|
|||
Autumn in DPRK Day 4 ไปเที่ยว Democratic People's Republic of Korea... สั้น ๆ เหอะ เกาหลีเหนือ หลายตอนเบื่อกันหรือยังคะ อีกนิดนึงนะ ใกล้จบแล้วล่ะค่ะ เราเขียนพล่ามไปเรื่อยด้วยแหละ เพราะเราอยากให้เห็นอีกด้านหนึ่งของประเทศนี้ เรายอมรับนะว่าด้านที่เรายังมีคำถามมันก็มี แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายมีมากกว่า แล้วพวกเราก็คุยกันว่าจะกลับมาเขียนบล็อกถึงสิ่งที่เห็นกันมาอย่างแน่นอน วันนี้เป็นวันที่เรารออีกวันหนึ่ง เพราะจะได้ออกไปต่างจังหวัดกันค่ะ ตอนแรกน้องเราตกใจนะ จะดีเหรอ ดูท่าจะไม่ได้กลับมา ส่วนเพื่อน ๆ ก็เป็นห่วงมาก ยิ่งเพื่อนชาวญี่ปุ่นบอกเลยว่าเรากำลังจะถูกลักพาตัวแน่นอน เราควรจะอยู่ในเปียงยางเท่านั้น และอยู่ในหมู่คนเยอะ ๆ ด้วย... วันนี้หมอกลงหนาอีกเช่นเคยค่ะ และวันนี้อากาศหนาวมาก พูดทีควันออกปาก เมื่อคืนนี้คุณกังกำชับทุกคนว่าให้แต่งตัวเรียบร้อย เพราะจะไปเคารพร่างของสองผู้นำที่ Kamsusan Memorial Palace ผู้ชายให้ใส่เชิ้ต ผูกไท และทุกคนห้ามใส่ยีนส์ หรือเสื้อผ้าขาด จะมาฮิปอินเทรนด์ใส่ขาดแม้แต่นิดอะไรงี้ไม่ได้ เราแบบว่า... อ่าา... เอามาแต่ยีนส์ เอาไงดี ส่วนโธเบียสไม่มีเสื้อเชิ้ต แต่คุณกังมีเสื้อเชิ้ตเผื่อผู้ชาย แต่เรารึ...?? ถามว่ามีเสื้อผ้าขายมั้ย จะไปซื้อใหม่เลย คำตอบคือมี แต่ไม่มีไซส์... ร้อนถึงหนูลี ต้องมาดูกางเกงที่เราเอามา นี่ก็อีก ปกติเราจะยีนส์ตัวเดียวเที่ยวทั่วโลก คือไม่หอบของเยอะ เกิดมีอะไรแอ็กซิเดนท์ก็หาซื้อได้ทั่วไป แต่ครั้งนี้น้องบอกว่าเอาไปเหอะเพราะที่นั่นคือเกาหลีเหนือ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะไปซื้อที่ไหน??... แต่จริง ๆ เค้ามีขายนะ แต่ไม่ดาษดื่นเท่าประเทศอื่น ลีมาดูกางเกงแล้วหยิบมาตัวนึงบอก อ้าววว... นี่ไง มีหนิ ไม่ใช่ยีนส์ เราแบบ... ฮะ... อ่ะ... เอ่อ... ขอบคุณ ใส่ได้แน่นะ ลีพยักหน้าแข็งขัน ใส่ได้ นี่มันยีนส์ที่ไหน แล้วลีก็จากไป ทิ้งเรานั่งมองกางเกงเราเกาหัวแกรก ๆ ก็มันคือยีนส์อ้า... แต่มันเป็นสีเทา!!... แต่พอไปถึงที่พาเลซ เราเห็นคนใส่ยีนส์สีดำด้วยนะ สรุปคือกางเกงยีนส์ของเค้าคือสีน้ำเงินอย่างเดียว... เช้านี้ตอนทานข้าวเสร็จ เราก็ไปซื้อน้ำที่ซุปเปอร์ชั้นล่าง เหลือบไปเห็นแป้งพัฟเกาหลีเหนือ ถามว่าเท่าไหร่ พนักงานบอก 30 หยวน แล้วเรทเงินที่นี่นะ... ตกเป็นหัวข้อสนทนาของพวกเรามาแล้ว อย่างแป้งเนี่ย... 30 หยวน แต่ถ้าจ่ายเป็นยูโร... จะ 3 ยูโร และถ้าจ่ายเป็น USD... ก็จะ 3 USD เกาหัวกันแกรก ๆ ยูโรกับ USD มันควรจะไม่เท่ากันนะ นักท่องเที่ยวบางคนก็จะแบบฉลาด ถามราคาเป็นยูโร แต่ขอจ่ายเป็น USD นะ... เราวิเคราะห์กัน แต่เราก็หาคำตอบไม่ได้ ถามไกด์ ไกด์ก็งง ๆ มันอาจจะเป็นค่าเงินที่พวกเค้ากำหนดขึ้นมาให้เท่ากัน แต่... พวกเรารู้ว่าทั่วโลกมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ทริปนี้พวกเราเลยตกลงกันว่าจะไม่ใช้ USD แต่จะใช้หยวนและยูโรเท่านั้น อ้อ... แล้วแป้งนี่นะคือดีงาม เนื้อเบา เนียน คุมมันไม่มาก แต่ใช้ทั้งวันหน้าไม่หมอง ใครจะไปบอกบ้างจิ จะฝากซื้อ ขอบคุณค่ะ... แล้วตอนที่จ่ายเงิน เราจ่ายเป็นยูโร เหรียญ 2 ยูโรมันจะเหมือนเหรียญ 10 บาท เราเทเหรียญจากกระเป๋า พนักงานก็หยิบเหรียญ 10 ไป เราบอกไม่ใช่ ๆ นั่นเงินไทย พนักงานดูชัด ๆ ตื่นเต้น ฮะ... นี่เงินไทยเหรอ แล้วคน ๆ นี้คือใคร เราบอกว่ากษัตริย์ของไทย พนักงานตื่นเต้น ดูใหญ่ นี่กษัตริย์ไทยเหรอ ท่านเป็นคนดีมั้ย ไม่รู้สิ... ปกติก็ไม่ได้จะคลั่งชาติอะไรมากมายนะ แต่ตอนที่ตอบว่า... ใช่ เป็นคนดี เรารู้สึกอิ่มใจไงไม่รู้... มาที่ Kamsusan Memorial Palace กันเถอะ การตรวจตราที่นี่ค่อนข้างจะเข้มงวด อะไร ๆ ก็เอาเข้าไปไม่ได้ บัตรที่มีชิปก็ไม่ได้ เราก็เลยเอาของทุกอย่างไว้ที่รถกัน แต่เอากล้องไปเผื่อถ่ายรูปด้านนอก นักท่องเที่ยวคนนึง จะผ่านเครื่องสแกน แต่เครื่องก็มีเสียงเตือนตลอด ปรากฎว่ามีบัตรเครดิตอยู่ในกระเป๋ากางเกง แอบเม้ามอยกันว่า... เฮ้ยยย ที่นี่เค้าปฎิเสธมาสเตอร์ฯ อ่ะนาย แต่วีซ่าเค้าน่าจะโอเคนะ... ก็เคารพร่างของท่านผู้นำ ทหารก็ยืนตรง มองนิ่ง พยายามจะมองว่าเค้ากระพริบตามั้ย เค้าไม่กระพริบด้วยอ่ะ... เริ่ด... ที่นี่นอกจากจะมีร่างผู้นำทั้งสองแล้ว ก็ยังเป็นที่เก็บพวกรางวัลหรือของขวัญ เครื่องราชย์ฯ ที่ผู้นำได้รับมาจากประเทศต่าง ๆ ด้วย และจากที่นี่... ทำให้รู้ว่า คิมจองอิล ใช้แมคบุคทำงาน... เสร็จจากที่นี่ เราก็ไปเคารพสุสานเหล่าผู้กล้าในการต่อสู้กับกองกำลังญี่ปุ่น เรย์โก้ให้เราเป็นคนวางดอกไม้ แล้วคนที่บ้าญี่ปุ่นอย่างเรา... ไม่อินค่ะ... ฮ่าๆๆ ที่นี่มีนักเรียนมาทัศนศึกษาแล้วก็หาข้อมูลด้วยเยอะเลยค่ะ ที่ตั้งตรงนี้เป็นเนินเขา เราก็เลยมองเห็นเมืองเปียงยางด้วย ถ้าเป็นวันที่อากาศแจ่มใสก็น่าจะดีกว่านี้ค่ะ ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีบ้างแล้ว... ก็ตอนก่อนมา ชวนน้องคนนึงที่นัดกันว่าจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นว่ามาดูที่เกาหลี....เหนือ กันมั้ย น้องบอก ไม่เอาอ่ะ รอปีหน้าได้... ได้เวลาอาหารเที่ยง เราก็ไปทานข้าว เป็นวันหยุด ก็เลยมีคนออกมาทำกิจกรรมกัน อันนี้เป็นการรำคล้าย ๆ ไทเก้ก น่ะค่ะ ลีบอกว่าเพราะแถวนี้มีคนสูงอายุอาศัยอยู่เยอะ ทานข้าวก็ใช้เวลาเม้ามอย กลุ่มเรานี่นะ เรื่องกินเรื่องใหญ่จริง ๆ เลย... โปรแกรมบ่าย ไปจัตุรัสคิมอิลซุง แล้วก็จะออกต่างจังหวัดละ ที่จัตุรัสมีคนไปเดินทำกิจกรรมอยู่บ้าง ริมแม่น้ำด้วยมั้งคะ สังเกตอีกอย่างว่าเด็กที่นี่กำลังฮิตโรลเลอร์เบลด... ที่พื้นยังเห็นรอยมาร์คอยู่เลยค่ะ น่าจะเป็นการแสดงเมื่อคืน พอดีตอนจะออกต่างจังหวัด คุณกังที่มีนัดแข่งปิงปองกับโธเบียสบอกว่าเราเปลี่ยนจากปิงปองเป็นโบว์ลิ่งมั้ย ทุกคนบอก... เอา ก็เลยแวะโยนโบว์ก่อน เรา เรย์โก้ ลี ไม่เล่น เรย์โก้ไปนั่งชิลร้านกาแฟ เรากับลีก็เลยคุยกันจุ๋งจิ๋งกระหนุงกระหนิงอยู่ 2 คน แล้วก็เลยชวนกันไปเล่นพวกเกมส์ตู้ เกมส์ตู้มีนะ นึกถึงตอนเด็ก ๆ เลยทีเดียว... ขับรถออกมา ก็ยังไม่ได้ออกต่างจังหวัดซะที... บังเอิญ แอน เหลือบไปเห็นเค้าเต้นรำกันที่แถว ๆ อนุสาวรีย์พรรคแรงงานนั่น ก็เรียกร้องอยากลงไปดู ทุกคนเลยขอร้องคุณกัง อันนี้จริง ๆ ไม่อยู่ในแพลน แต่เมื่อทุกคนอยากดู คุณกังก็จัดให้ ดูไม่ดูเปล่า เข้าไปเต้นกับเค้าอีกแน่ะ สนุกสนานกันไป เราจากทีแรกดูการเต้นรำ พอหลัง ๆ กลายเป็นดูชิมะ ชุดประจำชาติของเค้าไป สวยดี คุณกังบอกว่าปกติไม่มีประดับธง แต่เพราะมีงานฉลองเมื่อวานก็เลยประดับธงกันตามที่ต่าง ๆ วันนี้ลีสดใสดี แดดออกจัด เธอก็มีแว่นกันแดดดีไซน์ทันสมัยด้วยนะจ๊ะ เมื่อเต้นรำกันหนำใจ ก็กลับรถเถอะ จะได้ออกต่างจังหวัดกันซะที เราสังเกตว่าที่นี่เค้ามีสะพานลอยน้อยมาก แต่ส่วนใหญ่จะมุดลงใต้ดินมากกว่า มุ่งหน้าสู่ Kaesong ได้ซะที จะได้นอนโรงแรมบ้าน ๆ แล้ว ตื่นเต้น... ค่ะ... ก็ไม่ไกลมาก นั่งรถลืมโลกกันไปเลย หนาว มืด และมีด่านทหารตลอดทางค่ะ มืดแบบมืดจริง ๆ ไม่มีไฟถนนอ่ะ บางช่วงจะมีแสงไฟลิบ ๆ จากบ้านคนบ้างค่ะ แล้วถนนบางช่วงขรุขระมาก ยิ่งพอเวลาเข้าอุโมงค์ อื้อหือ รถเอ๋ย อย่าได้มาเสียตรงนี้เลย... ฮ่าๆๆ แต่ก็ปลอดภัยดีนะคะ มีแวะพักข้างทาง แต่มันเย็นแบบไม่อยากขยับตัว... ทุ่มกว่าก็ถึงที่พัก แต่แบบต่างจังหวัด ก็มืดตื๋อไปดิ รถเลี้ยวเข้าเขตโรงแรม เราพักที่โรงแรม Minsok Hotel ค่ะ และนี่เป็นสิ่งที่เราเลือกทัวร์นี้ มันฟินอ่ะ ไปชมห้องพักกันเนอะ ห้องพักที่นี่เป็นหลัง ๆ นะคะ ดูบ้าน ๆ แค่เครื่องอำนวยความสะดวกมีครบเท่าที่จำเป็น แต่ละหลังจะไม่เหมือนกัน เราพักห้องซิงเกิลอีกเช่นเคย ข้างบนนั่นเป็นเข้ามาในบ้าน ห้องที่ไฟเปิดเป็นส่วนของเราค่ะ เป็นห้องนั่งเล่น เห็นเป็นพื้นเสื่อแบบนี้ อุ่นนะคะ เหมือนเค้ามีฮีตเตอร์อยู่ใต้พื้น ความลำบากคือ ด้านขวาเป็นห้องนอน ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ ทำไมมันไม่อยู่ติดกันน้อ จะอาบน้ำทีวิ่งเข้าวิ่งออก... ที่นี่ไม่มีน้ำอุ่นนะจ๊ะ มีน้ำเย็นอย่างเดียว แต่เราไม่ซีเรียส เราง่าย ๆ ด้วยแหละ อะไรยังไงก็ได้ ไม่เรื่องมาก ชอบมากสุด คือ ตอนเข้านอน เห็นแบบนี้อุ่นมาก หมอนเป็นหมอนฟางนะเรารู้สึก พอนอนลงไปหอมกลิ่นฟางจนน้ำลายไหล... ไม่ใช่ละ... เก็บของเสร็จก็ไปทานข้าวที่ห้องอาหาร พนักงานถามว่าใครจะเอา dog soup มั้ย บายค่ะ... ไม่เอา... เหอๆๆ แต่แฟนบาร์บาร่ากับพอลขอลอง แล้วแบบรอนานมาก เรย์โก้ก็ไปตามให้ ก็แซว ๆ กันว่า ไม่ต้องตามก็ได้ คงไปไล่จับหมาอยู่อ่ะ ตอนที่เข้ามายังได้ยินเสียงเห่าอยู่เลย ตอนนี้เงียบไปละ... พอลทานหมด เพราะเคยลองทานแล้วที่เวียตนาม แต่แฟนบาร์บาร่าแลดูไม่ปลื้มเท่าไหร่... ที่นี่มีบาร์ด้วย ทานข้าวเสร็จก็ไปนั่งดื่มกันที่บาร์ คุยกันหัวเราะเฮฮาจนเหลือบไปเห็นน้องพนักงานตาจะปิดก็เลยแยกย้ายกันไปนอน เดินกลับห้องพัก ดาวเต็มฟ้าเลย ชอบจัง... |
melody_bangkok
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?] ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่บางครั้งก็มีโลกส่วนตัวสูงมากมาย แต่ในบางครั้งก็พยายามจะยัดเยียดตัวเองเข้าไปในโลกส่วนตัวของคนอื่น... :P ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ... ^^ All Blog
| ||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |