เวียงแว่นฟ้า - เดินตามรอยกรรม
<<
มีนาคม 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
21 มีนาคม 2558

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม - บทที่ 31




วันที่ 31 ธันวาคม 2516 คุณนายดวงสุดาลงทุนขับรถเข้ามาที่วัดป่ามะม่วงด้วยตนเอง ตามคำขอร้องของบิดามารดา เถ้าแก่เส็งกับคุณกิมง้ออยากมาฟังพระสงฆ์สวดธรรมจักร ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 'นิมิตในกรรมฐาน' บอกให้มา เนื่องจากคนทั้งสองปฏิบัติกรรมฐานได้ก้าวหน้ามาก จนสามารถเกิดนิมิตได้ตรงกัน

หลังจากปรึกษาหารือกันแล้ว จึงแจ้งความจำนงให้บุตรสาวทราบ บังเอิญคนขับรถประจำตำแหน่งของท่านผู้ว่าฯ ขอลากลับไปบ้านเพื่อไปฉลองปีใหม่กับครอบครัว จึงตกเป็นหน้าที่ของคุณนายที่จะต้องสงเคราะห์บิดามารดา เป็นการสงเคราะห์ที่เจ้าตัวเต็มใจอย่างยิ่ง

ผู้คนมาวัดกันมากมาย ตั้งแต่เด็กอายุแปดขวบไปจนถึงคนชรา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง พวกผู้ชายคงจะพากันไปกินเหล้าฉลองปีใหม่กัน จึงไม่นิยมมาวัด บรรดาแม่ครัวต้องทำงานหนักเป็นพิเศษ เพราะแขกเหรื่อทยอยกันมาไม่ขาดระยะ เว้นแต่ผู้ที่ปฏิบัติกรรมฐาน ซึ่งมีเป็นส่วนน้อยเมื่อเปรียบเทียบกัน

เวลายี่สิบนาฬิกา ทุกคนไปรวมกันในพระอุโบสถและทำวัตรเย็นร่วมกับพระภิกษุทั้งวัด จากนั้นเจ้าอาวาสวัดป่ามะม่วงแสดงพระธรรมเทศนาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง แล้วพระภิกษุและฆราวาสปฏิบัติกรรมฐานจนถึงเวลายี่สิบสามนาฬิกา ปฏิบัติกรรมฐานเสร็จจึงพร้อมใจกันแผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์และเจ้ากรรมนายเวร ใกล้เวลาเที่ยงคืน คณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์บทธรรมจักรไปจนถึงเวลาหนึ่งนาฬิกาของวันใหม่ หลังจากนั้นพระภิกษุและฆราวาสทำวัตรเช้าร่วมกัน

เป็นการต้อนรับปีใหม่ที่เถ้าแก่เส็งและคุณกิมง้อไม่เคยประสบมาก่อน คนทั้งสอง 'อิ่มบุญ' จนลืมความง่วงและตั้งปณิธานไว้ว่า จะมาฉลองปีใหม่ที่วัดป่ามะม่วงทุกปี จนกว่าสังขารจะไม่อำนวย

การทำวัตรเช้าเสร็จสิ้นลงเมื่อเวลาตีสอง ทั้งพระและฆราวาสต่างแยกย้ายกันกลับไปกุฎิที่พักของตน ผู้ที่ยังไม่ง่วงก็ปฏิบัติกรรมฐานต่อโดยไม่หลับไม่นอน ส่วนคนที่ทนง่วงไม่ไหวก็จะนอนเอาแรงสักสองชั่วโมง แล้วลุกขึ้นมาปฏิบัติกรรมฐานตอนตีสี่

เวลาแปดนาฬิกาของวันที่ 1 มกราคม 2517 คุณนายดวงสุดาและบิดามารดาจะมาลาท่านพระครูกลับกรุงเทพฯ เมื่อมาถึงกุฏิของท่านก็เห็นคนนั่งรอเต็มไปหมด ท่านพระครูยังไม่ลงมาจากชั้นบน

เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้น ตามด้วยเสียงแก้วแตกดังเพล้ง ความอยากรู้อยากเห็นทำให้คุณนายดวงสุดา พาร่างอันอุดมไปด้วยก้อนเนื้อและไขมันออกไปยังด้านหลังกุฏิ อันเป็นที่มาของเสียง ภาพที่เห็นทำให้คุณนายดวงสุดาถึงกับอ้าปากค้าง ผู้หญิงอายุประมาณสี่สิบ กำลังขว้างแก้วใส่ผู้ชายวัยเดียวกันซึ่งพยายามหลบอุตลุด กระทั่งพวกแม่ครัวมาช่วยกันยื้อยุดหล่อนเอาไว้

"ปล่อยกูนะ กูจะฆ่ามัน" หล่อนตะโกนและดิ้นรน
"ใจเย็นๆค่ะคุณนาย นี่วัดนะคะ ไงก็เกรงใจท่านพระครูมั่ง" นางบุญรับเตือนสติ

คนที่นั่งอยู่ในกุฏิทยอยกันออกมาดู คุณนายดวงสุดามองอย่างสังเวช นึกตำหนิสตรีผู้นั้น ที่ไม่มีความอดกลั้นแม้ในวัดวาอาราม นางกิมเอ็งซึ่งมารอให้ท่านพระครูสอบอารมณ์พร้อมสามีและลูกชาย เห็นคุณนายดวงสุดาเดินออกไปก็ลุกตาม

"กิมเอ็ง อย่าออกไป ไม่ใช่เรื่องของเรา" คหบดีปรามภรรยา

แต่ความอยากรู้อยากเห็นตามวิสับหญิง ทำให้หล่อนขัดคำสั่งของสามี พอออกไปก็สบตาเข้ากับสตรีที่ดูเหมือนกำลังบ้าคลั่งคนนั้น เลยถูกหางเลขเข้าอย่างจัง

