บรรยากาศชวนนั่ง ภายในร้าน “Capanna”

การจะออกนอกบ้านไปกินอาหารสักมื้อ สำหรับนักกินคนอื่นๆ “ตระเวนกิน” ไม่รู้ว่ามีเกณฑ์การตัดสินใจแบบไหน แต่สำหรับเราแล้วการเลือกที่จะไปกินข้าวที่ร้านอาหารไหนสักแห่ง นอกจากอาหารที่อยากไปกินต้องอร่อยถูกปากแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องถูกใจด้วยก็คือบรรยากาศของร้านอาหารที่จะไปว่าตกแต่งชวนนั่งพียงใด

โซนโต๊ะนั่งสบายๆ

อย่างที่ในมื้อนี้เราได้ออกมาตระเวนกินอาหารมื้ออร่อยกันที่ร้านนี้ “Capanna Bar & Restaurant” เป็นร้านอาหารที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้ครบครัน มาถึงร้านแล้วให้ความรู้สึกเหมือนมานั่งกินข้าวในบ้าน ตกแต่งสไตล์มินิลอฟต์ ฝาผนังเป็นปูนเปลือยขัดมันเก๋ๆ มีโต๊ะให้เลือกนั่งในมุมที่หลากหลายตามชอบใจ แถมยังมีโต๊ะพูลให้บริการเล่นฟรีด้วย และด้านนอกก็จัดเป็นสวนเล็กๆ มีโต๊ะให้นั่งสบายๆ รับลมธรรมชาติเย็นๆ

คุณไพสิฐ เครือแก้ว ณ ลำพูน เจ้าของร้านและเป็นเชฟด้วย

นั่นคือส่วนของบรรยากาศที่ชวนนั่ง ส่วนเรื่องอาหารของที่นี่ก็ชวนกินไม่แพ้กัน โดยร้านนี้คุณไพสิฐ เครือแก้ว ณ ลำพูน หรือพี่จุก เป็นทั้งเจ้าของร้าน และเป็นเชฟฝีมือเยี่ยม ที่มีประสบการณ์ด้านการทำอาหารมากกว่า 10 ปี เป็นผู้คิดค้นสูตรอาหารต่างๆ ที่มีในร้าน อาหารของที่นี่มีทั้งอาหารอิตาเลียน อาหารไทย และมีอาหารสไตล์ฟิวชั่นที่ทางเชฟที่รังสรรค์สูตรขึ้นมาเป็นพิเศษ และเน้นเรื่องการคัดสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ มีความสด สะอาด เพื่อนำมาปรุงเป็นเมนูจานเด็ดที่ชวนชิมซึ่งมีเมนูเป็น 100 รายการให้เลือกสั่งมาลิ้มลองกัน

พัฟชีสแอนด์เบคอน

 มื้อนี้เราเลือกเมนูจานเด่นของที่นี่มาลิ้มรสมากมาย เริ่มด้วยจานแรก พัฟชีสแอนด์เบคอน (120 บาท) แป้งพัฟเชฟทำเองข้างในสอดไส้เบคอน กับพาเมซานชีสและมอสซาเรลลาชีส แล้วนำมาทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ กินแล้วสัมผัสได้ถึงความบางกรอบของแป้งพัฟ เนื้อในนุ่มๆ ชีสยืดถูกปากเข้ากับเบคอนรสดี และมีมายองเนสให้จิ้มกินเข้ากัน

กุ้งอบซอสพริก

จานที่สอง คือ กุ้งอบซอสพริก (180 บาท) เป็นอาหารแนวฟิวชั่น ที่เชฟทำซอสพริกสูตรพิเศษขึ้นมาตามสูตรเฉพาะแบบเข้มข้น ใส่กุ้ง และครีมชีสด้วย และก่อนเสิร์ฟจะใส่ชีสอีกทีแล้วอบเสิร์ฟมาร้อนๆ ชีสละลายเยิ้มๆ กินคู่กับครัวซองย่างทาเนยและสมุนไพรที่เชฟทำเองอีกเช่นกัน ลิ้มรสแล้วต้องขอยกนิ้วให้ครัวซองหอมๆ นุ่มๆ จุ่มน้ำซอสพริกส่งเข้าปาก ได้รสชาติความอร่อยเข้มข้นของซอสพริก และชีสที่ละลายนุ่มๆ ถูกปากดีแท้

หอยโข่งฝรั่งเศสอบเนยกระเทียมชีส

ตามติดมาด้วยเมนูนี้ หอยโข่งฝรั่งเศสอบเนยกระเทียมชีส (250 บาท) เชฟนำหอยโข่งที่นำเข้ามาจากฝรั่งเศส นำมาอบกับชีส 3 อย่าง มีมอสซาเรลลาชีส พาเมซานชีส และสวีสชีส และผัดคลุกเคล้ากับเครื่องเทศฝรั่งเศสหลายอย่าง แล้วอบเสิร์ฟมาร้อนๆ ชิมหอยโข่งเคี้ยวเด้งกรึบเต็มปากเต็มคำ หอยหวานเข้ากับชีสนุ่มยืดและหอมเครื่องเทศขึ้นจมูก กินกับครัวซองย่างอร่อยเข้ากันดีจริง

