โรงเรียนบนเกาะ... เกาะนกเภา @ สุราษฎร์ธานี
ว่าจะอัพบล็อกเรื่องเดินชมพระนครมาเมื่อเสาร์ก่อนนู้นแต่ไม่น่าจะรอด รายละเอียดเยอะเหลือเกินค่ะ นั่งไล่ ๆ ดู แล้วมึนเอง งั้นเอาอันนี้ก่อนดีกว่า 151
 
เป็นทริปที่เกิดขึ้นช่วงปลายฝนต้นหนาวของปีที่แล้ว (ช่วงที่หายเงียบไป 39) กิจกรรมอย่างหนึ่งที่เราเพิ่งมาทำได้ไม่นานคือสมัครไปกับกลุ่มจิตอาสา กิจกรรมจิตอาสานี่ถ้าใครจะยังจำได้ตอนที่เราไปทำโปรแกรมควาญช้างแล้วน้องที่นำโปรแกรมเราถามเราว่า value of life ของพี่คืออะไร... มันเป็นอะไรที่ติดใจเรามาตั้งแต่ตอนนั้น 
 
ครั้งนี้มีงานปรับปรุงห้องสมุดโรงเรียนเกาะนกเภาที่ อ. ดอนสัก จ. สุราษฎร์ธานี ช่วงนั้นเรายังไม่มีโปรแกรมด่วนอะไรเลยสมัครไป มารู้จักเกาะนกเภากันคร่าว ๆ ดีกว่าค่ะ


 

เกาะนกเภา เป็นเกาะที่มีเนื้อที่ 1,400 กว่าไร่ มีหมู่บ้าน 1 หมู่บ้าน มีบ้านอยู่ประมาณ 30-40 หลังคาเรือน และมีประชากรไม่ถึง 100 คน อาชีพหลักของที่นี่คือการทำประมงค่ะ

ที่มีหมู่บ้านเดียวคือจริง ๆ ก่อนหน้านี้นานแล้วเค้าก็มีหมู่บ้านกระจายกันตามพื้นที่ต่าง ๆ ของเกาะ แต่พอประชากรเริ่มน้อยลง (อาจจะเพราะด้วยหน้าที่การงาน ด้วยความจำเป็นต่าง ๆ) ก็เริ่มมารวมกันอยู่ด้านเดียวของเกาะค่ะ
 
พวกเราออกจากกรุงเทพฯด้วยรถตู้ไปดอนสัก ต่อเรือไปอีกประมาณ 50 นาที น้องที่นำทีมได้ติดต่อเรือจากที่หมู่บ้านให้มารับ ถามคนเรือได้ความว่าปกติไม่มีเรือโดยสารจากท่าเรือมาที่เกาะนกเภาโดยตรง แต่มีเรือโดยสารไปที่เกาะพะลวย (เกาะนกเภาอยู่ระหว่างท่าเรือฝั่งตัวดอนสักกับเกาะพะลวยค่ะ) ทางเรือโดยสารจอดให้ลงกลางทางได้ แต่ลงในน้ำนะคะ แล้วว่ายเข้าฝั่งเอง เพราะเรือโดยสารไปเกาะพะลวยมีขนาดใหญ่ ไม่สามารถเข้ามาเทียบที่เกาะได้ค่ะ แต่ใครจะว่ายมา 41 ไหนจะข้าวของ ก็ต้องติดต่อชาวบ้านให้เอาเรือออกไปรับกลางทะเลอยู่ดี ไหน ๆ จะติดต่อแล้วก็ติดต่อให้ไปรับที่ท่าเรือดอนสักเลยเถอะ ง่ายกว่าค่ะ 23 และเช่นกันค่ะ ขากลับก็ต้องเหมาเรือชาวบ้านออกไปส่งที่ท่าเรือดอนสักค่ะ


 
 
ที่ท่าเรือไปเกาะนกเภามีชาวประมงเอาปูม้าสด ๆ มาขายด้วยค่ะ กิโลละ 200 บาท พวกเราเลยซื้อติดไปด้วย


 
 
นั่งเรือไปก็นั่งชมวิวเก๋ ๆ เห็นเจดีย์สีขาวของวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ที่ตั้งอยู่ที่ อ. ดอนสัก วัดนี้เป็นวัดใหญ่ทีเดียว ใครผ่านมาดอนสักแวะสักการะก็ดีค่ะ


 

มองเห็นเกาะแลดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีรีสอร์ทหรือบังกาโลโผล่จากตัวภูขาให้เห็น สบายตามากค่ะ นั่งชมวิวไปเพลิน ๆ ก็ถึงท่าเทียบเรือของเกาะนกเภาค่ะ


 

แต่เราผ่าน ไม่เทียบ 39 เราไปขึ้นฝั่งแถวโรงเรียนเกาะนกเภาเลยค่ะ VIP อย่างพวกเราท่าเทียบเรือไม่ต้อง โดดลงน้ำค่ะ 79





 

น้ำทะเลใสเสียจนพี่ ๆ อยากจะลงไปแหวกว่าย


 

พอมาถึง เด็ก ๆ น่ารักมาก วิ่งมาช่วยขนของกันใหญ่เลยค่ะ


 

พี่ ๆ เลือกมาได้ถูกเวลามาก 24 พอดีได้เวลามื้อเที่ยง พวกเราเลยนั่งทานอาหารร่วมกับเด็ก ๆ มื้อเที่ยงนี้เป็นข้าวมันไก่ค่ะ


 


มาเล่าเรื่องโรงเรียนกันเถอะ 120
 
โรงเรียนเกาะนกเภา มีตั้งแต่ชั้น ป.1-6 มีครู 3 คน และมีนักเรียนทั้งหมด 9 คน ฟังไม่ผิดค่ะ มีแค่นี้จริง ๆ (นึกถึงหนังของ GTH เรื่องนึงเมื่อนานมาแล้ว อันนั้นโรงเรียนลอยน้ำ) ตัวอาคารเรียนเป็นอาคารชั้นเดียว มี 2 ห้อง ห้องนึงเป็นห้องเรียน เด็ก ๆ ทุกชั้นอยู่รวมกันหมดเพราะมีแค่ 9 คน อีกห้องนึงเป็นห้องทำงานของคุณครู ห้องเก็บอุปกรณ์การสอน ห้องสารพัดประโยชน์เป็นได้ทุกอย่างที่ไม่ใช่ห้องเรียน เราว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่มีบุญมากอีกแล้ว โผล่ออกมาจากห้องเรียนเป็นทะเล วันดีคืนดีก็จะมีโลมาสีชมพูมาทักทาย จะมีซักกี่โรงเรียนที่ได้สัมผัสธรรมชาติใกล้ชิดแบบนี้



 
ประวัติคือฟังแล้วจะซึ้ง จริง ๆ คือที่เกาะนี้ไม่มีโรงเรียนนะคะ ถ้าต้องการเรียนหนังสือก็ต้องไปที่ดอนสัก แต่สมเด็จย่าฯเสด็จผ่านมาเห็นว่าที่นี่ไม่มีโรงเรียน การจะให้เด็กไปเรียนที่ดอนสักก็ค่อนข้างลำบาก เลยพระราชทานเงินส่วนพระองค์ให้เพื่อสร้างโรงเรียนให้เด็ก ๆ เพื่อจะให้มีการศึกษา การเรียนการสอนที่นี่ส่วนหนึ่งจะเป็นการสอนจากคุณครู และส่วนหนึ่งจะเป็นการเรียนทางไกลจากดาวเทียมค่ะ 



 
ที่นี่มีประธานนักเรียนค่ะ ชื่อน้องหิน น้องหินอยู่ ป.5 แต่น้องเก่งและได้รับความไว้วางใจจากคุณครู เพื่อน ๆ รุ่นพี่และรุ่นน้อง ได้รับเลือกเป็นประธานนักเรียนจากคะแนนโหวตค่ะ เรื่องวิชาการเด็กนักเรียนที่นี่เก่งใช้ได้เลยนะคะ ทาง ผ.อ. โรงเรียนมักจะส่งเด็ก ๆ ให้ไปทำกิจกรรมกับโรงเรียนอื่นทั้งที่ตัวเมือง และตัวจังหวัด มาทำกิจกรรมในกรุงเทพฯก็มีค่ะ มีทั้งส่งเด็กนักเรียนแข่งตอบปัญหา อ่านทำนองเสนาะ หรือแม้กระทั่งทัศนศึกษา ผ.อ. บอกว่าจะได้ทราบว่าโลกภายนอกเด็กนักเรียนคนอื่นประมาณไหน และเราประมาณไหน คือให้ได้เรียนรู้ทุก ๆ ด้าน เด็ก ๆ ที่ส่งไปทำกิจกรรมเคยได้รับรางวัลระดับจังหวัดกันด้วยนะคะ ผ.อ. บอกว่าระดับประเทศขอเวลานิด เด็กเก่ง ๆ มีเยอะกันเหลือเกิน 120
 