"มองอะไร ระวังเถอะอีพวกชอบเสือกเรื่องของชาวบ้าน กูจะตบล้างน้ำเสียให้เข็ด" หล่อนว่าใส่หน้านางกิมเอ็ง

ภรรยาคหบดีถอยกรูดกลับเข้ามาในกุฎิ ตามด้วยคุณนายดวงสุดา คนแรกเข้ามานั่งใกล้สามี พลางนึกในใจว่า 'อยู่ดีไม่ว่าดีนะเรา ถูกด่าฉลองปีใหม่แต่เช้า ซวยชะมัด'

ส่วยคุณนายดวงสุดาไม่ได้นั่งลง แต่เดินไปด้อมๆมองๆแถวๆประตูหลังกุฏิ ผู้หญิงคนนั้นสะบัดแขนอย่างแรงจนหลุดจากการเกาะกุม หล่อนวิ่งไปคว้าไม้ได้ื่ท่อนหนึ่ง จึงตรงเข้าหาสามี ฝ่ายนั้นรีบวิ่งไปที่รถเก๋ง ไขกุญแจเข้าไปนั่งในที่คนขับได้อย่างหวุดหวิด คนเป็นเมียก่นด่าอย่างหยาบคาย ใช้ไม้ทุบกระจกหน้ารถจนกระจกร้าวเป็นทาง หล่อนกระชากที่ปัดน้ำฝนหน้ารถออกมา มันบาดมือหล่อนจนเลือดแดงฉาน สามีหล่อนสตา์รทรถ หล่อนจึงวิ่งไปขวางหน้ารถเอาไว้

"เอาเลย มึงชนกูให้ตายเลย"

สามีบีบแตรเป็นการเตือนให้ถอย แต่ภรรยาไม่ยอมถอย เขาจึงยื่นหน้าออกไปตะโกนว่า 'ไม่ถอยกูชนจริงๆนะ' แล้วเร่งน้ำมันอย่างแรงเป็นการขู่ ถ้าหล่อนไม่ถอยเขาก็จะชนให้ตายไปเสียเลย

"ผู้พันอย่าชนค่ะ อย่าชน" พวกแม่ครัวร้องเสียงหลง คนหนึ่งวิ่งไปยืนคู่กับหญิงคนนั้น คิดว่าคนขับคงไม่กล้าชน

"ป้าถอยออกไป ไม่งั้นผมชนนะ" คนขับตะโกนบอกและทำท่าจะออกรถ

หญิงผู้บ้าคลั่งกระโดดขึ้นไปยืนหราบนกระโปรงหน้ารถ ใครคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า "ป้าไปเรียกคุณนายลงมาเถอะ เดี๋ยวผู้พันแกแกล้งขับเร็วๆ คุณนายก็ตกลงมาคอหักตายหรอก"

"เฮ้ย ใครมันจะฆ่าเมียได้ลงคอ ลูกเต้าก็มีด้วยกัน โน่น..ยืนตัวสั่นงันงกอยู่โน่น" นางบุญรับชี้ไปที่เด็กชายหญิงอายุประมาณหกเจ็ดขวบ ที่ยืนอยู่กับพี่เลี้ยง

คุณนายดวงสุดามองไปที่เด็กทั้งสอง ซึ่งยืนอยู่ห่างหล่อนประมาณสามวา ด้วยสีหน้าท่าทางที่ตื่นตระหนก หัวใจดวงน้อยคงแทบแตกสลายเพราะการกระทำของพ่อแม่ คุณนายไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดชายหญิงสองคนนั่น จึงทำร้ายจิตใจลูกได้ถึงปานนี้

เสียงแม่ครัวคนที่สาวกว่าบอกนางบุญรับอีกว่า "เร็วๆซิป้า ไปเอาตัวคุณนายลงมาหน่อย ฉันว่าผู้พันแกกล้าฆ่าคุณนายนะ ผู้ชายที่กำลังหลงเมียน้อยน่ะ ฆ่าเมียหลวงได้นะ ป้า"

"งั้นพวกเอ็งก็ไปช่วยข้าหน่อย ไปเร็วๆเข้า" นางชักชวนพลางวิ่งนำพรรคพวกเข้าไปที่รถ

ผู้ชายคนนั้นกำลังเคลื่อนรถออก ป้าคนที่ยืนขวางอยู่ รีบพาตัวเองหลบออกมาด้วยความกลัวตาย ผู้หญิงบ้าคลั่งบนกระโปรงหน้ารถก็ลงนั่งยองๆ หันหน้าเข้าหาคนขับ ชี้หน้าด่าปาวๆ สลับกับเสียงกริ๊ดๆแสบแก้วหู

นางบุญรับวิ่งไปเคาะกระจกด้านคนขับ โกหกหน้าตาเฉยว่า "ผู้พัน หยุดก่อน หลวงพ่อเรียก"

ผู้พันเหยียบเบรค แต่ยังไม่ยอมลงจากรถเพราะกลัวภรรยา

"คุณนายลงมาเถิดค่ะ หลวงพ่อท่านเรียก"

นางบอกผู้หญิงที่กำลังคลั่งด้วยความสงสารจับใจ เพราะรู้เรื่องราวของหล่อนอย่างดี ผู้พันทำร้ายจิตใจหล่อนมากเกินไป อาจหาญควงเมียน้อยมากราบอวยพรหลวงพ่อ ทั้งๆที่รู้ว่าจะมาพบหล่อนที่นี่ แล้วเมียน้อยก็ใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนรักของหล่อนนั่นเอง อุตส่าห์พามาเข้ากรรมฐาน มากินมานอนด้วยกันที่วัดนี้ แล้วจู่ๆก็กลายมาเป็นเมียน้อยของผัวหล่อน หากนางบุญรับเป็นหล่อนก็คงแค้นแทบกระอักเหมือนกัน

ได้ยินว่าหลวงพ่อเรียก คุณนายราศีก็ได้สติ หล่อนหยุดด่าหยุดร้องกรี๊ดๆ กระโดดลงจากกระโปรงรถอย่างระมดระวัง แล้วเดือนเซื่องๆเข้าไปในกุฏิ

พันเอกประวิทย์เห็นภรรยาไปยังกุฏิท่านพระครู คิดว่าหล่อนคงไปฟ้องท่านแน่เกี่ยวกับความผิดของเขา จะยอมให้หล่อนฟ้องข้างเดียวไม่ได้ เขาต้องตามไปชี้แจง ท่านจะได้ไม่ฟังความข้างเดียว คิดดังนั้นจึงลงจากรถ เดินตามภรรยาไปห่างๆ

คุณนายราศีเข้ามานั่งคอยท่านระครูตรงหน้าอาสนะ พยายามสงบสติอารมณ์อย่างที่สุด ครั้นเห็นหน้าผู้เป็นสามี ความคั่งแค้นก็ประดังขึ้นมาอีก หล่อนคว้าถ้วยน้ำชาได้ก็ขว้างไปที่ใบหน้าเขา ถ้วยกระเบื้องปะทะเข้าตรงหน้าผากอันล้านเลี่ยน ทำให้มันบวมปูดขึ้นมาทันที พันเอกวัยสี่ิสิบมีอาการเลือดขึ้นหน้า เขาตรงเข้าไปหาภรรยา ตบหน้าหล่อนหลายฉาด จนหน้าซีดเซียวของหล่อนหันซ้ายหันขวาไปตามแรงตบ

คนที่นั่งอยู่รีบลุกขึ้นห้าม พวกผู้ชายจับตัวผู้พัน พวผู้หญิงจับตัวคุณนายราศี กุฏิอันเงียบสงบของท่านพระครูกลายเป็นโรงงิ้ว

"ไปตามท่านพระครูมาเร็วเข้า" คหบดีสั่งนายสมชาย ซึ่งยืนอ้าปากค้างดูเหตุการณ์อยู่

นายสมชายวิ่งพรวดพราดขึ้นไปยังกุฏิชั้นบน ละล่ำละลักรายงานท่านว่า "เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับหลวงพ่อ ผู้พันกับคุณนายใช้กุฏิหลวงพ่อเป็นเวทีมวยไปแล้ว หลวงพ่อลงไปเป็นกรรมการหน่อยเถอะครับ ไม่งั้นคุณนายราศีได้หมดราศีกันคราวนี้แหละ"

"ห้ามไม่ได้หรอกสมชาย เรื่องของผัวเมีย ฉันไม่กล้าเข้าไปยุ่งหรอก"

ท่านพูดด้วยเสียงปกติ ไม่ยินดียินร้าย เพราะจิตของท่านมั่นคงแล้ว ไม่หวั่นไหวสั่นคลอน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

"แล้วถ้าเกิดเขาฆ่ากันตายในกุฏิหลวงพ่อล่ะ เรื่องมิดังไปถึงไหนๆหรือครับ" เด็กหนุ่มกังวล

"ไม่ถึงยังงั้นหรอก ถ้าเขาตีกันอยู่ในวัดมะม่วงหรือในกุฏิฉัน เขาจะไม่ตาย แต่ถ้าพ้นเขตวัดออกไปเมื่อใด รับรองว่าตายทั้งคู่ เพราะตอนนี้กำลังชะตาขาด ถ้าเธอกลัวเขาตายก็ลงไปดูลาดเลาก็แล้วกัน อย่าให้เขาออนอกเขตวัด" ท่านสั่งเสียงเรียบๆ

ลูกศิษย์จึงต้องลงมาข้างล่าง เมื่อเขาเปิดประตูออกมา ทุกคนก็ชะเง้อมองเพราะคิดว่าเป็นหลวงพ่อ การตะลุมบอนของสามีภรรยาก็ชะงักลง

"เดี๋ยวหลวงพ่อจะลงมา"นายสมชายบอก

ได้ยินว่าหลวงพ่อจะลงมา คุณนายราศีก็หยุดอาละวาด นายสมชายช่วยเอายามาทำแผลที่ถูกที่ปัดน้ำฝนบาดให้หล่อน  พวกผู้ชายก็หายาหม่องมานวดหน้าผากที่ปูดโปนออกมาของผู้พันประวิทย์ คุณนายดวงสุดาใจเต้นไม่เป็นส่ำตลอดเวลาที่เกิดเหตุ แต่บิดามารดาของหล่อนเพียงแต่ตกใจเล็กน้อย เพราะได้ฝึกจิตไว้ดีแล้ว

ครู่่ใหญ่ๆ ท่านพระครูจึงเปิดประตูออกมา ทุกคนต่างทำความเคารพด้วยการกราบสามครั้ง ท่านเดินไปนั่งที่อาสนะ พันเอกประวิทย์และภรรยานั่งหมอบอยู่ต่อหน้าท่าน คุณนายราซีร้องไห้กระซิกๆ

"มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากันก็ได้ ทำไมถึงต้องลงไม้ลงมือกัน"

ท่านพูดเสียงเบาเกือบเป็นกระซิบ เพราะต้องการให้ได้ยินเฉพาะเจ้าของเรื่อง

"หลวงพ่อคะ หนูทนไม่ไหวแล้ว เขาทำร้ายจิตใจหนูและลูก" คุณนาราศีพูดด้วยเสียงเจือสะอื้น

"เราก็อย่าไปยอมให้เขาทำร้ายสิ ใจของเราไปยอมให้คนอื่นทำร้ายได้ยังไง ไหน..เขาทำยังไงว่าไปซิ"

