| บรรยากาศการประดับไฟช่วงปลายปีในญี่ปุ่น | | | จากนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนง่ายๆ ประเภทมีก็กิน ไม่มีก็ไม่กิน ใครเชิญก็ไป หรือใครไม่เชิญก็จะแกล้งบังเอิญเดินผ่านไป พอย่างเข้าเดือนสุดท้ายของรอบปี สภาพแวดล้อมที่ญี่ปุ่นจะกระตุ้นความตื่นตัวให้แผ่ซ่านขึ้นมา ความเฉื่อยชาลดลงทันที ในช่วงนี้จะมีทั้งกินฟรี มีทั้งปาร์ตี้สนุกสนาน มีการพบปะ และมีกิจกรรมมากมาย ทำให้ยุ่งขึ้นโดยปริยาย แต่ส่วนใหญ่เป็นความยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเล่นเสียมากกว่าเรื่องงาน สถาบันการศึกษาก็ดีใจหาย เพราะโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั้งหลายปิดเทอมภาคฤดูหนาวสองถึงสามสัปดาห์ตั้งแต่ยังไม่สิ้นปี กว่าจะเปิดก็ราวๆ สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคมปีถัดไป งานที่รัดตัวใกล้วันสิ้นปีไม่ได้มีแต่งานเลี้ยง แต่ยังมีงานการเขียน เน็งงะโจ (年賀状;nenga-jō) หรือ บัตรอวยพรปีใหม่ ดังที่ของไทยเรียกว่า ส.ค.ส อีกด้วย พอบอกว่าส่ง ส.ค.ส. คนไทยคงมองว่าเป็นความบันเทิงเล็กๆ น้อยๆ อย่างหนึ่ง แต่ถ้าถึงขั้นส่งมากเป็นร้อยใบ คงพูดได้ไม่เต็มปากว่ายังจะเป็นความบันเทิงแสนสนุก หรือจะเป็นความทุกข์แสนเมื่อยมือกันแน่ การส่งเน็งงะโจเป็นประเพณีที่คนญี่ปุ่น ปฏิบัติกันทั่วไปเพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือระหว่างองค์กร และแจ้งข่าวคราวความเคลื่อนไหว เช่น แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ เปลี่ยนงาน ให้เพื่อนฝูงหรือญาติผู้ใหญ่ทราบ คนญี่ปุ่นส่งเน็งงะโจกันแต่ละที ไม่ได้ส่งแบบจุ๋มจิ๋มสี่ห้าใบเหมือน ส.ค.ส.ของไทย แต่ส่งกันหลายสิบใบหรือเป็นร้อยใบ พอถึงวันที่ 1 พฤศจิกายนของทุกปี การไปรษณีย์ของญี่ปุ่นจะพิมพ์เน็งงะโจออกมาเป็นไปรษณียบัตรอวยพรปีใหม่ พิมพ์ทีเป็นพันล้านใบ ขนาดมีอีเมลทางคอมพิวเตอร์กับโทรศัพท์มือถือมาดึงส่วนแบ่งการส่งลงไปมากแล้ว แต่ยังถือว่าเป็นการผลิตคราวละมากๆ ที่มากที่สุดแบบที่ไม่มีการผลิตอะไรจะมาเทียบได้ อย่างเช่นจำนวนที่พิมพ์ใช้สำหรับปี 2558 คือ 3,300 ล้านใบ นี่ยังไม่รวมจำนวนที่ประชาชนทำเองจากคอมพิวเตอร์และแหล่งอื่นๆ อีก ถ้ารวมเข้าด้วยกัน คาดว่าคนญี่ปุ่นส่งเน็งงะโจปีละประมาณ 4-5 พันล้านใบ สำหรับการส่งบัตรอวยพรนี้การไปรษณีย์ของญี่ปุ่นทำตัวได้น่ารักมาก เพราะนอกจากบัตรที่พิมพ์ออกจำหน่ายนั้น จะเป็นล็อตเตอรี่ชิงรางวัลอยู่ในตัวแล้ว (ส่วนใหญ่เป็นของ ไม่ใช่เงิน) พอขึ้นวันที่ 1 มกราคม พนักงานไปรษณีย์จะหอบเอาเน็งงะโจทั้งหมดที่รวบรวม กักไว้ มาส่งให้เราในคราวเดียวกันเลย เป็นระบบที่น่าชื่นชมและอยากให้ไทยเอาอย่างบ้าง ในปีแรกที่อยู่ญี่ปุ่น ผมส่งเน็งงะโจแค่ 10 กว่าใบ แต่แค่นั้นก็ทำเอาแย่เพราะต้องเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น พอส่งเสร็จก็ถึงงานช้าง นี่เป็นงานสร้างที่ทุนอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่แรงกายกับแรงใจคือสิ่งสำคัญ งานที่ว่านั้นคือการทำความสะอาดห้อง ตามประเพณีญี่ปุ่น เจ้าของบ้านจะทำความสะอาดที่อยู่อาศัยขนานใหญ่ให้เสร็จก่อนวันที่ 31 ธันวาคมเพื่อรอรับปีใหม่ด้วยความสดใสและเป็นสิริมงคล คล้ายกับประเพณีจีนเมื่อใกล้ถึงวันตรุษ สำหรับห้องของตัวเองในขณะนั้น ปัญหาน่ากลุ้มไม่ได้อยู่ที่การทำความสะอาด แต่อยู่ที่ขนาดของห้อง ไม่ใช่ว่าห้องกว้างจนทำไม่ไหว แต่แคบจนท้อใจเพราะไม่รู้ว่าจะเอาอะไรออกมาปัดกวาดก่อนดี ในความเล็กแบบญี่ปุ่นที่หมุนไปสองศอกก็แทบชนกำแพงห้อง การรื้อข้าวของออกมากองเพื่อเช็ดถูดูเหมือนเป็นปัญหาใหญ่เสียยิ่งกว่าขนาดของห้อง แต่ผมก็ทนทำความสะอาดขนานใหญ่จนเสร็จเพื่อส่งท้ายปีเก่า แล้วเตรียมเข้าสู่ปีใหม่ด้วยใจผ่องใส ...ถึงวันงานชินเน็งไกตามที่ลุงทะเกะนะกะเชิญ อะเกะมะชิเตะ โอะเมะเดะโต โกะไซมัส (あけましておめでとうございます; Akemashite o-medetō gozaimasu) - สวัสดีปีใหม่ครับ ประโยคแบบแผนสำหรับการพบกันครั้งแรก ในช่วงปีใหม่ได้ใช้คราวนี้เอง ผู้น้อยอย่างผมย่อมต้องทักทายผู้ใหญ่ก่อนเป็นธรรมดา แล้วคุณลุงทะเกะนะกะก็ตอบรับด้วยประโยคเดียวกัน วันนี้พี่น้องและครอบครัวทะเกะนะกะจัดเลี้ยงใหญ่รวมญาติประจำปี คนไทยที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์เกี่ยวดองอะไรกับเขาเลย ก็อยู่ในหมู่ครอบครัวทะเกะนะกะด้วย ได้รับเกียรติอย่างนี้ นอบน้อมเป็นดีที่สุด โคะโตะชิ โมะ โยะโระชิกุ โอะเนะไงชิมะซุ (今年もよろしくお願いします;Kotoshi mo yoroshiku onegaishimasu) - ปีนี้ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวอีกเช่นกันครับ อีกหนึ่งประโยคแบบแผนที่ท่องมาอย่างแม่นยำ ได้ทำหน้าที่ของมันก่อนที่การรับประทานอาหารจะเริ่มขึ้น ต่อมาคุณลุงก็ยื่นซองให้ผม อะริงะโต โกะซะอิมะซุ (ありがとうございます;Arigatō gozaimasu) - ขอบคุณครับ รอยยิ้มบนใบหน้าขณะรับซอง คือยิ้มของมารยาทแห่งการขอบคุณผู้ให้ แต่ยิ้มที่อยู่ภายในคือยิ้มขอบใจสิริและมงคล ที่ส่งผลให้เห็นทันตา เพราะทราบว่าในนั้นคือของมีค่า
|