ตอบคำถามเรื่องอาชีพนักแปล

ตอบคำถามเรื่องอาชีพนักแปล
ห่างหายจากการเขียนบล็อกนานมาก เรายุ่งๆ เพราะเคลียร์งานเนื่องจากจะเดินทางสัปดาห์ที่แล้ว (14-20 มิถุนายน 2558) เราอยู่อิตาลี มีผู้อ่านเขียนอีเมลมาหาหลายคน ก็ตอบไปแล้วเหลือคนนี้ที่ยกยอดมาตอบในบล็อก (เขียนที่ลอนดอน)

“สวัสดีค่ะคุณแนท ชื่อโจ้นะคะพอดีอ่านเรื่องของคุณแล้วก็สนุกดีค่ะเเล้วก็ได้ประโยชน์มากๆ ด้วย ขอบคุณมากๆ นะคะที่ช่วยเปิดหูเปิดตาให้คนที่อยากเป็นนักแปลได้ทราบถึงเส้นทางการเป็นนักแปลว่ายากง่ายยังไงโจ้คงเป็นอีกหนึ่งคนในบรรดาหลายๆ คนที่เขียนมาหาคุณ ถ้าไม่รังเกียจขอรบกวนเวลาขอคำปรึกษาด้วยคนได้ไหมคะ(ถ้าไม่รังเกียจขอเป็น pen friend ด้วยก็ดีนะคะเพราะโจ้ไม่สบายเลยต้องอยู่บ้านไม่ค่อยได้เจอเพื่อน ก็แอบเหงาเหมือนกัน ที่สนงานแปลเพราะทำงานที่บ้านได้เนี่ยแหละค่ะเพราะบุคลิกก็เข้าสังคมไม่เก่งด้วย) 

ส่วนตัวโจ้ชื่นชมความเก่งของคุณแนทมากๆ ว่าเป็นคนมีความสามารถและสามารถทำงานแปลแบบมีมาตรฐานและสามารถรับงานแปลได้ราคาจนอยู่ได้สบายๆจากงานแปล โจ้อยากทำได้แบบคุณแนท คือตอนนี้กำลังตัดสินใจเกี่ยวกับชีวิตอะค่ะว่าจะเป็นนักแปลดีไหม เส้นทางนี้มันโอเคเปล่าสำหรับโจ้ คือส่วนตัวตอนนี้กำลังคิดว่าจะทำอะไรที่จะไปต่อยอดดี เพราะอีก 5 ปีโจ้แพลนมาอยู่อเมกากับพี่ชายเค้าเห็นโจ้ป่วยเลยจะเอามาอยู่ด้วยแต่เราก็ไม่อยากเป็นภาระเค้าอะค่ะ

โจ้จบภาษาวรรณคดีอังกฤษมาค่ะที่ธรรมศาสตร์แต่จบมานานแล้ว เคยทำงานโรงแรม แต่หลายวันที่ผ่านมาก็แปลเอกสารเกี่ยวกับวีซ่าอเมริกาเพื่อให้คุณแม่อ่านแปลจนโอเคเริ่มเข้าใจภาษาราชการนิดนึงเพราะที่บ้านมีแผนว่าจะให้คุณแม่ไปอยู่อเมกาโดยผ่านพี่ชายพอดีพี่ชายได้ citizen และโจ้ก็จะตามไปหลังจากอยู่เมืองไทย5 ปี อยากทำงานใช้ความสามารถตัวเองแบบไม่ได้ไปแนวทำร้านอาหารไทย

