1st Day in Singapore with my girls.
เราคุยกันว่า เราควรจะไปเที่ยวด้วยกัน เราเห็นเพื่อนวิดวะผู้ชายกลุ่มนึงมันรวมกันไปเมืองนอกได้ เรา บลา บลา บลา แต่คิดก็ยังคิดไม่ออกว่าทำไมต้องสิงคโปร์
หรือเพราะอันนี้ คือ นกอยากไป Lego land มาเลเซีย แต่เพื่อนที่นั่นบอกว่ายังไม่เสร็จดี ของเล่นน้อย ไป USS ดีกว่า อิแค่จะรวมกันครบในเมืองไทยมันยังเป็นเรื่องยากเลย แล้วทริปนี้ห้ามพาสา และลูกไปด้วย เป็นเรื่องของสาว ๆ เท่านั้น
ตอนแรกเรานัดกันไปช่วงมีนา คือกะว่า กุมภาไปอินเดีย มีนาไป SG เมษาไป JP (ยังไม่ครึ่งปีเลย เราใช้พักร้อนหมดไปละ เงินก็หมดละปีนี้) แต่มีเหตุต้องเลื่อนเพราะหนึ่งใน Girls group จะต้องไปธุระสำคัญ พวกเราก็แม๊นแมน รอวะ เลื่อนเลยเลื่อน รอให้ครบ ตั๋วโปรโมชั่นเลยกลายเป็นตั๋วแพงในทันที
แต่เอาเหอะ ว่ามันคุ้มที่รอ ไม่เชื่อมาดูกันค่ะ
24 พฤษภาคม 2556
นัดกันที่ กทม. ด้วยความร่วมมือของสา และน้องสา บอกที่บ้านว่าไปทำงาน (บอกความจริงจะเป็นไงไม่รู้ แต่ตอนไปญี่ปุ่นก็ไม่ได้ชวนแม่สาไป ด้วยเหตุไม่ได้เช่ารถ แต่ใช้รถเพื่อนที่ทำงานเนสแทน ไม่รู้ว่าแม่สาจะเข้าใจได้หรือไม่ ซ้ำยังจะทิ้งลูกไว้ให้เค้าดูแลอีก รู้สึกผิดนะเนี่ย แต่แม่นกก็ไม่ไหวแล้ว อยู่ต่อต้องบ้าแน่)
เลยต้องเนียน ออกบ้านไปก่อน 1 คืน ไปพักกะอ่อนที่คอนโดใน กทม. จากนั้นน้องป้อมมาเสยไปหามุกรินที่เซนทรัลลาดพร้าว เพื่อนบำบัดอาการเครียดของแม่นกโดยพาไปทำผมใหม่ ดัดผมในรอบ 8 ปี น้องช่างก็ลดราคาให้ทั้งที่วันนี้หยุดนักขัตฤกษ์ วิสาขบูชา ปกติต้อง 2,500 วันนี้ 1,500
แว๊กกกกก ตายละเหวย เสริมสวยนานไปหน่อย ป้อมต้องรีบไปหาลูกค้า "ส่งแกตรงนี้นะ แกต่อ Taxi ไปเองนะ" เหวอเลย ไม่ได้ขึ้นTaxi คนเดียวมานานมากแล้ว เอาวะไปก็ไป ไม่ได้บอกป้อมเลยว่า แอบกลัว ถ่ายรูปอีตาคนขับ ส่งไปให้โยด้วยนะ พร้อมชื่อและทะเบียน -"-
ความเครียดของเราเล็กน้อยลงไปเลยเมื่อมาเจอมุกริน น้ำตาร่วงแผละเลย ได้แต่ปลอบใจ และขอให้พยายามต่อไปนะ เดี๋ยวน้องพร้อม น้องก็มาใหม่เอง
วันนั้นแทบกินข้าวเย็นไม่ได้ กินฮันนี่โทสต์ที่ After You ไป 2 จานนิ่ม ๆ ป้อมเสร็จงานแล้วก็ตามมาหาเรา แลกเงินเสร็จสรรพ เดินทางไปค้างบ้านอวัสดา แล้วเช้าต่อมาก็ไปดอนเมืองแต่เช้า บินตีห้า เอมม่ามาถึงก่อนใคร
25 พฤษภาคม 2556
