Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
9 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
นิยายรัก ตอนที่ 5 ผู้บุกรุก

COPY WRIGHT : สงวนลิขสิทธิ์ทั้ง ปกหนังสือ และ เนื้อหาค่ะ

ดวงใจเจ้าเวหา


ผู้เขียน :วรรณรวี

พิมพ์ครั้งแรก : กรกฎาคม ๒๕๕๗

copy.jpgสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ ๒๕๓๗

ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดเพื่อสร้างฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเอกสารรูปเล่ม หรือเพื่อการใดๆเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น

ISBN : ๙๗๘ – ๖๑๖ – ๓๖๑ - ๙

ราคา ๒๕๐ บาท



***********************************************************

ตัวอย่างค่ะ


ผู้บุกรุก

จอมขวัญตื่นในเวลาเจ็ดนาฬิกาตามปกติ เธอดีดตัวลุกจากเตียงแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวก่อนที่จะบึ่งมอเตอร์ไซค์คู่ใจไปทำงานในตอนสาย

หญิงสาวเดินเปลือยกายออกมาจากห้องน้ำหลังจากใช้เวลาไม่กี่นาทีชำระกายมือบางหยิบเสื้อผ้าในแบบคล้ายๆ เดิมขึ้นมาสวม แล้วเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อหามื้อเช้าง่ายๆให้ตัวเอง และความไม่ปกติที่เธอเห็นทำให้เจ้าของห้องแทบช็อค เพราะเสื้อผ้าที่เธอถอดออกก่อนที่จะคลานขึ้นเตียงถูกเก็บเรียบร้อยโดยมันถูกวางอยู่บนโซฟาคู่กับเป้ใบโตและกระเป๋ากล้อง

“ใครเข้ามาวะเห้ย! ทำไมเราไม่รู้ กุญแจห้องก็ไม่เคยให้ใคร หรือว่า...จะเป็นขโมย!”

หญิงสาวถามและตอบตัวเองโดยอัตโนมัติ เธอตกใจอย่างมากเพราะนั่นเท่ากับว่าถ้ามีใครเข้ามาในห้องเมื่อคืนเขาผู้นั้นจะต้องเห็นสภาพโป๊จนเกือบเปลือยของเธออย่างแน่นอน แล้วเขาทำอะไรเธอบ้าง

คนที่เพิ่งสำนึกได้ก็เริ่มสำรวจร่างกายหากมันไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ เธอไม่รู้สึกถึงอาการบาดเจ็บจากการโดนทำร้ายที่อวัยวะต่างๆจึงเบาใจ หากการที่ใครก็ตามเข้ามาในห้องของเธอโดยไม่ได้รับอนุญาตเธอจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องแจ้งเรื่องนี้ต่อเจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลคอนโดมิเนี่ยมที่ได้ชื่อว่ามีความปลอดภัยขั้นสูงสุดแห่งนี้ให้รับผิดชอบถึงแม้ว่าเธอจะเคยทำกระเป๋าเงินตกเอาไว้ตามทางเดินมาแล้ว แต่ก็ยังได้กระเป๋าเงินคืนพร้อมเงินสดที่ติดอยู่ในกระเป๋าครบทุกบาททุกสตางค์แล้วนี่อะไรกัน

หญิงสาวกวาดตามองเพื่อสำรวจไปโดยรอบอย่างตกใจสิ่งที่เธอเห็นคือเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นภายในห้องยังอยู่ครบหากดวงตาเฉี่ยวก็หยุดอยู่ที่กระดาษโน้ตแผ่นเล็กที่ถูกวางทับด้วยคีย์การ์ดกุญแจรถและกระเป๋าเงินลายโมโนแกรม

จอมขวัญรีบโผเข้าไปหยิบกระดาษโน้ตขึ้นมาอ่านดวงตาที่เคยเฉี่ยวปรับขนาดเป็นเบิ่งโตเมื่อเห็นข้อความ

“คุณทำกระเป๋าเงิน คีย์การ์ดแล้วก็กุญแจรถตกอยู่หน้าห้อง ผมเจอมัน ผมเคาะประตูเรียกคุณหลายครั้งแต่เงียบผมก็เลยถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามา ผมพักอยู่ชั้นยี่สิบ ห้อง 2002/20 ครับขอโทษด้วยถ้าผมทำให้คุณตกใจ อินทรี พินิจพงษ์”