และหลังจากไปอ่านบล็อกพวกเทพๆ ในพันทิพเค้าแปลกันมาเป็น 10ๆ ปี เกิดอาการเสียselfกลัวว่าจะแปลได้ดีเหมือนคนอื่นไหมเพราะทุกคนต่างก็ใช้เวลากว่าจะเก่งกันถ้าจะทำงานแปลเกรดดีๆ จะทำได้ไหมน้า เค้าจะรับเราเปล่า แต่ก็คิดว่า สู้ๆ ละกันยังไงเราก็จบภาษามา...ยังไงน่าจะทำได้ปัดฝุ่นมันซะหน่อย ทีนี้หลังจากหาข้อมูลเกี่ยวกับวงการการแปลไทย มานิดหน่อยดูคู่เเข่งมากราคาก็ไม่น่าเอาตัวรอดได้ก็เลยกำลังวางแผนชีวิตตัวเองใหม่อยู่ถ้าจะเป็นนักแปลก็ต้องแปลเฉพาะทางใช่ไหมคะก็เลยว่าจะไปลงเรียนกฎหมายเพิ่มที่ราม  ตอนนี้กำลังเบลอๆ อยู่สับสนชีวิตเล็กน้อยคำถามอาจจะงงๆ นิดหน่อยนะคะ (ใช้เวลาประมาณ 3 วันเลยค่ะกว่าจะอ่านจบทุกบทความ ไฮเปอร์มากๆ)

1. รายได้และความมั่นคงในการประกอบอาชีพ: มีมากน้อยแค่ไหนคะ เพราะส่วนมากที่อ่านใน pantip ส่วนมาก (97%) บอกให้รับเป็นงานเสริมจนกว่าจะมีแหล่งงานที่มั่นคงน้อยมากๆ บ้างก็บอกว่าอาชีพอิสระได้ถ้าตั้งใจ ขยันก็อยู่ได้ (3%)? ปลายทางของอาชีพคุ้มค่ากับการทำงานอาชีพนี้ไหมคะ?

เคยอ่านบทความเรื่อง "ความเชื่อที่ผิดๆ10 ประการเกี่ยวกับการแปล" ของคุณแนท แต่ไม่แน่ใจว่าวงการแปลของไทยมีการเติบโตอัตราก็าวหน้า 40% แบบเมืองนอกเค้าไหม
ส่วนในบทความตลาดการแปลที่ออสเตรเลียกลับมีแนวโน้มตรงกันข้ามคือราคาลดลง คนจะเลิกแปลกัน

ตอบ: ยืนยันเหมือนเดิมว่า แนะนำให้ทำเป็นอาชีพเสริม จนกว่าฐานลูกค้าจะแน่นมีงานเข้ามาสม่ำเสมอถึงค่อยทำงานแปลเป็นงานประจำ คำว่าอาชีพอิสระ มันอิสระจริงๆ เงินก็อิสระคือ ได้บ้างไม่ได้บ้าง สำหรับคนที่มีภาระผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เลี้ยงครอบครัว เป็นต้น ไม่แนะนำให้ทำงานแปลเป็นงานประจำเพราะจะไม่สามารถวางแผนชีวิตได้เลย รายจ่ายตายตัวแต่รายได้ไม่แน่นอน เรียกว่าเสี่ยงสูง (สิ่งหนึ่งที่เราย้ำคือปากท้องของตัวเองและคนในครอบครัวต้องมาก่อน อย่าทำตามความฝันโดยไม่ดูความเป็นจริง อย่าปล่อยให้พ่อแม่อดมื้อกินมื้อ)

เรารับงานแปลเป็นงานประจำมาตั้งแต่ปลายปี 2554 ก่อนหน้านั้นเราทำงานแปลคู่กับงานประจำมาตลอดเลยมีลูกค้าอยู่แล้ว พอมาทำงานแปลเต็มตัว ลูกค้ามาทุกทางเลยเพราะรู้ว่าเรามีเวลาทำงานให้แน่นอน  ความที่งานแปลเป็นอาชีพอิสระ มันก็มีข้อดีข้อเสียอย่างเราเดินทาง (เที่ยวหรือประชุม) ไปต่างประเทศ เราต้องเช็คเมลตลอดโทรศัพท์หาลูกค้า ทำใบเสนอราคา กลางวันไปเที่ยว ตกเย็นนั่งแปลงาน