(ส่วนตัวเราชอบความคิดนี้ของ ผ.อ. นะ แทนที่จะนั่งรอโอกาสให้มีเข้ามาซึ่งจะเป็นเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ แต่ ผ.อ. พาเด็ก ๆ ออกไปหาโอกาสในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เด็กไม่มีมือถือ ไม่มีแท็ปเล็ตใช้เหมือนเด็ก ๆ ในเมือง แต่ลองถามเด็ก ๆ สิคะว่าโลกหมุนไปถึงไหน เด็กตอบได้ค่ะ พี่ ๆ ลองมาหมดแล้ว นอกจากการเดินเข้าไปหาโอกาส ผ.อ. (ซึ่งเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ) ยังพยายามจัดทำโครงการอีกหลายอย่างที่จะเกิดประโยชน์กับเด็ก ๆ เพื่อนำไปต่อยอดให้ชุมชนอีกด้วยค่ะ 23


 

คุณครูทั้ง 3 ท่านพักที่นี่ค่ะ ผ.อ. เล่าให้ฟังว่าโรงเรียนที่นี่พอพวกครูสอบบรรจุกันได้ไม่มีใครอยากมา ครูท่านนึงบอกว่าตอนทราบคือร้องไห้เลยเพราะมีครอบครัวและมีลูกเล็ก แต่พอมาแล้วก็รักที่นี่ ไม่ย้ายไปไหนแล้ว ส่วนอีกท่านนึงบอกว่าตั้งใจมา อยากมา แหะๆๆ
 
 
กิจกรรมที่เราไปทำคือการปรับปรุงห้องสมุด ตัวห้องสมุดเป็นอาคารครึ่งปูนครึ่งไม้เล็ก ๆ แยกจากอาคารเรียน


 

เนื่องจากภายนอกมีการปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว ก็เลยจัดการภายในห้องสมุด จัดหนังสือและทำความสะอาด ทำเสร็จเร็วจะได้มีเวลาเหลือทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ แต่เอาเข้าจริง ๆ ไม่ไวอย่างที่คิด ช่วยกันทำสิบกว่าคนแต่ยังเหนื่อยหอบ เด็ก ๆ น่ารักมากค่ะ มาช่วยพวกเรากันหมดเลย คุณครูสอนดีด้วย คุณครูบอกว่าห้องสมุดเป็นของเราทุกคน ทุกคนต้องช่วยกัน แค่นั่นแหละ เด็ก ๆ วิ่งไปหาผ้าขี้ริ้วมาช่วยพี่ ๆ กันหมดเลย


 



 
ทางโรงเรียนอยากให้เด็กมีโต๊ะอ่านหนังสือ พวกเราเอาหนังสือไปเพิ่มให้เด็ก ๆ ด้วยค่ะ ตอนที่แบ่งงานกันก่อนไป ใคร ๆ ก็อาสาจะเอาหนังสือไปเพราะหาง่าย วิ่งเข้าร้านหนังสือซื้อ ๆ มาก็ได้แล้ว จนพวกเราเกรงว่าจะเยอะเกินไป แต่จริง ๆ ไม่พอค่ะ พอไปถึงหน้างานจริง ๆ หนังสือที่มีในห้องสมุด เยอะเลยเป็นหนังสือที่เด็กใช้ประโยชน์ไม่ได้ ถ้าไม่ใช่หนังสือสำหรับข้าราชการก็เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาเก่าแล้ว ไม่อัพเดท นอกจากนั้นยังพบว่าชั้นหนังสือที่มีอยู่ใช้ไม่ได้แล้ว ปลวกกินจนเกือบพังลงมา พวกเราก็เลยต้องเอาวางเป็นหมวดหมู่ที่พื้นไปชั่วคราวก่อนค่ะ
 

 

ทำความสะอาดกันไป ปลวกเต็มเลยค่ะ หนังสือโดนปลวกแทะเยอะมากต้องทิ้งไปเพราะใช้ไม่ได้แล้วจริง ๆ


 