2 ชั่วโมงกว่า ๆ เราก็ถึงสนามบิน Changi งานนี้อวัส มุกริน และเอมม่า เป็นไกด์ อวัสดา มาเที่ยว 1 ครั้ง มาผ่าน 2-3 ครั้ง ภาษาอังกฤษเยี่ยม มุกรินเคยมาตอนเด็ก ภาษาเป็นเลิศ ไปอยู่เมกามา 10 ปี เอมม่า เคยมาแล้วเหมือนกัน ภาษาอังกฤษของอาจารย์เทพอ่ะ
เรานั่ง Sky Train จาก Terminal 1 ไป Terminal 2 เพื่อต่อรถไฟฟ้า MRT
นกกับป้อมเป็นผู้ตามอย่างเดียว ไปไหน ไปยังไง ไปกัน (อ่อ ที่สานมบิน กรุณาสังเกตด้วยว่า เค้าห้ามเอาเครื่องดื่ม-ของกินเข้ามาตรงจุดไหน ปรับจริงจังเลย เกือบโดน ๆ ที่ญี่ปุ่นยังไม่เห็นป้ายปรับจริงจังขนาดนี้นะเนี่ย)
รถไฟฟ้า MRT เราซื้อตั๋วแบบใช้ซ้ำหลายครั้ง อ่อ เด็กความสูงไม่ถึง 90 cm. free ค่ะ
อวัสดาพาเราขึ้นMRT มาต่อด้วยรถเมล์ และเดิน จนมาถึง Fraser Place Robertson Walk คนที่นี่พูดภาษาอังกฤษเก่ง พร้อมเข้าใจภาษาอังกฤษของทุกชาติ
โรงแรมนี้ เราจองห้อง Suite ที่มี 3 ห้องนอนในห้องเดียวกัน มีห้องรับแขก โต๊ะกินข้าว ห้องครัว จริง ๆ เราน่าจะมีเวลาใช้ห้องมากกว่านี้ โปรแกรมเรายาวเหยียดมาก ๆ กลับมาแค่นอนในแต่ละวัน
ค่าที่พักต่อคนคือ 7,000 บาท ( 2 คืน 3 วัน ) Wifi ระดับพอใช้แรงตรงห้องรับแขก ห้องพัก 10 ต้อนรับ 9 อาหารเช้า 7 ทำเล 9
เก็บข้าวของ แล้วเราออกไปเดินหาไรกินกันในห้างใกล้ ๆ มื้อนี้กิน "หลักซา" คล้าย ๆ หมี่ขาวในน้ำยา หรือน้ำข้าวซอยน่ะ ถ่ายรูปมาตอนขึ้นอืด ไม่สวยเลย
จากนั้นขึ้นแท็กซี่ ไป Garden by the bay ก็บ่ายคล้อยล่ะ ชีวิตเพิ่งเริ่มต้น
Trip plan วันนี้ Garden by the bay หาข้าวเย็นกินกัน กับดูโชว์ไฟใน Marina bay
ค่า Taxi เริ่มต้นประมาณ 6 เหรียญ (150บาท) นั่งได้ 4 คน เรา 5 คนต้องเรียก 2 คัน เรียกคันใหญ่คันเดียวแพงกว่า
Garden By the Bay อารมณ์ประมาณสวนพฤกษศาสตร์ แต่ประดิษฐ์เอา แต่เค้าออกแบบ และดูแลดี จนชุ่มฉ่ำเย็นดี ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ คนละ 500 บาท
เราเริ่มต้นด้วยการนั่งรถลมโชย วนรอบ ๆ ก่อนเพราะถ้าเดินคงเสียเวลามาก ๆ และจะไม่ทั่ว ค่ารถคนละ 2xx บาทนี่แหละ
ตอนที่เราไปเหมือนลองน้ำลองไฟ เปิดเป็นทางการเมื่อต้นเดือน กรกฎาคม56 นี่เอง ตอนนี้ค่าเข้าประมาณ 700 บาทแล้ว Residence เหลือ 500 บาท ต่อแถวซื้อตั๋วให้ถูกช่องนะคะ ถ้าต่อผิดต้องเข้าใหม่ คิวยาววววววมากกกกก
