จะแต่งงานกะชาวต่างชาติ ยุ่งแท้หนอ (เอกสารขั้นสอง)

ขั้นสอง

หลังจากได้ เอกสาร Affirmation of freedom to marry พร้อมแสตมป์ (ราคาแพงสุดในสามโลก) มาจากสถานทูตอังกฤษแล้ว เราก็ต้องจัดการแปลเป็นภาษาไทย 


*Note 1: ถ้าได้กลับไปอ่านขั้นที่หนึ่ง จะทราบว่า link ของสถานทูตอังกฤษ ณ เมษายน 2557 จะไม่ใช่

Affirmation of freedom to marry แล้ว เป็น Affirmation of Marital Status ถ้าเช็คกับสถานทูตได้แล้ว ว่าตกลงจะเอาอะไรกันแน่  ก็เอาตามนั้นนะคะ


ถ้าคุณเรียนจบจากนอก หรือ จบเอกอังกฤษ  เอกการแปล  ก็แปลเองเลยค่ะ เซ็นรับรองคำแปลถูกต้อง ก็เซ็นเองเลยค่ะ หรือถ้าไม่อยากเซ็นเอง ไปหาคนที่ตำแหน่งการงานน่าเชื่อถือมาเซ็นให้ก็ได้นะคะ


ถ้าใครไม่แน่ใจในความสามารถในการแปลของตัวเอง ก็ต้องหาจ้างเอาค่ะ ได้ข่าวตึกมหาทุน ใกล้สถานทูตอังกฤษ หรือ บ้านเรือนไทย ใกล้ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ก็มีรับแปล หรือ ไปแปลที่กรมการกงสุลได้เลยค่ะ เค้าจะมีเจ้าหน้าที่บริการ ราคาสูงกว่าข้างนอก แต่รับรองความถูกต้องตามแบบที่กรมการกงสุลจะเอาแน่นอน


หลังจากแปลเสร็จ ก็นำต้นฉบับภาษาอังกฤษที่รับรองโดยสถานทูตอังกฤษ และฉบับแปลภาษาไทย  ไปรับรองที่กองสัญชาติฯ กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ


สถานทูตอังกฤษ มืออาชีพค่ะ หลังจากเราได้รับ Affirmation of freedom to marry คืนมาจากเจ้าหน้าที่ จะมีใบแทรกเป็นภาษาอังกฤษ กลับมาให้ค่ะ ว่าจะต้องเอาไปรับรองที่ไหน


*Note 2: ตอนที่เราทำเรื่อง บ้านเมืองไม่สงบเล็กน้อย กรมการกงสุล ย้ายที่ทำการชั่วคราวไปที่ Esplanade รัชดา ไกลบ้านมากกกกกก เปิด 8.00 - 16.00 เท่านั้น จะเอาเอกสารแบบด่วนรับกลับในวันเดียว รับแค่ 100 คนต่อวัน แต่ถ้าจะกลับมารับอีกสองวันทำการ ก็รับเอกสารถึงบ่ายสอง


ขอเแชร์ประสบการณ์วันที่ไปขอรับรองเอกสารนะคะ นานนนนนนนนน มาก เสียเวลาไปห้าชั่วโมง 


ก่อนไปที่กรมการกงสุล ให้download เอกสารมากรอกก่อนเลยค่ะ จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลากรอกที่นั่น


//www.consular.go.th/main/th/form/1405/21210-คำร้องขอรับรองเอกสาร.html


ถ้าจะไปทำแทนว่าที่สามี ก็เอาภาษาไทย แล้วให้เค้าเซ็นมอบอำนาจในใบนั้นเลย แต่ถ้าว่าที่สามีจะไปเอง (เราก็ไปเป็นเพื่อนอยู่ดี) ก็ให้เอาภาษาอังกฤษ 


เรื่องของเรื่องคือ คนที่จะขอรับรองเอกสารไม่ใช่เรานะคะ เพราะเอกสาร

Affirmation of freedom to marry เป็นชื่อของว่าที่สามี การเอาไปแปล และขอรับรอง จึงเป็นหน้าที่ของว่าที่สามี ถ้าเราไปทำให้ ก็คือการทำแทน จึงต้องมีการมอบอำนาจ 


กรณีมอบอำนาจ

กรอกเอกสาร ภาษาไทย พร้อมลายเซ็นของว่าที่สามี มอบอำนาจให้เรา ดูตามเอกสารจะเข้าใจค่ะ