คนที่อ่านข้อความด้วยอารมณ์ปั่นป่วน จะเรียกว่าโกรธจัดจนส่งผลให้ใบหน้าของเธอแดงราวกับผลเชอร์รี่สุกปลั่งก็คงจะไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดเพราะมันเจือด้วยความประหลาดใจที่เป็นเขา มันจะบังเอิญอย่างนั้นเชียวหรือความไม่พอใจและเขินอายกับสภาพของตัวเอง นึกสงสัยว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าห้องนี้เป็นห้องพักของเธอหรือว่าเขาสอบตกเรื่องมารยาทและเมื่อพบกุญแจตกอยู่หน้าห้องของใครเขาก็มักจะถือวิสาสะเปิดห้องเข้าไปแทนการนำของที่พบไปส่งให้กับพนักงานที่ดูแลคอนโดฯแห่งนี้ และเจ้าของก็จะได้ของที่หายไปกลับคืนเช่นกัน แล้วนี่เขาทำบ้าอะไรวะ!

หญิงสาวกำกระดาษแผ่นเล็กแน่นจนยับพร้อมหายใจเข้าออกแรงๆและสิ่งที่เธอทำก็คือก้มลงไปหยิบสิ่งของสามอย่างขึ้นมาแล้วเดินออกไปจากห้องราวกับพายุทอร์นาโด

“ติ๊งต่องๆๆ ปั้งๆๆ”

เสียงกริ่งพร้อมเสียงทุบประตูหน้าห้องดังซ้ำหลายๆครั้ง ส่งผลให้เจ้าของห้องเผยรอยยิ้มและดวงตาวาววับเพราะเขารอเธออยู่พญาอินทรีหนุ่มไม่รอช้า ไม่กี่ก้าวร่างสูงใหญ่ก็หยุดยืนนิ่งที่หน้าประตูห้อง

“สวัสดีครับคุณจอมขวัญ ผมรอคุณอยู่”

“คุณรู้จักชื่อฉันได้ไง จำได้แม่นว่าไม่เคยบอกแล้วนี่อะไรมิทราบ” เสียงห้าวเอ่ยถามพร้อมยกสิ่งของต้นเหตุที่นำพาเธอมาที่นี่

“นักข่าวดังอย่างคุณ ใครๆ ก็ย่อมรู้จักส่วนนั่นคือของๆ คุณครับ” เจ้าของห้องเอ่ยอย่างสุภาพพลางเปิดประตูออกกว้าง

“เชิญคุณเข้ามาก่อนครับพูดเสียงดังหน้าห้องเกรงว่าจะเป็นการรบกวนผู้อื่น”เสียงห้าวทรงพลังของพญาอินทรีหนุ่มยังคงสุภาพและเป็นมิตร

“คงไม่ต้องมั้งคุณ ฉันพอจะรู้ว่าชั้น19 กับชั้น20 เจ้าของตึกเหมาชั้น ถึงว่าสิ นึกจะเข้าห้องใครก็เข้า อภิสิทธิ์ชนแบบนี้นี่เอง” เสียงห้าวเพิ่มระดับสูงขึ้นดวงตาเฉี่ยวเงยขึ้นมองดวงตาคมของคนร่างสูงใหญ่ตรงหน้า

“เข้ามาก่อนดีกว่าครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเรามาคุยกันดีๆ นะครับ” พญาอินทรีหนุ่มซึ่งมีชนักติดหลังเอ่ยอ่อนหวาน

“ไม่ได้กลัวแต่ไม่อยากเข้าไป จะคุยตรงนี้ให้จบเรื่องเมื่อคืนคุณจะว่ายังไง” คนที่กำลังโกรธจัดจบประโยคคำถามแล้วรอฟัง “คุณคงจะบุกเข้าไปทุกห้องที่เจ้าของห้องทำกุญแจตกเอาไว้สินะนิสัย! รู้หรือเปล่าว่าทำแบบนี้เข้าข่ายบุกรุก”

“ผมเปิดเข้าไปเพราะรู้ว่าเป็นห้องจอม อีกอย่างผมเคาะประตูเรียกอยู่นานสองนานกลัวว่าคุณจะเป็นอะไรเป็นลมล้มพับไปหรือเปล่า ผมเป็นห่วง” ชายหนุ่มเพิ่มความสนิมสนมโดยการเรียกชื่อเล่นของหญิงสาวเพียงสั้นๆ

“จอม...ชื่อนี้มีไว้ให้คนที่สนิทกันเรียกเท่านั้นพี่ไม่ต้องมาทำเนียนตีซี้ แล้วรู้ได้ไงว่าเป็นห้องของฉัน”

