บรรยากาศภายในร้าน “La Baguette”

กลิ่นหอมๆ ของขนมปังโชยเข้ามาเตะจมูก “ตระเวนกิน” เข้าอย่างจัง ในขณะที่เรากำลังเดินชอปปิ้งอย่างเพลิดเพลิน อยู่ที่ห้างเอ็ม ควอเทียร์ ครั้นพอเหลียวหลังและเดินไปตามกลิ่นเนยหอมๆ ไป เราก็ได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านคาเฟ๋เก๋ๆ ที่มีชื่อว่า “La Baguette” (ลาบาเก๊ตต์) ซึ่งถ้าใครเป็นคอเบเกอรี่ตัวยงและเคยเดินทางไปเที่ยวที่พัทยา เชื่อแน่ว่าต้องรู้จักกับร้านนี้เป็นอย่างดี

โต๊ะนั่งสบายๆ ภายในร้าน “La Baguette”

เพราะว่าร้าน “La Baguette” นี้เป็นร้านเบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศสชื่อดังของเมืองพัทยา ซึ่งเปิดมานานกว่า 17 ปี แล้ว เรียกได้ว่าเป็นร้านของคนรักขนมอบในเมืองพัทยา ที่สาขานาเกลือและเขาพระตำหนัก โดยคุณจ๋า อลิสา พันธุศักดิ์ อยากให้คนไทยได้ลิ้ม ลองความหอมนุ่มหวานละมุนของเมนูขนมหวานหลากหลายรสชาติสไตล์ฝรั่งเศสขนานแท้ แล้วก็ได้ขยายสาขาเดินทางจากเมืองชายทะเล มาเปิดร้านใหม่อีกสาขาอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ห้างเอ็ม ควอเทียร์ สุขุมวิท เพื่อให้สาวกเบเกอรี่ที่พิสมัยความหอมนุ่มละมุนของเมนูขนมสไตล์ฝรั่งเศสได้อิ่มเอมกันอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเดินทางไกล

       “ตระเวนกิน” เดินเข้ามาในร้านก็สัมผัสได้กับบรรยากาศร้านที่ถูกตกแต่งเป็นคาเฟ่ที่ชวนนั่ง ดูหรูหรา แฝงไว้ด้วยความอบอุ่น ชวนให้นั่งแบบผ่อนคลาย มีโต๊ะให้เลือกนั่งในมุมสบายๆ ตามชอบใจ และในร้านก็มีตู้โชว์ขนมปังต่างๆ ที่ส่งกลิ่นหอมๆ ยั่วน้ำลาย และก็มีตู้เค้กที่มีเค้กหลายหลากชนิดที่หน้าตาเค้กแต่ละอย่างล้วนแล้วแต่ชวนลิ้มรสทั้งนั้นเลย

สารพัดเค้กที่ชวนกิน

ร้าน “La Baguette” นี้จะทำเบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศสแบบสดใหม่ทุกวัน จากฝีมือช่างทำขนมอบฝีมือเยี่ยม และเน้นเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเกรดพรีเมี่ยมมาทำเบเกอรี่ต่างๆ โดยจะมีเบเกอรี่ต่างๆ ทำออกมากว่า 30 อย่างในแต่ละวันให้ได้เลือกลิ้มลองตามชอบใจ และก็จะมีเมนูหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ รวมถึงยังมีเครื่องดื่มให้บริการ และมีเมนูอาหารคาวอย่างเครปสไตล์ฝรั่งเศส ซุป สลัดให้ได้เลือกลองลิ้มกันด้วย

Almond Croissant

 มื้อนี้เราก็ขอเลือกเมนูเบเกอรี่เด่นๆ ของทางร้านมาชิมกันอยู่หลายอย่าง ประเดิมด้วยเมนูชูโรงที่ถ้ามาที่ร้านนี้แล้วต้องสั่งมากินให้ได้เลย นั่นก็คือ Almond Croissant (80 บาท++) เป็นครัวซองต์สไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ ชิ้นใหญ่มาก มีความพิเศษตรงที่โรยหน้าด้วยอัลมอนด์ อบเสิร์ฟมาร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย กินแล้วขอยกนิ้วให้ในความอร่อยถูกปาก ตรงที่มีความกรอบของหน้าอัลมอนด์เคี้ยวมัน และเนื้อครัวซองต์ข้างในนุ่มเนียนละมุนลิ้นมากๆ

La Baguette Cake

ต่อด้วยเมนูเค้กตัวเด่นอย่าง La Baguette Cake (125 บาท++) เป็นเค้กมูสช็อกโกแลตที่ทำมาจากดาร์กช็อกโกแลตที่เลือกเฟ้นมาอย่างดี ข้างในเค้กแบ่งเป็นชั้นๆ ด้านล่างสุดเป็นบิสกิต ชั้นถัดมาเป็นถั่ว และชั้นบนเป็นมูสช็อกโกแลต แล้วเคลือบด้วยช็อกโกแลตอีกที ใครชอบกินช็อกโกแลตแนะนำว่าไม่ควรพลาด เพราะจะถูกปากกับมูสช็อกโกแลตเนื้อเนียนเบานุ่ม หวานหอมละมุนโดนใจ

