Group Blog |
ตะลุยไต้หวัน - Taiwan สวัสดีค่าา  นี่เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกของเรา จริงๆแล้วเรียกว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์มากกว่า ถ้าจะพูดถึงการไปเที่ยวต่างประเทศ ไต้หวัน แทบจะไม่ได้อยู่ในความคิดเราเลย แต่พักหลังๆเห็นโปรโมทการท่องเที่ยวกันเยอะมากๆ และช่วงที่เราไปเป็นช่วงฟรีวีซ่าพอดี เราจองตั๋วไป-กลับของนกสกู๊ต ได้ในราคาประมาณ 4,500 บาท (รวมโหลดสัมภาระ ไป-กลับ) เราไปช่วงเดือนกันยายน (12-22 ก.ย. 2559) เป็นช่วงที่พายุไต้ฝุ่นเข้าพอดี เพื่อนที่อยู่ที่นั่นก็คอยถามเราตลอดเพราะกลัวมากว่าจะโดนเท  ในที่สุดก็ได้ไป และพายุไต้ฝุ่นก็อยู่กับเราตั้งแต่วันแรก จนถึงวันสุดท้าย (น่ารักมากจริมๆ 555) อ้อ!! ต้องบอกก่อนนะว่าทริปเราวางแผนแค่คร่าวๆ และปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศของที่นั่น เราไปถึงสถนามบินเถาหยวนประมาณ 8 โมงเช้า (แต่รูปนี้เป็นเป็นบรรยากาศที่สนามบินก่อน take off กลับไทย ไฟท์ขากลับประมาณ 9 โมงเช้า)  เพื่อนคนไต้หวันมารับเราที่สนามบิน จากนั้นก็ตรงมายังที่แรกเลยคือ Hsinchu เราพักคอนโดของเขา (ให้เช่าในราคาที่ถูกมากๆ) วันนั้นนอกจากเราแล้ว ยังมีเพื่อนชาวเกาหลีอีกคน    ห้องพักค่อนข้างเป็นส่วนตัว และยังมีพนักงานตอนรับเยอะมากเช่นกัน 555   สถานีรถไฟค่อนข้างสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่อาจจะดูวุ่นวายเล็กน้อย เพราะคนแถวนี้นิยมใช้รถจักรยานยนต์ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน  ถัดมาเป็น Hsinchu East Gate เราว่าคงคล้ายๆกับ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หรือ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิบ้านเรา ดึกๆ คนจะเยอะ เพราะมีที่ตลาดกลางคืนด้วย  Hsinchu city god temple เข้าไปข้างในจะมีตลาด ของกินเยอะมากกกก  ภาพจากภายในวัด  อย่างที่บอกว่าถัดเข้าก็จะเป็นตลาด ฉะนั้น ได้เวลาทำข้อสอบแล้วววว     วันที่ 2 มุ่งหน้าสู่ไทเปกันเล้ยยย.. อาหารเช้าก่อนเดินทาง  อ๊ะ!! ลืมบอก เพื่อความสะดวกในการเดินทางเราซื้อบัตรโยโยข่า easy card ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับรถไฟ รถบัส และใช้บัตรแทนเงินสดซื้อของในร้านสะดวกซื้อได้ด้วยนะเออ   สวัสดีไทเปกัน  บรรยากาศคล้ายๆกรุงเทพฯบ้านเรา แต่รถไม่ติดมาก วันนี้เราจะพักที่ Hostel ในไทเป 1 คืน (Star Hostel Taipei Main Station)   ฟรีอาหารเช้าด้วยน้าา   วันนี้เรามีไกด์สาวพาเที่ยว! ไปกันโล้ดดด สำหรับที่แรกที่พวกเราจะไปกันก็คือ..เหย่หลิ่ว (Yehliu)  มาถึงแล้ววว ความจริงแล้วพยากรณ์อากาศบอกว่าวันนี้ฝนจะตก ..แต่แดดออกเฉยยย อากาศดีด้วย   โคโค่(Coco) เป็นเพื่อนที่น่ารักมากกก..  เธอคอยแนะนำสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจที่สำคัญอาหารอร่อยๆ และก็อีกหลายๆอย่างเลย ตั้งแต่ก่อนที่เราจะเดินทางมาไต้หวัน จนถึงวันที่อยู่ไต้หวันแล้วก็ตาม ถึงเธอจะไม่ค่อยว่าง แต่เราก็ยังติดต่อเธอได้ตลอดทั้งทริปนี้ เราเขียนบล็อกนี้ขึ้นมา ส่วนหนึ่งก็เพื่อขอบคุณเธอด้วย   (ถึงแม้เธอจะอ่านภาษาไทยไม่ออก 555) แต่เชื่อว่าเธอเข้าใจ เพราะเธอเป็นผู้หญิงเก่ง และฉลาดมาก    เราใช้เวลาอยู่ที่เหย่หลิ่ว (Yehliu) ประมาณ เกือบ 2 ชั่วโมง จากนั้นไปต่อที่ ตั้นสุ่ย (Tamsui) เดินเล่นๆแแวะหาอะไรลองท้องก่อน   บรรยากาศดีมากๆ แต่สักพัก.. จะเป็นยังไงนะ    ฝนเริ่มมาแล้ว.. และโชคดีมากๆ เห็นรุ้งกินน้ำโผล่มาเฉยยย     หลังฝนหยุดตกสักพัก ก็มีโอากาสได้เห็นพระอาทิตย์ตกด้วยนะ     และแล้ว.. ฝนก็ตกลงมาอย่างแรง  ก่อนกลับที่พักขอแวะตลาดกลางคืน ซื่อหลิน (Shilin) แปป  คืออยากลองตั้งแต่อยู่ที่ไทยแล้ว ถือว่าแถวไม่ยาวเท่าไหร่ เพราะจะมีอีกร้านนึงที่แถวยาวมากกก...  คือ..ชิ้นใหญ่มากอ่ะ และน่าเสียดาย เป็นเพราะฝนตกทำให้ร้านค้าปิดไปหลายร้าน   วันที่ 3 มุ่งหน้าไป Taichung  เราฝากสัมภาระไว้ที่จุดรับฝากกระเป๋าแถวสถานีรถไฟ แล้วนั่งรถบัสมาที่หมู่บ้านสายรุ้ง (Rainbow Village)      คุณตาท่านนี้เองเป็นผู้วาดลวดลายตามฝาผนังที่มีความคัลเลอร์ฟูล  คุณตาให้การ์ดมา 2 ใบไว้เป็นที่ระลึกด้วย  วันที่ 4 ที่ Sun Moon Lake หรือทะเลสาปสุริยันจันทรา (นึกถึงเซเลอร์มูนเลอค่าาา)   ครึ้มฟ้าครึ้มฝนตลอดทั้งวันเลย  แต่พอมาถึงได้สักพักท้องฟ้าก็เริ่มสว่างสดใส เย้!!    ช่วงนั้นกำลังฮิตจับโปเกม่อน และคนไต้หวันก็เล่นจับกันจริงจังมาก ถึงขั้นขี่มอไซต์ตามจับก็มีจ้าาา  วันที่ 5-6 เราพักที่ไถหนาน (Tainan) 2 คืน Hostel ที่พักอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟเลย (ใกล้มากๆ)  อาหารเช้าของที่นี่คือ แพนเค้ก!? ไม่ใช่สิ นั่นมันขนมมั้ยอ่ะะะ ก่อนทอดจะเป็นหน้าตาประมาณนี้  หลังทอดด้วยกระทะแล้ว จริงๆแล้วแพนเค้กไต้หวัน เราว่าคล้ายๆกุยช่ายทอดบ้านเรานี่แหละ  แต่ที่เราชอบเลยคือ เนยถั่วกับมะพร้าว (เรียกไม่ถูก) Coconut & Peanut butter ที่เค้าทำเอง อร่อยดี  ตอนที่ไป Sun moon lake เราเห็นเมนูนี้เลยลองสั่งมากินอีกครั้ง แต่ของฟรีย่อมอร่อยกว่าจริงๆ 555  มินเนี่ยน!! น่าร้ากกกก กินไม่ลง   เพื่อนไต้หวันแนะนำว่า มาถึงไถหนานแล้วต้องลองซุปเนื้อวัว   เมนูนี้จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร เพื่อนบอกว่าเด็ด เพราะคนแน่นร้านตล๊อดดด ส่วนรสชาติ สำหรับเรา เฉยๆ เพราะรสชาติไม่จัดจ้าน 555  เราพักที่ ไถหนาน 2 คืน และระหว่างนั้นออกมาเที่ยวอีกเมือง คือ เกาสง (Kaohsiung)     เป็นสถานีหนึ่งใน เกาสง ในช่วงค่ำๆ เห็นว่าจะมีการแสดงแสงไฟด้วย   The Pier-2 Art Center คล้ายๆ แวร์เฮ้าส์หรือโกดัง นึกถึงตลาดนัดรถไฟบ้านเราเลยอ่ะ    เสี่ยวหลงเปา ของขึ้นชื่อไต้หวัน เข่งนี้เรากินคนเดียวเลย ถูกมากๆ รสชาติก็โอเค  วันที่ 7 ออกจากไถหนาน มุ่งหน้าสู่อาลีซาน (Alishan, Chiayi)      เนื่องจากพายุลูกใหม่พัดผ่านเข้ามาอีกรอบ ฝนตกอีกแล้วจ้า หมอกลงจัดมากกก     วันที่ 8 กลับมาไทเปอีกครั้้ง   จริงๆ อยากชมตอนที่ทหารแปรแถวเพื่อผลัดเปลี่ยนเวรยามกัน    วันที่ 10 วันนี้ยังอยู่ในไทเป นัดกับเพื่อนไว้ว่าจะไปปีนเขาใกล้ๆ กัน นั่นก็คือ เขาช้าง (Xiangshan)  และเพื่อนที่เรานัดไว้ก็คือ โคโค่ นั่นเอง ถึงแม้วันนี้เธอจะดูยุ่งๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์มากับเราด้วย   ใช้พลังงานไปเยอะ แวะเติมพลังหน่อย โคโค่แนะนำเมนูนี้ชื่ออะไรน้า...