“พี่เห็นจอมตั้งแต่เดินเข้ามาแล้วครับแต่ทักจอมไม่ทันอีกอย่างกุญแจฮาร์เล่ย์ของจอม พี่จำได้แม่น” หนุ่มใหญ่อธิบายโดยเพิ่มความสนิทสนมลงไปในบทสนทนาเขาแทนตัวเองว่าพี่แล้วเรียกชื่อเล่นเธอ โดยไม่นำพาคำต่อว่าของหญิงสาว

“จอมก็เห็นว่าไม่มีอะไรหายไปสักชิ้นแล้วพี่ก็ช่วยจอมเก็บของจนเรียบร้อย”

มาถึงประโยคนี้ของเขาหญิงสาวไม่สามารถบังคับสีชมพูระเรื่อบนใบหน้าได้ หากเธอยังคงปั้นหน้านิ่งก่อนเอ่ยเสียงห้าวปนเข้มอีกครั้ง

“แล้วมันใช่หน้าที่ของคุณหรือเปล่าล่ะฉันอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย ฉันอายเป็นนะคุณ ฉันแจ้งความคุณข้อหาบุกรุกได้เลยนะ”เสียงที่เคยดังเบาลง “หึ! ก็คนมันใหญ่นี่นะข้อหาบุกรุกเด็กๆ แค่นี้จะกลัวอะไร พัวพันกับคดีคนตายยังรอดได้สบาย ชิลล์ๆ ไร้มลทิน”

“ถ้าจอมหมายถึงคดีการเสียชีวิตของคุณเมลิซ่าทุกอย่างก็เป็นไปตามที่ตำรวจสรุป พี่ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น”พญาอินทรีหนุ่มใหญ่ก้มลงมาบอกหญิงสาวที่มองเขาไม่วางตา

“ที่นี่เมืองไทย ใครๆก็รู้ว่าเงินซื้อความถูกต้องไม่ได้" หญิงสาวเงียบไปครู่ก่อนต่อประโยค "ถ้าไม่มากพอซีอีโอหนุ่มของฮอตอีเกิ้ลผู้โด่งดังตกเป็นผู้ต้องสงสัย แก้ผิดเป็นถูกง่ายนิดเดียว”

“รู้หรือเปล่าว่ากำลังกล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐานในคดีร้ายแรงพี่ฟ้องได้นะครับเบบี๋ แล้วจอมก็กำลังหมิ่นเกียรติศักดิ์ศรีของตำรวจไทย”คนที่ค่อยๆ พาตัวเองเข้าไปใกล้ชิดสนิทสนมกับหญิงสาวผ่านบทสนทนาเอ่ยเตือนเสียงเข้มหากเขายังคงความสุภาพ ดวงตาคมฉายแววจริงจัง

“หมิ่นประมาท หึ! ก็ไปฟ้องเอาสิ อีกอย่างก็ไม่เห็นจะมีหลักฐานเราคุยกันสองคนในที่รโหฐาน ไม่มีบุคคลที่สาม ก็เท่ากับว่าคำพูดนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายให้คุณ”คนที่คิดว่าถือไพ่เหนือกว่าเอ่ยพร้อมรอยยิ้มบางๆ

“ถ้าอย่างนั้นกรณีที่พี่เข้าห้องของจอมก็ไม่มีหลักฐานเพราะเรารู้กันแค่สองคน”

“แต่ฉันมีโน้ตของคุณ ลงชื่อเอาไว้ชัดเจนจะเรียกว่าไม่มีหลักฐานได้ไง”

“เนื้อหาในโน้ตใครอ่านก็ไม่เห็นว่าพี่มีเจตนาร้าย ออกจะเป็นห่วงด้วยซ้ำกลัวว่าจอมจะเป็นอะไรไปถึงจอมแจ้งความแล้วยังไงต่อละครับ” หนุ่มใหญ่ไม่ยี่หระต่อคำขู่ของหญิงสาว“แต่ที่จอมหมิ่นตำรวจ ถ้าพี่ยกหูถึงใครบางคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วบอกเขาเรื่องที่ได้ยินจากปากของจอม มันคงจะไม่เป็นผลดีสำหรับจอมเท่าไหร่ก็อย่างที่จอมบอกว่าพี่เป็นถึงซีอีโอของแบรนด์เครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไม่รู้กี่ร้อยกี่พันล้านต่อปีมันก็น่าจะมีคนฟังบ้างล่ะ”

“หึ! คิดจะขู่เหรอ ก็พอจะรู้หรอกนะว่าใหญ่มาก...” คนที่กำลังถูกขู่เน้นหนักกับคำว่า‘มาก’ ร่างบางเดินเข้าไปใกล้แล้วจ้องตาคนขู่นิ่ง