ก๊อปปี้เอกสารดังนี้(พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)

- passport ของว่าที่สามี หน้าที่มีรูปและ หน้าวีซ่าล่าสุด 1 ชุด 

- บัตรประชาชนของเรา 1 ชุด 

วันไปต้องเอาpassport และบัตรประชาชนตัวจริงไปด้วย เจ้าหน้าที่ขอดู 

- ใบเสร็จรับเงินจากสถานทูต ที่จ่ายค่าคำร้องขอAffirmation of freedom to marry เจ้าหน้าที่ขอดูค่ะ


กรณีว่าที่สามีไปเอง

กรอกเอกสารภาษาอังกฤษ 

ก๊อปปี้เอกสารดังนี้(พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)

- passport ของว่าที่สามี หน้าที่มีรูปและ หน้าวีซ่าล่าสุด 1 ชุด 

วันไปต้องเอาตัวจริงไปด้วย เจ้าหน้าที่ขอดู


- ใบเสร็จรับเงินจากสถานทูต ที่จ่ายค่าคำร้องขอAffirmation of freedom to marry เจ้าหน้าที่ขอดูค่ะ


สรุปก่อนออกจากบ้าน ตรวจให้มั่นใจว่าหนึ่งชุดเอกสารต้องมีดังนี้

1. ใบคำร้อง 

2. สำเนา passport ของว่าที่สามี หน้าที่มีรูปและ หน้าวีซ่าล่าสุด 1 ชุด พร้อมตัวจริง

3.  และ / หรือ  สำเนาบัตรประชาชนของเรา 1 ชุดพร้อมตัวจริง

4.   Affirmation of freedom to marry ฉบับภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปลภาษาไทย(เอาเฉพาะตัวจริง ไม่ต้องถ่ายเอกสาร) 

5. ใบเสร็จรับเงินจากสถานทูต ที่จ่ายค่าคำร้องขอAffirmation of freedom to marry  



เราไปถึงที่กรมการกงสุลตั้งแต่ เจ็ดโมงสามสิบห้า มีคนต่อแถวรอที่หน้าประตูแล้ว เกือบสามสิบคน มีคนนั่งรอตามเก้าอี้อีกเกือบยี่สิบ เราเลยไปยืนต่อแถว


ยืนไปจนถึงแปดโมงห้านาที ประตูเปิด  เดินเข้าไปก็เจอเจ้าหน้าที่นั่งรอตรวจความเรียบร้อยของเอกสาร และให้บัตรคิว คนที่่รอรับเลย จะได้คิวสีชมพู คนที่จะรับกลับอีกสองวันข้างหน้าจะได้คิวสีฟ้า จุดนี้ใช้เวลาไม่เกินห้านาที ตอนนั้นคิดในใจ ดีจังเร็วจัง แป๊บเดียวคงได้กลับบ้าน หารู้ไม่ 

(คนที่จะรับกลับอีกสองวันข้างหน้า รอจ่ายเงิน รับใบเสร็จ แล้วกลับได้เลย จุดนี้ ไม่เกินครึ่งชั่วโมง)


หลังจากนั้นก็ไปนั่งรอ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจความถูกต้องของคำแปล ณ จุดนี้ งง นิดหน่อย เพราะว่าเห็นคนที่ได้คิวหลังเรา แต่ได้เอกสารกลับออกมาก่อน ส่วนใหญ่เพื่อให้เอามาแก้ ก็เลยงงว่า เจ้าหน้าที่เค้ามีขั้นตอนการตรวจยังไง ไม่ตรวจตามคิวเหรอ หรือว่า เอกสารง่ายๆ ตรวจก่อน งง นั่งรอไปก็งงไป อยากวีนก็ไม่รู้จะวีนยังไง กับใคร เลยหายใจเข้าหายใจออกลึกๆ แล้วอ่านหนังสือไป


ตอนนั้นก็พยายามมองโลกในแง่ดี คิดว่า เออ ของเรานานคงแปลว่า ทุกอย่างโอเค แต่ปล๊าววว (เสียงสูงมาก) เก้าโมงสิบห้า เจ้าหน้าที่ เรียกชื่อเรา บอกว่ามีแก้ไข ตามดินสอซึ่งวงไว้ (เยอะมาก) เอาละเหวย ทำยังไงดี จะกลับไปแก้ที่บ้านเหรอ ไกลมากเลยนะ เก้าโมงกว่า รถติดแล้วด้วย เลยตัดสินใจเดินไปที่เคาน์เตอร์รับแปลของกรมการกงสุล เสียไปห้าร้อยบาท จริงๆก็มีคนรับแปล เดินเต็ดเตร่ กระซิบเบาๆกับผู้คนแถวนั้นว่ารับแปล แต่ตอนเรานั่งรอ เห็นเจ้าหน้าที่เดินเอาออกมาให้ตาคนนั้นแก้ เราเลยไม่ไว้ใจ 


(จริงๆที่เราแปลไปก็ไม่ได้ผิดในแง่ของเนื้อหา แต่ไม่ครบมากกว่า คือต้องมีคำว่า คำแปลอยู่บนหัวกระดาษ และจะเอาคำแปลทุกอณูในเอกสารค่ะ ต้องแปลแม้แต่ แสตมป์ ซึ่งต้องเรียกว่าตราประทับ ต้องบอกด้วยว่ามันนูนไม่นูน วันที่ในตราประทับ ก็ยังต้องใส่ไป ลายเซ็นก็ยังต้องใส่ แต่ห้ามเซ็นใหม่ และให้เขียนว่า ลายมือชื่อ พวก disclaimer ใต้แสตมป์ก็ต้องแปล คือทุกสิ่งที่เห็นจริงๆ เดี๋ยวจะพยายามแปะตัวอย่างให้ดูดีกว่า เผื่อจะเอาไปใช้ได้นะคะ)  


ตัวอย่างการแปลที่เห็น คือการแปลโดยเจ้าหน้าที่แผนกรับแปลของกรมการกงสุลค่ะ รับรองได้ว่าเป็นแบบที่กงสุลต้องการแน่นอน




รอเค้าแปลไปสี่สิบห้านาที ก็เอากลับไปส่งที่เดิมตอนนั้นสิบโมงกว่าแล้ว ก็รอเค้ากลับไปตรวจใหม่อีกรอบ อีกครึ่งชั่วโมงก็กลับออกมา และเอาเอกสารไปส่งเจ้าหน้าที่เพื่อจ่ายเงิน ก็รอเอาใบเสร็จรับเงิน เสียไปแปดร้อยบาท ค่ารับรองเอกสารจะเอกสารละ สองร้อยบาท ไม่ด่วน ถ้าด่วนก็สี่ร้อย ของเรามีสองแผ่น ภาษาไทย และอังกฤษ ก็เป็นแปดร้อยบาท  จุดนี้ก็รอรับกือบครึ่งชั่วโมง ได้ใบเสร็จตอนสิบเอ็ดโมงนิดๆ พร้อมกับเสียงสวรรค์จากเจ้าหน้าที่ว่า อีกสองชั่วโมงมารับนะครับ นานได้อีก 


โชคดีที่ตอนนั้นกรมการกงสุลอยู่ที่เอสพลานาด เดินห้างสองชั่วโมงไม่ใช่เรื่องยาก เสียอย่างเดียวเอสพลานาดไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจให้เดิน แต่ก็ยังลากขาไปมาจนสองชั่วโมงจนได้ กลับมารับตอนอีกห้านาทีบ่ายโมง ได้เอกสารอันเดิมกลับมาพร้อมสติกเกอร์จากกรมการกงสุล พร้อมลายเซ็น แปะมาแผ่นละอัน เดินกลับออกมา ยิ้มแก้มปริ จะได้แต่งงานแล้วเว้ยยยย


ณ จุดนี้ เสียเงินไปแล้ว เกือบห้าพันบาท เพื่อเอกสารสองแผ่น แม่บอกว่า ถ้าแต่งกับคนไทย บัตรประชาชนใบเดียวลูก (แต่ไม่ได้แปลว่าแม่ไม่อยากให้ลูกแต่งกะตาคนนี้นะ) มันไม่ทันแล้วอ่ะค่ะคุณแม่ ผมหนูหงอกแล้ว ขบวนสุดท้ายแล้วอ่ะค่ะ ฮ่าฮ่า



หมายเหตุ ใบเสร็จรับเงิน(จากกรมการกงสุล) มีค่าอย่าทิ้ง ชิงโชคไม่ได้ แต่ตอนไปจดทะเบียนสมรส เจ้าหน้าที่ที่เขตขอดูค่า