"ก็เขาพาเมียน้อยมาอวดหลวงพ่อ เขากล้าฉีกหน้าหนู ใครๆก็รู้ว่ากันทั้งวัดว่าเขาเป็นสามีหนู แล้วอยู่ๆเขาก็ควงคนอื่นมา" คุณนายวัยสี่สิบเล่าอย่างเคียดแค้น

"คนอื่นที่ไหนกัน เพื่อนคุณนายเองไม่ใช่หรือ อาตมาเคยเห็นเขามาเข้ากรรมฐานกับคุณนาย อยู่กุฏิเดียวกันอีกด้วย"

"นั่นสิคะ เพราะอย่างนี้หนูถึงได้เสียใจมาก ทั้งเพื่อนทั้งผัวรวมหัวกันหลอก" หล่อนสะอึกสะอื้น

"ทีมันทรยศผมล่ะครับหลวงพ่อ เวลาผมไปราชการต่างจังหวัด มันก็เอาคนขับรถเข้าไปนอนในห้องแทนที่ผม"


ท่านพระครูต้องการรู้ว่าคุณนายราศีประพฤตตนเช่นนั้นจริงหรือไม่ หรือพันเอกประวิทย์คิดมากไปเอง ท่านจึงใช้ 'เห็นหนอ' ตรวจสอบ แล้ว 'เห็นหนอ' ก็รายงานท่านว่า พันเอกวัยสี่สิบตั้งใจใส่ร้ายภรรยา เพื่อท่านพระครูจะได้เห็นใจที่เขาต้องทำผิด นายทหารผู้นี้มีจิตที่เป็นอกุศล หยาบช้า ประพฤติชั่วทั้งๆที่นับถือพระ เป็นเรื่องน่าเวทนานัก หากเขาไปเป็นใหญ่เป็นโตในกาลข้างหน้า ก็คงจะเป็นพิษเป็นภัยต่อชาติบ้านเมืองอย่างมหันต์


คุณนายราศีไม่แก้ข้อกล่าวหา หล่อนรู้ดีว่าท่านพระครูรู้ว่าอะไรเป็นอะไร โดยที่หล่อนไม่จำเป็นต้องอธิบาย

"หลวงพ่อคะ หนูเจ็บใจตัวเองเหลือเกินค่ะ เจ็บใจที่เลือกคนผิด หนูผิดเองค่ะ ไม่รู้ว่กรรมเวรอะไรของหนู" หล่อนสะอึกสะอื้น

"ก็เลือกเสียใหม่ให้ถูกซิ ได้โอกาสแล้วนี่ ชายชู้มึงไง ไอ้คนขับรถกูน่ะ เอาเถอะ กูยกให้" นายพันเอกพูดแดกดัน

"ผู้พัน"

ท่านพระครูอดรนทนไม่ได้ ต้องส่งเสียงเตือนออกมา ท่านรู้สึกสมเพชเขามาก หากท่านก็ไม่อาจจะช่วยอะไรได้ บุรุษผู้นี้กำลังตาบอดสนิท จึงไม่อาจมองเห็นแสงสว่างใดๆได้เลย เมื่อช่วยไม่ได้ท่านจึงต้องวางอุเบกขา ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรมของเขา


"คุณนาย อาตมารู้สึกเสียใจเหลือเกิน เสียใจแทนคุณนาย ที่อุตส่าห์มาเข้ากรรมฐานหลายครั้งๆละหลายวัน แต่ไม่สามารถนำไปแก้ปัญหาชีวิตได้ อุตส่าห์มาฝึกสติ แต่กลับแสดงออกเหมือนคนขาดสติ ไม่น่าเลย เสียชื่อลูกศิษย์วัดป่ามะม่วงหมด" ท่านพระครูลงทุนเทศนา

พันเอกประวิทย์รู้สึกสมน้ำหน้าภรรยาที่ถูกเทศน์ฉลองปีใหม่ แสดงว่าหลวงพ่อท่านเชื่อในสิ่งที่เขาพูด เขาไม่รู้หรอกว่าท่านพระครูจะไม่สั่งสอนคนที่ 'รับไม่ได้' แต่ท่านก็ไม่ได้พูดให้เขาสะเทิอนใจ ชายวัยกลางคนไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในประเภท 'อเวไนยสัตว์'

"หลวงพ่อคะ ได้โปรดช่วยหนูด้วย ช่วยให้หนูหลุดพ้นจากสภาวะที่แสนทรมานนี้เสียที" คุณนายราศีอ้อนวอน

"อาตมาช่วยได้ก็เพียงชี้แนวทางให้เท่านั้น นอกนั้นคุณนายต้องช่วยตัวเอง"
"หนูมองไม่เห็นทางเลยค่ะ มันมืดแปดด้าน หมดหมดกำลังใจ หมดอาลัยตายอยากในชีวิตเสียแล้ว"

"หมดก็สร้างชึ้นมาใหม่ได้ สร้างกำลังใจขึ้นมาใหม่เพื่อต่อสู้กับชีวิต อาตมาเชื่อว่าคุณนายทำได้ ไปตรองดูนะ คุณนายเป็นถึงครูบาอาจารย์ มีความรู้ทั้งทางโลกทางธรรม ปัญหาชีวิตแค่นี้คุณนายเอาชนะมันได้ อาตมาขอพูดสั้นๆว่าถ้าเราทำจิตใจของเราให้เข้มแข็ง ก็ไม่มีใครมาทำร้ายจิตใจของเราได้ เว้นแต่เราจะทำร้ายตัวเอง เอาละ คุณนายกลับไปพักผ่อนที่กุฎิได้แล้ว ลูกรออยู่ไม่ใช่หรือ พูดกับเขาเสียให้รู้เรื่อง ส่วนคนอื่นถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องพูด คนเป็นผัวเมียกัน เลิกกันแล้วก็กลายเป็นคนอื่น จำไว้นะคุณนาย"


คุณนายราศีกราบท่านสามครั้งแล้วลุกออกมาหาลูก ซึ่งยืนหน้าซีดอยู่กับพี่เลี้ยงข้างหลังกุฎิ เห็นหน้าลูกก็ให้สงสารจับใจจนต้องร้องไห้ออกมาอีก หล่อนคิดได้เดี๋ยวนั้นเอง ต่อไปนี้จะไม่ยอมให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก หล่อนจะถนอมน้ำใจและประคับประคองเลี้ยงดูน้อยทั้งสองอย่างดีที่สุด จะทำหน้าที่ของพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน เพราะคนเป็นพ่อของลูกนั้น หล่อนตัดหางปล่อยวัดไปแล้ว เพิ่งตัดใจได้เดี๋ยวนี้เอง

ภรรยาลุกออกไปแล้ว พันเอกประวิทย์ก็ได้โอกาสกล่าวโทษฝ่ายนั้น ตามวิสัยของบุรุษ 'ผู้มีกิเลสหนาตัณหามาก'

"แย่จังเลยนครับหลวงพ่อ กรรมของผมเหลือเกินที่ต้องมามีเมียวิปริตผิดมนุษย์เช่นนี้"

ท่านพระครูไม่ออกความเห็น เพราะคุณนายราศีน่าจเป็นผู้พูดประโยคนี้มากกว่า

"คนที่มาด้วยเมื่อเช้านี้ไปไหนเสียล่ะ" ท่านเลี่ยงไปถามถึงผู้หญิงคนที่พันเอกประวิทย์กำลังลุ่มหลงอย่างหนัก

"ผมพาไปหลบอยู่ที่สำนักชีครับ ไม่งั้นยายราศีอาละวาดตายแน่"

"วัดป่ามะม่วงเลยกลายเป็นที่เล่นซ่อนหา ว่างั้นเถอะ"

"ครับ แต่ก็สนุกน่าตื่นเนดี" เขากลับเห็นเป็นเรื่องสนุก

ท่านพระครูรู้สึกอ่อนใจเป็นกำลัง จึงบอกกับเขาว่า "งั้นก็ไปพากลับบ้านกลับช่องเสีย เดี๋ยวคุณนายราศีมาพบเข้าก็จะเกิดเรื่องอีก"

นายพันเอกวัยสี่สิบก้มลงกราบสามครั้ง ก่อนลุกออกมายังพูดอีกว่า "ป่านนี้คงนั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้ว เขาขี้แยครับหลวงพ่อ แต่นิสัยดีมาก ดีจริงๆ ยายราศีเทียบไม่ติดเลย"

'ถ้าดีจริงคงไม่แย่งสามีเพื่อนซึ่งๆหน้าอย่างนี้หรอก' ท่านพระครูอยากจะพูดเช่นนี้ แต่ท่านก็ไม่ได้พูด เพระเห็นว่าไม่มีประโยชน์อันใด ไม่ว่าประโยชน์ตนหรือประโยชน์ท่าน

"หลวงพ่อคะ หนูไม่กล้ามาเข้ากรรมฐานแล้วละค่ะ" คุณนายดวงสุดาพูดขึ้น หลังจากนายทหารผู้นั้นลุกออกไปแล้ว

"ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ"

"ก็หนูไม่อยากเป็นอย่างคุณนายราศีน่ะสิคะ อุตส่าห์พากันมาอยู่วัด แล้วคนนึงก็ออกงิ้ว อีกคนก็แย่งสามีคนอื่นหน้าตาเฉย" หล่อนว่า

"คนอื่นคนไกลที่ไหนล่ะคะ เพื่อนกันแท้ๆ ไม่น่าเลย" นางกิมเอ็งแย้ง พร้อมกับยิ้มให้คุณนายดวงสุดาฉันท์มิตร

"กิมเอ็ง ไม่ใช่เรื่องของเราน่า อย่าลืมว่าเธอกำลังปฏิบัติกรรมฐานอยู่นะ" สามีปราม

"แหม คุณนายพูดอย่างนี้ก็เสียชื่อวัดป่ามะม่วงหมดเลย เสียชื่อพระครูเจริญด้วย คนเขาจะได้เอาไปพูดว่าพระครูเจริญสอนลูกศิษย์ให้เพี้ยน"

"ไม่จริงครับหลวงพ่อ" เถ้าแก่เส็งแย้ง ตัวเขาและภรรยาปฏิบัติกรรฐานอย่างเคร่งครัด จึงเข้าถึงความจริงบางอย่างที่คนทั่วไปเข้าไม่ถึง "ผมขอยืนยันว่ากรรมฐานไม่ได้ทำให้คนเพี้ยน การที่คุณนายคนนั้นกับเพื่อนทำอะไรที่เพี้ยนๆ เพราะแกไม่ใช่นักปฏิบัติที่แท้จริง แกยังเข้าไม่ถึงหัวใจของกรรมฐาน ผมว่าหลวงพ่อรู้เรื่องนี้ดีกว่าผม กรุณาอธิบายให้คนอื่นเข้าใจด้วยเถิดครับ" เขาขอร้อง

ท่านพระครูจึงพูดว่า "เอาละ ญาติโยมที่รักทั้งหลาย ที่โยมเถ้าแก่พูดมานั้นเป็นความจริงทุกประการ อาตมาขอยืนยันว่ากรรมฐานไม่เคยทำให้ใครวิปริต ถ้าคนๆนั้นปฏิบัติอย่างถูกต้องและเอาจริงเอาจัง และโปรดเข้าใจเสียใหม่ให้ถูกต้องด้วยว่า คนที่มาปฏิบัติกรรมฐานไม่ใช่คนที่หมดกิเลสแล้ว เพราะถ้าหมดกิเลสก็ไม่จำเป็นต้องมาปฏิบัติ การมาปฏิบัติก็เพื่อให้กิเลสมันเบาบางลงและหมดไปในที่สุด ตราบใดที่เขายังไม่บรรลุธรรมขั้นใดเลย เขาก็ยังเป็นปุถุชนธรรมดาเหมือนคนทั่วไป ที่ยังมีรัก โลภ โกรธ หลง จึงอาจถูกกิเลสชักพาไปในทางเสื่อมได้"