Caramel Passion

 อีกหนึ่งเมนูเค้กที่ชวนให้ลิ้มรสคือ Caramel Passion (115 บาท++) เป็นเค้กคาราเมลสีสันสดใส ตัวเค้กแบ่งรสชาติเป็นชั้นๆ มีชั้นเค้กคาราเมล ถัดมาเป็นคาราเมลมูส และชั้นบนเป็นเสาวรสเจลลี่ แต่งด้วยวิปครีม สตรอเบอร์รี่และไวท์ชอคโกแลต เวลากินแนะนำว่าควรตักทั้งคำให้ได้ทุกชั้น แล้วจะสัมผัสได้ถึงความเนียนนุ่มละมุนหวานกำลังดีของเค้กคาราเมลและตัดเลี่ยนด้วยความเปรี้ยวนิดๆ ของเจลลี่เสาวรส

A La Mode Waffle

แล้วมากินวาฟเฟิลของที่นี่กันบ้าง ซึ่งที่นี่จะทำวาฟเฟิลแบบสดใหม่ ที่เราสั่งมาชิมคือ A La Mode Waffle (225 บาท++) เสิร์ฟมาร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมๆ ของวาฟเฟิลมาแต่ไกล เป็นวาฟเฟิลทำสด แล้วตกแต่งหน้าด้วยผลไม้สดต่างๆ และมีไอศกรีมรสวนิลาใส่มาด้วย (สามารถเลือกรสไอศกรีมรสอื่นได้) ราดด้วยไวท์ช็อกโกแลตอีกที ลิ้มรสวาฟเฟิลหอมๆ กรอบนอกนุ่มใน กินเข้ากันดีกับผลไม้สดชื่นปาก และไอศกรีมเย็นชื่นใจ

Croissant Croque Monsieur

จากนั้นมาชิมอีกหนึ่งเมนูครัวซองต์ขายดีอย่าง Croissant Croque Monsieur (260 บาท++) เป็นครัวซองต์สอดไส้แฮมชิ้นใหญ่ โป๊ะหน้าด้วยสวิสชีสด้วย เข้าอบเสิร์ฟมาร้อนๆ กินแล้วชีสยืดนุ่มโดนใจ ครัวซองค์เนื้อนุ่มละมุนเข้ากับแฮมรสดี และมีสลัดผักมาให้กินเคียงด้วย

Hot Green Tea Latte

 กินแต่เบเกอรี่ก็เกรงว่าจะฝืดคอเกินไป เลยต้องขอสั่งเครื่องดื่มมาดื่มให้ชุ่มชื่นคอกันด้วย ที่สั่งมาคือ Hot Green Tea Latte (105 บาท++) เครื่องดื่มสีสวย เป็นชาเขียวลาเต้ชงแบบร้อน ด้านบนท็อปด้วยโฟมนม และมีผลึกน้ำตาลแท่งมาให้คนเพิ่มความหวานตามชอบ ยกดื่มแล้วสัมผัสได้ถึงความหอมของชาเขียวออกหวานกลมกล่อมกำลังดี ดื่มแล้วชุ่มชื่นโล่งคอดีจริง

มุมโต๊ะนั่งสบายๆ

 แม้ว่าเราจะอิ่มเอมกับเบเกอรี่หอมหวานนุ่มละมุนไปเยอะจนอิ่มแน่นท้องแล้ว แต่อยากจะบอกว่ายังมีเมนูเด่นๆ อย่างอื่นอีกมากมายเลยที่ชวนให้ลิ้มรส อาทิ Caesar Salad (230 บาท++) Smoked Salmon (340 บาท++) Chocolate Laver (220 บาท++) Orange Latte (ร้อน 105 บาท++ เย็น 125 บาท++) ฯลฯ ซึ่งถ้าหากว่ามิตรรักนักกินคนไหนเป็นสาวกเบเกอรี่ ขอแนะนำว่าให้มาที่ร้าน “La Baguette” แห่งนี้ แล้วจะได้อิ่มเอมกับเบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ อันหลายหลากแบบหนำใจอย่างแน่นอน

“La Baguette” (ลาบาเก๊ตต์) ตั้งอยู่ที่ชั้น G อาคาร The Glass Quartier ศูนย์การค้าเอ็ม ควอเทียร์ การเดินทางถ้านั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสให้ลงที่สถานีพร้อมพงษ์ แล้วเดินมาที่ศูนย์การค้าเอ็ม ควอเทียร์ ชั้น G ก็จะเห็นร้านลาบาเก๊ตต์ตั้งอยู่ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น. โทร. 0-2003-6402 

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

คุณ"ตระเวนกิน"

สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