“โธ่เว้ย!คนรวยประเทศนี้มันเหมือนกันหมดหรือไงวะ” หญิงสาวเดือดเพราะสถานการณ์ตกเป็นรองทั้งที่เธอเองเป็นฝ่ายเสียหาย

“โธ่...เบบี๋ไม่ยกหูไปฟ้องใครหรอกน่า วิธีของเด็กอนุบาลแบบนั้นพี่ก็แค่อยากจะบอกจอมว่า เรื่องนี้ถือว่าเราเจ๊ากันก็แค่นั้นเอง”

“เจ๊า?...” หญิงสาวทวนคำเสียงสูง “คุณเสียหายอะไรมิทราบแต่ฉัน...ฉันต้องโป๊ต่อหน้าคนแปลกหน้า ฉันอายเป็นนะโว้ย!”

“จะอายทำไมละครับเบบี๋ รูปร่างของจอมดีจะตายไปดีมากเสียจนพี่แทบลืมหายใจเลยเชียวล่ะ” พญาอินทรีหนุ่มตอบหน้าตายพร้อมรอยยิ้มหวาน

“ตาเฒ่าลามก ทำผิดแล้วยังไม่สำนึกอีกขอโทษสักคำยังไม่มี อย่าบอกว่าใหญ่คับฟ้าอย่างคุณ พูดสั้นๆ แค่นี้ไม่เป็น” เสียงที่เคยห้าวเพิ่มระดับเป็นสูงขึ้นในทันทีเมื่อได้ยินประโยคของชายหนุ่มที่กำลังส่งประกายหวานผ่านดวงตาคมของเขา

“โอเคๆ ครับพี่ขอโทษจอมก่อนก็ได้ถ้าจะทำให้จอมอารมณ์เย็นลงมาได้บ้าง มาคุยกันดีๆ นะ ไหนๆ เราก็เป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว”

“ใครเป็นเพื่อนบ้านกับคุณมิทราบ”

“ก็เรายังไงละครับ ไม่ลองทำความรู้จักกันก่อน จอมจะมาตัดสินว่าพี่เป็นคนแบบไหนได้ยังไงกันนักข่าวเก่งๆ คงจะไม่ตัดสินใครแค่เพียงภายนอกให้โอกาสพี่ได้พิสูจน์สิครับว่าไม่ได้หลุดข้อกล่าวหาเพราะใช้เงินอุดปากตำรวจแบบนี้มันน่าจะแฟร์สำหรับเราทั้งคู่”

“แฟร์? ฉันไม่แฟร์กับคุณตรงไหนที่ฉันมานี่ก็เพราะคุณบุกรุกห้องของฉัน แก่แล้วสมองเสื่อมหรือไงคุณ”คนที่ถูกกล่าวหาว่าไม่แฟร์ถามกลับอย่างมีอารมณ์

“จอมวกกลับมาเรื่องเดิมอีกแล้ว พี่ก็บอกเจตนากับจอมไปแล้วนี่ครับแต่การที่จอมกล่าวหาพี่ด้วยสาเหตุที่ทำให้คนอื่นต้องตายมันไม่รุนแรงไปหน่อยหรือครับเบบี๋”หนุ่มใหญ่ให้เหตุผลเสียงเข้มและจริงจังกับข้อกล่าวหาจากข่าวการเสียชีวิตของนางแบบสาวที่เขาตั้งใจจะยื่นมือเข้าไปช่วยเขาเองก็เสียใจกับข่าวนี้ไม่น้อยเช่นกัน

“...”

หญิงสาวเงียบไปหากใช้ความคิด และนี่อาจจะเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่เธอจะสามารถหาหลักฐานแล้วเปิดโปงความผิดของคนที่อาจจะใช้เงินปิดหูปิดตาตำรวจ

“เอาแบบนั้นก็ได้ ฉันจะไม่ตัดสินคุณแต่ฉันจะหาหลักฐานมากระชากหน้ากากของคุณคอยดู!” คนที่ปากตรงกับใจบอกออกไปตรงๆ และเธอคงจะไม่รู้ว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ตัวเองตกหลุมรักซึ่งพญาอินทรีหนุ่มผู้เจนโลกได้ขุดหลุมดักรอเธอเอาไว้แล้ว

“โอเคครับเบบี๋ ถ้างั้นเรามาเริ่มวันนี้เลยดีไหมคืนนี้ดินเนอร์ด้วยกันนะครับ ห้องนี้ ห้องจอม หรือที่ไหนก็ได้แล้วแต่จอม”หนุ่มใหญ่เอ่ยชวนเสียงนุ่มอย่างชนิดที่ไม่ยอมสูญเสียโอกาส

“คืนนี้ไม่ว่าง ต้องทำงานไว้ว่างเมื่อไหร่แล้วจะบอก” หญิงสาวปฏิเสธไปตามความจริงเพราะคืนนี้เธอมีข่าวสำคัญต้องทำ

“โอเคครับผม ยังไงก็ได้ พี่แล้วแต่จอม”ชายหนุ่มรับคำง่ายๆ ดวงตาคมของเขามองหญิงสาวพร้อมรอยยิ้มบางๆ และยิ้มออกมามากยิ่งขึ้นเมื่อเธอหลบตาลงพร้อมกับใบหน้าสีชมพูระเรื่อที่เธอเองคงจะไม่สามารถบังคับได้

“ถ้าพี่จะขออนุญาตไปคุยกับจอมที่ห้องของจอมเวลาเหงาๆบ้างจะได้ไหมครับ” คนขี้เหงาก้มลงถามเกือบชิดใบหน้าของหญิงสาว

“อย่างคุณน่ะหรือจะเหงา ไม่จริงมั้งโปรไฟล์อลังการงานสร้างขนาดนี้ เพื่อนแก้เหงาคงเรียงแถวกันมาเป็นขบวนรถไฟสิไม่ว่า”หลุดปากออกไปแล้วก็ต้องเม้มปากตัวเองเอาไว้แน่น เพราะน้ำเสียงของเธอคล้ายๆ กับคนขี้หึงแม้เธอเองยังรู้สึกได้จนแทบอยากจะกัดลิ้นตาย

“พี่เพิ่งกลับมาเมืองไทยไม่นาน ไม่ค่อยมีเพื่อนคุยจริงๆจังๆ หรอกครับ จะมีก็แต่น้องสาวกับคู่หมั้นของเขา แล้วก็ลูกน้องที่บริษัทเรามาเริ่มจากการเป็นเพื่อนกันก่อนนะครับ ไม่เห็นเสียหายอะไรเลยหรือถ้าจอมต้องการจะเป็นมากกว่าเพื่อนกับพี่ก็ยังได้”พญาอินทรีหนุ่มที่กำลังกลายร่างเป็นนายพรานเอ่ยเสียงนุ่มพร้อมแววตากรุ้มกริ่ม

“ตาแก่ลามก ได้คืบจะเอาศอก แค่ฉันยอมให้คุณพิสูจน์ความบริสุทธิ์ก็ถือว่ามากพอแล้วให้ได้แค่นี้จะเอาหรือไม่เอา” หญิงสาวเอ่ยเสียงห้าวอย่างไม่เกรง

“โอเคๆ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปก็ได้ครับ เราค่อยๆทำความรู้จักกันไป แล้วจอมจะได้รู้ว่าพี่เป็นคนยังไง” หนุ่มใหญ่รับคำพร้อมรอยยิ้มกระชากใจเช่นเดิม

“แล้วขอบอกไว้อย่างว่าห้ามมองแล้วก็ห้ามใช้น้ำเสียงแบบนี้กับฉันอีกมันเลี่ยน ขนลุก ไม่ชอบ” คนที่ไม่รู้ว่าใบหน้าของตัวเองแดงซ่านซึ่งเกิดจากการกระทำของคนตรงหน้าเธอพยายามเอ่ยเตือนเขาเสียงเข้ม

“....”

ไม่มีสัญญาณตอบรับหรือปฏิเสธ หากเวลานี้ใบหน้าคมเข้มของพญาอินทรีหนุ่มระบายไปด้วยรอยยิ้มบางๆพร้อมกับดวงตาคมของเขามันหวานมากเสียจนคนเอ่ยเตือนต้องรีบหลบตาแล้วต้องพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

“ฉันไปล่ะ มีนัด”ร่างบางเอ่ยพลางหมุนตัวกลับรีบเดินออกไป หากเพียงแค่สองก้าวเธอก็หยุดนิ่งก่อนหันกลับไปมองคนที่ยังคงยืนอยู่ที่หน้าห้อง

“เอ่อ...กลิ่นน้ำหอมใหม่ ก็หอมดี”

ไม่รอฟังว่าคนที่ตัวหอมจะเอ่ยว่าอย่างไรหญิงสาวก็รีบก้าวอย่างรวดเร็วไปยังลิฟต์ ราวกับตัวเธอเองได้ทำเรื่องที่ผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ลงไปแล้ว...

และประโยคสุดท้ายของคนที่เดินจากไปเร็วๆพร้อมกับใบหน้าซ่านสีชมพู ส่งผลให้พญาอินทรีหนุ่มเจนโลกเผยรอยยิ้มกว้างกว่าทุกครั้งเพราะบทสนทนาของทั้งคู่ในเช้านี้เธอจะรู้ตัวหรือไม่ว่าได้เปิดประตูรับเขาอย่างเป็นทางการเสียแล้วและคงจะได้เวลาที่พญาอินทรีหนุ่มอย่างเขาจะสืบสายพันธุ์พญาอินทรีให้ยิ่งใหญ่สืบไป...

จอมขวัญซิ่งมอเตอร์ไซค์คู่ใจออกจากเดอะสยามนิวส์ในเวลาสามทุ่มเธอใช้เวลาทั้งวันเขียนบทความลงในคอลัมน์รายสัปดาห์เรื่องยาเสพติดกับวงการบันเทิงไทยเธอเขียนบทความนี้ต่อเนื่องมากว่าหนึ่งปีแล้ว

นักข่าวสาวได้ข้อมูลน่าเชื่อถือได้จากเพื่อนนักข่าวสายบันเทิงคนหนึ่งว่าคืนนี้จะมีปาร์ตี้ฉลองครบรอบสามปีของซานดิเอโก้ผับทำให้เธอต้องแปลงร่างเป็นผีเสื้อราตรีเพื่อสืบหาข่าวแทนการกลับไปคอนโดฯ

หญิงสาวจอดมอเตอร์ไซค์เอาไว้ที่ด้านหน้าของผับแล้วสะพายกระเป๋าที่ภายในบรรจุอุปกรณ์สื่อสาร กล้องถ่ายรูปครบครันหากทันทีที่เดินไปถึงประตูทางเข้าเธอก็โดนบอดี้การ์ดร่างยักษ์สองคนขอตรวจกระเป๋าและแจ้งอย่างสุภาพว่าคืนนี้ทางผับออกกฎห้ามแขกทุกคนนำอุปกรณ์สื่อสารใดๆเข้าไป โดยเขาจะเก็บสัมภาระของลูกค้าเอาไว้ในล็อกเกอร์ที่เตรียมไว้อย่างปลอดภัยและแจ้งต่ออีกว่าเจ้าของผับต้องการให้งานเลี้ยงในคืนนี้เป็นไปอย่างส่วนตัวที่สุด และเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการบันทึกภาพใดๆทั้งสิ้น หากทางผับก็จะยอมชดเชยโดยให้ลูกค้าที่มาใช้บริการในคืนนี้กินดื่มฟรีตลอดรายการและนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับนักข่าวสาวที่ได้ชื่อว่าสมองและสายตาของเธอทำหน้าที่ได้ดีกว่าเครื่องบันทึกภาพใดๆ

“ขอ Cosmopolitan” จอมขวัญสั่งเครื่องดื่มที่มีชื่อคล้ายกับนิตยสารสำหรับผู้หญิงฉบับหนึ่งมันเป็นเครื่องดื่มที่มีสีแดงสดใส รสชาตินุ่มไม่หวือหวาและมีกลิ่นหอมของไซตรัส[1] อ่อนๆ เมื่อเธอนั่งลงบนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์บาร์บรรยากาศในร้านคืนนี้คักคักและคราคร่ำไปด้วยนักเที่ยวที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีจากหนังสือพิมพ์และนิตยสารบันเทิง

หญิงสาวนั่งดื่มพลางโยกไปตามจังหวะเสียงเพลงดวงตาเฉี่ยวคอยสังเกตการณ์ไปโดยรอบตลอดเวลา คืนนี้มีแขกในร้านหนาตามากกว่าคืนก่อนคงเพราะเป็นโอกาสพิเศษที่น้อยคนนักจะรู้ว่ามีการฉลองครบรอบสามปีของร้านเพราะไม่มีบัตรเชิญหรือการโฆษณาใดๆ นั่นเท่ากับว่าคนที่มาเที่ยวในคืนนี้เป็นขาประจำที่คุ้นเคยกันดีหากจะมีขาจรที่รู้ข่าวมาจากวงในอีกทีก็คงจะมีแต่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น

ร่างบางในเครื่องแบบที่ดูไม่ค่อยเหมาะสำหรับการเป็นผีเสื้อราตรีนักเธอแต่งกายรัดกุมซึ่งแตกต่างจากเหล่าบรรดาดารา นางแบบ และคนดังที่ค่อยๆ ทยอยเดินเข้ามาในผับซึ่งส่วนใหญ่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้นเผยเนื้อหนัง หากก็ดูสวยงามราวกับกำลังประชันกันบนเวทีประกวดและเธอก็กำลังจะสั่งเครื่องดื่มแบบเดิมเป็นแก้วที่สองให้ตัวเอง

