เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ภายใน 30 วัน (30 days Mission Possible) - Part 5

เฟี้ยวฟ้าวกลับมาแล้วค่ะ หลังจากวันนี้ไปฝึกโยคะมา ช่วงนี้คุณครูขอเน้นให้เราเพียวๆ จะเน้นหน้าท้องและต้นขา ฝึกทีขาสั่นระริก (เหนื่อยแต่มีความสุขเวอร์)


วันนี้มีเพื่อนฝรั่ง ร้องขอหน้าท้องสวยๆ คุณครูเลยจัดให้ได้หน้าท้องกันไปเต็มๆ (นอนยกขาขึ้น ยกขาลง ดูเหมือนง่าย แต่หน้าท้องมีขมวดตึงเน้นๆ ไปเลย เหงื่อนี้วิ่งปรู้ดปร้าดกันไปเลย ฮาๆ)  ลงภาพไม่ค่อยเยอะนะระหว่างทำเพราะว่า เรียนไปถ่ายรูปไปมันจะดูไม่ดี รบกวนนักเรียนคนอื่นด้วย เกรงใจค่ะ



ท่านี้เรียกชื่อยังไม่ได้ แบบชื่อฮินดูอินตรเดียมาก (ขอโทษคุณครูนะค่ะ แต่จะพยายามจำชื่อให้ได้ แค่จำท่าก็เหนื่อยแล้ว)  ขาต้องยืดเหยียดฝ่าเท้าติดเสื่อกันไปเลย ดันหลังให้หน้าอกเราเข้ามาใกล้หน้าขาให้ได้มากที่สุด ท่านี้รู้สึกได้เลยถึงหน้าขาและหลังขาตึงมาก ต้นขานี้สั่นสู้กันไปเลย หน้าท้องก็รู้สึกนะ เราว่าคนมีพุงทำท่านี้ได้ก็เลิศแล้ว มันเหมือนไปช่วยทำให้พุงเรามีการขยับบ้างไรบ้าง ยังไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะ ขออาศัยความรู้สึกและการสัมผัสได้ของร่างกายล้วนๆ เล่าให้คุณผู้อ่านรู้ไปก่อนนะค่ะ ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ



เริ่มหาจุดสมดุลให้ร่างกายได้แล้ว ที่สำคัญดิฉันสามารถใช้นิ้วเกี่ยวและยกขาใหญ่ๆ ขึ้นมาได้แล้ว โดยที่ไม่โซซัดโซเซ รู้สึกปลาบปลื้มตัวเองมากเค๊อะ สังเกตได้ว่าหน้ามีเหงื่อมาก เหนียงขึ้นด้วยค่ะ แหมก็เค้ากลัวล้มนะ เดี๋ยวจะอายเพื่อนสาวฝรั่งข้างๆ หน้าเค้านิ่งมากเลยค่ะ (อิจฉาหล่อนนะ รู้มั้ย ชิๆ )



ท่านี้เลิศไหม เหมือนจะไปเรียน รำมโนราห์กันไปเลย ฝึกความสมดุลของร่างกาย นี้พึ่งทำครั้งแรกนะ ต่อไปจะยกขาให้สูงขึ้นกว่านี้ค่ะ แค่นี้ขาดิฉันก็รวดร้าว สั่นพั่บๆ เลยค่ะ แต่โดยรวมชอบมากค่ะ



นอกจากได้ออกกำลังกาย ขยับตัวแล้ว การฝึกโยคะยังให้เราได้ฝึกสมาธิ กำหนดลมหายใจเข้าออก ให้เราไม่คิดฟุ้งซ่าน ในขณะฝึก เหนื่อยเมื่อยก็ให้เพ่งไปที่ลมหายใจเข้าออก ถือว่าเป็นกีฬาที่ได้ทั้งร่างกายที่แข็งแรงขึ้น และได้จิตใจที่ผ่อนคลาย มีสมาธิและมีสติมากขึ้น (ช่างดีจริงๆ เลยค่ะ)


เอามาให้ยลสักสามสี่ท่า  เพื่อนๆ อาจจะได้แรงบันดาลใจ ขับเคลื่อนให้มาออกกำลังกายกันนะ (อีกอย่างกลัวคนอ่านไม่เชื่อว่าฝึกจริงนะ ไม่ได้นั่งเทียนเขียนนะ ตัวเธอ)