คำว่า ถ้าตั้งใจ ขยันก็อยู่ได้นั่นก็จริง แต่มันมีปัจจัยเรื่องฝีมือเข้ามาเกี่ยว ขยัน ตรงนี้หมายถึง รับงานเยอะไม่เกี่ยงงานหรือเปล่า ถึงทำให้อยู่ได้ นั่นแปลว่า นักแปลมีชั่วโมงบินน้อยค่าแรงต่ำ ทำให้ต้องรับงานเยอะ ถ้านักแปลมีวุฒิการศึกษาที่สอดคล้องมีความสามารถและประสบการณ์ ก็ไม่จำเป็นต้องรับงานแปลเยอะแต่สามารถทำรายได้ดี

วงการแปลของไทยอัตราเติบโตเท่าไหร่ไม่รู้แต่มีการเติบโตแน่ๆ เนื่องจากตอนนี้ไทยกำลังตื่นตัวเรื่อง AEC ภาษายอดฮิตก็ภาษา AEC นี่แหละ เห็นในหน้า FB สมาคมนักแปลและล่ามแห่งประเทศไทย มีคนถามหานักแปลภาษาพม่า ภาษาลาวภาษาเขมร ภาษาเวียดนาม เรียกว่าหายากเหมือนงมเข็มในขณะที่นักแปลคู่ภาษาอังกฤษเป็นไทย และไทยเป็นอังกฤษ มีเกลื่อน

ส่วนตลาดออสเตรเลีย อันนั้นเราได้ยินมาจากคนอื่นแต่งานที่ออสเตรเลียก็เรื่อยๆ มาเรียงๆ ยังไงงานมันก็มีเพราะนักแปลภาษาอังกฤษเป็นไทยและไทยเป็นอังกฤษที่ได้รับการรับรองจาก NAATI มีแค่ยี่สิบกว่าคน ลูกค้าก็จ้างวนกันอยู่แค่นี้

2. ถ้าอยู่ไทยไปรับงานแปลจากนอกน่าจะโอเคแต่ถ้าอยู่เมกาการทำงานแปลจะพอกับค่าครองชีพรึเปล่าคะ? เพราะไม่ใช่ภาษาจำเป็นของเค้าเท่าที่อ่านตามพันทิพและที่สำคัญพอดีไปเปิด https://www.atanet.org/ เป็นเว็บของAmerican Translation Associated เค้าจะมีการสอบใบ certificateสำหรับพวกภาษาที่เค้านิยมใช้คือพวกจีน ญี่ปุ่น สเปน แต่ไม่เห็นมีไทยรึโจ้อ่านพลาดอะไรไปรึเปล่าคะ

ตอบ: ถ้าไม่มีให้สอบภาษาไทย แสดงว่าไม่ใช่ language in demand จำนวน migrants เข้าประเทศไม่ได้เยอะขนาดที่ต้องการนักแปลหรือล่ามไทย

ในรัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลียล่ามไทยที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิ NAATI ระดับ 3 (professional) ขาดแคลนอย่างมาก หลายคนได้รับการรับรองคุณวุฒิแค่ระดับ2 (paraprofessional) เดือนที่แล้ว เราเจอเพื่อนที่เป็นล่ามในเมลเบิร์นบอกว่าอยากให้เราไปทำงานล่ามเพราะขาดคนจริงๆ ยิ่งงานล่ามศาล นับหัวได้เลย

3. Demand& Supply จริงๆ ของอาชีพนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นอย่างไรบ้าง? ได้ข่าวว่าตอนนี้ไทยตลาดล้นในส่วนของอังกฤษ>ไทย แล้วที่เเนะนำกันว่าให้รับงานจากพวกเว็บต่างประเทศเช่น www.proz.com ใช่การแปลอังกฤษ >ไทย รึเปล่าคะ

ตอบ: เราไม่รู้เรื่องอุปสงค์อุปทานของตลาดต่างประเทศ  ของไทยก็ไม่ค่อยรู้หรอก ฟังเขามาอีกทีแล้วก็เดาจากหน้า FB ของสมาคมฯแนะนำให้คอยอ่านจดหมายข่าวของเอเจนท์แปลในประเทศที่สนใจเขาจะมีอัพเดทเรื่องตลาดงานแปลและล่ามเป็นครั้งคราว  ส่วนเรื่องรับงานจากเว็บต่างประเทศก็มีหลายเว็บที่คนไทยเข้าไปประมูลงาน อันนี้เราเคยเขียนไปแล้วในบล็อกเก่าว่านักแปลฝีมือดีประสบการณ์สูง ค่าแรงสูงมักจะไม่ได้งานเนื่องจากเว็บเหล่านี้เน้นจ้างนักแปลที่เสนอราคาต่ำสุด

4. อัตราค่าแปลเอกสารต่างๆราคาเท่าไหร่กันรึคะ ดูไม่มีอัตราตายตัว ตัดราคากันไปมา น้องเริ่มงงค่ะ?