กว่าจะทำเสร็จก็บ่ายแก่ ๆ แต่เพราะพวกเรามีขนมและเครื่องเขียนมาฝากเด็ก ๆ ด้วยก็เลยชวนเด็กทำกิจกรรม ถึงได้ทราบว่าเด็ก ๆ ที่นี่เก่งใช้ได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือภาษาอังกฤษ เราให้ระบายสีรูปยีราฟแล้วถามศัพทืเด็กว่าตัวนี้ภาษาอังกฤษออกเสียงว่าอะไร น้องสาวคนนึงตอบชัดเจน “จีราฟ” มีการสเตรสเสียงด้วยนะ พี่ ๆ อึ้ง 120







 


ทำกิจกรรมเสร็จคุณครูให้เด็ก ๆ พาพี่ ๆ เดินชมรอบเกาะ ร้านค้าที่นี่มี 2 ร้านค่ะ ขอบอกว่าร้านใกล้โรงเรียนชาเย็นอร่อยมาก


 

ทางเดินชมรอบเกาะค่ะ ใครไม่อยากเดินมีจักรยานให้ปั่นนะคะ





 
 
ช่วงเดินชมเกาะเราเห็นมีเศษขยะเยอะมากเลย เราสงสัยเพราะคนที่เกาะก็ไม่ใช่ว่าจะเยอะ เลยไปคุยกับชาวบ้านที่ซ่อมอุปกรณ์จับปลาอยู่แถวนั้นได้ความว่าขยะมีเยอะมาก ส่วนมากไม่ได้เป็นของหมู่บ้านนะคะ แต่คลื่นพัดมาจากที่อื่น พี่ชายบอกว่ามาจากเกาะใหญ่ ๆ นักท่องเที่ยวเยอะ ๆ ทั้งนั้น (ไม่ได้โทษใครหรือที่ไหนนะคะ คือมันเป็นธรรมชาติของคลื่นค่ะที่ต้องพัดเศษสิ่งของไปทางไหนซักทางอยู่แล้ว และอาจไปได้ไกลถึงไหนต่อไหนด้วย เพราะอย่างนั้นถึงได้มีการรณรงค์อะไรต่อมิอะไรเกี่ยวกับขยะเยอะแยะค่ะ) ทางเทศบาลและชาวบ้านเคยมีการจัดการค่ะ แต่ก็เยอะขึ้นอีกแบบนี้แหละ 

มานั่งคิด คำตอบนี้คุ้น ๆ นึกไปนึกมา อ้อ... เคยได้ยินแบบนี้เลยที่บ้านอีต่อง ปิล็อก คำตอบเหมือนกันทั้ง ๆ ที่สถานที่สองแห่งอยู่ไกลกันมากมาย 145 


 
 
 
อาหารเย็นมื้อนี้คือปูม้านึ่ง (ปูที่ซื้อมาจากท่าเรือก่อนมาที่นี่นั่นแหละ) เนื้อหวานในความสด มันคือใช่ นอกนั้นเป็นปลาค่ะ แกงเหลืองปลา ปลาผัดฉ่า ปลาทอด อร่อยสุดยอดค่ะ อาหารเย็นมีแม่บ้านกับคุณครูช่วยกันทำค่ะ ตำรับใต้แท้ ๆ เลยทีเดียว


 
 

ก่อนนอนพวกเรามานั่งคุยกันถึงกิจกรรมที่ได้ทำมาวันนี้ ถึงจะมีอาคารเรียนเป็นสถานที่นอน เรามีถุงนอนไปกันเอง แต่พอง่วงได้ที่ก็จับจองที่นอนตามใจชอบ บางคนออกมานอนบนโต๊ะหน้าอาคารเรียนที่ใช้ทานอาหาร บางคนก็ผูกเปลนอนริมทะเลนั่นแหละ ธรรมชาติสุด ๆ 119 


 


ตอนเช้าเราตื่นกันแต่เช้าด้วยเสียงคลื่นกระทบฝั่ง แอบยิ้มกัน มีเสียงคลื่นเป็นนาฬิกาปลุก อิจฉาคนที่นี่จริง ๆ

เด็ก ๆ พาเดินชมธรรมชาติตอนเช้าอีกแล้วค่ะ เด็ก ๆ เริ่มคุ้นเคยกับพวกเรา จากที่ขี้อายเมื่อวานวันนี้มีเรื่งคุยกับพี่ ๆ มากขึ้น เราซื้อน้ำให้น้องคนนึง น้องไม่รับไปฟรี ๆ นะ วิ่งหายไปแป๊บนึงแล้วกลับมาพร้อมลูกอมยัดใส่มือเรา น่ารักมากค่ะ 120