จำไม่ได้   และมาต่อที่ เมาคง (Maokong) ซึ่งเรามาคนเดียว โคโค่ไม่ได้มาด้วย อย่างที่บอกว่าเธอติดธุระ เรานั่งรถไฟมาลงสถานี Teipei Zoo และนั่งกระเช้าต่ออีก 4 สถานี     เราใช้เวลาที่เมาคงประมาณชั่วโมงนึง เพราะบรรยากาศที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน(อีกแล้ว) ตอนแรกจะกลับที่พัก ผ่านไปสักพักเอ้าา ฟ้าสว่างสดใส และก็มาต่อที่วัดหลงซาน (Longshan Temple)       วันที่ 11 วันสุดท้ายแล้ว ฮือออ  วันนี้เราออกแต่เช้าจุดมุ่งหมายที่แรกคือ จิ่วเฟิ่น (Jiufen) วันนี้อากาศดีมากกกก หลังจากที่ผ่านมา 10 วัน พายุเข้าตลอด ต้องลุ้นทุกวันว่าวันนี้ฝนจะตกไหม อากาศจะเป็นอย่างไร    อันนี้เป็นของหวานขึ้นชื่อของที่นี่ คือ บัวลอยเผือก ตอนแรกเราก็ไม่รู้จัก อาศัยเดินตามลายแทงที่โคโค่ให้ไว้ (อีกแล้ว)  อ้อ! เราขอเบรคพูดเรื่องของกินที่เราตามลายแทงที่โคโค่ให้ไว้บ้าง อย่างแพนเค้ก จริงๆเราก็ไม่รู้หรอกนะว่ารสชาติมันแตกต่างกันยังไง อาจจะเป็นเนื้อแป้ง และความหวานของไส้นิดหน่อย แต่สำหรับเราอะไรที่เรียกว่า ขนมหวาน ก็อร่อยทุกอย่าง 555  ต่อมาว่าด้วยเรื่องของน้ำ ซ้ายสุดคือเราตั้งใจจะไปลอง (แต่ไม่ได้ลอง) ตรงกลางคือลองไป 2 ครั้ง และขวาสุดคือ ดี ได้เก็บขวดกลับบ้านด้วย 555  ต่อๆ ค่ะ ไปถึงไหนแล้ววว  เราใช้เวลาอยู่ที่จิ่วเฟิ่นประมาณ 2 ชั่วโมง อย่างที่บอกว่าวันนี้อากาศดีมาก เรามียังอีกที่นึงที่อยากจะไป แต่ไม่รู้จะทันเวลาไหม  จริงๆเมืองนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากไทเปเท่าไหร่ ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง เนื่องจากเมืองอยู่ติดทะเล ทำให้เจอกับท่าเรือต่างๆ  และที่สุดท้ายยย สำหรับทริปนี้คือ ... ไม่รู้จะเรียกว่าอย่างไรดี คล้ายๆหินยักษ์รูปงวงช้างอ่ะ Elephant Trunk?? เพราะตอน Search ใน Google map มันจะอยู่ใกล้ๆกับ Shenao fishing port    ทั้งหมดที่เราแชร์มานี้เป็นประสบการณ์การเที่ยวไต้หวันครั้งแรกคนเดียวของเรา ซึ่งเราคิดว่าประเทศไต้หวันเป็นประเทศหนึ่งที่มีความปลอดภัยสูง และการเดินทางค่อนข้างสะดวกเหมาะสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวที่ต้องการแบ็คแพ็ค จริงๆแล้วรายละเอียดต่างๆเราคิดว่ามีมากกว่านี้นะ แต่เนื่องจากเวลาผ่านมาค่อนข้างนานแล้ว อาจจะหลงๆลืมๆอะไรไปบ้าง555 ที่เรารีบมาแชร์ประสบการณ์เก่า เพราะกลัวว่าจะน็อครอบปีหนึ่งซะก่อน เพราะเรายังมีแพลนจะไปไต้หวันอีกครั้งช่วงกลางเดือนเมษายนนี้ กลับมาครั้งหน้าจะรีบเอัพเดทข้อมูลใหม่ๆทันทีเลย 555 ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ถ้ามีคำถามอื่นๆที่เราสามารถตอบหรือช่วยได้ เราก็ยินดี 
อยากไปมั่งค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat
  วันที่: 5 มีนาคม 2560 เวลา:16:53:49 น. |
สมาชิกหมายเลข 3674751
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
| |||||||||||||||
