ มีการปฏิบัติอย่างผู้ที่ ไม่ยึดมั่น ไม่ติดในสิ่งทั้งหลาย ทำไปตามหน้าที่ กฎเกณฑ์ และหลักการกติกาของสมมุติสัจจะ ที่เขาให้มา แค่นี้เราก็จะมีชีวิตอยู่อย่างไม่โดนใคร เขารักแก และไม่ต้องรักแกใครไม่ต้องเป็นทาสของใคร และเราก็เป็นไทแก่ตัวเอง สามารถดำเนินชีวิต ในโลกนี้อย่างอิสระ สมบูรณ์พูนสุขและเสรีภาพ นี่แหละเป็นเอกลักษณ์ เป็นสัจธรรม ของพระศาสนาและเป็นสิ่งที่พระศาสดาสอนไว้
คำสอนจากหลวงปู่
คำสอนพระพุทธทาส
โลกเรานี้ที่แท้คือโรงละคร ไม่ต้องสอนแสดงถูกทุกวิถี ออกโรงกันจริงจังทั้งตาปี ตามท่วงทีอวิชชาจะลากคอ
โลกนี้คือกรงไก่เขาใส่ไว้ จำนำไปแล่เนื้อไม่เหลือหลอ จิกกันเองในกรงได้ลงคอ เฝ้าตั้งข้อรบกันฉันนึกกลัว
23 พ.ย.2549 ดอกบัวกลางบึง
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2549 | | |
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2549 19:41:20 น. |
Counter : 795 Pageviews. |
| |
|
|
|