นายกฯหลี่ เค่อเฉียง กำลังฟังรัฐมนตรีว่าการคลังแห่งอังกฤษ จอร์จ ออสบอร์น ขณะปราศรัยแก่ผู้แทนในที่ประชุมว่าด้วยการเงินการคลังอังกฤษ-จีน ขณะกล่าวปราศรัยที่สภาธุรกิจจีน-อังกฤษ ณ แลนเคสเตอร์ เฮาส์ กรุงลอนดอน วันที่ 18 มิ.ย.2557 (ภาพ รอยเตอร์ส)

เอเจนซี— “จีนชิง “บัลลังก์มหาอำนาจโลก” จากอังกฤษแล้ว” สื่อทางการจีนระบุด้วยท่าทีเย้ยหยันหลังจากที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงเป็นสักขีพยานการลงนามสัญญาการค้าในกรุงลอนดอน ซึ่งจีนจะได้ยืดอกเข้าลงทุนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงและเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในแดนผู้ดี

       “ในขณะนี้ความแข็งแกร่งของชาติอังกฤษไม่อาจเทียบชั้นกับจีนได้แล้ว ความจริงที่ชาวแดนผู้ดีผู้เจ้ายศเจ้าอย่างบางกลุ่ม มิอาจยอมรับได้” คือ ข้อความในย่อหน้าหนึ่งของบทบรรณาธิการ โกลบอล ไทม์ส ฉบับวันนี้(18 มิ.ย.)

       “ประชาคมจีนจัดการกับความสัมพันธ์ ชิโน-สหราชอาณาจักร อย่างผ่อนคลายมากขึ้นๆ ขณะที่อังกฤษไม่เข้มแข็งเท่า” โกลบอล ไทม์ส ระบุในขณะที่นายกฯหลี่เยือนอังกฤษวันสุดท้าย

       ทั้งนี้ โกลบอล ไทม์ส (Global Times) เป็นสื่อในเครือหนังสือพิมพ์ประชาชน หรือ พีเพิล เดลี่ กระบอกเสียงพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งมักเผยซุ่มเสียงนักชาตินิยมให้เห็นบ่อยๆ

       นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอนประกาศเมื่อวานนี้(17 มิ.ย.) ว่าอังกฤษและจีนได้ลงนามในสัญญาการค้าหลายฉบับ รวมมูลค่า 14,000 ล้านปอนด์ หรือ ราว 8 แสนล้านบาท โดยมีสัญญาฉบับไฮไลท์ คือ จีนจะได้เข้าลงทุนเครือข่ายรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมเมืองต่างๆทางภาคเหนือของอังกฤษ และโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ อันรวมทั้งการนำเข้าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์จีน

       แนวโน้มการลงทุนของจีนสะท้อนชัดถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกผันของจีน จีนก้าวหน้าไปไกลแค่ไหน จากช่วงไม่กี่สิบปีที่แล้วที่ยังเป็นชาติเศรษฐกิจล้าหลัง มาถึงวันนี้ได้กลายเป็นผู้ส่งออกสินค้าเทคโนโลยีชั้นสูงไปยังชาติที่เคยเป็นหัวหอกการปฏิวัติอุตสาหกรรม

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ แห่งอังกฤษ ทรงต้อนรับ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง และภริยา เฉิง หง ที่พระราชวังวินด์เซอร์ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2557 สื่อแดนผู้ดี The Times ปูดออกมาว่า ผู้นำจีนได้ยื่นเงื่อนไขแก่อังกฤษให้จัดกำหนดการพบปะระหว่างนายกฯหลี่กับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ พร้อมคำขู่ “จะยกเลิกทุกอย่าง” (ภาพ รอยเตอร์ส)

“จีนเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุด ขณะที่อังกฤษเป็นชาติอุตสาหกรรมชั้นนำชาติแรก ดังนั้นความร่วมมือระหว่างทั้งสองไม่เพียงแต่ยังผลประโยชน์แก่พวกเขาเอง ยังเป็นคุณูปการแก่โลกอีกด้วย” สำนักข่าวซินหวา อ้างคำกล่าวของนายกฯหลี่

       สัญญาการค้าที่น่าสนใจฉบับอื่นๆ ได้แก่ ยักษ์ใหญ่ปิโตรเลียมแห่งอังกฤษ คือ BP บอกว่าจะมีการลงนามสัญญา มูลค่าราว 20,000 ล้านปอนด์ เพื่อป้อนก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ให้แก่จีน นอกจากนี้ ยักษ์ใหญ่พลังงานตราหอย รอยัลดัตช์เชลล์ (Royal Dutch Shell) ก็ยังได้จรดหมึกในข้อตกลงความร่วมมืออย่างครอบคลุมกับยักษ์ใหญ่พลังงานจีน คือ ซีนุก (CNOOC)

       ก่อนหน้านี้ หลี่ และคาเมรอน พยายามจับเขาคุยเรื่องการซ่อมแซมสัมพันธภาพสองชาติที่บูดเน่าเนื่องจากความบาดหมางกรณีทิเบต แต่ก็สะดุดตอในสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อสื่อแดนผู้ดี The Times ปูดออกมาว่า ผู้นำจีนได้ยื่นเงื่อนไขแก่อังกฤษให้จัดกำหนดการพบปะระหว่างนายกฯหลี่กับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ พร้อมคำขู่ “จะยกเลิกทุกอย่าง”

       ด้านโกลบอล ไทม์ส ปฏิเสธรายงานข่าวชิ้นนี้ พร้อมศอกกลับไปว่า เป็นรายงานใส่สีตีไข่ของพวกสื่อใจแคบในอังกฤษ และกระทั่งสังคมเมืองผู้ดีทั้งหมดด้วยซ้ำ
       “จักรวรรดิอังกฤษที่เคยครองมหาอำนาจโลก ในขณะนี้กลับต้องมาเล่นเล่ห์เพทุบายเพื่อโชว์ความภาคภูมิของตัว

       “บางทีประชาชนจีนอาจให้อภัยแก่ความสับสนของอังกฤษ ชาติที่กำลังเรืองอำนาจควรเข้าใจความอับอายของจักรวรรดิเก่าที่ตกอับ และอาการเพี้ยนในปรากฏในขณะนี้ ก็เพื่อท่จะปกปิดความอดสูที่ว่า ” กระบอกเสียงพรรคฯแดนมังกรว่า

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