<<
มิถุนายน 2566
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
1 มิถุนายน 2566
 

จีบอยู่ รู้ยัง - บทที่ 4 - ก้าวหน้า

V

ข้าวตูแต่งกลอนเสร็จแล้ว การบ้านไม่มีหัวข้อ ข้าวตูก็เลยแต่งตามที่คิด ปอร์เช่อ่านแล้วจะรู้มั้ยนะ ว่าข้าวตูอยากอยู่ใกล้ วันอาทิตย์ข้าวตูต้องเรียนพิเศษทั้งวัน ปอร์เช่ทำอะไรบ้างก็ไม่รู้ ถามก็คงจะโดนดุมากกว่าจะได้คำตอบ เพจวงลงรูปซ้อมเกือบทุกวัน ข้าวตูไปกรี๊ด ไปให้กำลังใจทุกโพสต์ ปอร์เช่จะเห็น จะจำได้มั้ยนะ ว่าเป็นข้าวตู

ข้าวตูเลิกเรียนพิเศษก็ใกล้ค่ำแล้ว อุตส่าห์ทำเนียนไปเอากระติกน้ำ เผื่อปอร์เช่จะซ้อมเสร็จแล้ว กลับมาบ้านแล้ว แต่ป้าอรณีบอกว่า เขาไปกับเพื่อน ยังไม่กลับ กระติกน้ำ ป้าอรณีก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน แต่บอกว่า จะถามปอร์เช่ให้ พรุ่งนี้เย็นให้มาเอา

เฮ้อ....เสียดายจัง ข้าวตูคิดในใจ อยากเห็นหน้าเขาตอนอ่านกลอน แต่ถ้าไม่เอาให้วันนี้ ก็ไม่รู้จะทันส่งครูหรือเปล่า อุตส่าห์บรรจงวาดรูปผีเสื้อกำลังเคลียคลออยู่กับดอกไม้ไว้ในกระดาษที่จดกลอนแล้วแท้ๆ กะว่าจะได้เห็นยิ้มหวานๆ สักหน่อย เฮ้ออออออ

ข้าวตูเลยจำใจต้องฝากกระดาษแผ่นนั้นไว้กับป้าอรณี แล้วก็ลากลับบ้านด้วยความเสียดายแล้วเสียดายอีก  ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า  ไม่เป็นไรหรอก จะรู้จะไม่รู้  ว่าข้าวตูตั้งใจ  ข้าวตูก็จะจีบต่อ จีบผู้ชาย ไม่ได้มีทางเดียวซะหน่อย

กว่าปอร์เช่จะกลับถึงบ้านก็ค่ำแล้ว เขาซ้อมเสร็จตั้งแต่กลางวันแล้ว แต่เพื่อนชวนไปดูเสื้อผ้าที่จะใส่วันโชว์ กว่าจะตกลงกันได้ ใช้เวลานานกว่าซ้อมอีก ปอร์เช่เห็นกระติกน้ำยังวางอยู่ในครัวก็ถามแม่

“เขาไม่มาเอากระติกน้ำเหรอครับ เช่ว่าคงลืมด้วยว่าไปลืมไว้ที่ไหน” พูดเองก็รู้สึกผิดหวังเอง ทำไมก็ไม่รู้

“ไปว่าเขา ข้าวตูมาแล้ว แต่แม่ไม่ให้ไปเองแหละ” แม่ตอบยิ้มๆ ดูฮอดหรอกว่าลูกชายให้ความสนใจ

“อ้าว ทำไมล่ะแม่”

“ก็ข้าวตูมาตอนลูกไม่อยู่ ให้ไป เขาก็เดือดร้อนต้องหามุขใหม่  หาเรื่องมาเจอลูกอีก แม่สงสาร ก็เลยบอกว่าหาไม่เจอ สงสัยเช่เป็นคนเก็บ ให้มาเอาพรุ่งนี้” แม่หยิบกระดาษสีชมพูอ่อนพับครึ่งส่งให้

"ข้าวตูฝากนี่ให้ลูกด้วย ถ้าอยากเจอเขา พรุ่งนี้ก็รีบกลับบ้านนะจ๊ะ ลูกชาย" แม่ยิ้มล้อเขาอีกแล้ว  ทำไมแม่ถึงคิดว่า  เขาอยากเจอยายหน้ากลม  ในกระดาษนั้นมีอะไร  แม่เปิดอ่านแล้วหรือเปล่า

ปอร์เช่เปิดกระดาษสีชมพูแผ่นนั้นออกอ่าน บรรทัดแรกเขียนว่า การบ้านของนาย

อยากจะแนบแอบองค์ลงตรงไหล่   อยากจะได้อิงเอียงเคียงเขนย

จะซอกซุกสุขสมด้วยชมเชย          ได้คุ้นเคยไอกลิ่นให้ชินกัน

ด้วยหลงใหลเอกองค์ทรงสง่า        หลงวาจาหลงลีลาพาสรวลสันต์

หวังครั้งหนึ่งใกล้ใจได้ผูกพัน         เสียดายครันฝันอยู่แต่ผู้เดียว

ยายหน้ากลมนี่ นอกจากมองผู้ชายตรงๆ ชมผู้ชายต่อหน้า แล้วยังจะอยากไปใกล้ชิดอีก เป็นผู้หญิงยังไง ไม่รู้จักระวังตัวซะบ้างเลย ฝันคนเดียวที่ไหนกัน ตั้งแต่รู้จักกัน ฝันเห็นจันทร์เต็มดวงมากี่ครั้งแล้วนะ ไม่รู้อะไรซะเลย ยายซื่อบื้อเอ๊ย

ปอร์เช่พิจารณาดูรูปผีเสื้อที่น่าจะกำลังดูดกินน้ำหวานจากดอกไม้ น้ำใบเตยจืดสนิท ยังส่งกลิ่นหอมอวลอยู่ในความทรงจำ ผีเสื้อตัวนี้กำลังทำอะไรกันแน่นะ สูดดมความหอม หรือ ลิ้มลองความหวาน

จะซอกซุกสุขสมด้วยชมเชย   ได้คุ้นเคยไอกลิ่นให้ชินกัน

ผีเสื้อหนุ่มร่ายรำบนกลีบดอกไม้กลิ่นใบเตย

ปอร์เช่รีบพับกระดาษเก็บใส่ลิ้นชักโต๊ะ เพราะตกใจกับปฏิกิริยาของร่างกายตัวเอง แค่กลอนกับรูปวาด จะดีดขึ้นมาทำไม OMG!!!

ข้าวตูลองส่งไลน์ไปถามว่าได้การบ้านหรือยัง เอาไปฝากไว้ให้แล้ว ปอร์เช่ตอบกลับมาว่า ได้แล้ว thanks แล้วก็เงียบ ข้าวตูอยากรู้ก็เลยถามต่อว่า เป็นไง ชอบมั้ย คำตอบที่ได้กลับมาคือ สติ๊กเกอร์รูปผู้ชายกำลังยกค้อนรอทุบหัวตัวตุ่นที่กำลังโผล่ขึ้นมาจากรู  อะไรของเขา  ข้าวตูแต่งกลอนแย่มากหรือไง  ไม่ชอบ  แล้วจะขอบใจทำไม

ข้าวตูมาถึงหน้าบ้านปอร์เช่ก็ทุ่มกว่าแล้ว กดออดเรียกปุ๊บ ปอร์เช่ก็ออกมาปั๊บอย่างกับรออยู่แล้ว ข้าวตูยังไม่ทันได้อ้าปากพูด ปอร์เช่ก็บ่นมายาวเหยียด

“โรงเรียนเลิกตั้งนานแล้ว ทำไมเพิ่งมา จะมาค่ำทำไมไม่บอกก่อน นี่ยังไม่ถึงบ้านเลยเหรอ แค่กระติกน้ำ จะรีบมาเอาทำไม เธอกลับบ้านค่ำแบบนี้ประจำเหรอ เป็นผู้หญิงนะ ไม่กลัวรึไง กินข้าวมารึยัง” ปอร์เช่เท้าเอว มองข้าวตูที่ยังอยู่ในชุดนักเรียนเต็มยศ ผิวหน้ามันวาวไปด้วยเหงื่อ  ผมที่รวบและผูกไว้ด้วยโบสีขาว  หลุดลุ่ยระอยู่ข้างแก้ม

“ไม่ได้กลับค่ำบ่อยหรอก วันนี้ทำบอร์ดงานวิชาการ ไม่คิดว่าจะเสร็จช้าขนาดนี้ เรากินมาแล้ว ไม่ได้มาเอากระติกเฉยๆ เอานี่มาให้ด้วย” ข้าวตูยื่นมือไปรอรับกระติกน้ำ อีกมือส่งซองสีขาวเล็กๆ ให้ “อ้อ วันนี้ไม่ได้กลับเอง พ่อเพื่อนมาส่งที่ปากซอย”

ดุยังกับพ่อจริงๆ เลย แต่คำตอบของข้าวตูคงทำให้เขาพอใจแหละ คิ้วถึงได้ย่นน้อยลงหน่อยนึง รับซองไปพลิกๆ ดู ถามข้าวตูว่า นี่อะไร

“อ่านดูก็รู้เองแหละ การบ้านเราถูกทุกข้ออีกแล้วนะ ขอบคุณมาก ไปละ” ข้าวตูยิ้มกว้างให้อีกฝ่าย ข้าวตูรู้ตัวว่าไม่ใช่คนสวย แล้วสภาพตอนนี้ก็คงจะยิ่งดูแย่มาก แต่แม่บอกว่า ข้าวตูยิ้มแล้วสดใส ไม่มีอะไรสู้ ข้าวตูก็ยิ้ม ยิ้มอย่างเดียว

“จะรีบไปไหน  กระติกน้ำยังไม่ได้เอาเลย  มันมืดแล้ว กล้าเดินคนเดียวเหรอ ผมไปเอารองเท้าก่อน เดี๋ยวเดินไปส่ง” ปอร์เช่พูดจบก็หันหลังไปเลย

ข้าวตูยืนงงๆ ไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินอะไร จนเห็นปอร์เช่ออกมาอีกรอบ ข้าวตูเผลอกรี๊ดออกมาเบาๆ

“เป็นอะไร ร้องทำไม”  ปอร์เช่ถามเสียงดุ  หลังจากสำรวจแล้วว่า  อีกฝ่ายไม่ได้โดนอะไรกัด

“อืออ เราดีใจจะได้เดินคุยกับนาย อุ้ย” ข้าวตูยิ้มเจื่อนๆ เผลออีกแล้ว แต่ปอร์เช่ไม่ยักดุ เดินตัวปลิว นำไปโน่นแล้ว

“ทำไมนายต้องอยากทุบหัวเราด้วย ไม่ชอบกลอนที่เราแต่งให้เหรอ” ข้าวตูรีบถามหลังจากวิ่งตามจนทัน บ้านไม่ได้ไกลกันมาก เดี๋ยวถึงก่อนได้คำตอบ

แต่ปอร์เช่ไม่ตอบ เขาคงขี้ร้อน เดินมาด้วยกันเหงื่อยังไม่ทันออก แต่หน้าแดงยังกับไปทาแก้มมา

“เธอจะไปดู...เชน... ซ้อมอีกมั้ย”  ปอร์เช่ถามหลังจากเงียบไปสักพัก

“ไม่ไปแล้ว ต้องช่วยงานโรงเรียนยาวเลย” พูดจบข้าวตูก็ถอนหายใจด้วยความเสียดาย อยากเห็นปอร์เช่ตอนอยู่ในชุดซ้อมอีกจัง

“ถอนหายใจทำไม ไม่ชอบให้ผมเดินมาส่งเหรอ” ปอร์เช่ถามเสียงขุ่นๆ

“ไม่ใช่นะ เราเสียดาย อยากเห็นตอนใส่เสื้อกล้าม เราเข้าบ้านก่อนนะ ขอบคุณที่มาส่ง” ข้าวตูพูดรวดเดียวแล้วรีบเข้าบ้าน จะได้ไม่ต้องโดนดุว่าทำอะไรไม่เป็นผู้หญิงอีก  

ดีแล้วที่ยายหน้ากลมรีบเข้าบ้าน เพราะเขาไม่รู้จะเก็บอาการตัวเองยังไง มันน่าดูตรงไหน วันนั้นที่เจอกัน แอร์ที่ห้องซ้อมเหมือนจะเสีย ปรับยังไงก็ไม่เย็น ตอนออกมาเข้าห้องน้ำ เหงื่อออกจนตัวเปียก ผมเผ้าก็เหนียวไปหมด ไอ้ที่ร้อนๆ อยู่ตอนนี้ ปอร์เช่ก็บอกไม่ถูกว่า กำลังอาย หรือ กำลังเขิน  แค่ทำเลขถูก ทำไมต้องมาอวดทุกรอบ ปอร์เช่นึกแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ หน้ากลมแป้นนั้นยิ้มกว้างขวาง ดุเท่าไหร่ก็ไม่เห็นกลัว ไอ้ที่วูบๆ ตอนได้ยินว่า ไม่ไปดูซ้อม มันคืออะไร แต่ก็ช่างมันเถอะ ซองสีขาวในกระเป๋ากางเกงสำคัญกว่า เขารีบเดินจะได้ถึงบ้านเร็วๆ ยายหน้ากลมจะวาดรูปอะไรมาให้อีกมั้ยนะ

เสียงอะไรดังกุ๊กกิ๊กอยู่ในกระติกน้ำ ปอร์เช่ลืมอะไรไว้ข้างในหรือเปล่า ข้าวตูเปิดดูก็เจอดินสอที่ถูกใช้จนความยาวหายไปเกือบครึ่งแล้ว 2 แท่ง ตลกจัง คิดว่ากระติกเป็นกล่องดินสอหรือไง ดินสอถึงได้มาอยู่ในนี้ ข้าวตูยิ้มให้ตัวเอง ก็ดีแฮะ เอาดินสอไปคืน ก็ได้เจอกันอีก แล้วข้าวตูก็เม้มปาก จะได้ไปคืนวันไหน งานโรงเรียนยาวทั้งอาทิตย์ ข้าวตูไม่ได้ไม่กลัวนะ ดีที่วันนี้ปอร์เช่เดินมาส่ง ไม่งั้น ข้าวตูคงต้องวิ่งกลับบ้านเหมือนทุกที

ข้าวตูถ่ายรูปส่งไลน์ไปให้ปอร์เช่ดูว่าเขาลืมของไว้ในกระติกน้ำ เขาตอบกลับมาว่า ไม่ได้ลืม ให้ เอาไว้วาดรูป ข้าวตูกะพริบตา ก่อนจะเพ่งมองคำตอบนั้นอีก ให้ เหรอ

"กรี๊ดดดดดดดดดด"

"ข้าวตู เป็นอะไรลูก ร้องทำไม" เสียงแม่ร้อนรนอยู่หน้าประตูห้อง ข้าวตูรีบเปิดออกไปบอกว่า ไม่มีอะไร แค่เล่นเกมชนะ ก็เลยดีใจมากไปหน่อย แล้วกลับมานั่งดูดินสอ 2 ด้ามนั้น ดินสอที่ปอร์เช่จับมาแล้วด้วย ข้าวตูรอดูว่าปอร์เช่จะส่งอะไรมาอีกมั้ย แต่เขาก็เงียบไปอีกแล้ว ปอร์เช่ชอบรูปวาดมากกว่าเหรอ อุตส่าห์ตั้งใจแต่งไปให้แท้ๆ

ไปเชียร์เชน แต่เจอวงพีวีพี คนนั้นชื่ออะไรนะ ขึ้นเวทีมาหน้าตาจริงจังยังกับจะไปทำสงคราม แต่พอเต้นแล้วดูดีเวอร์

เจอแล้ว ชื่อปอร์เช่ เวลายิ้มก็หล่อเหมือนกันนะนี่ กดหัวใจให้ทุกรูปแล้วววว

วันนี้เชนไปแข่ง งานเดียวกับปอร์เช่ด้วย เชียร์ใครดีน้าาาาาา

ข้อความในซองสีขาวมีเท่านี้ ยายหน้ากลมเล่าเรื่องเขาให้เขาอ่านเหรอ กดหัวใจให้ ไปกดที่ไหน เขาไม่โพสต์อะไรในเฟสตัวเองมาเป็นปีแล้ว มีก็แต่เพจวง ปอร์เช่รีบกดย้อนดู ข้าวตูมากดหัวใจให้ทุกรูปจริงๆ เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า ยายหน้ากลมเจอดินสอแล้ว ซื่อบื้อตามเคย ถามมาได้ ใครจะไปลืมดินสอไว้ในกระติกน้ำ ตอบกลับไปว่า ไม่ได้ลืม ให้ อ่านแล้วก็หายไปเลย นึกถึงหน้าตามอมแมมตอนเจอที่หน้าบ้าน คงเหนื่อยจริงๆ คงหลับ คงฝัน ฝันดีนะ ปอร์เช่พึมพำกับตัวเองเบาๆ  

ข้าวตูลงทุนตื่นเช้ากว่าเดิม จะได้มีเวลาเอาจดหมายน้อยไปใส่ตู้หน้าบ้านปอร์เช่ ตอนนี้ข้าวตูรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกรุม งานโรงเรียนก็ต้องช่วย การบ้านก็ต้องทำ รายงานก็ต้องส่ง แล้วยังจะสอบอีก ถ้ายังเอาเวลาไปเที่ยวเล่น ข้าวตูสอบตกแน่ๆ งานโชว์เต้นสุดยิ่งใหญ่ ข้าวตูคงได้ดูแต่คลิป คิดแล้วอยากจะร้องไห้ ปอร์เช่ไม่พูดถึงจดหมายน้อยเลย ไม่ถึงมือ ไม่ได้อ่าน หรืออะไรก็ไม่รู้ ข้าวตูเหนื่อยจนไม่อยากคิดแล้ว ปอร์เช่ส่งไลน์รูปพระจันทร์ดวงกลมๆ กำลังแลบลิ้นมาให้ ข้าวตูกำลังหัวฟูอยู่กับรายงาน เลยตอบกลับไปแค่ว่า 555  แล้วตัดใจวางมือถือ

ได้แต่ปลอบใจตัวเองให้แข็งใจไว้ อย่าเพิ่งตุย ปอร์เช่รออยู่  




Create Date : 01 มิถุนายน 2566
Last Update : 1 มิถุนายน 2566 21:07:27 น. 2 comments
Counter : 412 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณ**mp5**

 
 
 
 
อย่าเพิ่งคุย ใช่มั๊ยคะ บรรทัดสุดท้าย
 
 

โดย: หอมกร วันที่: 10 มิถุนายน 2566 เวลา:7:03:39 น.  

 
 
 
คุณหอมกร เราตั้งใจเขียนว่า อย่าเพิ่งตุย ภาษาวัยรุ่น ที่หลายถึง อย่าเพิ่งตายค่ะ ^^
 
 

โดย: วัลยา วันที่: 10 มิถุนายน 2566 เวลา:21:30:30 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วัลยา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add วัลยา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com