ห่างหายวงการท่องเที่ยวญี่ปุ่นไปนานด้วยภาระหน้าที่และอะไรที่ไม่ลงตัว
แต่ตอนนี้เริ่มจะมีเวลาว่างบ้างแล้ว ก็เลยไม่รอช้าจองตั๋วเครื่องบินกันไปในทันใด
ครั้งนี้ก็เหมือนเดิม ๆ เราไปเที่ยวแถบคันไซ ซึ่งมันก็ไม่ได้จะมีอะไรมากไปกว่าโอซาก้าเกียวโต โกเบ นาราแถมเดือนมีนาทั้งเดือนเป็นฤดูท่องเที่ยวเห็นรีวิวกันจนรู้สึกเบื่อ พอไปถึงเลยคิดว่าจะไปไหนดีนะทีแรกเลยว่าจะไป Wakayama เพราะไม่เคยไป JapanMint ซึ่งเห็นว่าซากุระสวยนักสวยหนา แต่... เค้ายังไม่เปิดให้ชม... ฮ่าๆๆ... เลยอดไป...
กำลังนั่งคิด เอ๊ะ... จะไปไหนดีนะ ก็พอดีมีเสียงประกาศในรถไฟได้ยินอะไร Tottori
Tottori
เอ๊ะ... อันนี้แหละ น่าจะได้ เห็นมีรีวิวในห้องบลูอยู่เหมือนกันแต่ไม่เปิดเคยเข้าไปอ่าน
เลยลองกูเกิ้ลเสิร์ชดูหน่อยซิว่ามีอะไรน่าสนใจ
โอววว... sanddune ไม่ยักรู้แฮะว่าญี่ปุ่นก็มีแบบนี้ด้วย ดูไปเรื่อย ๆ เอ๊ะ...ติดกับ Sea of Japan
การเดินทางก็ไม่ยาก นั่งรถไฟไป JR TottoriStation และต่อด้วยรถบัส 370 เยน ถึง TottoriSakyu เลย
และที่สำคัญ... ไม่เสียค่าเข้า
ไม่รอช้า ตั้งใจแน่วแน่ว่าวันรุ่งขึ้นจะต้องไป เลยบอกเพื่อนว่าจะไปนะ
เพื่อนขำก๊าก (อีกแล้ว... -*-) แล้วบอกว่าเอางี้เราก็ไม่เคยไป (และไม่เคยคิดจะไป... -*-) เดี๋ยวเราพาไปละกัน
อะไรสวรรค์จะใจดีกับเราถึงเพียงนี้ ไม่ต้องระหกระเหินเร่ร่อนไปเอง...
วันต่อมาเลยออกเดินทางไป ผ่าน Okayama อยากจะขอแวะปราสาทโอคายาม่าซักหน่อย ก็เกรงใจเพื่อน
พอไปถึง Tottori Sakyu ก็ทานข้าวก่อนข้ามถนนไปดูสันทรายเห็นเขียนไว้ด้วยว่า バスのりば ก็เลยเดาว่ารถบัสน่าจะมาจอดตรงนี้
แล้วเรื่องทานข้าวนี่ก็นะปกติสกิลการสั่งอาหารของเรานี่มันต่ำเตี้ยเรี่ยดินมากอยู่แล้ว
พอพ่วงเพื่อนเข้าไปด้วย ยิ่งต่ำเตี้ยเรี่ยดินเข้าไปใหญ่ คือถึงรู้ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ได้ช่วยอะไร
เราเลยจำต้องชี้ ๆ เอา... เอาอันนี้แหละ เป็นชาม ๆ
ตอนสั่ง พนักงานถามอะไรไม่รู้ เราได้ยินอะไรซาคิว ๆ ก็อ่ะ เอาซาคิวนั่นแหละ
พออาหารมา เอ๊ะ มาเป็นถาดเซ็ตเลย ไม่ใช่ของเรานะ ของเราเป็นชามเดียว
เพื่อนแอบขำ ก็นี่แหละที่เธอสั่ง เราต้องเอาอันนี้มาผสมอันนี้ เอาอันนี้ใส่ไปโปะด้วยนี่
เออ... ทานยากเย็นแฮะ ดีใจจังที่เพื่อนมาด้วย...
วันที่ไปคนไม่ค่อยเยอะค่ะ อาจจะเพราะเป็นหน้าหนาวหรือเพราะเป็นลานทรายกว้างงงงง ก็ไม่ทราบนะคะ
เพื่อนเราบอกว่าด้านหลังสันทรายเป็น Sea of Japan
ตื่นเต้นประหนึ่งไม่เคยเห็นทะเล ถ่อสังขารเดินขึ้นไปบนสันทรายเพราะอยากจะเห็น
พอปีนขึ้นไปถึงสันทราย มองเห็น Sea ofJapan อยากจะไปเดินเหยียบชายหาดมาก
แต่พอเห็นทางลาดลง ก็นึกถึงว่าถ้าตอนกลับขึ้นมาต้องปีนกันอีก ไม่เอาล่ะค่ะ
ก็ใช้เวลาเดินเล่น สูดลมทะเลอยู่เกือบชั่วโมงเหมือนกันจากที่นึกว่าไม่น่ามีอะไร
กิจกรรมที่นี่ก็มีการขี่อูฐ อูฐดูน่ารักมาก (เราว่าอูฐที่ญี่ปุ่นดูหน้าหวานอ่ะ)แต่เราก็ไม่ขี่นะ
เพื่อนแอบแซว เค้าไม่ให้ช้างขึ้นขี่อูฐหรอก... เออ เอาเข้าไป
เด็ก ๆ ดูร่าเริงกันมาก เสียงหัวเราะนี่ระรื่นกันเลยเชียว
เห็นเด็กเกรียนญี่ปุ่นปีนขึ้นไปบนสุดแล้วทิ้งตัวกลิ้งกันลงมาหัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก
เราคนไทยไม่เกรียนก็พยายามมองดู สนุกตรงไหนนี่... แหะๆๆ
พอตอนจะกลับ มองหน้ากันกับเพื่อน เอ๊ะ... เราจะกลับทั้ง ๆที่ยังไม่ได้กลิ่นทะเลเลยนี่นะ
เพื่อนเห็นเราทำตาละห้อย ก็เลยจอดรถข้างทาง เดินลงไปสูดกลิ่นทะเล ดูเค้าตกปลากันอากาศดีมาก ๆ ค่ะ
เอาความรู้มาบอกกันเล้กน้อยเนาะ ก่อนที่จะกลายเป็นบล็อกไม่มีสาระ
สันทรายที่นี่เกิดขึ้นมาเป็นแสนปีแล้วจากการสะสมทรายที่พัดพามาจากเทือกเขาชูโกกุกับแม่น้ำเซนไดลงไปที่ทะเลญี่ปุ่น
ลมและกระแสน้ำก็ช่วยพัดทรายจากด้านล่างขึ้นมาที่ฝั่ง ก็เกิดเป็นสันทรายขึ้นมา
จริง ๆ มันกว้างใหญ่กว่านี้มาก เพราะทับถมกันมาเป็นแสนปี
แต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เหมือนรัฐบาลเค้าใช้สถานที่ทำโปรเจ็คอะไรซักอย่างก็เลยเหลือเท่าที่เห็น
แค่นี้พอเนาะ เราไม่ใช่นักภูมิศาสตร์ ไม่ต้องรู้เยอะก็ได้... แหะๆๆ
ถามว่าชอบที่นี่มั้ย ตอบเลยว่าชอบ
ไม่แนะนำว่า ต้อง มาแต่ถ้าจะผ่านทางนี้อยู่แล้วก็เชิญแวะกันเลยค่ะ ไม่เสียใจแน่นอน
แล้วถ้าได้แวะมา... แนะนำของฝากชิ้นนี้ค่ะ... อร่อย เกลี้ยงก่อนที่จะได้ฝากชาวบ้านค่ะ...-*-