เรื่องอาหารการกินเราก็ทานปกติ ไม่ได้เน้นคลีน แต่เน้นทานแต่มื้อหลักให้ครบ 3 มื้อ กับดื่มน้ำสะอาดเยอะๆ หน่อย อีกอย่างเลิกทานจุกจิก ขนมหวานก็ลดๆ ไปเลย จะได้ทำให้ร่างกายเราเข้าที่ สวย เฟิร์มเร็วขึ้น ส่วนระหว่างวันก็พยายามไม่นั่งมากเกินไป เดินไปนู้นนี้บ้าง เวลานั่งเดินก็พยายามยืดอกไหล่หลังตรง ไม่เดินหลังค่อม และแขม่วพุงขมิบก้นช่วย คิดว่าตรงนี้จะทำให้ร่างกายเราปรับตัวและเข้าที่เข้าทางง่ายขึ้น เพื่อนๆ ลองดู เลิกนั่งหลังค่อม ปล่อยพุงพุ้ย พยายามแขม่วพุง เวลาเดินขมิบก้น (ไม่ได้ทะลึ่งนะ) จะได้ทำให้ก้นเราไม่โอนเอนไปตามแรงโน้มถ่วงโลก อยากได้ก้นย้อยๆ พุงห้อยๆ กันหรอ

สุดท้ายแหละลงภาพตัวเองหน่อย หลังจากผ่านการฝึกมาได้ 5 ครั้ง รู้สึกว่าพุงเริ่มหาย เริ่มมีเส้นบางๆ ตรงหน้าท้อง และก้นก็เริ่มเด้งขึ้น ส่วนหลังและขารู้สึกได้ว่ายืดได้มากขึ้น เริ่มที่จะพับตัวได้มากขึ้น ถึงแม้ว่าจะตึงที่หลังขาบ้างแต่ไม่เจ็บปวดอะไร ส่วนต้นขาเซลลูไลท์เริ่มโบกมือบ๊ายๆ บางส่วน ไม่เยอะมากเหมือนแต่ก่อน แค่ต้องทำท่าที่เน้นขามากขึ้นจะได้มีขาที่เรียวขึ้น เนื้อไม่เบียดกัน ส่วนแขนก็เริ่มมีกำลังมากขึ้น วิดพื้นได้บ้างแหละ ที่สำคัญเริ่มทำท่าได้คล่องขึ้นจากเดิม พอเราเริ่มชำนาญและเป๊ะเรื่องท่ามากขึ้น เราจะมาเขียนโพสแต่ละท่าให้นะค่ะ



หน้าสดกันไปเลย สภาพหลังจากฝึกโยคะ (อยากบอกว่าใครกลัวหน้าอกจะลดลง อย่าไปกลัวค่ะ มันก็คงไม่แฟ่บไปมากหรอก เราก็เอาพอประมาณให้หน้าอกกระชับขึ้น ไม่หย่อนคล้อย)



ด้านหน้า ยิ้มสู้ตายค่ะ



ด้านข้างพุงเริ่มหายค่ะ ช่วงนี้เวลาทำอะไรก็พยายามแขม่วพุง ขมิบก้นกันไว้นะค่ะ



ด้านหลัง เป็นไงหละไม่มีเนื้อก้อนๆ ให้เห็นเกะกะตาเยอะมาก  บางทีถ้าเราไม่ออกกำลังกายก็มากันเป็นปีกเลยค่ะ (ปีกหนามากแต่บินไม่ขึ้น ไรงี้) โดยเฉพาะก้อนเนื้อบริเวณหลังและสะโพก กำจัดมันไปซะ เวลาใส่ชุดแนบเนื้อจะได้ไม่เห็นลอนห่วงยางรอบตัวเราค่ะ

วันนี้มาเจิมเท่านี้ก่อนค่ะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ

บ๊าย ๆ

วิ ณัชชา

Create Date : 26 มิถุนายน 2558 Last Update : 26 มิถุนายน 2558 13:57:53 น. Counter : 1314 Pageviews.		0 comments
Share Tweet