กันยายน 2558

 
 
1
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
 
 
2 กันยายน 2558
week3 02/09/2558
สัปดาห์ที่ 3

แผนการจัดการเรียนรู้

                   ความหมาย1 คือ การนำวิชาหรือกลุ่มประสบการร์ที่จะต้องทำแผนการจัดการเรียนรุ้ตลอดภาคเรียนมาสร้างเป็นแบบการจัดกิจกรรม การจัดการเรียนรุ้ การใช้สื่อ อุปกรณ์การจัดการเรียนรุ้ และการวัดผล ประเมินผล โดยจัดเนื้อหาสาระจุดประสงค์การเรียนย่อยๆ

                  ความหมาย2 คือ แผนการสอนนั่นเอง แต่เปนแผนที่เน้นให้นักเรียนได้พัฒนาการเรียนของตนด้วยกิจกรรมหลากหลาย มีครุเปนผุ้แนะนำหรือจัดแนวการเรียนแก่นักเรียน ควรจัดกิจกรรมให้รุ้จักคิด รุ้จักค้นคว้า วิเคราะห์วิจารณ์ข้อมูล และสังเคราะห์เป็นความรู้ของคนเอง นักเรียนอ่านหนังสือ จดบันทึกและควรจะได้เรียนรุ้จากแหล่งเรียนรุ้ที่หลากหลาย เรียนรุ้จากวิทยากรในท้องถิ่น จากสถานที่ต่างๆในขุมชน จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น อินเตอร์เน็ต ซีดีรอม วีดีทัศน์ เป็นต้น


ความสำคัญของแผนการจัดการเรียนรุ้

สงบ ลักษณะ (2533)ได้อธิบายถึงผลดีของการจัดทำแผนการเรียนรุ้ไว้ ดังนี้

  1. ทำให้เกิดการวางแผนวิธีจัดการรียนรุ้ วิธีเรียนที่มีความหมายมากยิ่งขึ้น เพราะเปนการจัดทำอยางมีหลักการที่ถุกต้อง
  2. ช่วยให้ครุมีสื่อการจัดการเรียนรุ้ทีทำด้วยตนเอง ทำให้กิดความสะดวกในการจัดการเรียนรุ้ ทำให้จัดการเรียนรุ้ได้ครบถ้วนตรงตามหลักสุตรและจัดการเรียนรุ้ได้ทันเวลา
  3. ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ครุผุ้จัดการเรียนรุ้แทน ในกรณีที่ผุ้จัดการเรียนไม่สามารถจัดการเรียนรุ้ได้เอง


องค์ประกอบของแผนจัดการเรียนรุ้

  1. สาระสำคัญเป็นการเรียนในลักษณธเป็นความคิดรวบยอด (Concept)
  2. จุดประสงค์การเรียนรุ้ เขียนในลักษณธจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (เมื่อเรียนจบผู้เรียนบรรลุตามตัวชี้วัด และมาตราฐานการเรียนรุ้ที่กำหนด)
  3. สาระการเรียนรุ้
  4. กิจกรรมการเรียนรุ้ (วิธีสอน + กระบวนการจัดกิจกรรม + เทคนิคการสอน) โดยออกแบบการจัดกิจกรรมแต่ละชั่วโมงอย่างชัดเจน
  5. สื่อ แหล่งการเรียนรุ้ (ใบความรุ้ + ใบงาน + แบบฝึกทักษะ) บอกแหล่งเรียนรุ้ที่สำคัญ
  6. การวัดและประเมินผล (หลักฐานการเรียนรุ้ + ร่องรอยการเรียนรุ้ + วิธีการวัดและประเมินผล + เครื่องมือในการวัดและประเมินผล)
  7. บันทึกผลการจัดการเรียนรุ้สำหรับผุ้สอน


หลักในการเขียนแผนการจัดการการเรียนรุ้

  1. เขียนให้ชัดเจน แจ่มแจ้งในทุกหัวข้อ เพื่อให้ความกระจ่างแก่ผู้อ่านไม่ย่นย่อและไม่ละเอียดเกินไป
  2. ใช้ภาษาเขียนที่สื่อความหมายให้เข้าใจตรงกัน
  3. เขียนทุกข้อ ทุกหัวเรื่องให้สอดคล้องกัน
  4. สาระสำคัญต้องสอดคล้องกัน
  5. จุดประสงค์ต้องสอดคล้องกับเนื้อหา กิจกรรมและการวัดผล
  6. สื่อการสอนต้องสอดคล้องกับกิจกรรมและการวัดผล
  7. เขียนให้เปนลำดับขั้นตอนก่อนหลังในทุกหัวข้อ
  8. เขียนหัวข้อให้ถุกต้อง เช่น จุดประสงค์ต้องเขียนให้เปนจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
  9. จัดเนื้อหา กิจกรรม ให้เหมาะสมกับเวลาที่กำหนดให้
  10. คิดกิจกรมที่น่าสนใจอยุ่เสมอ
  11. เขียนให้เปนระเบียบ ง่ายแก่การอ่าน
  12. เขียนในสิ่งที่สามารถปฏิบัติได้จริงและสอนตามที่ได้วางแผนไว้
  13. หาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรุ้


รุปแบบของแผนการจัดการเรียนรุ้

สถานศึกษามีอิสระในการออกแบบแผนการจัดการเรียนรุ้ของตนเอง ซึ่งมีหลายรุปแบบ แต่อย่างไรก็ตามแผนการจัดการเรียนรุ้ที่สถานศึกษาเลือกใช้ควรเป็นรุปแบบเดียวกันตลอดแนว และสื่อความหมายชัดเจนแบ่งได้3รูปแบบ

  1. แบบบรรยาย
  2. แบบตาราง
  3. แบบพิสดาร


Bloom’s Taxonomy

99_55e6abff67e78.png

Bloom ได้แบ่งการเรียนรู้เป็น 6 ระดับ

  1. ความรู้ที่เกิดจากความจำ (knowledge) ซึ่งเป็นระดับล่างสุด
  2. ความเข้าใจ (Comprehend)
  3. การประยุกต์ (Application)
  4. การวิเคราะห์ ( Analysis) สามารถแก้ปัญหา ตรวจสอบได้
  5. การสังเคราะห์ ( Synthesis) สามารถนำส่วนต่างๆ มาประกอบเป็นรูปแบบใหม่ได้ให้แตกต่างจากรูปเดิม เน้นโครงสร้างใหม่
  6. การประเมินค่า ( Evaluation) วัดได้ และตัดสินได้ว่าอะไรถูกหรือผิด ประกอบการตัดสินใจบนพื้นฐานของเหตุผลและเกณฑ์ที่แน่ชัด





Create Date : 02 กันยายน 2558
Last Update : 2 กันยายน 2558 19:07:59 น.
Counter : 525 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 2559228
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]