“มาคนเดียวหรือครับ”

ชายหนุ่มรูปร่างสูง ผิวขาวหน้าตาดีเอ่ยถามขณะที่เดินมาหยุดอยู่ใกล้หญิงสาว

“คุณถามฉันเหรอคะ”

หญิงสาวหันซ้ายหันขวาก่อนเอ่ยถามคนที่เธอเคยเห็นในนิตยสารสังคมและรู้ว่าเขาคือลูกชายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนดังและเขาก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของผับแห่งนี้

“ครับผม ผมเห็นคุณนั่งดื่มอยู่คนเดียว”เสียงนุ่มของปรารภเอ่ยอย่างสุภาพและเป็นมิตร

“พอดีฉันนัดกับเพื่อนไว้น่ะค่ะแต่สงสัยจะโดนเบี้ยวซะแล้ว”คนที่โกหกหน้าตายยกแก้วเครื่องดื่มที่เพิ่งเสิร์ฟขึ้นมาดื่ม

“ถ้างั้น ให้ผมนั่งคุยเป็นเพื่อนนะครับ”ชายหนุ่มเจ้าของผับเอ่ยก่อนหันไปส่งสายตาเป็นเชิงออกคำสั่งให้ชายหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กับหญิงสาวลุกออกไปจากที่นั่งแล้วเขาก็พาร่างสูงของตัวเองไปแทนที่ เป็นท่าทางที่ดูเสียมารยาทและคุกคามหากไม่ได้รับการโวยวายใดๆ จากคนที่ต้องสละที่นั่ง

จอมขวัญไม่ตอบและไม่มีท่าทีปฏิเสธบางทีเธออาจจะได้ข่าวสำคัญบางอย่างจากเขา

“ผมรู้มาว่าคุณเป็นคนเขียนสกู๊ป ‘เซ็กซ์ ดาราและยาเสพติด’ เป็นคอลัมน์รายสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมมากครับ”

ชายหนุ่มเริ่มต้นบทสนทนาก่อน เขารู้ดีว่าเธอคือใครตั้งแต่แรกเห็นเธอเดินผ่านกล้องวงจรปิดด้านหน้าของผับและหลายๆ บทความแสบๆ คันๆ ของเธอก็กระทบชิ่งมาที่ตัวเขาหลายครั้งแล้วเช่นกันการปรากฏตัวของเธอในคืนนี้คงจะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากการล่าข่าวเด็ดติดมือกลับไป

“คุณรู้ได้ไงว่าฉันเป็นนักข่าว ปกติใช้นามแฝงแล้วก็ไม่เคยลงรูปตัวเองออกสื่อสักทีอย่าบอกว่าคุณชอบงานของฉันมากจนต้องให้คนสะกดรอยตามฉันหรอกนะมันฟังดูหลอนไปหน่อยนะคุณว่าไหม” คนที่รู้ตัวว่าการหาข่าวของเธอในคืนนี้ไม่ง่ายเอ่ยถามตรงๆโดยไม่กลัว

“ผมมีเพื่อนเป็นนายตำรวจหลายนายตำรวจกับนักข่าวก็ต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว”

“ฉันเองก็มีเพื่อนเป็นตำรวจหลายนายบางทีเพื่อนของเราอาจจะเป็นคนเดียวกันก็ได้”

“...”

คนที่มีเพื่อนเป็นคนในเครื่องแบบไม่ตอบแล้วเขาก็หันไปสั่งเครื่องดื่มของตัวเองหนึ่งแก้ว ก่อนจะหันกลับมาเอ่ยเสียงนุ่ม

“ก็สารวัตรเมืองสุดหล่อคนนั้นยังไงล่ะครับเขาเป็นเพื่อนของผมและผมคิดว่าเขาน่าจะเป็นเพื่อนของคุณด้วย”

ชื่อของสารวัตรหนุ่มที่ผ่านริมฝีปากของเจ้าของผับทำให้สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเพราะเธอไม่คิดมาก่อนว่าสารวัตรหนุ่มที่เป็นทั้งเพื่อน พี่ชาย และได้ชื่อว่าเป็นนายตำรวจตงฉินจะมีสายสัมพันธ์ที่สนิทสนมหรือเป็นเพื่อนกับคนที่เป็นลูกชายของรัฐมนตรีคนดังเธอรู้จักเขามานาน และถ้าหากทั้งคู่เป็นคนสนิทคุ้นเคยกันดีสารวัตรหนุ่มคงจะไม่ชวนเธอมาทำข่าวการล่อซื้อยาเสพติดที่ผับแห่งนี้อย่างแน่นอนชายหนุ่มคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่ ทำลายความไว้วางใจ หรือเบี่ยงประเด็นสงสัยที่เธอรู้ว่าถูกคนของเขาสะกดรอยตาม

