Chugoku RoadTrip: Day3 Miyajima Island
Day 3
วันนี้เราจะเดินทางต่อไปยังเมือง Hiroshima โดยจะแวะเที่ยว สะพาน Kintaikyo เมืองIwakuni ก่อน แล้วไปต่อที่เกาะ Miyajima เพื่อไปเที่ยวที่ ศาลเจ้า Itsukushima Shrine หรือ Torii ที่อยู่กลางน้ำอันโด่งดัง
ตื่นเช้ามาก็รับประทานอาหารเช้าที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ก่อน นี่คือบรรยากาศของโถงห้องอาหาร ดูโล่ง และกว้างขวางดีจัง
เก็บกระเป๋าเรียบร้อย เอาขึ้นรถ ก็มาสำรวจทางไปสะพาน Kintai ในgoogle นี้บอกว่า ระยะทางประมาณ 95 km ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆก็จะถึง (แต่ขับจริง ใช้เวลาสองชั่วโมงนะ ไม่ได้หลงทางด้วยนะ)
เราคิดไว้ว่า สะพานนี้ คงไม่ค่อยมีใครมาเที่ยวหรอก ถ้าไม่มีรถขับนี่ ก็ถือว่าเดินทางไม่สะดวกอ่ะ มันไม่ได้อยู่ใกล้ public transport เลย เราก็แอบคิดว่า ก็แค่ขับแวะมาดูสะพานอ่ะ แต่...ปรากฎว่า ที่นี่น่ามาเที่ยวมาก มันไม่ใช่แค่สะพานอ่ะ บริเวณรอบๆก็มีอะไรให้ดูมากมาย แล้วก็คนเยอะนะ มีที่จอดรถตรงลานใต้สะพานนี้ มีรถเข้าออกตลอดเวลา นับว่า ก็เป็นสถานที่เที่ยวที่คนนิยมมาเที่ยวเหมือนกันนะเนี่ย
ลักษณะเด่นของสะพานนี้คือเป็นสะพานโค้ง 5 โค้ง ข้ามแม่น้ำนิชิกิ
การจะเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งต้องซื้อตั๋วก่อน แล้วก็เก็บตั๋วไว้ด้วย สำหรับตอนข้ามกลับมา สะพานนี้นับว่าเป็นสะพานที่สวยงามที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นเลย เขาบอกว่า เป็นการสร้างแบบดั้งเดิมโดยไม่ได้ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว
แม่น้ำนิชิกิ น้ำใสมากกก สวยยย
เมื่อข้ามมาอีกฝั่งแล้ว ก็พบกับ ไอศครีม มะซะชิ อันมีชื่อเสียง (อ่านถูกมั้ย) เป็นร้านที่มีไอศครีมให้เลือกถึง 140 รส คนเข้าคิวกันท่ามกลางแดดที่ร้อนเปรี้ยงๆ เราเข้าคิวอยู่ซักพัก จนคิดได้ว่า ถึงเขาจะมี 140 รส เราก็ได้กินรสเดียวอยู่ดี จึงย้ายไปกินร้านข้างๆ 555
ร้านนี้แทบไม่ต้องรอคิว ก็เดินไปสั่งได้เลย นานก็ตอนที่เลือกว่าจะกินรสอะไรดีนี่แหละ (มาญี่ปุ่นทีไร ต้องมีรูปถือ softcream ทุกที )
ของฝากขึ้นชื่อของที่นี่คือ รากบัวดอง มีทั้งแบบเผ็ด แบบไม่เผ็ด เราก็ลองซื้อมาหลายๆแบบ กลับมาถึงเมืองไทยถึงเปิดกิน มัน อร่อย มาก อ่าาา แนะนำๆ
หลังจากเดินเล่นบริเวณนั้นอยู่ซักพัก ก็เลยเวลาเที่ยงมามากแล้ว เรายังไม่ได้ทานข้าวกันเลย
เป้าหมายวันนี้คือ ไปกิน Kaki Yaki หรือ หอยนางรมย่าง ที่เกาะมิยาจิม่า ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ไปอีก 40km ปัญหาอยู่ที่ หาที่จอดรถยากมากกก
ช่วงที่เรามาเที่ยวนี่ เป็น Silver Week ด้วย คือเป็น Long Weekend ของ ญี่ปุ่น ดังนั้น ชาวญีปุ่่นก็คงออกมาเที่ยวด้วยเหมือนกัน
เมื่อหาที่จอดรถได้แล้ว (ซึ่งต้องใช้ความสามารถพอสมควร) ก็รีบไปซื้อตั๋วเฟอรรี่ข้ามไปที่เกาะ
เกาะนี้มีสัญลักษณ์เป็นทัพพีนะ ของที่ระลึกที่ขาย ก็จะเป็นรูปทัพพีซะส่วนมาก
เดินเข้ามาที่ตลาดบนเกาะนี้ (Omotesando) เพื่อตามหาร้าน Kakiya จะกินหอยนางรมย่าง กว่าจะถึงร้านอาหาร ก็โดนร้านขายของดูดไปหลายร้าน ในที่สุด ก็มาถึงร้าน Kakiya ตกแต่งแนว Modern แหะ
มาแล้วอาหารกลางวัน
อันไหนใครสั่ง จำไม่ได้ละ ก็ช่วยๆกันกิน
มาแล้ววว หอยนางรมย่างตัวยักษ์เลยยย (ดูรูปแล้วก็อยากกินอีก)
นี่ค่ะ การตกแต่งของร้านนี้ น่ารักดีเนอะ
พออิ่มแล้ว ก็มาเดินช้อปปิ้งของที่ตลาดกันต่อ อันนี้เป็นขนมรูปใบเมเปิ้ลสีแดง ก็ช่วงนี้ใกล้จะใบไม้เปลี่ยนสีไง
ซื้อเกาลัดมาชิมซะหน่อย
หลังจากเพลิดเพลินกับการเดินเล่นในตลาดแล้ว ก็ออกมาดูศาลเจ้า hilight ของที่นี่ (hilight นี่ เราดูเป็นสิ่งสุดท้ายเลยแหะ 555 ไม่ใช่หรอก เพราะว่า ตอนบ่ายแดดแรง อากาศร้อนมาก เราก็เลยรอให้แดดร่มหน่อย แล้วค่อยมาถ่ายรูปต่ะหาก)
จากนี่ เราก็ข้ามกลับไปที่จอดรถ ขับไปยัง Hiroshima Peace Memorial Park แต่ว่าไปถึงมืดมากๆแล้ว ก็เลยไม่ได้เดินไปดู ไปหาของกินที่ย่าน Hondori เลย เสร็จก็ไป check in โรงแรม คืนนี้นอนที่ Vessel hotel Higashihiroshima ออกไปไกลเมืองหน่อย แต่มีลานที่จอดรถสบายๆ ห้องพักก็ใหญ่ดีด้วย
Create Date : 05 ธันวาคม 2558 |
Last Update : 25 พฤษภาคม 2559 15:46:27 น. |
|
0 comments
|
Counter : 486 Pageviews. |
|
|