ตอบ: อัตราค่าแปลก็กำหนดตามคุณวุฒิและประสบการณ์ นักแปลฝึกหัดเห็นคิดกันหน้าละ 100 บาทขึ้นไป  เดือนที่แล้วเราสั่งจ้างแปลงาน 8 ชิ้น ผ่านเว็บหนึ่งที่รวมนักแปลฟรีแลนซ์ ต้นฉบับที่จ้างแปลก็คือบล็อกของเรานี่แหละ เนื้อหาไม่ได้ยากเลย เห็นนักแปลเสนอราคามาแล้วตกใจ 6 หน้า 200 บาท เป็นต้น  เราสันนิษฐานเลยว่าต้องแปลได้ไม่ดี แล้วก็จริง ไม่ใช่แปลมาไม่ถูกใจนะ แต่มันไม่ถูกต้อง (accuracy) ไวยากรณ์ผิด (syntax) เช่น แปลประโยคเป็นวลี (ใจความไม่ครบ) นักแปลที่จ้างนี่มีจบนอกก็ยังแปลใช้ไม่ได้   แต่สุดท้าย เราเก็บไว้หนึ่งคนเพราะเห็นว่าน่าจะพัฒนาฝีมือได้   ส่วนเรื่องค่าแปล สำหรับนักแปลที่มีฝีมือคิดคำละ 2 บาท ลูกค้าไทยยังต่อกระจาย อย่างกะขายผัก แต่ถ้าตลาดต่างประเทศ ก็คำละ $ 0.10 (3 บาท) ขึ้นไป  นักแปลตัดราคากันอยู่อย่างนี้ค่าแปลถึงไม่ขึ้นเหมือนค่าแรงขั้นต่ำที่ขึ้นไปแล้วเป็นวันละ 300 บาท

5.ถ้าจะเเปลให้รวยต้องทำอย่างไรคะ? 
5.1 อันดับประเภทงานแปลทำรายได้top 10 มีอะไรบ้างคะ?
5.2 trend ปี 2558 เป็นอย่างไรเมื่อเข้า AEC?

ตอบ: เป็นนักแปลไม่รวยเท่าเป็นเอเจนท์นะ เราว่า นักแปลนี่เทียบไปก็เหมือนคนใช้แรงงานเป็นคนทำงาน แต่เอเจนท์เป็นคนกลาง กินค่าหัว ขั้นต่ำก็ 30% แล้วเช่น นักแปลเสนอราคา 1,000 บาท เอเจนท์บวก 30% เป็น 1,300 บาท แต่นักแปลยังต้องรับผิดชอบในคุณภาพของงานแปลอยู่ดี

ลองเปลี่ยนคำถามเป็น ถ้าจะรวยต้องทำอย่างไร (ไม่จำเป็นต้องทำงานแปล) ก็ใช้หลักการเก็บตังค์ รายได้ต้องมากกว่ารายจ่ายมาก
  
คาถามหารวย สำหรับนักแปล คือ ทำงานดี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูลูกค้า เข้าหาอาจารย์ (ทำไมอ่านแล้วเหมือนคำขวัญวันเด็ก?)