สปาเก็ตตี้ไส้กรอกเยอรมันผัดพริกสด

 แล้วมาชิมเมนูจานเส้น สปาเก็ตตี้ไส้กรอกเยอรมันผัดพริกสด (140 บาท) เป็นสปาเก็ตตี้ผัดกับเครื่องเทศ พริกขี้หนู และพริกแห้ง ใส่ไส้กรอกเยอรมันแท้ๆ ผัดมาแบบแห้งๆ ม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากเคี้ยวเส้นนุ่มเด้งได้รสชาติพริกที่เผ็ดจัดจ้าน ไส้กรอกเคี้ยวนุ่มเด้งอร่อยโดนใจ

ซี่โครงหมูอบซอสแอปเปิ้ล

ต่อด้วยเมนูจานเด็ด ซี่โครงหมูอบซอสแอปเปิ้ล (450 บาท) ที่เชฟคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง ใช้แอปเปิ้ลแดงวอชิงตันเท่านั้น เพราะมีความหวานมาก น้ำตาลในแอปเปิ้ลวอชิงตัน จะทำให้เนื้อซี่โครงหมูนุ่ม และใช้เครื่องเทศต่างๆ กว่า 10 อย่างมาปั่นรวมกันเป็นซอส แล้วนำซี่โครงหมูชิ้นใหญ่มาหมักกับซอสนาน 1 คืน แล้วจึงนำมาอบอีก 3 ชม. และทิ้งไว้อีก 1 คืนให้น้ำซอสซึมเข้าถึงเนื้อซี่โครง ก่อนเสิร์ฟจะราดด้วยซอสแอปเปิ้ลอีกที แล่ชิ้นซี่โครงแล้วขอยกนิ้วให้ในความเปื่อยนุ่มร่อนของเนื้อซี่โครง กินแล้วเนื้อนุ่มฉ่ำซอสแอปเปิ้ลที่หวานหอมกลมกล่อมจริงๆ

พิซซ่าไส้กรอกรวม

และถ้าชอบพิซซ่าต้องสั่ง พิซซ่าไส้กรอกรวม (300 บาท) เป็นพิซซ่าโฮมเมดสไตล์อิตาเลียน ที่เชฟทำแป้งพิซซ่าแบบหนานุ่มกรอบกำลังดี ความพิเศษอยู่ที่ใส่ไส้กรอกเยอรมันแท้ๆ ถึง 3 ชนิดมาแบบจัดเต็ม ชิมพิซซ่าแป้งหนานุ่ม ขอบบางกรอบกำลังดี เคี้ยวเต็มปากเต็มคำกับไส้กรอกรสดีโดนใจมากๆ

บลูเบอร์รี่โยเกิร์ตไอศกรีม

กินของคาวไปหลายอย่าง มาล้างปากด้วยของหวานกันดีกว่า นำเสนอ บลูเบอร์รี่โยเกิร์ตไอศกรีม (160 บาท) หน้าตาชวนกิน เชฟนำโยเกิร์ตมาทำเป็นไอศกรีมผสมกับบลูเบอร์รี่ กินไอศกรีมโยเกิร์ตหอมหวานบลูเบอร์รี่เย็นชื่นใจ

เฮเซลนัทเจลาโต้

อีกหนึ่งของหวานที่ชวนกินไม่แพ้กัน คือ เฮเซลนัทเจลาโต้ (160 บาท) เป็นไอศกรีมเจลาโต้สอดไส้เฮเซลนัทครีม เวลากินต้องผ่าไอศกรีมออกมา กินแล้วไอศกรีมหอมกลิ่นเฮเซลนัทรสหวานนุ่มละมุนเย็นๆ โดนใจ

โต๊ะนั่งด้านนอกรับลมธรรมชาติ

แม้ว่าเราจะกินอาหารคาว-หวานไปแล้วหลายอย่างจนอิ่มแน่นท้อง แต่ก็เห็นว่ายังมีเมนูจานเด่นอื่นๆ ที่ชวนลิ้มรสอีกมากมาย อาทิ ซีฟู้ดกราแตง (250 บาท) ซี่โครงแกะนิวซีแลนด์ย่าง (550 บาท) หอยลายอบกระเทียม (150 บาท) เซอร์ลอยสเต็ก (450 บาท) ฯลฯ แต่เห็นทีว่าคงต้องขอฝากเอาไว้มื้อหน้า เพราะว่ามื้อนี้อิ่มท้องสุดๆ กับอาหารอร่อยๆ ของร้าน “Capanna” หากว่าแฟนๆ นักกินคนไหนอยากจะมาอิ่มท้องแบบเราบ้าง ก็รีบขับรถตามมากินกันนะจ๊ะ

“Capanna Bar & Restaurant” ตั้งอยู่ที่ 55/76 หมู่ 1 ถ.ราชพฤกษ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี การเดินทางจากถ.แจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าไปทางปากเกร็ด ข้ามสะพานพระราม 4 ตรง เข้าถ.ราชพฤกษ์ ผ่านโรงเบียร์ฮอลแลนด์ เลยร้านแมคโดนัลด์ประมาณ 100 ม. จะเห็นร้าน Capanna อยู่ทางซ้ายมือด้านข้างสะพานข้ามคลองบางบัวทอง มีป้ายร้านให้เห็น เปิดอังคาร-ศุกร์ เวลา 16.30 - 24.00 น. (ครัวปิด 22.30 น.) เสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00 - 24.00 น. (ครัวปิด 22.30 น.) ปิดวันจันทร์ โทร. 0-2101-4959 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/capanna2014

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

คุณ"ตระเวนกิน"

สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