Group Blog
 
All blogs
 
กองทัพรองพื้นใช้กี่ครั้งก็ฟิน !!

เย่ๆ พบกันกับผลิตภัณฑ์ชนิดแรกที่เราจะมาพูดถึง
กันก่อนเลยนะคะ ตอนแรกว่าจะเขียน
Skincare ก่อน แต่พอดีว่าตอนนี้พวกนางๆ กระจัดกระจาย
อยู่หลากหลายสถานที่
เลยมาเริ่มหยิบจับของที่อยู่ใกล้ตัว
และใช้บ่อยๆ แบบไม่เบื่อ
นั่นก็คืออออ รองพื้นนั่นเองค่าา
ซึ่งวันนี้มุกก็จะมาพูดถึงรองพื้นในหลายๆตัว
ที่ใช้แล้ว อื้มมม มันโอเคนะ ดีนะ ให้เพื่อนๆที่
อาจจะกำลังตัดสินใจที่จะซื้อ หรือซื้อมาแล้ว
แล้วไปเก็บไว้ในซอกไหนๆ แงะกันขึ้นมาใช้อีกทีนึงค่าาา
ก่อนอื่นเลยมุกขอบอกไว้ก่อนนะคะ ว่าส่วนตัวมุกเป็นคนที่ผิวค่อนข้างแห้ง
บริเวณข้างแก้ม และเป็นคนที่บริเวณที่โซนเหงื่อจะไหลง่ายมากๆ
แต่ไม่ได้มันจนเยิ้ม ส่วนปัญหาสิวหรือฝ้า หรือรอยอะไรยังไม่ค่อยมีปัญหาคะ

งั้นเรามาเริ่มกันเลยนะคะ
โดยจะไล่ตามลำดับ ความถี่ที่ใช้นะคะ

เริ่มกันที่ภาพรวมของพวกนางกันก่อนเลยจ้า



ส่วนใหญ่จะเป็น Chanel เพราะโดยส่วนตัวมุกจะค่อนข้างชอบกลิ่น
ของรองพื้นชาแนล และที่สำคัญสีไม่ค่อยดรอปลง
ระหว่างวันมากนักคะ 

1. Name : Chanel Vitalumire aqua

Describe : ตัวนี้เป็นลักษณะของเนื้อลิคคิวคะ แต่ดันเป็นขวดแบบเทๆแล้วบีบ
อาจจะมีการบีบเกินบ้างนิดหน่อย แต่คือเค้าก็ไม่ได้เหลว
จนไม่ปกปิดนะ ให้ความรู้สึกเหมือนทาครีมพวกมอยเจอร์ที่มีสีอะไรแบบนี้
เค้าจะให้ความชุ่มชื้นหน่อยๆ แล้วก็ปกปิดรอยคล้ำได้ประมาณนึง
และที่สำคัญคือหน้าดูขาวกระจ่างจ้าขึ้นด้วยคะ ไม่ค่อยดรอปด้วย
วิ้งๆปิ้งๆอยู่เกือบทั้งวัน (มีหายไปบ้างนิดหน่อยหลังจาก 8 - 10 ชม.) 
ตัวนี้ใช้บ่อยมากกกคะ เพราะเค้าเกลี่ยง่ายมากก แล้วก็เบาหน้า
สบาย เหมือนแต่งหน้าแต่ผิวยังได้หายใจอยู่ 

LIKE : ชอบเนื้อครีมที่เบา เกลี่ยง่าย แต่ยังปกปิดอยู่ ปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น

DISLIKE : ไม่ชอบแพคเกจที่เป็นลักษณะแบบบีบๆ เพราะชอบเลอะ

Price : น่าจะอยู่ที่ 2000-2200 บาท ไม่ชัวร์คะ



2. Name : laura mercier tinted moisturizer oil free

Describe : ส่วนตัวมุกเป็นคนที่ค่อนข้างชอบที่จะใช้รองพื้นเนื้อบางๆเบาๆมากกว่า
ส่วนใหญ่เลยเน้นไปทาง aqua / tinted moisturizer ซะส่วนใหญ่ 
ซึ่งตัวนี้ตอบโจทย์มากกกจริงๆคะ คือเค้าจะไม่ค่อยมีสี
ชัดเท่าตัวแรก แต่คือจะทำให้หน้าดูอิ่มน้ำแบบสุดๆ คือดูสุขภาพดีมากกก
และที่สำคัญคือเค้าค่อนข้างคุมมันได้ในระดับนึง
เพราะมุกเป็นคนที่ช่วง T zone จะค่อนข้างมันมาก
แล้วเค้าก้ยังช่วยทำให้แป้งและเครื่องสำอางติดบนหน้าได้ดีมากก
ในวันไหนที่หน้า หรือข้างๆจมูกแห้งจนเกินเยียวยา
แต่ถ้าถามถึงความปกปิดนี่ติดลบเลยคะ แต่ด้วยความที่เราชอบความเบา
เลยเลือกที่จะใช้เค้าบ่อยเช่นกันคะ

LIKE : ชอบความบางเบา และทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ สุขภาพดี

DISLIKE : แพคเกจแบบบีบ เพราะเนื้อครีมชอบทะลักออกมาตลอด ลำบากต่อการใช้งาน

Price : น่าจะ 1600 - 1800 บาทคะ





3.Name : NAKED SKIN

Describe : ตัวนี้จะมีความเป็นรองพื้นจริงๆมากกว่าสองตัวแรก แต่เค้าก็
ยังไม่ได้หนักหน้าจนรู้สึกหนาอะไรมาก เนื้อของผลิตภัณฑ์จะค่อนข้างคล้ายตัว aqua 
แต่จะปกปิดได้ดีกว่า เวลามุกลงตัวนี้ มุกจะใช้การตบๆ เบาๆ มากกว่าการปาดปาด 
เพราะเค้าจะเป็นคราบแบบเห็นได้ชัดมากถ้าเกิดว่ามุกปาดๆ

LIKE : เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบา แต่ยังปกปิดร่อยรอยได้ดี และหัวแบบปั้มใช้สะดวก

DISLIKE : ค่อนข้างดรอประหว่างวัน ไม่ค่อยทนเท่าไหร่

Price : 1300 - 1600 บาท (มุกพรีมาจาก ตปท. เลยไม่ค่อยชัวร์ราคาไทย)






4.Name : THREE  flawless ethereal fluid foundation

Describe : เครื่องสำอางแบรนด์ญี่ปุ่นที่ถูกขนานนามกันมากมายว่าดี๊ดี
เลยไปลองมาาา ก็ส่วนตัวที่ลองก็ค่อนข้างสมคำล่ำลือนะ
แต่ไม่เข้าใจว่าทำมันไม่ค่อยหยิบนางออกมาใช้ 
อาจเป็นเพราะตัวนี้เค้าดูเป็นรองพื้นมากกว่า เจ้า 2 ตัวแรกก็เป็นได้
แต่เค้าก็ยังทำให้ผิวดูเหมือนไม่ได้แต่งหน้าหนักนะ
ดูฉ่ำๆ ดิวอี้ๆ ซะมากกว่า ถ้าคนที่ชอบความแมทมากๆ ก็กระเถิบไปตัวอื่นดีกว่าจ้า
 ตัวนี้วิธีการใช้ก็เช่นกัน ต้องใช้วิธีการตบคะ

LIKE : ได้ลุคที่ดูดิวอี้ๆ แต่คุมมันได้ดีมาก ไม่แห้งเป็นขุยๆ ไม่หนักหน้า บางเบา แต่ปกปิด

DISLIKE : ค่อนข้างดรอปเร็วไปนิดคะ

Price : จำราคาไม่ได้จริงๆคะ น่าจะหลักพันปลายๆ หรือสองต้นๆ นะ





5.Name : YSL Le Teint Touche Éclat Foundation

Describe : ตอนนี้เราค่อยๆเริ่มกระเถิบเข้ามาใกล้ๆกับ
รองพื้นกันแบบเต็มตัวแล้วว ตัวนี้นะคะถ้าเค้าไม่หนักหน้าไปนิดนึง
จะเป็นรองพื้นที่ที่สุดของที่สุดแล้ว คือทาแล้วไม่ใช่ว่าแค่รู้สึกว่าเนียนขึ้น
แต่ทาแล้วรู้สึกสวยขึ้นอะ ฮ่าๆ แต่คือไม่รู้คนอื่นเป็นมั้ยนะ คือเวลา
ที่มุกใช้ พอทาลงไป ใช้ฟองน้ำเกลี่ยๆ พอทาเสร็จมันจะยังไม่ดูสวย
มันจะหมองๆ แปลกๆ งงๆ ดูไม่ค่อยสวย แต่พอทาแป้งแต่งหน้าส่วนอื่นๆเสร็จ
ทิ้งไว้สัก 15-30 นาที อยู่ดีดีนางก็เด้งขึ้นมาเฉยๆ อันนี้ไม่รู้ว่าทำมัย
แล้วคือพอยิ่งใช้ชีวิตระหว่างวัน นางจะยิ่งเด้งอะ ไม่ดรอป ไม่เยิ้ม
ไม่เป็นขุย คือชอบจริง  แต่ติดที่นางแบบเป็นรองพื้นเต็มตัวไปนิดนึง
ถ้าได้ความเบากว่านี้สักหน่อยจะดีมากกก

LIKE : ไม่ดรอป ไม่เยิ้ม ไม่ขุย หน้าเด้ง สวยงาม อร่าม มีออร่า พุ่งปรู้ดปร้าด

DISLIKE : เนื้อค่อนข้างหนาไปนิดนึง ทำให้มีแอบหนักหน้า

Price : ประมาณ 2500 คะ




6.Name : CHANEL Perfection Lumiere Flawless Fluid

Describe : ตัวนี้ตอนแรกคือเค้าเคลมตอนแรกว่าเนื้อเค้าค่อนข้างเบา
แต่พอมาใช้จริงๆ นางก็ค่อนข้าง FULL นะแต่ยังดีที่คุณภาพนางสูงตามราคา
ยังพอไปวัดไปวา ตัวนี้จะหยิบมาใช้ก็ต่อเมื่อไปงานกลางคืน หรือไปไหนที่ไม่คิดจะเติมหน้าแล้ว
เพราะนางทาปุ้ป ปังงงงเข้าเต็มๆ คือกริ้บมาก แต่หนักนะ ยอมรับว่าหนัก 
แต่ถ้าใครชอบความกริ้บ ปกปิดดี รูขุมขนหดหาย แนะนำคะ

LIKE : ได้ความกริ้บ เนียน เรียบ เป๊ะมากกก ติดทนนาน ไม่เยิ้ม

DISLIKE : เนื้อหนาไปหน่อย 

Price : ซื้อในดิวตีฟรีอยู่ราวๆ พันปลายๆ




7.Name : CHANEL LES BEIGES healthy glow cream

Describe : ที่หยิบเอาตัวนี้มาพูดกันเป็นตัวสุดท้าย ไม่ใช่ว่านางไม่ดีหรืออะไร แต่คือ
เพิ่งซื้อใช้ได้ไม่นานเลยไม่อยากจะเคลมว่านางทำนู่นได้นี่ได้
เท่าที่ลองมาประมาณไม่กี่อาทิตย์ สิ่งที่ชอบมากๆ
คือเค้าจะค่อนข้างปรับสีผิวเราให้ดูสว่างขึ้น แบบไม่หลอกลวงนะ
อีกอย่างคือได้ความฉ่ำความโกลว์ ดิวอี้ ดูแบบเกาหลีสุดๆ แต่ก็ไม่ได้
ทำให้หน้ามันเยิ้ม เพราะเค้าก็คุมมันได้ในระดับหนึ่ง 
แต่เค้าจะไม่ค่อยปกปิดเท่าที่ควร ถ้าใครคิดจะทาเดี่ยวๆ
แนะนำให้ฟาดคอนซีลเลอร์ไปอีกสักทีก็จะดีมาก
และเค้าเคลมว่าสามารถทาเดี่ยวๆ หลังทาเบส หรือทาก่อนลองพื้นก็ได้
ซึ่งส่วนตัวเคยลองแต่ทาเดี่ยวๆ แล้วมันได้ความรู้สึกที่ดีมากกก
เลยยังไม่อยากเคลมอะไรเยอะมาก เดี๊ยวขอเวลาลองเพิ่ม
อีกสักเดือนนึง แล้วเจ้าตัวนี้อาจจะไปโผล่ที่ favorite ก็ได้ 555

LIKE : ชอบความโกลว์ ความกระจ่างใส ดูอิ่มน้ำ สุขภาพดี ไม่ดรอป ไม่แห้ง

DISLIKE : สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสิวหรือต้องการการปกปิดมากๆ ตัวนี้อาจยังปกปิดได้ไม่ดี

Price : 2200 บาท (ชอปไทยคะ)





ก็จบกันไปแล้วนะคะ สำหรับรองพื้น 7 ตัวที่วันนี้มุกเอามาฝากกัน
ซึ่งต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า รีวิวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะมุกลองใช้กับผิวของมุกเอง
ซึ่งต่างคน อาจจะแตกต่างกันออกไป ด้วยลักษณะผิว อากาศและการบำรุงต่างๆนานา
ซึ่งการรีวิวครั้งนี้มุกทำขึ้นเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของเพื่อนๆเท่านั้นค่า
ยังไงวันนี้ต้องขอขอบคุณทุกๆคนมากๆ
ที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
แล้วก็หวังว่าจะติดตามกันไปเรื่อยๆ นานๆนะค่าา







Create Date : 16 ธันวาคม 2557
Last Update : 16 ธันวาคม 2557 13:46:26 น. 0 comments
Counter : 1023 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nattaris
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Called me : mmookc
Founder / Designer of Nattarista_brand
Saint John int school


Instagram
New Comments
Friends' blogs
[Add Nattaris's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.