นางจิรฐา มีผิว ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรปลายคลอง         มังคุด ได้ถูกขนานนามว่าเป็นราชินีของผลไม้ จากสรรพคุณทางยาที่มีดีมากกว่าความอร่อย แต่ราคาขายกลับตกต่ำ ไม่สร้างกำไรให้ให้ชาวสวนเท่าที่ควร ทำให้ต้องหันมาพึ่งพาการแปรรูปเพิ่มมูลค่า ล่าสุดชาวบ้านปิ๊งไอเดียนำมังคุดมาทำเป็น “น้ำพริกเผา” เติมคุณค่าด้านสุขภาพ ยกระดับรายได้ชาวสวนเมืองจันท์                การรวมตัวของ “กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรปลายคลอง” จังหวัดจันทบุรี โดยมี 'นางจิรฐา มีผิว' เป็นประธานกลุ่มฯ ได้ร่วมกันคิดค้นหากรรมวิธีเพิ่มมูลค่ามังคุดในช่วงฤดูกาล ที่มักเกิดปัญหาผลผลิตล้นตลาดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งคงเป็นธรรมดาของชาวสวนทั่วไปที่ต้องปรับตัว แต่สำหรับประธานกลุ่มฯ กลับมีแนวคิดที่แตกต่างออกไป ด้วยการนำมังคุดมาแปรรูปให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในเมนูอาหารที่ผู้คนคุ้นเคยเป็นอย่างดี อย่าง น้ำพริกเผา สู่ “น้ำพริกเผามังคุด” น้ำพริกเผามังคุด          โดยเธอย้อนที่มาของไอเดียธุรกิจนี้ให้ฟังว่า จากลูกชาวสวนมังคุดและทุเรียน ที่ครอบครัวยึดอาชีพนี้มาหลายชั่วอายุคน กระทั่งราคาทุเรียนตกต่ำเมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว ราคาตกไปอยู่ที่ 20 บาท/กิโลกรัม (ราคาหน้าสวน) และทุเรียนลูกใหญ่เกินไปก็ขายไม่ได้ พ่อค้าคนกลางไม่รับซื้อ จึงคิดนำไปแปรรูปเป็นทุเรียนทอดกรอบ ด้วยการรวมกลุ่มชาวบ้านในละแวกบ้านที่มีสวนทุเรียน และประสบปัญหาเดียวกัน ตั้งเป็นกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรปลายคลอง ต.คนบาง อ.เมือง จ.จันทบุรี เพื่อของบประมาณจากสำนักงานเกษตรประจำจังหวัด ซื้อเครื่องจักรสำหรับแปรรูปทุเรียนเป็นทุเรียนทอดและทุเรียนกวน                แต่ต่อมาปัญหานี้ก็เกิดขึ้นกับมังคุดอีก ก็ต้องนำมาแปรรูปเช่นกัน ทำเป็นมังคุดกวน ประกอบกับที่บ้านของนางจิรฐา ได้เปิดเป็นสวนผลไม้บุฟเฟ่ต์ผลไม้ ที่รู้จักกันในชื่อ “สวนคุณยายทุเรียน 200 ปี” จึงแปรรูปเป็นน้ำมังคุด เสิร์ฟให้ลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมสวน โดยนำเนื้อและเมล็ดมังคุดมาปั่นรวมกัน กรองละเอียด ทำให้เหลือกากใยของเนื้อมังคุด ที่ยังมีประโยชน์ จากสารแซนโท จึงเกิดความคิดจะนำมาทำอะไรดี          โดยได้ไปปรึกษากับอาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำน้ำพริกสอนให้แก่นักศึกษา จึงนำไอเดียกากน้ำมังคุดไปนำเสนอ เพื่อนำมาลองทำเป็นน้ำพริกบ้าง ซึ่งอาจารย์ก็ไม่เคยทำมาก่อน แต่ก็พร้อมลองผิดลองถูกไปกับชาวบ้านที่ใช้เวลาร่วมกันนานกว่า 1 ปี                ปัญหาที่พบในช่วงแรก คือ การกระบวนการผลิตที่ยังไม่สามารถทำให้การเก็บรักษาให้อยู่ในสภาพเดิมได้ยาวนาน มักจะพบปัญหาการขึ้นรา ก่อนถึงกำหนดวันหมดอายุ แต่ปัจจุบันสามารถเก็บได้นาน 2 เดือน (นอกตู้เย็น) ส่วนเก็บในตู้เย็นจะได้นานประมาณ 2-3 เดือน         กรรมวิธีรการผลิต คือ นำหอมแดง กระเทียม น้ำมะขามเปียก มาทำให้สุก จากนั้นนำเนื้อมังคุดและเมล็ดที่ปั่นจนละเอียด มารวนในกระทะให้แห้งเหนียว ผสมพริก ส่วนขวดแก้ว ก็จะต้องนำไปต้มในน้ำเดือด ก่อนนำไปบรรจุน้ำพริกเผามังคุด ปิดฝาให้สนิท และนำขวดไปนึ่งอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นน้ำไปใส่ลงในน้ำเย็นทันที เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรค ทำให้ได้ “น้ำพริกเผามังคุด” เจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย                จากจุดเด่นในเรื่องของรสชาติที่กลมกล่อม เผ็ดปานกลาง ทำให้ถูกปากคนกรุง พิสูจน์ได้จากการจำหน่ายครั้งแรกในงาน “Organic and Natural Expo 2015” เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำจำหน่ายเพียง 200 กระปุกเพื่อทดลองตลาด สินค้ากลับขายดีหมดก่อนงานเลิก ทำให้เธอเห็นโอกาสเติบโตในผลิตภัณฑ์นี้ ที่เน้นสร้างจุดเด่นจากน้ำพริกเผาธรรมดา ด้วยการใส่เนื้อและเมล็ดมังคุดเข้าไป ทำให้มีสารแซนโทน (Xanthone) กว่า 40 ชนิด ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี โดยขายในราคากระปุกละ 60 บาท (ราคาขายปลีก) ส่วนทุเรียนทอดอยู่ที่กิโลกรัมละ 800 บาท และมังคุดกวนกับสละกวน อยู่ที่ 250 บาท/กิโลกรัม ส่วนผสมต่างๆ ในน้ำพริกเผามังคุด         การนำมังคุดมาแปรรูปถือเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหาร กับ 'น้ำพริกเผามังคุด' ปรากฏการณ์แรกในไทยที่รังสรรค์เมนูนี้ออกมาได้สำเร็จ แถมยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้มังคุดหลายเท่าตัว ชาวสวนมีทางเลือกใหม่ในการเพิ่มรายได้ เรียกว่าได้ประโยชน์ทั้งฝ่ายชาวสวนและผู้บริโภค...                ***สนใจติดต่อกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรปลายคลอง เลขที่ 9/4 ม.7 ต.คมบาง อ.เมือง จ.จันทบุรี โทร.08-6827-2004***

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์โสรวารค่ะ

Create Date : 29 สิงหาคม 2558
Last Update : 29 สิงหาคม 2558 11:53:58 น.		0 comments
Counter : 1598 Pageviews.
Share Tweet