คำถามที่ว่างานแปลทำรายได้ top 10 หรือเปล่า เราไม่รู้  รอมหาวิทยาลัยต่างๆ ทำวิจัยด้านธุรกิจการแปลและล่ามอยู่รอมาหลายปีแล้ว ถ้านิสิตนักศึกษาคนไหนจะทำวิจัยเรื่องนี้ เรายินดีช่วยเต็มที่ แต่ตามหลัก demand / supply แล้ว งานแปลสาขาที่ขาดแคลนมักจะทำรายได้ดีเสมอ เช่น งานแปลสิทธิบัตร ต่างประเทศมาจ้างคนในไทย ให้คำละ $0.18 ขึ้นไปนะ เราเคยได้ต้นฉบับมาดู โคตรยาก เรามือถือไม่ถึงเพราะไม่ได้มาทางสายนี้

ส่วน Trend ปี 2558 เมื่อเข้า AEC สมาคมฯพูดไปเมื่อเดือนเมษายน 2015 เราก็อยู่บนเวทีพูดเรื่องนี้นะแต่ลืมไปแล้ว (ความจำสั้นน่ะ ถึงไม่เหมาะจะทำงานล่าม) แนะนำให้ถามในหน้า FB ของสมาคมฯ นะ จะมีกรรมการและสมาชิกสมาคมมาตอบ

6. พอดีไม่แน่ใจเรื่องการสมัครงานกับร้านรึบริษัทแปลเอกสาร พอมีบริษัทดีๆ แนะนำไหมคะ เงื่อนไขว่าส่ง resume รึเปล่าขึ้นกับบริษัทใช่ไหมคะ (ข้อนี้เมลล์ตอบส่วนตัวก็ได้ต่ะเผื่อมีคนทราบเยอะแล้ว ตอนนี้ใจร้อนอยากเก่งไวๆ พอดีอายุ 32 แล้ว จะไปสมัครงานบริษัทเค้าจะรับไหมถ้าไปสมัครประจำแอบกังวลใจเล็กน้อยพอดีไม่สบายมาหลายปี พออ่านประสบการ์ณจากคุณแนทแล้วรู้สึกว่ากว่าจะเป็นโปรด้านนี้ได้ต้องฝ่าด่านอรหันต์เยอะมากๆ บำเพ็ญตบะอยู่นาน ไม่รู้น้องจะสตาร์ทช้าไปไหมแก่เกินเริ่มต้นชีวิตใหม่รึเปล่าT ^ T )

ตอบ: บริษัทแปลเอกสารถ้าจำไม่ผิด มักจะจ้างในลักษณะจ้างช่วง ถ้าต้องการทำเป็นงานประจำ ให้ลองสมัครของ ธนาคาร บริษัทเงินทุนทั้งหลายเพราะเขาต้องใช้นักแปลแปลเอกสารเกี่ยวกับกฎหมายการเงิน การธนาคาร และการลงทุนประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการกำกับและดูแลตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น ส่วนเรื่องรายได้ลองไปถามบริษัทที่จะสมัครดู อ้อ สำนักงานกฎหมาย ก็มีเปิดรับนักแปลนะ นานๆ จะเห็นโฆษณาทีนึงแต่เข้าใจว่าต้องการนักแปลที่มีคุณวุฒิและประสบการณ์แน่นจริงๆ

7. ถ้าอยากเก่งด้านแปลกฎหมายแบบคุณแนทต้องทำยังไงถ้าลงเรียนของสมาคมนักแปลหรือของธรรมศาสตร์การแปลเพื่อกฏหมาย ก่อนได้ไหมคะแล้วค่อยๆ ทำงาน หาตังค์เรียนต่อโท

ตอบ: ทุกครั้งที่มีคนถาม เรายกคุณงามความดีให้อาจารย์ทุกท่านที่สอนการแปลรวมทั้งพี่(หรือน้อง) ทนายทุกคน ได้แก่ คุณดำเนิน ทรัพย์ไพศาล อาจารย์สุรพล อ่อนอุระ อาจารย์วิภานันท์ ประสมปลื้ม คุณปิยะพร ทองสมบัติ  คุณรุ่งจินดา สมบูรณ์สุข  และผู้มีพระคุณทุกท่านที่แก้ไขงานแปลของเราแล้วส่งมาให้เราดูทำให้เรารู้ว่าผิดตรงไหน แก้ไขยังไง