"หลวงพ่อครับ วัดป่ามะม่วงนี่มีคนมาตีกันฉลองปีใหม่อย่างนี้ทุกปีหรือเปล่าครับ" ชายผู้หนึ่งถาม เขาเพิ่งจะมาวัดนี้เป็นครั้งแรก เพราะเพื่อนชวนมา

"ไม่หรอกโยม ครั้งนี้เป็นครั้งแรก อาตมาต้องขอโทษญาติโยมแทนคู่กรณีด้วย ออกนอกเขตวัดไปเมื่อไหร่รับรองตายทั้งคู่"

"แล้วปีหน้าจะมีอีกไหมครับ ผมจะได้มาดูอีก"

"ไม่มีแน่ อาตมารับรอง นี่ยังดีนะ คนมาตีกันในวัดยังดีกว่าพระในวัดตีกันเอง"

เสียงหัวเราะดังลั่นขึ้น ท่านจึงย้ำอีกว่า "อ้าว จริงๆนะ อาตมาไม่ได้พูดเล่น แต่ไม่ใช่พระวัดนี้หรอก วัดที่กรุงเทพฯ อย่าให้ออกชื่อเลย ประเดี๋ยวจะเข้าใจว่าเอาเขามาวิจารณ์ เมื่อเร็วๆนี้เอง อาตมาเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปพบเจ้าคุณรูปหนึ่ง ไปถึงเห็นท่านกำลังดุพระลูกวัดอยู่ ไม่ทราบดุอีท่าไหน พระรูปที่ถูกดุต่อยเปรี้ยงเข้าให้ที่ใบหน้า ถูกครึ่งปากครึ่งจมูก ท่านเจ้าคุณสลบทันที หงายผึ่งลงไปนอนเลย" ท่านเล่าเหตุการณ์ที่เห็นกับตา

"แล้วพระรูปนั้นทำยังไงครับ เห็นท่านเจ้าคุณสลบแล้วทำยังไง" ชายคนนั้นถามอีก

"ยังไม่ทันได้ทำอะไร ปรากฏว่าพระลูกวัดรูปอื่นๆ ตรูเข้าตะลุมบอนท่าน ทั้งต่อยทั้งเตะ ทั้งเหยียบจนสลบเหมือดไปเลย อาตมายืนงงเป็นไก่ตาแตก ตอนแรกนึกสงสารท่านเจ้าคุณ แต่ตอนหลังสงสารพระรูปนั้น อาตมาเลยรีบกลับวัดป่ามะม่วง เพราะไม่อยากไปเป็นพยานที่โรงพัก พระลูกวัดพวกนั้นพอซ้อมเขาสลบแล้วยังพาไปส่งโรงพักอีก ในข้อหาทำร้ายร่างกายท่านเจ้าคุณ"

"หลวงพ่อก็เลยไม่ได้พูดธุระกับท่าน"
"จะพูดได้อย่างไร ก็เขากำลังมีเรื่อง ไม่น่าถาม"
"แล้วท่านเจ้าคุณถึงกับมรณภาพไหมคะ" คุณกิมง้อถาม
"ไม่หรอกโยม แค่หมัดเดียว"
"ผมว่าท่านอาจแกล้งสลบก็ได้ แกล้งสลบเพื่อให้ลูกน้องแก้แค้นแทน" นายต่อหายง่วงและพูดขึ้นอย่างที่ใจคิด

"หนูอย่าไปว่าพระว่าเจ้า บาปนะหนู"
ท่านพระครูปรามด้วยสีหน้ายิ้มๆ รู้ว่าเจ้าคุณท่านนั้นสลบไปจริงๆ มิได้เสแสร้ง ก็ 'เห็นหนอ' บอกอย่างนั้นนี่นา







ผู้แต่ง  :  ดร.สุทัสสา อ่อนค้อม
หมวดหนังสือ





Create Date : 21 มีนาคม 2558
Last Update : 21 มีนาคม 2558 23:45:16 น. 48 comments
Counter : 1448 Pageviews.  

 
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
อรุณสวัสดิ์ขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:6:20:15 น.  

 

กินกามเกียรติทำให้วุ่นวายไปทั่วแม้กระทั่งในวัด อ่านแล้วต้องปลง

เช้านี้กทมที่บ้านฝนตกฝนตก แต่ยังร้อนค่ะ โหวตค่ะ

เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: พรไม้หอม วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:9:06:56 น.  

 

กินกามเกียรติทำให้วุ่นวายไปทั่วแม้กระทั่งในวัด อ่านแล้วต้องปลง

เช้านี้กทมที่บ้านฝนตกฝนตก แต่ยังร้อนค่ะ โหวตค่ะ

เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: พรไม้หอม วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:9:06:56 น.  

 
อ่านตอนนี้แล้วคิดถึงคำพูดว่า...

"เพื่อนกิน เพื่อนกัน เพื่อนรู้ไม่ทัน เพื่อนกันเอาไปกิน"

เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: moresaw วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:17:53:09 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

----------------------------

แวะมาอ่านและส่งกำลังใจค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:17:57:34 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณแว่นฟ้า



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
phunsud Food Blog ดู Blog
ปีศาจความฝัน Movie Blog ดู Blog
เตยจ๋า Topical Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: mambymam วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:18:48:26 น.  

 
อ่านสนุก ได้ข้อคิดหลายๆอย่างครับ

เวียงแว่นฟ้า Book Blog


โดย: Insignia_Museum วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:19:00:17 น.  

 
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
แวะมาส่งกำลังใจครับ


โดย: *Prince winter puzzle ! (เตยจ๋า ) วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:19:01:11 น.  

 
มาจองที่ไว้ก่อนครับ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เป็ดสวรรค์ Photo Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog



โดย: nulaw.m (คนบ้านป่า ) วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:19:22:10 น.  

 
แวะมาทักทายนะคะ


โดย: ปรัซซี่ วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:19:34:37 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณเวียงแว่นฟ้า
ตามมาอ่านและส่งพลังใจคะ ฝันดีนะค่ะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
haiku Art Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: mastana วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:21:10:30 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
----------------
ส่งกำลังใจค่ะคุณเวียงแว่นฟ้า
นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:22:34:30 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมกันด้วยนะครับ
คืนนี้นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ครับ


โดย: Ariawah Auddy วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:23:22:56 น.  

 
มาโหวตก่อนครับ เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:23:58:55 น.  

 
มาส่งกำลังใจและส่งเข้านอนค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 23 มีนาคม 2558 เวลา:0:05:07 น.  

 
ขอบคุณนะขอรับสำหรับคะแนนโหวต และ คำชม "ท่านขุนคนขยัน" สงสัยชมตรงเวลาเลยพอดีขอรับฮ่าๆมีความสุขมากๆนะขอรับ อ้อรักษาสุขภาพด้วยนะขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 23 มีนาคม 2558 เวลา:8:57:27 น.  

 
สาธุ ค่ะ
อ่านแล้ว ก็ได้แต่นั่งยิ้มแบบปลงๆ
ให้สติเรื่องของ สามีภรรยา นะค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Ariawah Auddy Travel Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog

ปล. แต่ทีมรักเราแพ้ นี่จิ ทำใจลำบาก อิ อิ


โดย: Tui Laksi วันที่: 23 มีนาคม 2558 เวลา:15:16:12 น.  

 
ส่งกำลังใจให้คุณเวียงแว่นฟ้าครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: **mp5** วันที่: 23 มีนาคม 2558 เวลา:16:27:33 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ขอบคุณสำหรับโหวตด้วยนะคะ


โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 23 มีนาคม 2558 เวลา:21:10:57 น.  

 
เรื่องอย่างนี้ทั้งน่ากลัวและน่าเห็นใจนะคะ
ขนาดเข้าวัดถือศีลนั่งกรรมฐาน ยังทำใจเย็นไม่ได้เลยค่ะ
ขาดสติกันง่ายๆ

ช่วงนี้งานยุ่งเหรอคะคุณ หายๆไปนะคะ
รักษาสุขภาพค่ะ


โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 23 มีนาคม 2558 เวลา:22:18:26 น.  

 
ส่งกำลังใจค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
anigia Parenting Blog ดู Blog
moresaw Education Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: pantawan วันที่: 23 มีนาคม 2558 เวลา:23:38:04 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
ขอบคุณค่ะ ประโยคสุดท้ายไม่รู้ว่าสอนใจคนอ่านได้มั๊ยนะคะ
"หนูอย่าไปว่าพระว่าเจ้า บาปนะหนู"


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog




โดย: หอมกร วันที่: 24 มีนาคม 2558 เวลา:7:41:01 น.  

 
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

อะไรที่ไม่ต้องพูด ก็ไม่ต้องพูดอีกนะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 24 มีนาคม 2558 เวลา:10:46:54 น.  

 
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

มาส่งกำลังใจยามดึกค่ะ


โดย: AppleWi วันที่: 25 มีนาคม 2558 เวลา:0:25:00 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเที่ยวพม่าและโหวตให้ด้วยนะครับ
เย็นแล้วอย่าลืมหาไรทานด้วยครับ


โดย: Ariawah Auddy วันที่: 25 มีนาคม 2558 เวลา:17:52:23 น.  

 
สวัสดีค่ะ

วันนี้ทักทาย ทักทายกันก่อนนะคะ
โหวตหมดกระเป๋า ไว้มาโหวตให้นะคะ

มีความสุขมาก ๆ ค่ะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 26 มีนาคม 2558 เวลา:13:25:51 น.  

 
แวะมาขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ
หลับฝันดีค่ะ


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 26 มีนาคม 2558 เวลา:23:59:24 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

อรุณสวัสดิ์ค่ะ.... อืมส์เกือบพลาดตอนบู้ไป... ที่จริงคนที่เข้าวัดคือสัตว์ที่ต้องการขัดเกลากิเลสในตัวให้เบาบางลง ใช่ว่าเป็นสัตว์ที่หมดกิเลส... (แต่กิเลส ถูกลดลง ตามที่ตัวปฏิบัติมากหรือน้อยตามลำดับ) ก็ไม่โทษคุณนาย จอมบู้ เพราะถูกสามี ยั่วยุนั้น...
คนส่วนมากมักเข้าคิดว่า อ้าวทำไมเข้าวัดแล้ว ยังแสดงอาการ อย่างคุณนายจอมบู้หรืออาการอื่นๆ.. ก็เพราะว่าเวลาอยู่ในวัดนะสงบ แต่พอกลับไปบ้านหรือทำงานสิ่งแวดล้อมมันมีแต่พวกไม่มีศิล..กระทบบ่อยๆ ใจย่อมขุ่น เมื่อสะสมขุ่นไว้เยอะหรือทุกวันมันก็มีหลุดว่ะม่ะค่ะ
อ่านแล้วสนุกได้ข้อคิดดี... บางช่วงก็แอบยิ้ม...


โดย: โอพีย์ (Opey ) วันที่: 27 มีนาคม 2558 เวลา:4:46:49 น.  

 
ขอบคุณค่ะ สำหรับโหวต อ๊ะ ๆ เราเจออดีตคนชอบเล่นเทนนิสเช่นกัน
เราก็เหมือนคุณเวียงแว่นฟ้า เยย...วางมือไปแย้ว
จึงชอบดูกีฬาเทนนิสประจำทางทีวีโดยเฉพาะรายการใหญ่ๆ
คนเก่งๆมาแข่งกันเพี๊ยบ ดูลุ้นสนุกดีนะคร้า...
สุขสันต์วันศุกร์ค่ะ


โดย: Tui Laksi วันที่: 27 มีนาคม 2558 เวลา:5:00:13 น.  

 

แวะมาอ่านธรรมะค่ะ
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้านป่า Home & Garden Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
Sweet_pills Travel Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: newyorknurse วันที่: 27 มีนาคม 2558 เวลา:7:41:48 น.  

 
อืมส์..เห็นด้วยขอรับตามที่หลวงพ่อกล่าวและคิดตำหนิ นายพันเอกผู้นี้ หากใหญ่โตวันหน้าบ้านเมืองเดือดร้อนแน่ๆเพราะแค่เพียงเรื่องภายในบ้านสังคมเล็กๆแกยังบริหารไม่เป็นหากว่าให้บริหารสังคมใหญ่ๆไม่อยากคิดขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 27 มีนาคม 2558 เวลา:13:24:04 น.  

 
เติมกำลังใจค่ะ



เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 27 มีนาคม 2558 เวลา:19:04:37 น.  

 
ชอบย่อหน้านี้ค่ะ

...การมาปฏิบัติก็เพื่อให้กิเลสมันเบาบางลงและหมดไปในที่สุด ตราบใดที่เขายังไม่บรรลุธรรมขั้นใดเลย เขาก็ยังเป็นปุถุชนธรรมดาเหมือนคนทั่วไป ที่ยังมีรัก โลภ โกรธ หลง จึงอาจถูกกิเลสชักพาไปในทางเสื่อมได้




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 27 มีนาคม 2558 เวลา:20:21:48 น.  

 
สวัสดีค่ะ
แวะมาเยี่ยมคะ


โดย: pantawan วันที่: 27 มีนาคม 2558 เวลา:22:29:38 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณเวียงแว่นฟ้า


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
phunsud Food Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 28 มีนาคม 2558 เวลา:5:33:27 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ


โดย: **mp5** วันที่: 28 มีนาคม 2558 เวลา:7:53:44 น.  

 
ขอบคุณค่ะ



โดย: หอมกร วันที่: 29 มีนาคม 2558 เวลา:8:17:56 น.  

 
เป็นถึงภรรยาคหบดี ภาษาที่ใช้นี่ยิ่งกว่าแม่ค้าอีกนะคะ แย่จังเนอะ

================================

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Food Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: ปรัซซี่ วันที่: 29 มีนาคม 2558 เวลา:20:13:45 น.  

 
เรื่องราวของครอบครัว ชีวิตคู่นะคะ ... เรื่องของคนอิงนิยาย หรือนิยายได้มาจาดเรื่องราวของคนจริง ๆ

ขอบคุณคุณเวียงแว่นฟ้ามากค่ะสำหรับกำลังใจ ... มาสายหน่อยค่ะ แหะแหะ


ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: Tristy วันที่: 31 มีนาคม 2558 เวลา:6:42:37 น.  

 
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปลาทอง9 Travel Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
aitai Food Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

วันนี้แวะมาโหวตให้ด้วยครับ


โดย: Ariawah Auddy วันที่: 1 เมษายน 2558 เวลา:17:09:09 น.  

 
เรืองนี้ต้องให้หลวงพ่อเข้ามาเกี่ยวด้วยนะคะ
เห็นทีจะยาวค่า อิอิ



บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Literature Blog ดู Blog





โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 2 เมษายน 2558 เวลา:23:09:15 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณแว่นฟ้า
ว่านสี่ทิศปลูกใส่กระถางค่ะ หัวอัดกันแน่นหลายหัว
เวลาออกดอก ออกพร้อมๆกันหลายต้น จึงสวยค่ะ
ที่บ้านต้นไม้เยอะพอสมควร เพราะว่าชอบปลูก
ปลุกมานานมากแล้วค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปนะคะ



โดย: mambymam วันที่: 2 เมษายน 2558 เวลา:23:13:38 น.  

 
มาแอบมองว่าอัพบล็อกใหม่หรือยังค่ะ
ฝันดีค่ะ


โดย: AppleWi วันที่: 2 เมษายน 2558 เวลา:23:50:04 น.  

 
แวะมาขอบคุณสำหรับโหวตครับ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 2 เมษายน 2558 เวลา:23:56:28 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ


โดย: **mp5** วันที่: 3 เมษายน 2558 เวลา:6:01:58 น.  

 
ขอบคุณโหวตค่ะ



โดย: หอมกร วันที่: 3 เมษายน 2558 เวลา:10:11:18 น.  

 
ขอบคุณนะครับสำหรับคะแนนโหวต
หลวงพ่อรูปนี้ท่านน่านับจริงๆครับ
พุด และ นิ่ง ในเรื่องที่ควร ทั้งๆที่ท่านทราบว่านายพลคนนี้กำลังมุสาฮ่าๆ
นี่แหละโยมๆทั้งหลายควรละอายใจบ้าง อย่างคิดว่าพระท่านไม่รู้ เห็นว่าท่านนิ่งๆเฉยๆอิอิ


โดย: *Prince winter puzzle ! (เตยจ๋า ) วันที่: 3 เมษายน 2558 เวลา:10:49:47 น.  

 
บ้านนี้ก็ยังไม่อัพบล็อกใหม่เหมือนกัน อิอิ
รอไว้อัพพรุ่งนี้พร้อมกันนะคะ


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 5 เมษายน 2558 เวลา:15:13:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เวียงแว่นฟ้า
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




!-- Stat ทำงาน วันที่ 26 กพ 55
[Add เวียงแว่นฟ้า's blog to your web]