หากก่อนที่การตั้งสมมติฐานของนักข่าวสาวจะไปไกลถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีดาราสาวหน้าใหม่ไฟแรงซึ่งเป็นคู่ควงเบอร์ล่าสุดของคนตรงหน้าเดินเข้ามา

“อยู่ที่นี่เองหรือคะปราบ จีจี้มองหาคุณตั้งนาน”

ดาราสาวในเดรสสีครีมเว้าหน้าเว้าหลังเบียดร่างชิดชายหนุ่มพลางหอมแก้มเขาหนึ่งฟอดหนักๆราวกับต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ

“ครับจีจี้ ผมเห็นคุณไม่ออกมาจากห้องน้ำสักที ผมก็เลยเดินมาหาเครื่องดื่มรอ”

“ปราบรอจีจี้จริงๆ หรือคะที่รัก นึกว่าโดนแม่นี่อ่อยอยู่ซะอีกถ้าจีจี้ออกมาไม่ทัน มีหวังนังนี่คงจะอ่อยคุณสำเร็จ อ่อยไปถึงไหนแล้วล่ะยะหล่อนคุยกันถูกคอจังนะ”

“พูดสวยๆ หน่อยน้อง แล้วถ้านังนี่ที่น้องหมายถึงคือพี่ล่ะก็เสียใจด้วยที่ต้องทำให้ผิดหวัง ระดับนี้ถ้าไม่เด็ดจริงๆ ก็ไม่อ่อยให้เสียเวลาหรอกไม่ต้องห่วง” ร่างบางหันไปปะทะคารมกับคนที่เวลาออกสื่อมักจะแสดงท่าทางสวยใสไร้เดียงสาในทันที

“ฉันกลับก่อนดีกว่าคุณไม่อยากมีเรื่องชกปากดารายังไม่อยากขึ้นหน้าหนึ่ง แล้วก็ขอบคุณมากที่อุตส่าห์มานั่งคุยเป็นเพื่อน”

เมื่อมองเห็นสถานการณ์ไม่ดีและรู้ตัวว่าไม่ใช่คนที่จะควบคุมอารมณ์ได้ดีมากนักจอมขวัญจึงลุกจากที่นั่งแล้วเดินออกไปโดยไม่สนใจท่าทางของสองคนที่มีอารมณ์แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงโดยดาราสาวหน้าใหม่ไฟแรงมีอาการคล้ายๆ กับคนที่ดื่มมานิดหน่อยและกำลังโกรธจัดจนใบหน้างดงามของเธอเปลี่ยนสี เพราะไม่สามารถต่อปากต่อคำได้ทันหากชายหนุ่มเจ้าของผับแสดงออกชัดเจนถึงความสนใจในตัวหญิงสาวที่เขาให้คนติดตามความเคลื่อนไหวของเธอมานานเพราะเขาอยากจะรู้เช่นกันว่าคนกล้าดีที่จะเปิดโปงธุรกิจบาปของเขาเป็นใครซึ่งเธอก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง แม้จะได้พูดคุยกันเพียงไม่กี่นาทีและไม่ได้แนะนำตัวเองเลยด้วยซ้ำหากเธอก็น่าสนใจและเขาก็อยากจะได้เธอมาเป็นคู่นอนแทนที่ดาราสาวซึ่งได้ชื่อว่าสวยแต่เพียงเปลือกนอกคนที่ยืนอยู่ข้างกายของเขาในเวลานี้อย่างแน่นอน....



[1] ไซตรัส (Citrus) สกุลส้มอยู่ในวงศ์ Rutaceae มีต้นกำเนิดในเขตร้อนและเขตร้อนชื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


********************************************************************


มีวางจำหน่ายแล้วในรูปแบบ E-BOOK ค่ะ ตามลิ้งก์ค่ะ


//www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=9773


ส่วนรูปเล่มใครสนใจแจ้งเข้ามาได้ทีที่: wikky7ster@gmail.com ค่ะ

หรือแฟนเพจ 





Create Date : 09 ธันวาคม 2557
Last Update : 9 ธันวาคม 2557 12:35:53 น. 0 comments
Counter : 581 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wikky_78
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add wikky_78's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.