space
space
space
 
สิงหาคม 2559
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
15 สิงหาคม 2559
space
space
space

สัมผัสชิงเต่า สวิตเซอร์แลนด์แห่งดินแดนตะวันออก


ชิงเต่า


เมืองชิงเต่า (Qingdao) คนไทยอย่างเราก็อาจจะไม่คุ้นหูนัก แต่เชื่อหรือไม่ว่าเมืองนี้คนจีนยกให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศจีน เลยทีเดียว และไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกด้วย เพราะอะไรชิงเต่าถึงได้ครองใจคนทั่วโลกได้ขนาดนี้ เราไปทำความรู้จักกับเมืองนี้กันเลยค่ะ

ชิงเต่า

หนีห่าว...เมืองชิงเต่า

เมืองชิงเต่า ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลซานตง (Shandong) ตัวเมือง 3 ด้านล้อมรอบไปด้วยท้องทะเลเหลือง (Yellow Sea) ซึ่งเชื่อมต่อกับประเทศเกาหลีใต้และประเทศญี่ปุ่น ทำให้เมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญในน่านน้ำแถบนี้อีกด้วย ในอดีตชิงเต่าเคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศเยอรมนีและประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันเราจึงยังเห็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามสไตล์ยุโรปกระจายตัวอยู่รอบเมือง สร้างบรรยากาศสบาย ๆ ให้กับชิงเต่าได้อย่างมาก เมื่อผนวกกับสีสันแห่งท้องทะเลที่อยู่โดยรอบ เมืองชิงเต่าจึงได้รับฉายาว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งตะวันออก (The Switzerland of the Orient)

ชิงเต่า มีชื่อเสียงมากในเรื่องการผลิตเบียร์ชิงเต่า (Tsingtao) ใครได้มาเที่ยวเมืองนี้จึงไม่ควรพลาดที่จะลิ้มลองรสชาติเบียร์พื้นเมืองของชิงเต่า อีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันก็คือ "อาหารทะเล"เพราะชิงเต่าห้อมล้อมไปด้วยทะเล ซึ่งทะเลในแถบนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก จึงทำให้อาหารทะเลที่นี่มีความสด ใหม่ รสชาติอร่อย ๆ ไม่เหมือนกับที่ไหน เมื่อได้รับประทานคู่กับเบียร์ท้องถิ่นชิงเต่า ยิ่งเข้ากันอย่างมากเลยทีเดียว

          ในปี 2008 จีนได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ และได้จัดการแข่งขันเรือใบที่เมืองชิงเต่า นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชิงเต่าได้เผยโฉมความงดงามออกสู่สายตาชาวโลก และนำพามาซึ่งโอกาสทางธุรกิจที่ค่อย ๆ เติบโตอีกมากมาย

ไปเที่ยวชิงเต่า

เมืองชิงเต่าแม้ว่าจะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่ก็มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ตามเราไปดูกันเลยว่าจะมีเที่ยวที่ไหนบ้างในเมืองชิงเต่าที่ควรไปเห็นด้วยตาตัวเอง

ชิงเต่า

จัตุรัส May Fourth

          จัตุรัส May Fourth ตั้งอยู่บริเวณอ่าว FuShan เป็นพื้นที่สาธารณะให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวได้มาเดินเล่นผ่อนคลายกับบรรยากาศแสนสบายของเมืองและริมชายฝั่งทะเล ซึ่งย่านนี้ได้ตั้งชื่อมาจากการเคลื่อนไหวในการเรียกร้องการเป็นอิสระจากเยอรมนีในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1919 สัญลักษณ์อันโดดเด่นของที่นี่ก็คืองานศิลปะที่คล้ายกับการหมุนของลมในเดือนพฤษภาคมที่มีสีแดงสด เป็นแลนด์มาร์กที่ทำให้พื้นที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและน่าจดจำไปตลอดกาล

ชิงเต่า

หาดนัมเบอร์วัน (Number One Bathing Beach)

          เมืองชิงเต่าเป็นเมืองริมทะเลที่งดงามอีกแห่งหนึ่งของโลก เพราะฉะนั้นเมื่อไปถึงชิงเต่าเราจึงไม่ควรพลาดที่จะไปเยือนหาดทรายและชายทะเลของเมืองนี้ โดยเฉพาะที่หาดนัมเบอร์วัน (Number One Bathing Beach) ซึ่งเป็นหาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองชิงเต่า ด้วยเป็นชายหาดที่มีทรายเนียนนุ่ม น้ำทะเลใส พร้อมทั้งคลื่นไม่แรงมากนัก ตั้งอยู่บริเวณอ่าว Huiquan ยาวประมาณ 580 เมตร กว้าง 40 เมตร ชาวเมืองชิงงเต่าและนักท่องเที่ยวมักจะมาเล่นน้ำและเดินเล่นกันที่หาดแห่งนี้ บริเวณชาดหาดมีทั้งโรงแรมและรีสอร์ทมากมายให้ได้เลือกพักผ่อน

ชิงเต่า

ภูเขาเหลาซาน (Mt. Laoshan)

          หากมองจากทางฝั่งทะเลเข้ามายังเมืองชิงเต่า สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือภูเขาเหลาซาน ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเมืองชิงเต่า เป็นแนวเทือกเขที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีทัศนียภาพของป่าเขา และภูเขาหินปูนที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ยอดเขาที่สูงที่สุดมีความสูงอยู่ที่ 1,133 เมตร ซึ่งในเขตภูเขาเหลาซานก็มีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมาย 

พิพิธภัณฑ์เบียร์ชิงเต่า (Tsingtao Brewery)

          ในช่วงเวลาหนึ่งชิงเต่าได้อยู่ในการปกครองของเยอรมนี สิ่งหนึ่งที่ชิงเต่าได้รับมาก็คือการผลิตเบียร์ ซึ่งในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเบียร์ชิงเต่า ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของคนท้องถิ่น ภายนอกอาคารจัดแสดงประติมากรรมที่เกี่ยวข้องกับเบียร์ชิงเต่า โดดเด่นด้วยอาคารที่ประดับประดาไปด้วยกระป๋องเบียร์ขนาดใหญ่ ส่วนตัวอาคารเป็นลักษณะสไตล์ยุโรปสีแดงอิฐสวยงาม ด้านในจัดแสดงประวัติของเบียร์ชิงเต่า กระบวนการผลิต พร้อมทั้งสินค้าตัวอย่าง และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ค่าเข้าชมในเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม คนละ 60 หยวน และเดือนพฤศจิกายน-เมษายน คนละ 50 หยวน

ชิงเต่า


สะพาน Zhan (Zhanqiao)

          ถ้าถามหาแลนด์มาร์กของเมืองชิงเต่า หนึ่งสถานที่ที่จะต้องอยู่ในลิสต์นี้ก็คือสะพาน Zhan ซึ่งเป็นสะพานปูนที่ทอดยาวลงไปในทะเล ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองชิงเต่า ห่างจากสถานีรถไฟชิงเต่าเพียง 0.3 ไมล์เท่านั้น โดยเชื่อมต่อกับที่ปลายสุดของถนน Zhongshan สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1891 เพื่อใช้เป็นท่าเรือสำหรับการจอดเรือขนาดใหญ่ที่จะเข้ามายังเมืองชิงเต่า หลังจากการปรับปรุงปัจจุบันตัวสะพานยาว 440 เมตร และกว้าง 10 เมตร ที่ปลายสุดของสะพาน มีศาลารูปทรงจีนดั้งเดิมตั้งอยู่ เรียกว่าศาลา Huilan เมื่อไปยืนที่ตรงศาลาแล้วมองกลับมายงฝั่งจะเห็นตัวเมืองชิงเต่าที่มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรปผสมจีน ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลอย่างงดงาม ค่าเข้าชมศาลา Huilan สำหรับบุคคลทั่วไปราคา 4 หยวน ตัวสะพานเปิดให้เข้าชมตลอด 24 ชั่วโมง

ชิงเต่า

โบสถ์ St. Emil

          โบสถ์ St. Emil หรือโบสถ์ St. Michael เป็นอีกจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปในเมืองชิงเต่า โบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนถนน Dexian เป็นโบสถ์คาทอลิก ออกแบบโดยสถาปนิกชาวเยอรมัน มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ผสมผสานแบบโรมัน สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1934 มีเอกลักษณ์คือ บริเวณอาคารด้านหน้ามีหอนาฬิกาสูง 56 เมตร 2 หลัง ตั้งอย่างโดดเด่น โดยจะส่งเสียงสัญญาณในทุกวันอาทิตย์หรือช่วงเทศกาลสำคัญ ภายในโบสถ์สามารถบรรจุคนได้ประมาณ 1,000 คน ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่สวยตามสไตล์เรเนอซองส์ในอิตาลี เมื่อทุกสิ่งอย่างถูกผสมผสานกัน จึงทำให้โบสถ์แห่งนี้งดงามและกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่โรแมนติกในเมืองชิงเต่า

สวนสาธารณะ Lu Xun

          สำหรับการรับชมวิวทะเลของเมืองชิงเต่า นักท่องเที่ยวนิยมที่จะไปเดินเล่นกันที่สวยสาธารณะแห่งนี้ เพราะตั้งอยู่ติดกับริมทะเลของเมืองชิงเต่า มีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 4 เฮกเตอร์ ภายในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นไม้ กลุ่มหิน และวิวของท้องทะเล นักท่องเที่ยวจะได้ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งยังได้เรียนรู้ป่าเขาริมชายหาดอีกด้วย

พระราชวัง Tai Qing

พระราชวัง Tai Qing ถือได้ว่าเป็นพระราชวังเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของประเทศจีน ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา โดยหันหน้าไปทางทะเล สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ (Northern Song Dynasty) หรือราวพันปีมาแล้ว ภายในพระราชวังมีทั้งหมด 140 ห้อง แต่ละห้องจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งของเก่าแก่ต่าง ๆ ไว้มากมาย ค่าเข้าชมสำหรับบุคคลทั่วไปราคา 15 หยวน

ชิงเต่า


เกาะเล็กชิงเต่า (Small Qingdao Island)

          เกาะเล็กชิงเต่า เป็นเกาะเล็ก ๆ ในทะเล ห่างจากฝั่งไม่มากนัก ลักษณะของเกาะจะมีรูปร่างคล้ายกับพิณโบราณ ชาวเมืองจึงเรียกเกาะนี้ว่าเกาะพิณ (Lute Island) ภายในเกาะจัดเป็นสวนสาธารณะ มีทางเดินเล็ก ๆ ให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวได้เดินสูดอากาศบริสุทธิ์และรับลมทะเลเย็น ๆ มีประภาคารตั้งโดดเด่น พร้อมทั้งมีร้านกาแฟเล็ก ๆ ให้ไดนั่งดื่มกาแฟและผ่อนคลายไปกับบรรยากาศสุดชิลของท้องทะเล ค่าเข้าชมคนละ 15 หยวน เปิดตั้งแต่ 07.30-17.30 น.

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงที่เที่ยวเพียงเศษเสี้ยวของเมืองชิงเต่าเท่านั้น ถ้าอยากรู้ที่นี่จะมีอะไรที่น่าตื่นเต้นรออยู่อีกบ้าง ก็ต้องจองตั๋วเครื่องบินแล้วบินลัดฟ้าไปค้นหาคำตอบกันเองได้เลยค่ะ :) 
 เรายังมีบทความที่น่าสนใจอื่นๆ เกี่ยวกับ ตั๋วเครื่องบิน จองตั๋วเครื่องบิน ไทยไลอ้อนแอร์ หรือเป็นบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่น ทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น ทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์ญี่ปุ่นพรีเมี่ยม ทัวร์เกาหลี ทัวร์ฮ่องกง ทัวร์ไต้หวัน ทัวร์จีน ทัวร์เวียดนาม ทัวร์มาเลเซีย ทัวร์กัมพูชา ทัวร์พม่า ทัวร์ยุโรป ทัวร์อเมริกา ทัวร์รัสเซียทัวร์ลาว ทัวร์มัลดีฟส์ ทัวร์อินเดีย ทัวร์เนปาล ทัวร์ภูฎาน ทัวร์ศรีลังกา ทัวร์จอร์แดน ทัวร์ดูไบ ทัวร์อินโดนีเซีย ทัวร์ฟิลิปปินส์ ทัวร์สิงคโปร์ ทัวร์บาหลี ทัวร์อียิปต์ ทัวร์บรูไน ทัวร์โครเอเชีย ทัวร์ตุรกี ทัวร์ออสเตรเลีย ทัวร์นิวซีแลนด์ และ ทัวร์แอฟริกาใต้ รถเช่า โรงแรม ตั๋วสวนสนุก ตั๋วรถไฟ ประกันการเดินทาง Pocket Wifi อย่างไรขอขอบคุณที่ติดตามเรานะคะ จะมาอัพเดทข่าวสารและบทความดีๆจากการท่องเที่ยวทั่วโลก ยังไงฝากติดตามเราเรื่อยๆนะคะ ..



Create Date : 15 สิงหาคม 2559
Last Update : 15 สิงหาคม 2559 12:34:56 น. 0 comments
Counter : 735 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

สมาชิกหมายเลข 3341830
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 3341830's blog to your web]
space
space
space
space
space