สรุปคือ นักแปลเก่งได้เพราะครูดี และควรพร้อมรับฟังคำแนะนำจากผู้อื่นเสมอ

คนที่ไม่มีพื้นฐานด้านการแปลแนะนำให้ไปเรียนคอร์สของสมาคมนักแปลและล่ามแห่งประเทศไทย (เราโฆษณาให้ทุกครั้ง  อีกหน่อยจะเก็บค่าคอมมิชชั่นจากสมาคมฯ) หรือเรียนปริญญาโทการแปลไปเลยเพราะบางที่จะสอนทฤษฎีการแปลด้วยเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งเนื่องจากสอนเรื่องเหตุและผลในการแปล

8.ใบ NAATI กับ MCIL ใช้ได้ทั่วโลกไหมคะ ถ้าใช้ได้จะได้มุมานะเรียนโทไปด้วย ทำงานไปด้วย

ตอบ: NAATI เป็นการรับรองคุณวุฒิของออสเตรเลียใช้ในประเทศออสเตรเลียเท่านั้น  ส่วน MCIL บ่งบอกถึงระดับการเป็นสมาชิกของสมาคมนักภาษาศาสตร์แห่งประเทศอังกฤษซึ่งใช้ในประเทศอังกฤษเท่านั้น   แนะนำให้เลือกก่อนว่าจะเจาะตลาดประเทศไหนถึงค่อยไปเอาคุณวุฒิประเทศนั้น คุณโจ้บอกว่าจะไปอยู่อเมริกา แนะนำให้มุ่งสอบรับใบของATA เลย ลองโทรไปสอบถามอีกทีว่ามีสอบคู่ภาษาไทยอังกฤษหรือไม่

9. จริงๆ ตัวคุณแนทเองก็มีpositioning + branding ว่าเป็นนักแปลด้านกฎหมายที่ค่อนข้างมีชื่อแล้วนะคะไม่ลองทำ E-Book หรือจัดคอร์สอบรมสัมมนาทางอินเตอร์เนตละคะแบบออกอากาศหรือแบบไม่สดก็ได้ค่ะ น่าจะเป็นประโยชน์แก่คนมากมายนะคะเชื่อว่าหลายคนคงอยากลงทะเบียนเรียนทางอินเตอร์เน็ตไม่ต้องเดินทางด้วยแถมรายได้ก็น่าจะมั่นคงและได้มากกว่าค่าแปลต่อเดือนด้วยนะคะหรือว่าถ้าการเรียนต้องเรียนเป็นระยะเวลานานๆ คุณแนทก็ลองแยกบทเรียนออกนานๆ ได้ไหมคะที่สำคัญจะได้พบปะกับลูกศิษย์และแฟนคลับมากมาย หายเหงาด้วยไม่แน่อาจจะได้เป็นอาจารย์ลิลลี่รึอาจารย์ปิงภาคการแปลก็ได้นะคะ อิอิ

ขอบคุณนะคะคุณแนทสำหรับเวลาที่อ่านจดหมาย^ ^
เป็นพระคุณอย่างสูงค่ะ

ตอบ: ขอบคุณที่แนะนำ มีคนมายุให้เปิดสอนหลายคนแล้ว แต่เราว่าคุณสมบัติเราไม่พอเหมือนอาจารย์ที่สอนในมหาวิทยาลัยให้ผู้ที่เป็นอาจารย์สอนจะดีกว่า เราเป็นได้แค่พี่เลี้ยง คือถ่ายทอดความรู้ระหว่างผู้ที่ประสบการณ์มากกว่าและเพื่อนร่วมงานที่มีประสบการณ์น้อยกว่า  ส่วนการแปลเอกสารกฎหมาย เราก็ไม่ได้แม่นเท่าทนาย  ทุกวันนี้ยังให้พี่ๆ ทนายสอนเราอยู่เลย

ปรับปรุงเนื้อหาเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2563

 




Create Date : 22 มิถุนายน 2558
Last Update : 28 พฤษภาคม 2563 8:34:55 น.
Counter : 8660 Pageviews.