Tip 1: โดยส่วนตัวคิดว่า ถ้ามีเวลารอ แม้จะนาน และไม่mind ที่จะเสียเงินสองเท่า ก็ขอรับเอกสารแบบด่วนเลยดีกว่าค่ะ เผื่อมีความผิดพลาดของเอกสาร จะได้แก้ไขกันเลย เพราะต่อให้เราส่งแบบไม่ด่วน แล้วเอกสารผิดพลาด เค้าก็ไม่รับรองให้นะคะ ตอนรับกลับก็คือการกลับเอาไปแก้ แล้วมาส่งใหม่เสียเวลาไปอีก 


Tip 2: จะมีหลายเอเจ้นท์ ที่รับจ้างนะคะ คือแปลให้ด้วย และเอาไปยื่นให้ด้วย เค้าจะคิดเงินเราสามส่วน ส่วนแรกค่าแปล ส่วนที่สองค่ายื่น ส่วนที่สามค่ารับรองเอกสารของกรมการกงสุล ส่วนแรกกับส่วนที่สองขึ้นอยู่กับแต่ละเจ้า ส่วนที่สามต้องเท่ากันทุกเจ้า ไม่ด่วน เอกสารละ 200 ด่วน เอกสารละ 400 ต้นฉบับนับเป็นหนึ่ง คำแปลนับเป็นอีกหนึ่ง และถ้าจะจ้าง เราต้องขอใบเสร็จจากกรมการกงสุุลด้วยค่ะ


จ้างเค้าดีมั๊ย  ส่วนตัวนะคะ ถ้าค่าแปลไม่เกินหน้าละห้าร้อย ค่ายื่นไม่เกิน ห้าร้อย คิดว่าจ้างไปเถอะค่ะ ห้าร้อยกับเวลาที่เราจะเสียไป มันคุ้มมาก เอาเวลาสี่ ห้าชั่วโมง ไปทำอย่างอื่นดีกว่ามั๊ย แต่ก็ต้องดูดีดีนะคะ คือตอนที่เรานั่งรอเนี่ย ผู้ชายสองคนที่นั่งอยู่ข้างหลัง เค้าทำอาชีพนี้ แล้วเค้าก็คุยกันประมาณว่า ร้านบางร้านก็ไม่มายื่นให้ลูกค้าเลย รอจนกว่าจะได้หลายๆเจ้าแล้วค่อยมาทีเดียว เพราะประหยัดค่าน้ำมัน ถ้าอยากจะจ้างจริงๆ เสียเวลาไปที่กรมการกงสุลนิดนึงค่ะ จะมีคนรอให้บริการเยอะมากๆ เลือกเอาเลย ข้อดีของการเลือกคนที่นี่ คือเรามั่นใจว่าเค้าไม่เอางานเราไปดองแน่ ยื่นให้เราเลยแน่นอน เราก็เอาเอกสารให้เค้า แล้วหายไปชอปปิ้งซักห้า หก ชั่วโมง กลับมารับ สบายกว่ากันเยอะค่ะ (ห้างเริ่ดๆ ที่ใกล้ศูนย์ราชการก็มีค่ะ ไปกินข้าว ดูหนัง แล้วค่อยกลับมารับเอกสาร สบาย) 


มุมบ่น ทำไมต้องรับรองคำแปล ไม่ค่อยเข้าใจ ในเว็บของกงสุลบอกว่าเพื่อให้เป็นเอกสารที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ใกล้ๆตราประทับของกงสุลจะบอกว่า ไม่รับผิดชอบต่อการแปลที่ผิดพลาด อ้าว ยังไง แล้วถ้าสมมติเอกสารมันแปลผิดพลาด แต่มีตราประทับของกงสุล แล้วมันชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย งง

ถ้าไม่รับผิดชอบการแปลที่ผิด แล้วทำไมต้องนั่งรอเจ้าหน้าที่ตรวจคำแปลตั้งสองสามชั่วโมง บ่น แล้วที่นั่งตรวจอยู่เป็นนานสองนาน แล้วก็ให้เราแก้เนี่ย หลังจากนั้น มันก็ยังจะผิดอีกเหรอ บ่น บ่น บ่น

แล้วเอกสารจากสถานทูตอังกฤษ ทำไมกรมการกงสุลถึงมีสิทธิรับรอง เอกสารจากสถานทูต ไม่ชอบด้วยกฎหมายเหรอ งง ก็ได้แต่บ่นล่ะค่ะ ไม่ทำตามเค้า ก็ไม่ได้แต่งงานแน่นอน





Create Date : 13 กรกฎาคม 2557
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2557 10:26:41 น.
Counter : 1590 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Wendy the Wanderer
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



New Comments
กรกฏาคม 2557

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31