ประติมากรรม เด็กทารกยักษ์ นอนลอยอยู่บนสวน มีแต่ตรงมือที่สัมผัสกับพื้น CG CM เป๊ะมาก จากนั้นเราก็จะเข้าไปใน Flower Dome ตามคำแนะนำของ จนท.ซึ่งกลัวว่าถ้าไปมืดจะถ่ายรูปไม่สวย
โดมนี้ก็จะแสดงพืชและจำลองบรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน พืชทะเลทรายอย่าง Cactus ไปจนถึงไม้ดอกไม้ประดับ สวนสไตล์สเปน อิตาลี และญี่ปุ่นนิดนึงด้วย (รูปขวามือล่างสุด ป้า ๆ เกิดอาการเสียดายหนุ่มฝรั่งคนนั้น แฟนนางมะเห็นจะสวยเลย ก็ว่ากันไป)
อันนี้เป็น cactus ที่หลอกตา ให้คนดูแล้วเหมือนหิน อัญมญี
ภายในโดมกระจก ติดแอร์เย็นฉ่ำ
ส่วนอันนี้คือต้นมะกอก
สวนสไตล์ยุโรปนิด ๆ กับไม้ดอกนานาชนิด
สาว ๆ กับดอกไม้ ใครสวยกว่ากัน
อยู่ติดกับ Dragon Fly Lake เลยมองออกไปนอกโดมจะเป็น SG Flyer
มุกน้อยกระโดดได้น่ารักมาก ๆ
เธอโกหกเจ้านายว่ามางานแต่งงานเพื่อนที่ SG นะ 555
ถังขยะหน้าห้องน้ำ แยกประเภท แหงอยู่แล้ว (ทำใจนิดนึงนะมาเที่ยวกับวิศวกรสิ่งแวดล้อม)
ใกล้แดดหมดเต็มที เราไปที่ Cloud Forest Dome เป็นการจำลองภูเขา น้ำตก ถ้ำ หินงอกหินย้อย แนวป่าดิบชื้น ดูแล้วคิดว่า บ้านเรามีธรรมชาติสมบูรณ์ ก็ควรจะหวงแหน ดูบ้านเมืองที่เค้าไม่มี ต้องสร้างเลียนแบบขึ้นมา แต่บรรยากาศมัโอเคมาก เราะความชื้น ไอน้ำ อากาศเย็น เหมือนจริง ซ้ำยังมีลิฟท์ ให้ขึ้นลง สะดวกกับคนแก่ คนพิการก็เที่ยวได้
เค้าเลี้ยงกล้วยไม้ มอสต่าง ๆ จนติดดีหมดแล้ว เนียนเหมือนจริง
แหงนขึ้นไปมี walkway ให้คนเดินอ้อมรอบภูเขา
ตลอดทางก็มีนิทรรศการ มีป้ายให้ความรู้เรื่องโลกร้อน
มุมรถไฟ AEC เค้าก็จำลองบ้านพื้นเมืองของประเทศสมาชิกเอาไว้ด้วย
ด้านบนสุดของยอดเขา เป็น The loss world แทนด้วยสวนบาหลี เต็มไปด้วยต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ประมาณว่า หลงเข้าไปมีแต่ตาย ออกไม่ได้ ประมาณนั้น
มุกเสี่ยงชีวิต ถือกล้องป้อมไปถ่ายเพื่อน ๆ มองลงไปเรายังเสียวไม่หาย หลายสิบเมตรอยู่
ด้านล่างเป็นนิทรรศการถ้ำ หินงอกหินย้อย ผลึกแร่ ไม่รุ้ว่าไปขอซื้อมาจากประเทศไหนเยอะขนาดนี้ ใช้เงินในการแก้ปัญหาได้จริง ๆ
ออกมาจากโดม ก็เดินเลียบตามทางเดินข้าง ๆ Dragonfly Lake เรื่อย ก็จะผ่าน Flower dome เลยไปถึง Marina bay sands มองเห็น Singapore Flyer สวย ๆ กับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน
จุดหมายปลายทางคือ Marina Bay Shopping Center