1 comments
  
ได้อ่านบล็อกนี้มานาน ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ วันนี้อ่านข้างบนแล้วมีเรื่องมาแลกเปลี่ยน พอดีบางอย่างตอบได้ค่ะ

Demand& Supply จริงๆ ของอาชีพนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นอย่างไรบ้าง? ได้ข่าวว่าตอนนี้ไทยตลาดล้นในส่วนของอังกฤษ>ไทย

>> เราว่าไม่ล้นนะ เรายังหางานได้เรื่อยๆ เลย ถ้าเรทดีๆ ประมาณคำละ 3 บาทก็มีมาเป็นครั้งคราว ถ้าเรทธรรมดาๆ คำละบาท ขอไปก็มีงานมาตลอดค่ะ แต่มันอยู่ที่คุณภาพ + ความรับผิดชอบของเรา แล้วก็การโปรโมตตัวเอง การหางานด้วย

แล้วที่เเนะนำกันว่าให้รับงานจากพวกเวบต่างประเทศเช่น //www.proz.com ใช่การแปลอังกฤษ >ไทย รึเปล่าคะ

>> เว็บนี้มีนานาภาษาเลยค่ะ อังกฤษ - ไทย ก็เป็นหนึ่งในคู่ภาษาที่มีงานในนั้น

ส่วนเรื่องรับงานจากเว็บต่างประเทศก็มีหลายเว็บที่คนไทยเข้าไปประมูลงาน อันนี้เราเคยเขียนไปแล้วในบล็อกเก่าว่านักแปลฝีมือดีประสบการณ์สูง ค่าแรงสูงมักจะไม่ได้งานเนื่องจากเว็บเหล่านี้เน้นจ้างนักแปลที่เสนอราคาต่ำสุด

>> อย่าง proz.com คนที่ให้ราคาต่ำมากก็มีค่ะ แต่ให้สูงก็มีเหมือนกัน เท่าที่สังเกตแบบรวมๆ ลูกค้าโซนยุโรป อเมริกา จะให้ราคาได้มากกว่าโซนเอเชีย ลูกค้าที่เน้นคุณภาพและยอมจ่ายดีมีอยู่ ต้องหาดีๆ ค่ะ
โดย: deepriver วันที่: 30 กรกฎาคม 2558 เวลา:15:10:25 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Natchaon
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 314 คน [?]



Sawaddee ka. My name is Nat. I am a certified translator. I have been in the translation industry since 2004.

I graduated a master degree in English-Thai translation from Chulalongkorn University, Thailand.

I have the following accreditation:
- NAATI Accreditation for EN < > TH translation (Australia)
- Court Expert Registration for EN < > TH translation (Thailand)
- Member (MCIL), Chartered Institute of Linguists (U.K.)

See details about my services here https://www.nctranslation.net
https://www.expertthai.net

For a quick quote, email your document to natchaon@yahoo.com.

รับแปลเอกสารวีซ่าออสเตรเลียพร้อมประทับตรา NAATI ปรึกษาฟรีที่ natchaon@yahoo.com หรือ Line: Natchaon.NAATI

See below my locations:
- Bangkok: 1 Dec 2018 - 12 Jan 2019

NAATI ออสเตรเลีย, NAATI เมลเบิร์น, NAATI ประเทศไทย, NAATI กรุงเทพ, แปลเอกสารพร้อมประทับตรา NAATI, แปลเอกสารโดยนักแปล NAATI, NAATI Australia, NAATI Melbourne, NAATI Thailand, NAATI Bangkok, NAATI translation, NAATI accredited translation, Australia Visa, Partner Visa, Fiance Visa, Prospective Visa, Skilled Migrant, Student Visa, Work Visa, Work and Travel Visa, Online Visa, วีซ่าออสเตรเลีย, วีซ่าแต่งงาน, วีซ่าคู่หมั้น, วีซ่าทำงาน, วีซ่านักเรียน, วีซ่าทำงานและท่องเที่ยว, วีซ่าออนไลน์
Thai – English translation, English – Thai Translation, แปลอังกฤษเป็นไทย, แปลไทยเป็นอังกฤษ

*บทความทั้งหมดในบล็อกนี้ สงวนลิขสิทธิ์ทุกประการ*
มิถุนายน 2558

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog