... ถนนสายนี้..มีตะพาบ..175 .. (ฉันจะไม่กลัวอะไรอีกแล้ว)
การไปหาหมอฟันน่าจะเป็นปัญหาสำหรับเด็ก ๆ เกือบทุกคนนะคะ เคยเจอเด็กคนนึงวิ่งสวนออกมาจาก ร้านหมอฟัน แม่ของเด็กวิ่งตามมาติด ๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเลยยืนมองสักพักว่าเกิดอะไรขึ้น อ้อ..กลัวการทำฟันนี่เอง เป็นเด็กผู้ชายด้วยร้องไห้ปริ่มว่าจะขาดใจ อายุประมาณ 10 ขวบ คนเป็นแม่ทั้งปลอบทั้งกอดให้กำลังใจกันอยู่นาน เรารอดูต่อไม่ได้เพราะได้เวลานัดแล้ว
ปรกติเราไม่เคยกลัวการทำฟันเลยนะ จะอุด จะถอน หรือการขูดหินปูน เสียวยังไงก็ไม่เคยกลัว กลับชอบซะอีก รู้สึกว่าฟันสะอาดและไม่มีกลิ่นปากให้รำคาญใจ แต่มีอยู่ 2 ครั้ง เริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วสิ
ครั้งแรก..ต้องทำครอบฟันของฟันกรามด้านบนขวา ของเก่าที่ทำมาจากไทยแตกชำรุด จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ ก็ชิลล์ ๆ นะ เพราะทำจากไทยก็สบาย ๆ แต่พอถึงเวลาต้องพิมพ์ฟัน อ้าว ต้องพิมพ์ทั้งปากเลย ก่อนนู้นพิมพ์แค่ด้านเดียว ครั้งนี้ผู้ช่วยหมอเป็นผู้พิมพ์ฟันให้ มือเบา นุ่มนวล ใช้ได้เลยล่ะค่ะ แต่เรามีปัญหาเพราะก่อนหน้านี้เป็นหวัดการหายใจไม่สะดวก แล้วต้องมาพิมพ์ฟัน ใส่เครื่องมือเข้าไปแล้วค้างไว้ 4 นาที จึงจะเอาออกได้ โอย.ทรมานต่อการหายใจมาก แต่ก็ยังไม่เท่าไรนะคะ
ครั้งที่สอง..ครั้งนี้แหละที่สุด ๆ เหมือนจะตายและหมดลมหายใจไปแล้ว ครั้งนี้ฟันกรามด้านล่างซ้าย เหมือนเคี้ยวแล้วเจ็บและย้ำแรงไม่ได้ เหงือกบวมตลอด หมอฟันเอ็กซเรย์แล้วบอกว่า ก่อนครอบฟันหมอฟันอุดฟันให้ไม่ดี อุดไม่ทั่วทำให้มีหินปูนลงไปเกาะ พอเคี้ยวอาหารแล้วกดลงเหงือก ทำให้บวมและเจ็บ ครอบฟันทั้ง 2 ข้างทำมาจากไทยค่ะ แล้วก็ต้องมาซ่อมโดยหมอเยอรมัน แต่หมอเยอรมันชมนะว่าหมอฟันไทยครอบฟันได้สวย
ก็ต้องรื้อที่ครอบฟันออก และทำการอุดฟันใหม่ พอใกล้เวลาที่จะพิมพ์ฟันก็พยายาม ไม่ให้เป็นหวัด และครั้งนี้ก็ไม่เป็นหวัด หายใจสะดวกโล่งสบาย คิดไว้ว่าครั้งนี้คงไม่เป็นปัญหา แต่ปัญหามันก็มีจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ครั้งนี้หมอฟันเป็นคนใส่เครื่องมือพิมพ์ฟันด้วยตัวเอง และใส่เข้าไปลึกมาก เหมือนจะปิดหลอดลม และต้องค้างอยู่แบบนั้น 4 นาที แต่ผ่านไปนาทีเดียว เราก็เริ่ม คร่อก คร่อก แล้ว เหมือนจะหมดลมหายใจ ยกมือยกไม้ บอกผู้ช่วยหมอที่กดคางเราอยู่ เธอก็ขยับมือของเธอออกให้เรานิดนึง แต่เราพูดไม่ได้ไง แต่ก็พยายามเอาลมเข้าปากเยอะ ๆ และขยับขาไขว้ไปไขว้มา ความรู้สึกตอนนั้นรู้เลยว่า คนใกล้หมดลมหายใจเป็นเช่นไร
พอเอาเครื่องมือพิมพ์ฟันออก เรารีบสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด รอดแล้วเรา ช้าอีกนิดแย่แน่ ๆ เลย
นี่ไง พิมพ์ฟันออกมาแล้วจะได้แบบนี้แหละค่ะ เมื่อทำฟันเสร็จสิ้น หมอก็จะให้มาเป็นที่ระลึก เห็นที่ไรก็ระทึกทุกทีอะ บอกตัวเองว่า ฉันจะไม่กลัวอะไรอีกแล้ว นอกจาก "หมอฟัน"
คุณหมอขาาาาาาา หมอจะรู้มั้ยว่าฉันไม่เคยกลัวการอุด ขูด ฉีด เลยนะ ฉันกลัวการพิมพ์ฟันนี่แหละ แล้วก็ให้นึกถึงเด็กคนนั้นที่วิ่งสวนออกมาจากร้านหมอฟัน คงกลัวสุด ๆ จริง ๆ แต่ถ้าเด็กคนนั้นผ่านหมอฟันมาได้ ก็ไม่น่าจะกลัวอะไรอีกแล้วนะ จริงจริ๊ง
Create Date : 30 มีนาคม 2560 |
Last Update : 30 มีนาคม 2560 3:19:16 น. |
|
34 comments
|
Counter : 3455 Pageviews. |
|
|
เข้าใจอาการนี้เลยนะครับ เพราะสมัยก่อนเป็นภุมิแพ้ จมุกจะตัน ตลอดเวลา ต้องหายใจทางปาก
ถ้าใครมาอุดปากนานๆนี่ จะออกอาการทันที
แต่ที่อ.เต๊ะกลัวนี่ คือการฉีดยาชา ก่อนจะทำฟัน
ยิ่งเห็นเข็มยาวๆใหญ่ๆนี่จะเป็นลมซะให้ได้เลยเชียว 555
ส่วนอาการตอนที่น้องตอง กำลังพงาบๆ เพราะขาดอากาศนี่ ถ้าเป็น อ.เต๊ะ ละก็ รับรองหมอฟันหรือผู้ช่วยต้องโดนถีบ เอ๊ย ยันกระเด็นไปติดข้างฝาแน่ๆ เพราะ เราต้องเอาชีวิตรอดไว้ก่อน555
แต่ที่น่ากลัวกว่า ขั้นตอนการทำฟันทุกอย่างก็คือ ตอนไปจ่ายสตางค์ เพราะบิลออกมาแต่ละที นี่
เห็นบิลปุ๊บ ต้องมีอาการ หน้าซีดใจหายวาบ หน้ามืดมือสั่น จะเป็นลม ทุกครั้งเลยทีเดียวเชียวจ๊ะ 555