พระสูตรที่น่าสนใจ (77) - เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ฟ้าสางเมื่อใกล้ค่ำ เสฐียรพงษ์ วรรณปก
"ภิกษุทั้งหลาย มีลัทธินอกพระพุทธศาสนา 3 ลัทธิ คือ
(1) สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มีวาทะ มีทิฐิอย่างนี้ว่า สุขก็ดี ทุกข์ก็ดี มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ดี อย่างใดอย่างหนึ่งที่คนเราได้รับในปัจจุบัน ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะกรรมที่ทำไว้ในชาติก่อน
(2) สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มีวาทะ มีทิฐิอย่างนี้ว่า สุขก็ดี ทุกข์ก็ดี มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ดี ที่คนเราได้รับในปัจจุบันทั้งหมดล้วนเป็นเพราะการบันดาลของพระเจ้าผู้เป็นใหญ่
(3) สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มีวาทะ มีทิฐิอย่างนี้ว่า สุขก็ดี ทุกข์ก็ดี มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ดี ที่คนเราได้รับในปัจจุบัน ทั้งหมดล้วนหาเหตุปัจจัยมิได้
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลยึดแต่กรรมเก่าเป็นสาระ....ยึดแต่การบันดาลของพระเจ้า ผู้เป็นใหญ่เป็นสาระ...ยึดแต่ความไม่มีเหตุปัจจัยเป็นสาระ ฉันทะก็ดี ความพยายามก็ดี ว่าสิ่งนี้ควรทำ สิ่งนี้ไม่ควรทำ ย่อมไม่มี"
พุทธวจนะนี้มาจาก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต ฟังคำแปลค่อนข้างเข้าใจยาก ขอถอดความง่ายๆ ว่า มีคนอยู่ 3 จำพวก จำพวกหนึ่งชื่อว่า คนเราจะสุขจะทุกข์ เพราะกรรมที่ทำไว้ในปางก่อนอย่างเดียว อย่างอื่นไม่เกี่ยว อีกพวกหนึ่งเชื่อว่า เพราะพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลอย่างเดียว อีกพวกหนึ่งว่า มันเป็นไปเองโดยบังเอิญ
ทั้ง 3 จำพวกนี้ยังเชื่อเกี่ยวกับเรื่อง "กรรม" ไม่ถูกต้อง เพราะถ้าเชื่ออย่างนั้นจะไม่มีความคิดที่จะกระทำ หรือปรับปรุงแก้ไขตนเองให้ดีกว่าเดิม จะปล่อยไปตามเรื่องตามราวที่พระพุทธองค์ตรัสว่าเป็นความเชื่อที่ผิด มันผิดตรงนี้แหละครับ
นักเรียนที่เรียนไม่เอาไหน สอบตกแทบทุกวิชามิใช่เพราะกรรมเก่า หรือเพราะเทพเจ้าบันดาลหรือเพราะความบังเอิญดอกครับ เพราะการกระทำของตนเองในปัจจุบันนี้เอง
เรียนก็ไม่สนใจเรียน เอาแต่ชวน กันไป "ซิ่ง" ไปเที่ยว ไปเล่นเกมออนไลน์บ้างจนตาเหล่ ตาเจ็บบ้าง แล้วจะไป โทษสิ่งโน้นสิ่งนี้ได้อย่างไรเล่า ลูกหลานเอ๋ย
หน้า 27
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ ฟ้าสางเมื่อใกล้ค่ำ ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก
สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2558 |
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2558 13:18:11 น. |
|
0 comments
|
Counter : 565 Pageviews. |
|
|