 

อ้อ! เสื้อที่เด็ก ๆ ใส่วันนี้พวกเราก็ใส่เหมือนกันนะคะ เป็นฝีมือมัดย้อมของเด็ก ๆ ในโครงการอาชีพเพื่อส่งเสริมชุมชนของหนูค่ะ สวยดีทีเดียว พวกเราก็เลยซื้อมาแล้วนัดเด็ก ๆ ให้ใส่กันวันนี้ เสื้อนี้หารายได้เข้าโรงเรียนมาเยอะแล้วนะคะ เวลาที่จังหวัดมีงานอะไรทางโรงเรียนก็มักจะเอาเสื้อมัดย้อมและกระเป๋าผ้าเพนท์ลายโดยเด็ก ๆ ไปร่วมงานด้วยค่ะ


 
 

ร่ำลาเกาะนกเภาก่อนกลับด้วยการไปไหว้ขอพรจากพระที่สำนักสงฆ์เกาะนกเภา สำนักสงฆ์อยู่หลังอาคารเรียนค่ะ





 
 
ถึงเวลาต้องกลับ เด็ก ๆ แย่งหอบเป้มาส่งพี่ ๆ พวกเราบอกว่าหนัก เด็ก ๆ ไม่ยอมแบกหลังแอ่นเลยทีเดียว โบกมือลากันจนลับตา นี่เด็กนักเรียนทั้งโรงเรียนแล้วนะนั่น 118 





 
 

ถ้าถามว่าที่นี่มีอะไรให้ชม ก็บอกตรง ๆ เลยว่าไม่มีค่ะ 23 (แล้วจะมาทำไม 39) ทั้งเกาะมีแลนด์มาร์คคือจุดชมวิว 360 องศา แต่ถ้าถามว่าเสน่ห์ของเกาะนี้คืออะไร ก็ตอบได้เลยว่าคือความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ วิถีชีวิตชาวประมงคือสิ่งที่น่าเรียนรู้ การได้พูดคุยกับชาวบ้านถึงความเป็นอยู่ทำให้ได้เรียนรู้มุมมองที่ต่างออกไป บนเกาะไม่มีร้านอาหาร ไม่มีผับบาร์ให้นั่งดริ๊งค์ ไฟฟ้าและน้ำยังเปิดเป็นเวลา ที่นี่มีที่พักสำหรับคนที่อยากจะค้างบนเกาะซักคืนสองคืน เราแอบถามเรื่องราคา คนละพันต้น ๆ (เรือรับส่ง+ที่พัก+อาหาร 2 มื้อ อาหารเย็นวันที่มาถึงและอาหารเช้าวันรุ่งขึ้น) แต่น่าเสียดายที่คนเดียวเค้าไม่รับน่ะสิคะ แต่เราก็เข้าใจนะ (แต่ก็ไม่ยอมแพ้ พยายามอ้อน ๆ อยู่ค่ะ เมื่อไหร่จะใจอ่อนก็ไม่ทราบนะคะ 145)
 
จริง ๆ ทริปนี้ไม่ใช่งานอาสาฯอันแรกที่ทำ และถ้าถามว่าได้อะไรจากทริปนี้ ที่บอกว่าจะไปหา value of life ตามหาได้หรือยัง ก็คงต้องตอบว่าหาเจอบ้างแล้วและจะหาต่อไปอีกเรื่อย ๆ ค่ะ ขอบคุณ One Fine Day ที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาค่ะ 

และสุดท้ายจริง ๆ... งานกระโดดต้องมาเนอะ 151



 



Create Date : 29 มิถุนายน 2563
Last Update : 29 มิถุนายน 2563 21:52:28 น.
Counter : 1990 Pageviews.

18 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณSweet_pills, คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณKavanich96, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณหอมกร, คุณทนายอ้วน, คุณกะว่าก๋า, คุณภาวิดา คนบ้านป่า

  
อิ่มใจไปกับเรื่องราวดีๆค่ะ
ขออนุโมทนาบุญกับการเป็นจิตอาสาปรับปรุงห้องสมุดในครั้งนี้ด้วยนะคะ

เด็กทั้ง 9 คนก็น่ารักมาก สดใส มีน้ำใจ เรียนดี เรียกว่าจิ๋วแต่แจ๋ว
เคยรับรางวัลระดับจังหวัดด้วย

ทำเลที่ตั้งของโรงเรียนติดทะเล ใกล้ชิดธรรมชาติดีจังค่ะ
ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆและเรื่องราวน่าประทับใจนี้นะคะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 30 มิถุนายน 2563 เวลา:0:09:07 น.
  
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 30 มิถุนายน 2563 เวลา:1:33:57 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 30 มิถุนายน 2563 เวลา:3:37:31 น.
  
อนุโมทนาบุญนะคะ
โดย: M (สมาชิกหมายเลข 5946129 ) วันที่: 30 มิถุนายน 2563 เวลา:7:06:14 น.
  
ไปอยู่กินนอน ได้รับอากาศ ความสงบ นั่นใช่เลยครับสิ่งที่
พวกเรา ต้องการ

ไม่ต้องมีบาร์คลับอะไร กินกาแฟทรีอินวันซองก็ได้

เป็นกิจกรรมที่ดี น่ารักครับ... ช่วยให้เด็กได้อ่านหนังสือที่ใหม่
หน่อย แต่น่าวิตก คือปลวกครับ คนที่อยู่ต้องกำจัดไม่งั้นหมดแน่
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 30 มิถุนายน 2563 เวลา:9:44:25 น.
  
melody_bangkok Travel Blog ดู Blog
บรรยากาศน่าสนุกสนานดีมากค่ะ

โดย: หอมกร วันที่: 30 มิถุนายน 2563 เวลา:13:29:52 น.
  
มาเป็นกำลังใจให้เด็กทำความสะอาดโรงเรียนด้วยคนครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 30 มิถุนายน 2563 เวลา:14:41:39 น.
  
เป็นกิจกรรมที่ดีมากเลยครับ

เจ้าปลวกนี่ร้ายกาจจริงๆ
กินหนังสือหมดเป็นเล่มๆเลยนะครับ

เด็กๆน่ารักดีครับ
มีนักเรียน 9 คน
ครูสามคน
เป็นอัตราส่วนที่ดีมากๆเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มิถุนายน 2563 เวลา:22:24:50 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กรกฎาคม 2563 เวลา:5:44:46 น.
  
ใช่ครับ

ความสุขอยู่ใกล้ตัวเราจริงๆ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กรกฎาคม 2563 เวลา:11:01:36 น.
  
วันนี้มาชวนไปกินเส้นหมี่น้ำยาปูกันครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 1 กรกฎาคม 2563 เวลา:12:18:25 น.
  
ครู 3 นักเรียน 9 นะคะ
สอนไปเล่นไปก็ยังจะง่วงเลย
ยังอ่านไม่หมด จองที่ไว้ก่อนนะคะ

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 1 กรกฎาคม 2563 เวลา:15:08:16 น.
  
ฝันดีคืนนี้นะคะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 1 กรกฎาคม 2563 เวลา:23:03:34 น.
  

สวัสดียามเช้าครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กรกฎาคม 2563 เวลา:5:55:28 น.
  
สวัสดียามเช้าค่ะ
กลับมาอ่านต่อ

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 2 กรกฎาคม 2563 เวลา:9:44:58 น.
  
คนเราเวียนว่ายอยูก่ับสุขๆทุกข์ๆนี่ล่ะครับคุณแฟร์
ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์เลย
ผมก็เป็นครับ
เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์
บางเรื่องที่เคยทำให้สุข บางวันก็กลายเป็นทุกข์
บางเรื่องที่เคยทำให้ทุกข์
กลับกลายเป็ทำให้สุข
มนุษย์นี่ยุ่งจริงๆเลยนะครับ 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กรกฎาคม 2563 เวลา:22:37:15 น.
  
มาดึกเลยค่ะ
ฝันดีเช่นกันนะคะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 3 กรกฎาคม 2563 เวลา:0:25:58 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กรกฎาคม 2563 เวลา:5:43:13 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

melody_bangkok
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่บางครั้งก็มีโลกส่วนตัวสูงมากมาย แต่ในบางครั้งก็พยายามจะยัดเยียดตัวเองเข้าไปในโลกส่วนตัวของคนอื่น... :P
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ... ^^
Daisypath Vacation tickers
มิถุนายน 2563

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
24
25
26
27
28
30
 
 
All Blog