เอกลักษณ์พระร่วงหลังรางปืน
พันธุ์แท้พระเครื่อง ราม วัชรประดิษฐ์
จังหวัดสุโขทัย "เมืองแห่งมรดกโลก" ราชธานีแห่งแรกของชาติไทย เมื่อ 700 ปีมาแล้ว ในนาม "กรุงสุโขทัย" เป็นราชอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มาก ทั้งด้านการปกครองและการศาสนา โดยเฉพาะการศาสนานั้น นับว่าเจริญรุ่งเรืองที่สุด นอกจากการก่อสร้างศาสนสถานและศาสนวัตถุทางพุทธศาสนามากมายแล้ว ยังมีการบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถานและโบราณวัตถุทางพุทธศาสนา ทั้งพระอุโบสถ พระวิหาร ตลอดจนเจดีย์และพระพุทธรูป
มีหลักฐานปรากฏหลงเหลือมาถึงปัจจุบันของเมืองสุโขทัยและเมืองศรีสัชนาลัย อาทิ วัดมหาธาตุ, วัดพระเชตุพน, วัดเจดีย์งาม, วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ, วัดช้างล้อม, วัดเขาพนมเพลิง ฯลฯ ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก คือ "อุทยานประวัติศาสตร์"
นอกจากนี้ ยังพบพระพิมพ์อีกมากมายหลายพิมพ์ทรง ทั้งที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยและมีมาก่อนหน้านั้น อันนับเป็นมรดกล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น
ถ้ากล่าวถึงพระกรุเก่าที่เป็นยอดนิยมของจังหวัดและสร้างชื่อเสียงในระดับประเทศ ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าต้องยกให้ "พระร่วงหลังรางปืน" สุดยอดหนึ่งใน "พระชุดเบญจภาคีพระยอดขุนพล" ขึ้นที่กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือวัดพระปรางค์ โบราณสถานที่อยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
พระร่วงหลังรางปืน เป็นพระที่ขุดพบจากบริเวณพระปรางค์ของวัดพระศรีมหาธาตุ มีพุทธศิลปะแบบขอมหรือลพบุรี เอกลักษณ์ คือ ด้านหลังมีร่องกดลึกลงไปเป็นแนวยาวตลอดองค์พระ เป็นรอยรางคล้าย "รางปืนใหญ่โบราณ" บางองค์พบเม็ดกลมใหญ่คล้ายลูกปืนด้วย ซึ่งนักนิยมสะสมพระเครื่องในสมัยก่อนมักเรียกกันว่า "หลังกาบหมาก" หรือ "หลังร่องกาบหมาก" ต่อมาได้ปรากฏพุทธคุณทางแคล้วคลาดในเรื่อง "ปืน" อีกทั้งร่องกาบหมากด้านหลังนั้นมีลักษณะคล้าย "ร่องปืนแก๊ป" จึงขนานนามใหม่ว่า "พระร่วงหลังรางปืน" มาจนถึงปัจจุบัน
จริงๆ แล้วเป็นการนำไม้มากดก่อนโลหะแข็งตัวเพื่อให้ด้านหน้าติดเต็ม จึงเป็นเอกลักษณ์คือ ให้ดูรอยเสี้ยนไม้ทางด้านหลังอีกอย่างหนึ่ง
พระร่วงหลังรางปืน มีความสูงประมาณ 8 ซ.ม. กว้างประมาณ 2.5 ซ.ม. พุทธลักษณะองค์พระประธานประทับยืน แสดงปางประทานพร อยู่ในซุ้มเรือนแก้ว ยอดซุ้มเป็นลายกนกแบบ "ซุ้มกระจังเรือนแก้ว" ปรากฏทั้ง ชินตะกั่ว ถ้าแก่ตะกั่วจะเรียก ตะกั่วสนิมแดง ซึ่งหากมีรอยระเบิดจะปะทุจากในเนื้อออกด้านนอก ถ้าเป็นของปลอมมักใช้น้ำกรดกัดทำให้ปริจากนอกเข้าด้านใน และเนื่องจากเป็นพระที่ผ่านกาลเวลายาวนาน เมื่อส่องดูจะมีทั้ง "สนิมแดง" และ "สนิมมันปู" มีไขขาวแทรกจับเกาะแน่นแกะไม่ออก ส่วนของปลอมใช้ของแหลมทิ่มเบาๆ จะหลุดออก
พระร่วงหลังรางปืน มีพุทธลักษณะคล้ายคลึงกับ "พระร่วงหลังลายผ้า ลพบุรี" แต่ด้านหลังพระร่วงหลังลายผ้าเป็นผ้ากระสอบกดแทนที่จะใช้แท่งไม้ เท่าที่พบมี พิมพ์ใหญ่ ฐานสูง และตัดฐาน ส่วนพิมพ์เล็ก พบน้อยมาก ส่วนใหญ่จะสร้างล้อขึ้นภายหลัง
วิธีการดูพระร่วงหลังรางปืนนั้น ควรมีความรู้เรื่องศิลปะขอมหรือเขมร เพราะองค์พระแต่งองค์ทรงเครื่อง ตามหลัก "เทวราชา" พื้นผนังมีการจำหลักลวดลายงดงามมากเพราะเป็นพระชั้นสูงเยี่ยงกษัตริย์ ฝ่าพระหัตถ์ขวายกขึ้นแสดงปางประทานพร อยู่ในระดับเหนือพระอุระ ในองค์ที่สมบูรณ์เมื่อใช้กล้องส่องดูจะเห็นติ่งแซมบริเวณโคนพระอนามิกา (นิ้วนาง) แต่บางองค์สนิมเกาะอาจมองไม่ถนัด
ส่วนพระกรด้านซ้ายปล่อยทิ้งยาวแนบลำพระองค์ สิ่งสำคัญคือ เส้นนิ้วพระหัตถ์จะทาบลงเป็นเส้นตรงทับชายจีวรจนมองดูเป็นเส้นเดียวกัน ส่วนสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ฝ่าพระบาทด้านขวาขององค์พระจะกางออกและแผ่กว้าง ส่วนฝ่าพระบาทด้านซ้ายจะงุ้มงอและจิกลง บางทีเวลาพบจะเห็นฝ่าพระบาทชำรุดหรือมีรอยซ่อม ให้สำเหนียกไว้ว่า "อาจปลอม"
เพราะเคล็ดลับสำคัญของการดูพระแท้คือ ถ้าจุดสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์มีรอยซ่อม ต้องระวังไว้ให้ดีครับผม
หน้า 27
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง คุณราม วัชรประดิษฐ์
สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2558 |
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2558 13:21:50 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2400 Pageviews. |
|
|