อาหารซีฟู้ดในบ้านเรานั้นมีให้เลือกินหลากหลายสไตล์ ทั้งแบบไทย แบบจีน หรือแบบตะวันตก แถมยังมีให้กินทั้งในร้านใหญ่แบบภัตตาคาร หรือร้านเล็กๆ ที่มีที่นั่งเพียงไม่กี่โต๊ะ แต่จุดเด่นของร้านอาหารซีฟู้ดก็คือความสดใหม่ของวัตถุดิบที่จะช่วยให้อาหารแต่ละจานนั้นถูกปากคนกิน

       ซึ่งร้านที่ “ผ่านมาแวะกิน” จะชวนไปลองชิมในวันนี้ ก็เป็นร้านอาหารซีฟู้ดร้านเล็กๆ แต่เน้นความสดใหม่ของวัตถุดิบเช่นกัน มีชื่อว่า “The Cockle” ที่เปิดร้านอยู่ภายในโครงการ I’m Park จุฬา

หอยแครงลวก

สำหรับวัตถุดิบอาหารซีฟู้ดที่ทางร้านใช้นั้น ก็ต้องไปเลือกเองสดๆ จากสะพานปลา เลือกมาใหม่ๆ ทุกวัน โดยไม่มีการนำมาแช่น้ำแข็งหรือใช้สารฟอร์มาลีน ทำให้ได้อาหารทะเลสดใหม่ คุณภาพดี นำมาปรุงเป็นอาหารจานอร่อยให้ลูกค้าได้ชิม

       อย่างเมนูแรก หอยแครงลวก (90 บาท) ถึงจะเป็นอาหารง่ายๆ แต่ก็ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนอยู่เหมือนกัน โดยเมื่อได้หอยแครงสดมาแล้วก็นำมาล้างทำความสะอาดให้หมดโคลน ก่อนจะนำไปลวก โดยสามารถเลือกความสุกได้ 3 ระดับ และเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 3 แบบ คือ น้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน น้ำจิ้มถั่วลิสงออกเปรี้ยวหวานมัน และน้ำจิ้มมะขามออกรสเปรี้ยวๆ หวานๆ

กุ้งทอดราดซอสมะขาม

 แถมเมนูกุ้งอีกอย่าง กุ้งทอดราดซอสมะขาม (160 บาท) จานนี้ก็ใช้กุ้งเปลือกอ่อนสดๆ นำไปทอดในน้ำมันด้วยไฟแรง ออกมาได้กุ้งที่ข้างเปลือกนอกกรอบ เนื้อในยังนุ่ม เวลาเสิร์ฟวางรองด้วยกะหล่ำปลีซอยละเอียด มีกุ้งทอด โรยหน้าด้วยหอมเจียว กินคู่กับซอสมะขามที่นำน้ำมะขามเปียกไปเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว กุ้งกรอบๆ เข้ากันดีกับซอสมะขามออกเปรี้ยวหวานอร่อย

เนื้อปูนึ่งกระเทียม

หันมาชิมเมนูง่ายๆ แต่อร่อยมาก เนื้อปูนึ่งกระเทียม (150 บาท) จานนี้ใช้เนื้อปูม้าที่แกะแล้ว เป็นส่วยเนื้อก้ามหรือเนื้ออก นำไปนึ่งให้สุก เวลานุ่งรองด้วยกระเทียมสดที่จะช่วยลดกลิ่นคาว เวลาเสิร์ฟก็มาเฉพาะเนื้อปูหอมๆ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว เนื้อปูหวานแน่น กินคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยแบบจีน อร่อยปากไปอีกแบบ

ปลากะพงทอดน้ำปลา

อีกเมนูเป็น ปลากะพงทอดน้ำปลา (350 บาท) จานนี้ใช้ปลากะพงสดๆ มาทอดในน้ำมันท่วมๆ ใช้ไฟแรงให้กรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยน้ำปลาที่นำไปเคี่ยวตามสูตรของทางร้าน เนื้อปลากรอบนอกนุ่มใน กินกับน้ำปลาหอมๆ รสกลมกล่อมก็อร่อยแล้ว หรืออยากเพิ่มความจัดจ้านก็จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดอีกสักหน่อย อร่อยเริ่ด

       ส่วนเมนู หมึกผัดไข่เค็ม (170 บาท) จานนี้ก็เน้นที่ใช้หมึกสด นำมาหั่นแล้วบั้ง นำไปผัดกับขาแดงเค็ม ใส่หอมใหญ่ พริกชี้ฟ้า และต้นหอม ผัดออกมาร้อนๆ ได้ความเด้งของเนื้อหมึก เคล้ากับความมันและเค็มนิดๆ จากไข่แดงเค็ม

หมึกผัดไข่เค็ม

ปิดท้ายให้อิ่มเต็มท้องกับ ข้าวผัดปู (120/320 บาท) จานนี้เป็นข้าวผัดแบบแห้งๆ โดยจะใช้ข้าวสวยผัดใส่ไข่ ใส่เนื้อปูม้าที่แกะแล้ว ผัดคั่วในกระทะจนได้กลิ่นหอมกระทะ โรยหน้าด้วยเนื้อปูและกระเทียมเจียว เสิร์ฟพร้อมกับน้ำปลาพริก มะพนาว และผักแกล้ม ข้าวผัดร้อนๆ ชวนกิน หอมกลิ่นไข่และเนื้อปู

       หรือถ้ายังไม่อิ่ม ก็ยังมีจานอร่อยมาแนะนำอีกหลายรายการ อาทิ หอยนางรมทรงเครื่อง (190 บาท) เนื้อปูผัดผงกะหรี่ (170 บาท) สลัดกุ้ง (150 บาท) เป็นต้น นอกจากนี้โปรโมชั่นพิเศษเป็นบุฟเฟต์อิ่มไม่อั้น และอาหารเป็นเซ็ตให้เลือกอร่อยกันอีกด้วย

ข้าวผัดปู

ร้าน “The Cockle” ตั้งอยู่ที่ ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 โครงการ I’m Park จุฬา ซอยจุฬา 22 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. การเดินทางจากถนนพระราม 1 เลี้ยวเข้าสู่ถนนบรรทัดทอง จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยจุฬา 22 ตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนร้านจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ของโครงการ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น. โทร. 08-4474-4941 www.facebook.com/thecockle

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

คุณ"ผ่านมาแวะกิน"

สิริสวัสดิ์อาทิตยวารค่ะ