โหใหญ่มาก หาไรกินที่นี่เลยดีก่า กินไรก็กินได้หมดเลือกเลยเพื่อน เราอยากซื้อ คสอ.แหละ Eye Liner เราจะหมดแล้ว กินเสร็จแค่แวะ Sephora ให้เราละกานนนน
คนที่นี่คงโหยหาธรรมชาติบนแผ่นดินใหญ่มากอ่ะ ในห้างนี้ยังมีน้ำตกเทียมเลย
สูบน้ำจากข้างล่างไปอยู่จนจานข้างบน ซึ่งมีหลุมให้น้ำผ่าน นอกจากจะได้น้ำตกแล้วยังได้ ลม เป็นของแถมอีกด้วย
กินไม่อั้นทั้งปู ทั้งอาหารคาว ปลาดิบ ซูชิ ซุปหอยทาก หรือของหวาน เค้ก ผลไม้ ไม่น่าแปลกใจเลย ที่น้ำหนักไปเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหน ที่มันได้จากอินเดีย ไปต่อญี่ปุ่น แล้วสิงคโปร์อีก นกเอ๊ยยยย ลดความอ้วนอีกชาตินึงอ่ะ
โย่ว ๆ เค้าได้แวะแล้ว เค้าสัญญาว่าเค้าจะซื้อแต่ของจำเป็น อิอิ มุกรินช่วยได้มากอันนี้ เพราะเธอกลายเป็นกูรูความงามไปเสียแล้ว อัลไร อัลไร ถาม เธอตอบ ๆ ฮี่ ๆ ป้อมก็ได้ติดมือกลับมาไม่น้อย ห่วงแต่มุกน้อย สอยมาเยอะที่สุด ใช้บ้างเน่อเพื่อนขา
จากนั้นครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อนสาวพาชั้นเดินไปสูดอากาศใน LV Shop แค่หายใจเพื่อนก็ฟินโครต ๆ แล้ว ชาตินี้จะได้มีเป็นขวัญและกำลังใจสักใบไหมน๊ออออออ
ฮื้ดดดดดดดดดดดดดดด สูดดดดดดดดดด เต็มปอด
คืนนั้นเอง พวกเราทำซึ้งโดยการมาสารภาพรักกันหน้าช้อป LV พร้อม ๆ กับดู แสง สี เสียง ที่แสดงใน Marina Bay กับแสงเรเซอร์ยิงจาก Marina Bay Sands สวยมาก อากาศเย็น ๆ กับเพื่อนสาวทั้ง 5
พอจบการแสดงแสงสีเสียง ต้องเดินไปขึ้น Taxi หน้าห้าง เพราะว่าTaxi ทั้งหมดจะไปเข้าคิวรอรับผู้โดยสารตรงนั้น จะมีคนจัดคิวให้เสร็จสรรพ
อย่าพยายามไปหาจุดขึ้นริมถนน เพราะไม่มีTaxi คันไหนฝ่าฝืนกฎเลย เสียเวลารอคิวยาวนิดนึง แต่ได้กลับที่พักทุกคนค่ะ
One time in my life , which was close to Marina Bay , Singapore with my close friends.
ตั้งแต่จบ มช.มา ก็มีครั้งนี้แหละมั๊ง ที่รวมตัวกันครบเป็นครั้งแรก ความเครียดที่พกมาจากบ้านแต่ละคน ถูกแทนที่ด้วยความโล่งสมอง และความสุข
ฟินว่ะ
จะเปิดให้คอมเมนต์บล็อกสุดท้ายของ Trip จ้ะ
| Create Date : 11 กรกฎาคม 2556 |
| Last Update : 15 กรกฎาคม 2556 16:10:24 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 2299 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [
